[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ส่วนตัวแปลมาจากเวปไซด์ และหลายเวปนำมารวมๆกัน มีลิงค์ให้ศึกษาต่อด้านล่างค่ะหรือ หากใครต้องการศึกษาเพิ่มเรื่องนี้ ให้พิมพ์ชื่อของทั้งสองเสริชเพิ่มเติมได้หากต้องการรู้ในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น รูปภาพจากเนตอาจเยอะเพื่อช่วยให้ท่านเห็นภาพชัดเจน
และเรื่องนี้เป็นประวัติศาสตร์พระคัมภีร์เดิมของคริสเตียน รวมถึงชาวยิว หากผู้ใดที่ไม่ใช่คริสเตียนก็โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจชอบแนวนี้ ถ้ากระทบกับความเชื่อของใคร ต้องขอประทานโทษล่วงหน้า เพราะเป็นเรื่องทางประวัติศาสตร์ว่ามาแบบนี้ ขอพระเยซูคริสต์ประทานความสว่างแห่งจิตใจและมอบสติปัญญาให้แด่เราทุกคนค่ะ เอเมน
The Story of Nimrod (นิมโรด) and Semiramis (เซมิรามีส)
เป็นเรื่องราวของทั้งคู่ที่อยากเป็นพระเจ้าเสียเองโดยมีวิญญาณเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่ให้เราศึกษาผ่านเรื่องนี้.และมีข้อคิดหลากหลายลองพิจารณาดูค่ะ
Their Babylonian religion was known as ‘The Mystery Religion”.
ศาสนาบาบิโลน เป็น ศาสนาที่มีความลึกลับ และ ลี้ลับที่ซ่อนอยู่อย่างมากมาย เป็นศาสนาที่บูชารูปเคารพเป็นจำนวนมากและเป็นจุดกำเนิดของรูปเคารพต่างๆ ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก อาจไปผสมผสานอยู่กับหลายๆ ความเชื่อที่เราอาจพบได้ในปัจจุบัน(ซึ่งผู้คนอาจรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้) เราได้ค้นพบว่าแท้จริงแล้ว จุดกำเนิดของรูปเคารพต่างๆส่วนใหญ่มาจากศาสนาบาบิโลนนั่นเอง เพราะเป็นศาสนาที่มีความเก่าแก่ศาสนาหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกเลยทีเดียว
เริ่มต้นที่ หลังน้ำท่วมโลก
โนอาห์มีลูกชาย 3 คนคือ Shem, Ham และ Japheth
นิมโรด บุตร คูช (ปฐก. 10:6-12) ซึ่งเป็นหลานของฮาม
นิมโรด เป็นชื่อของชายคนแรกที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ถึง 3 ครั้ง เขาเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรของมนุษย์ยุคแรกของโลก ( คือผู้ก่อตั้งอาณาจักรบาบิโลนขึ้นเมื่อราว 2000 กว่าปีก่อนคริสตกาล ที่ Shinar ) ชื่อ Nimrod มาจากคำกริยา ซึ่งหมายถึง
“ให้เรากบฎ” นิมโรด ได้มีชื่อเสียงว่าเป็นนักล่าผู้ยิ่งใหญ่ในสายพระเนตรพระเจ้าเป็นชายผู้แข็งแรงและเก่งกาจด้านการต่อสู้และการล่าสัตว์มาก แต่ชื่อของเขาก็มีความหมายด้านมืดเหมือนกัน เขาได้กลายเป็นทรราช หรือผู้กดขี่ซึ่งนำการกบฎต่อการปกครองของพระเจ้า ในท้ายที่สุดเขาเองก็ไม่ได้เป็นนายพรานผู้ยิ่งใหญ่ในการล่าสัตว์ แต่กลับเป็นผู้ล่าวิญญาณมนุษย์ โดยชักจูงและโน้มนาวใจคนเหล่านั้นให้ร่วมมือกันต่อสู้กับพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์
he won men’s souls to be used against the LORD. Starting perhaps human slavery.
He began to be a gibborim in the earth. He was the first one to rule over a one world government. As previously stated, Nimrod was the first to be an anti-Christ.
