- ไทยลีกบูมมาได้ก็ยุคบังยี ก่อนหน้านี้ไม่เห็นทำได้
อารมณ์ไม่ต่างกับคนที่เดินอยู่ดีๆ แล้วลอตเตอรี่ถูกรางวัลตกใส่หัว กลับไปค้นดูจะรู้ว่าบอลลีกบูมเพราะอะไร

- ซิโก้มาคุมชุดใหญ่ก็เพราะบังยี จริงไม่จริง
ไม่จริงเสียทั้งหมด เพราะตอนนั้นบังยีแค่อยากหาทางไล่เชฟเฟอร์เพราะค่าเหนื่อยแพง และเริ่มมีผลงานไม่คุ้มค่าจ้าง ซิโก้เป็นคนอาสาเข้ามาทำงานเอง ทั้งๆที่ตอนนั้นเครดิตซิโก้สำหรับคนวงการบอลก็ไม่ใช่จะดี เหมือนซิโก้ถูกเอามาเพื่อใช้เป็นไม้กันหมามากกว่า แต่ซิโก้ดันพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส บังยี เลยได้อานิสงส์ไปด้วย บอกเลยว่าการได้ซิโก้มาทำทีมชาติเหมือนฟลุ๊ค ไม่ได้เกิดจากการเลือกสรร (ถ้าจะให้เครดิตในการเลือกโค้ชทีมชาติ บังยียังควรได้เครดิตในการจ้าง รีด หรือ เชฟเฟอร์ มากกว่าด้วยซ้ำ)

- ทีมชาติมีตัวเลือกเป็น 30-40 คน ก็มาจากลีกที่แข็งแกร่ง มันก็เริ่มจากบังยี
กลับไปดูข้อที่ 1 ลีกแข็งแกร่งไม่ได้เริ่มจากบังยี ตัวเลือก 30-40 คนมีมานานแล้วแต่คนเลือกมันไม่มีสิทธิ์เลือกเท่านั้นเอง ไม่เชื่อย้อนกลับไปดูตอนปีเตอร์ รีด ทำทีมตระเวณซะทั่วไทย เลือกนักเตะมาเยอะแยะ ออกปากบอกเองแทบทุกวันว่าได้ตัวใหม่แล้วให้ลุ้นกัน สุดท้ายไม่รู้หายไปไหนทำไมมีแต่คนเดิมตอนประกาศชื่อ กับคำสัมภาษณ์ของใกล้รุ่ง ผู้ช่วยซิโก้เมื่อเร็วๆนี้ดู แล้วจะรู้ว่าโค้ชเพิ่งมีสิทธิ์ที่จะเลือกตัวที่ 20-40 ในยุคซิโก้นี่แหล่ะ

- ซีเกมส์ชนะขาดลอย เกิดจากนักบอลยุคใหม่จากลีกที่บังยีตั้งมา
ยังยืนยันคำเดิม กลับไปหาแล้วจะรู้ว่าลีกมาได้ไง

- หลังจากที่โดนด่าอย่างหนัก ปีนี้เราก็เตะฟีฟ่าเดย์
โดนด่าหนักมานานแล้ว และก็สัญญาว่าจะทำฟีฟ่าเดย์มาหลายปีแล้วกลับไปค้นข่าวเก่าๆดูได้เลย ตั้งแต่สมัยรีดเข้ามาคุมทีมชาติสัญญาทุกปี แต่เพิ่งมามีปีนี้ ทั้งๆที่ผลงานทีมชาติดี มันควรจะมาจากการบริหารจัดการที่ดี (รวมถึงฟีฟ่าเดย์) แต่นี่ต้องรอให้ผลงานดีก่อน ถึงจะยอมมีฟีฟ่าเดย์ โอเค เมื่อทำได้แล้วก็ต้องชม แต่ถามว่าระหว่างช่วยให้ทีมได้เตรียมความพร้อมอย่างจริงจังจนประสบความสำเร็จ กับเข้ามาตอนที่เค้าประสบความสำเร็จแล้ว อันไหนคือสิ่งที่ผู้ดูแลควรจะทำมากกว่า อารมณ์เหมือนโรงเรียนที่ไม่ได้ใส่ใจทีมกีฬา ครูตั้งทีมเองกับเด็กเอง ซ้อมกันเอง แต่ส่งในนามทีมโรงเรียนแล้วให้ ผอ. เซ็นชื่อกำกับ พอได้แชมป์กลับมา ผอ. มาบอกว่าเป็นเพราะเราดูแลทีมนี้อย่างดี จึงประสบความสำเร็จ แล้วหลังจากนั้น ผอ.ค่อยมาใส่ใจกับทีมกีฬาทีหลัง

ผลงานคัดบอลโลกยุคเชฟเฟอร์ 2 นัดแรก ออกมาดี เพราะมีเวลาให้เตรียมทีม มีเกมส์อุ่นเครื่องให้ 3 นัด (โชคดีที่ตอนนั้นมีบอลเชื่อมสัมพันธไมตรีกับพม่า 2 นัดพอดี บวกกับ สิงคโปร์มาเก็บตัวที่ไทย เลยโชคดีได้เตะอีก 1 นัด หลังจากนั้น 3 ปีมีอุ่นเครื่องตาม FIFA Days 4 นัด) หลังจากนั้นเวลาเตรียมทีมแทบไม่มี เกมส์อุ่นเครื่องนานๆจะโผล่มาทีละนัด โอกาสลองตัวใหม่ไม่มี อุ่นเครื่องที ก็เพื่อให้ใช้ทีมชุดนั้นลงแข่งจริงในอีกไม่กี่วันเลย ไม่ใช่การอุ่นเครื่องเพื่อคัดกรองบุคลากร ต่างจากยุคนี้มีการอุ่นเครื่องคือการลองทีมเพื่อคัดกรองบุคคลากร ใครดีเอาไว้ ใครยังไม่ใช่เอาออก ใครยังพอปรับได้มีเวลาให้ปรับ แล้วไปลองต่อในอุ่นเครื่องนัดถัดไป แต่ยุคก่อนหน้านี้คือเรียกตัวมา อุ่นเครื่องคือการบังคับให้นักเตะที่เรียกมา ต้องเล่นให้เข้ากันให้ได้ภายในการลงทีม 1 นัดเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์คัดหรือกรองอะไร เรียกมาแล้วต้องใช้ให้ได้ทันที ถ้าบังยีไม่โชคดีที่ได้ซิโก้ที่รู้จักเรียนรู้แล้วเอามาพัฒนาการทำงานของตัวเองจนผลงานออกมาดี จนป่านนี้ สมาคมก็คงไม่มีความคิดจะจัดฟีฟ่าเดย์เพื่อให้ทีมชาติได้มีผลงานดีๆในเกมส์แข่งจริงอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม

จะให้เครดิตใครซักคนสำหรับผม เค้าต้องเป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์ไม่ใช่แค่ผู้ที่มีชื่ออยู่ร่วมในเหตุการณ์แล้วเอามาให้เครดิต