เขากลายเป็นผู้บังคับบัญชาทางกองทัพที่ยิ่งใหญ่แห่งโลกในอดีตและเป็นผู้ปกครองของ
One world government.ในสมัยนั้นซึ่งแนวคิดนี้ได้สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งในปัจจุบันคือประเทศอิรัก ภาพด้านล่างนี้คือ
รูปแกะสลักของNimrod
มีข้อมูลปลีกย่อยเกี่ยวกับ Nimrod ที่น่าสนใจคือ Nimrod คนนี้แม้จะเป็นคนที่เข้มแข็งมาก แต่เขาเป็นคนที่มีความมักใหญ่ใฝ่สูง ทะเยอทะยาน และโอหังเป็นอย่างมาก ในสมัยก่อนโน้นคนยุคนั้นจะนับถือและมีความเคารพยำเกรงในพระเจ้าเป็นอย่างมาก แต่ Nimrod คนนี้กลับทำสิ่งที่ตรงข้าม เขาเป็นมนุษย์
คนแรกที่ได้รับการบันทึกว่าเป็น
The First Antichrist in Human History หรือมนุษย์คนแรกที่กล้าหมิ่นหรือท้าทายพระเจ้า โดยเขาได้สั่งให้ชาวบาบีโลนสร้างหอคอย The Tower of Babel ที่สูงเสียดฟ้าขึ้นเพื่อต้องการแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเขาและเพื่อให้โลกเห็นว่ามนุษย์สามารถไปสวรรค์ได้ด้วยตัวเอง แต่อนิจจา ความฝันของเขาไม่เป็นจริง เพราะพระเจ้าได้สาปแช่งและทำให้การก่อสร้างนั้นไม่ประสบความสำเร็จหอคอยดังกล่าวได้พังทะลายลงเสียก่อน
แต่ความชั่วร้ายของNimrodยังไม่ยุติเพียงเท่านั้น เขาได้ทำทุกอย่างให้อาณาจักรบาบีโลนของเขายิ่งใหญ่ ในตอนหลังเขาจึงหันไปพึ่งพาอำนาจมืดของซาตาน โดย Nimrod ผู้นี้ได้รับการบันทึก ว่าเป็นมนุษย์คนแรกที่เริ่มต้นทำพิธีกรรมบูชาซานตาน
(Devil Worship หรือ Satan worship) เพื่อให้ซาตานช่วยให้สิ่งที่ตนปรารถนาเป็นจริง ซึ่งพิธีกรรมดังกล่าวนี้ยังสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
สดด106.34-43 ยกข้อพระคัมภีร์มาบางข้อค่ะ
ท่านปรนนิบัติรูปเคารพของเขาซึ่งกลายเป็นบ่วงสำหรับท่าน
ท่านฆ่าบุตรชายและบุตรสาวของท่านถวายเป็นเครื่องสักการบูชาแก่ปีศาจ
ท่านเทโลหิตผู้ไร้ผิดออกมาคือโลหิตบุตรชายบุตรสาวของท่าน
ผู้ซึ่งท่านได้ฆ่าเป็นเครื่องสักการบูชาแก่รูปเคารพแห่งคานาอัน แผ่นดินก็มลทินไปด้วยโลหิต
ท่านจึงเป็นคนไม่สะอาดด้วยการกระทำของท่าน และประพฤติเยี่ยงโสเภณีในการกระทำของท่าน
ภาพข้างล่างนี้เป็นภาพซากที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของ
The Tower of Babel ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ที่เมือง
Hillah ประเทศ
อิรัก
ปัจจุบันก็เหลือแต่ตอแค่นี้
ทำไม Nimrod ถึงต้องการสร้างหอบาเบล
1.เป็นการท้าทาย ต่อสิทธิอำนาจพระเจ้าเพราะพระองค์ทรงสัญญากับโนอาห์ว่าจะไม่ให้น้ำท่วมโลกอีกและ คิดว่าระบบมนุษย์จะสามารถโค่นล้มระบอบของพระเจ้าได้
2. เป็นบรรไดนำเข้าสู่โลกฝ่ายวิญญาณ(คือวิญญาณชั่ว)แห่งสถานย่านฟ้าอากาศ ยิ่งสูงมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น และ คิดว่าตนเองจะขึ้นไปถึงพระที่นั่งของพระเจ้าได้
เขาและบิดาของเขาคือคูทเป็นผู้ริเริ่มรวบรวมผู้คนในการก่อสร้างหอบาเบลเพื่อต้องการไปให้ถึงสวรรค์เพื่อต้องการเทียบเคียงพระเจ้าผู้สร้าง แต่ทำไม่สำเร็จเพราะพระเจ้าเห็นว่าพวกเขากำลังก่อการกบฎ จึงทำให้พวกเขาแตกภาษากระจัดกระจายไป (ปฐก 11:5-9)
Each culture’s stories were all very similar, the same basic story with few changes. Nimrod was an evil guy who tried to find a way to kill God. Only the Bible has the truth about it all, it is the very Word of God.
ไม่ใช่เรื่องใหม่ในปัจจุบัน ที่คนพยายามต่อสู้กับพระเจ้า หรือต่อต้านพระเจ้า หรือเป็นศัตรูกับพระองค์ เพราะสิ่งเหล่านี้เราไม่ได้พบแค่ Nimrod เท่านั้น แต่มีหลายๆ ตอนในพระคัมภีร์เดิม ว่าทำไมพระเจ้าถึงได้จัดการกับคนยิว ที่เขานมัสการพระเหล่านี้ (ต้องศึกษาเรื่องพระเทียมเท็จในเรื่องประวัติความเป็นมา เราเองก็จะเข้าใจมากขึ้นว่าเบื้องหลังพระเหล่านั้นคืออะไรกันแน่)
ความจริงแห่งประวัติศาสตร์ปรากฎอยู่เพียงแค่เรา ย้อนกลับไปศึกษา เราก็จะเกิดความเข้าใจแนวความคิดต่างๆ ว่าแท้จริงรากของรูปเคารพมาจากไหน แนวคิดอะไรที่เกิดขึ้นในโลก อยู่ๆเกิดขึ้นเองหรือมีที่มาที่ไป สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เราวิเคราะห์ได้ชัดเจนขึ้น
All these stories are about a flood and how God used it to destroy the evil people.
เหมือนเรื่องน้ำท่วมโลก ทำไมพระเจ้าให้น้ำท่วมโลกซึ่งก็มีสาเหตุ เพราะพระองค์ได้จัดการกับคนชั่วร้ายที่มีใจแข็งกระด้างพร้อมที่จะทำร้ายคนอื่นและเข่นฆ่าคนอื่นได้ทุกเมื่อ ซึ่งก็มีเรื่องหลี้ลับซ่อนอยู่ในเรื่องนั้นด้วยเช่นกัน (ว่างๆ จะนำมาให้อ่านเบื้องหลังประวัติศาสตร์น้ำท่วมโลก)
Nimrod’s many names will be quite familiar to you. They are:
รายชื่อพระของเขา พบในพระคัมภีร์เดิม
(คริสต์-ยิว)ในชื่อของพระเทียมเท็จที่ชาวยิวนมัสการในสมัยก่อน และพระองค์ตรัสว่าไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับรูปเคารพหรือพระเทียมเท็จเหล่านี้
*
Gilgamesh
*Tammuz
In Babylonia, the month Tammuz was established in honor of the eponymous god Tammuz, who originated as a Sumerian shepherd-god, Dumuzid or Dumuzi, the consort of Inanna and, in his Akkadian form, the parallel consort of Ishtar.
http://www.gotquestions.org/who-Tammuz.html
*Bacchus
di-o-ni'-sus (Dionusos): The youngest of the Greek gods. by Greek religion. Jewis burnt offering an altar to Jupiter was erected, "the abomination that maketh desolate" (Daniel 11:31), and a swine was sacrificed upon it (see ABOMINATION OF DESOLATION). The immoral practices associated with heathen worship in those days established themselves in the temple. When this feast of Bacchus (Dionysus)
*Mithra
The sun god
http://www.bibletools.org/index.cfm/fuseaction/Topical.show/RTD/cgg/ID/13810/Mithra-sun-god.htm
*Ra
http://www.biblestudytools.com/lexicons/hebrew/kjv/raa.html
http://biblehub.com/hebrew/7451.htm
Baal
Baal was the name of the supreme god worshiped in ancient Canaan and Phoenicia. The practice of Baal worship infiltrated Jewish religious life during the time of the Judges (Judges 3:7), became widespread in Israel during the reign of Ahab (1 Kings 16:31-33) and also affected Judah (2 Chronicles 28:1-2).
*Adonis
(uh doh' nihss) God of vegetation and fertility with Syrian name meaning, “lord.” Worshiped in Greece and Syria. Rites seem to include the planting of seeds which quickly produced plants and that just as quickly wilted in the sun. These were used to symbolize the dying and rising of the god and to bring blessing upon crops. Similar rites were celebrated for Osiris in Egypt and possibly for Tammuz in Babylon. REB translates Isaiah 17:10 as “your gardens in honour of Adonis.” The Hebrew term appears only here in the Bible, being related to the personal name Naaman and to the Hebrew word meaning, “lovely, pleasant, agreeable.” Other translations read, “pleasant plants” (KJV),
Nimrod (นิมโรด) Semiramis (เซมิรามีส) ทัมมุส (Tammuz) - ศาสนาบาบิโลน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
The Story of Nimrod (นิมโรด) and Semiramis (เซมิรามีส)
เป็นเรื่องราวของทั้งคู่ที่อยากเป็นพระเจ้าเสียเองโดยมีวิญญาณเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่ให้เราศึกษาผ่านเรื่องนี้.และมีข้อคิดหลากหลายลองพิจารณาดูค่ะ
Their Babylonian religion was known as ‘The Mystery Religion”.
ศาสนาบาบิโลน เป็น ศาสนาที่มีความลึกลับ และ ลี้ลับที่ซ่อนอยู่อย่างมากมาย เป็นศาสนาที่บูชารูปเคารพเป็นจำนวนมากและเป็นจุดกำเนิดของรูปเคารพต่างๆ ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก อาจไปผสมผสานอยู่กับหลายๆ ความเชื่อที่เราอาจพบได้ในปัจจุบัน(ซึ่งผู้คนอาจรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้) เราได้ค้นพบว่าแท้จริงแล้ว จุดกำเนิดของรูปเคารพต่างๆส่วนใหญ่มาจากศาสนาบาบิโลนนั่นเอง เพราะเป็นศาสนาที่มีความเก่าแก่ศาสนาหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกเลยทีเดียว
เริ่มต้นที่ หลังน้ำท่วมโลก
โนอาห์มีลูกชาย 3 คนคือ Shem, Ham และ Japheth
นิมโรด บุตร คูช (ปฐก. 10:6-12) ซึ่งเป็นหลานของฮาม
นิมโรด เป็นชื่อของชายคนแรกที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ถึง 3 ครั้ง เขาเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรของมนุษย์ยุคแรกของโลก ( คือผู้ก่อตั้งอาณาจักรบาบิโลนขึ้นเมื่อราว 2000 กว่าปีก่อนคริสตกาล ที่ Shinar ) ชื่อ Nimrod มาจากคำกริยา ซึ่งหมายถึง “ให้เรากบฎ” นิมโรด ได้มีชื่อเสียงว่าเป็นนักล่าผู้ยิ่งใหญ่ในสายพระเนตรพระเจ้าเป็นชายผู้แข็งแรงและเก่งกาจด้านการต่อสู้และการล่าสัตว์มาก แต่ชื่อของเขาก็มีความหมายด้านมืดเหมือนกัน เขาได้กลายเป็นทรราช หรือผู้กดขี่ซึ่งนำการกบฎต่อการปกครองของพระเจ้า ในท้ายที่สุดเขาเองก็ไม่ได้เป็นนายพรานผู้ยิ่งใหญ่ในการล่าสัตว์ แต่กลับเป็นผู้ล่าวิญญาณมนุษย์ โดยชักจูงและโน้มนาวใจคนเหล่านั้นให้ร่วมมือกันต่อสู้กับพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์
he won men’s souls to be used against the LORD. Starting perhaps human slavery.
He began to be a gibborim in the earth. He was the first one to rule over a one world government. As previously stated, Nimrod was the first to be an anti-Christ.
เขากลายเป็นผู้บังคับบัญชาทางกองทัพที่ยิ่งใหญ่แห่งโลกในอดีตและเป็นผู้ปกครองของ One world government.ในสมัยนั้นซึ่งแนวคิดนี้ได้สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งในปัจจุบันคือประเทศอิรัก ภาพด้านล่างนี้คือรูปแกะสลักของNimrod
มีข้อมูลปลีกย่อยเกี่ยวกับ Nimrod ที่น่าสนใจคือ Nimrod คนนี้แม้จะเป็นคนที่เข้มแข็งมาก แต่เขาเป็นคนที่มีความมักใหญ่ใฝ่สูง ทะเยอทะยาน และโอหังเป็นอย่างมาก ในสมัยก่อนโน้นคนยุคนั้นจะนับถือและมีความเคารพยำเกรงในพระเจ้าเป็นอย่างมาก แต่ Nimrod คนนี้กลับทำสิ่งที่ตรงข้าม เขาเป็นมนุษย์
คนแรกที่ได้รับการบันทึกว่าเป็น The First Antichrist in Human History หรือมนุษย์คนแรกที่กล้าหมิ่นหรือท้าทายพระเจ้า โดยเขาได้สั่งให้ชาวบาบีโลนสร้างหอคอย The Tower of Babel ที่สูงเสียดฟ้าขึ้นเพื่อต้องการแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเขาและเพื่อให้โลกเห็นว่ามนุษย์สามารถไปสวรรค์ได้ด้วยตัวเอง แต่อนิจจา ความฝันของเขาไม่เป็นจริง เพราะพระเจ้าได้สาปแช่งและทำให้การก่อสร้างนั้นไม่ประสบความสำเร็จหอคอยดังกล่าวได้พังทะลายลงเสียก่อน
แต่ความชั่วร้ายของNimrodยังไม่ยุติเพียงเท่านั้น เขาได้ทำทุกอย่างให้อาณาจักรบาบีโลนของเขายิ่งใหญ่ ในตอนหลังเขาจึงหันไปพึ่งพาอำนาจมืดของซาตาน โดย Nimrod ผู้นี้ได้รับการบันทึก ว่าเป็นมนุษย์คนแรกที่เริ่มต้นทำพิธีกรรมบูชาซานตาน (Devil Worship หรือ Satan worship) เพื่อให้ซาตานช่วยให้สิ่งที่ตนปรารถนาเป็นจริง ซึ่งพิธีกรรมดังกล่าวนี้ยังสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
สดด106.34-43 ยกข้อพระคัมภีร์มาบางข้อค่ะ
ท่านปรนนิบัติรูปเคารพของเขาซึ่งกลายเป็นบ่วงสำหรับท่าน
ท่านฆ่าบุตรชายและบุตรสาวของท่านถวายเป็นเครื่องสักการบูชาแก่ปีศาจ
ท่านเทโลหิตผู้ไร้ผิดออกมาคือโลหิตบุตรชายบุตรสาวของท่าน
ผู้ซึ่งท่านได้ฆ่าเป็นเครื่องสักการบูชาแก่รูปเคารพแห่งคานาอัน แผ่นดินก็มลทินไปด้วยโลหิต
ท่านจึงเป็นคนไม่สะอาดด้วยการกระทำของท่าน และประพฤติเยี่ยงโสเภณีในการกระทำของท่าน
ภาพข้างล่างนี้เป็นภาพซากที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของ The Tower of Babel ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ที่เมือง Hillah ประเทศอิรัก
ปัจจุบันก็เหลือแต่ตอแค่นี้
ทำไม Nimrod ถึงต้องการสร้างหอบาเบล
1.เป็นการท้าทาย ต่อสิทธิอำนาจพระเจ้าเพราะพระองค์ทรงสัญญากับโนอาห์ว่าจะไม่ให้น้ำท่วมโลกอีกและ คิดว่าระบบมนุษย์จะสามารถโค่นล้มระบอบของพระเจ้าได้
2. เป็นบรรไดนำเข้าสู่โลกฝ่ายวิญญาณ(คือวิญญาณชั่ว)แห่งสถานย่านฟ้าอากาศ ยิ่งสูงมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น และ คิดว่าตนเองจะขึ้นไปถึงพระที่นั่งของพระเจ้าได้
เขาและบิดาของเขาคือคูทเป็นผู้ริเริ่มรวบรวมผู้คนในการก่อสร้างหอบาเบลเพื่อต้องการไปให้ถึงสวรรค์เพื่อต้องการเทียบเคียงพระเจ้าผู้สร้าง แต่ทำไม่สำเร็จเพราะพระเจ้าเห็นว่าพวกเขากำลังก่อการกบฎ จึงทำให้พวกเขาแตกภาษากระจัดกระจายไป (ปฐก 11:5-9)
Each culture’s stories were all very similar, the same basic story with few changes. Nimrod was an evil guy who tried to find a way to kill God. Only the Bible has the truth about it all, it is the very Word of God.
ไม่ใช่เรื่องใหม่ในปัจจุบัน ที่คนพยายามต่อสู้กับพระเจ้า หรือต่อต้านพระเจ้า หรือเป็นศัตรูกับพระองค์ เพราะสิ่งเหล่านี้เราไม่ได้พบแค่ Nimrod เท่านั้น แต่มีหลายๆ ตอนในพระคัมภีร์เดิม ว่าทำไมพระเจ้าถึงได้จัดการกับคนยิว ที่เขานมัสการพระเหล่านี้ (ต้องศึกษาเรื่องพระเทียมเท็จในเรื่องประวัติความเป็นมา เราเองก็จะเข้าใจมากขึ้นว่าเบื้องหลังพระเหล่านั้นคืออะไรกันแน่)
ความจริงแห่งประวัติศาสตร์ปรากฎอยู่เพียงแค่เรา ย้อนกลับไปศึกษา เราก็จะเกิดความเข้าใจแนวความคิดต่างๆ ว่าแท้จริงรากของรูปเคารพมาจากไหน แนวคิดอะไรที่เกิดขึ้นในโลก อยู่ๆเกิดขึ้นเองหรือมีที่มาที่ไป สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เราวิเคราะห์ได้ชัดเจนขึ้น
All these stories are about a flood and how God used it to destroy the evil people.
เหมือนเรื่องน้ำท่วมโลก ทำไมพระเจ้าให้น้ำท่วมโลกซึ่งก็มีสาเหตุ เพราะพระองค์ได้จัดการกับคนชั่วร้ายที่มีใจแข็งกระด้างพร้อมที่จะทำร้ายคนอื่นและเข่นฆ่าคนอื่นได้ทุกเมื่อ ซึ่งก็มีเรื่องหลี้ลับซ่อนอยู่ในเรื่องนั้นด้วยเช่นกัน (ว่างๆ จะนำมาให้อ่านเบื้องหลังประวัติศาสตร์น้ำท่วมโลก)
Nimrod’s many names will be quite familiar to you. They are: รายชื่อพระของเขา พบในพระคัมภีร์เดิม(คริสต์-ยิว)ในชื่อของพระเทียมเท็จที่ชาวยิวนมัสการในสมัยก่อน และพระองค์ตรัสว่าไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับรูปเคารพหรือพระเทียมเท็จเหล่านี้
*Gilgamesh
*Tammuz
In Babylonia, the month Tammuz was established in honor of the eponymous god Tammuz, who originated as a Sumerian shepherd-god, Dumuzid or Dumuzi, the consort of Inanna and, in his Akkadian form, the parallel consort of Ishtar.
http://www.gotquestions.org/who-Tammuz.html
*Bacchus
di-o-ni'-sus (Dionusos): The youngest of the Greek gods. by Greek religion. Jewis burnt offering an altar to Jupiter was erected, "the abomination that maketh desolate" (Daniel 11:31), and a swine was sacrificed upon it (see ABOMINATION OF DESOLATION). The immoral practices associated with heathen worship in those days established themselves in the temple. When this feast of Bacchus (Dionysus)
*Mithra
The sun god
http://www.bibletools.org/index.cfm/fuseaction/Topical.show/RTD/cgg/ID/13810/Mithra-sun-god.htm
*Ra
http://www.biblestudytools.com/lexicons/hebrew/kjv/raa.html
http://biblehub.com/hebrew/7451.htm
Baal
Baal was the name of the supreme god worshiped in ancient Canaan and Phoenicia. The practice of Baal worship infiltrated Jewish religious life during the time of the Judges (Judges 3:7), became widespread in Israel during the reign of Ahab (1 Kings 16:31-33) and also affected Judah (2 Chronicles 28:1-2).
*Adonis
(uh doh' nihss) God of vegetation and fertility with Syrian name meaning, “lord.” Worshiped in Greece and Syria. Rites seem to include the planting of seeds which quickly produced plants and that just as quickly wilted in the sun. These were used to symbolize the dying and rising of the god and to bring blessing upon crops. Similar rites were celebrated for Osiris in Egypt and possibly for Tammuz in Babylon. REB translates Isaiah 17:10 as “your gardens in honour of Adonis.” The Hebrew term appears only here in the Bible, being related to the personal name Naaman and to the Hebrew word meaning, “lovely, pleasant, agreeable.” Other translations read, “pleasant plants” (KJV),