สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆ วันนี้น้อยหนึ่งมาทดลอง
เครื่องสำอางออกใหม่ให้ชมกันอีกแล้ว เชื่อว่าสาวๆต้องกรี๊ดแน่ๆ อิอิ



แบรนด์ Mille (มิลเล่) นั่นเอง สาวๆคงคุ้นหน้าคุ้นตาแบรนด์นี้กับบ้างแล้ว
เพราะก่อนหน้านี้เค้าได้ออกแป้งตลับมาแล้วหลายรุ่น มีทั้งเบส บีบี อายไลเนอร์ เขียนคิ้ว
เรียกว่าเกือบครบแล้ว แต่ก็ยังขาดเมคอัพในบางส่วนอยู่



เค้าเลยจัดเมคอัพมาเติมเต็มคอลเลคชั่นกุหลาบให้ฟูร่าสาแก่ใจ ด้วยบลัชออนทั้ง 2 รุ่น
ซึ่งดูจากหน้าตาแพตเกจด้านนอกก็ยังคงคอนเซป กลีบกุหลาบอย่างเหนียวแน่น
จะรอช้าทำไม เอาล่ะ แกะสิคะคุณ



แกะกล่องกัน จะเป็นรุ่นตลับสีชมพูที่แบนกว่า และรุ่นตลับขาวมนๆขึ้นมาหน่อย
รุ่นตลับชมพูจะแถมแปรงคาบูกิสีขาวชมพูมาให้ด้วยในกล่องนะจ๊ะ ส่วนรุ่นสีขาวก็มีแปรงให้
เหมือนกัน(อยู่ในตลับจ่ะ) เรามาดูทีละรุ่นกันเลยว่าเป็นยังไงบ้าง ขอเริ่มจากรุ่นตลับ
สีชมพูนะครับ



เปิดตลับออกมาดูหน่อย กรี๊ดเลยใช่มั้ย มันน่ารักมากกกก กลิ่นกุหลาบของบลัชหอมมากๆ
ลายพิมพ์กุหลาบบัลแกเรียบนตัวบลัช เค้าทำดีจริงๆนะ
รุ่นนีมีชื่อว่า Mille Versailles Rosy Blusher (รุ่นนี้ผลิตที่ Italy ด้วยนะ)
ผสมผสาน Filming เทคโนโลยี ช่วยให้เนื้อบลัชกระจายแสงและกระจายตัวได้ดี
เหมือนแผ่นฟิล์ม มาดูใกล้ๆกัน



แปรงคาบูกิที่ให้มาในกล่องเป็นแปรงสังเคราะห์นิ่มกำลังดี ปลายขนแปรงแอบกุ๊กกิ๊ก
มีสีชมพูมาด้วยเบาๆ เนื้อบลัชทั้ง 4 สีไม่เหมือนกันนะ บางสีมีชิมเมอร์เบาๆ
บางสีเป็นเนื้อแมทไปเลย เหลี่ยมมุมของลายทำได้ละเอียดจริงๆ
ยังแอบเสียดายเลยถ้าปาดๆไปลายจะหาย555 ทำรีวิวห้ามเสียดาย ฉะนั้น ปาดกันโลด
(swatchขวา คือปาดเบา/swatchซ้าย คือปาดหนักๆเพื่อดูเนื้อสีจริง)



Mille Versailles Rosy Blusher #1 Diana Rose สีส้มพีชประกายทอง
สีนี้มีความเหลือบๆ(ไม่ถึงกับชิมเมอร์เท่าไร) สีอ่อนใสๆ ปัดง่ายมาก



Mille Versailles Rosy Blusher #2 Katherine Rose สีชมพูอ่อนชิมเมอร์สีเงิน
สีนี้มีชิมเมอร์สีเงินที่เห็นชัดอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความที่บลัชสีอ่อน ก็กลมกลืมกับ
ชิมเมอร์ดีอยู่ ปัดเบาๆสามารถใช้เป็นไฮไลท์ได้เลยนะ



Mille Versailles Rosy Blusher #3 Elizabeth Rose สีชมพูกลางๆ
สีนี้ปัดเบาๆจะดูสุภาพ ใสๆ แต่ถ้าปัดหนักๆก็รู้เรื่องกันไปเลย 555 หวานเจี๊ยบแน่นอน
สีนี้เป็นเนื้อแมทสนิท ไม่มีชิมเมอร์เลยครับ



Mille Versailles Rosy Blusher #4 Lady Anne Rose สีชมพูอมส้ม
สีนี้มีความซุกซนขี้เล่นแอบซ่อนอยู่ เพราะมีความอมส้มและสว่างสดใส
สีนี้เป็นเนื้อแมทสนิทครับ



Swatch ซ้ายไปขวา : #1 Diana Rose / #2 Katherine Rose
#3 Elizabeth Rose / #4 Lady Anne Rose
บลัชออน Mille Versailles Rosy Blusher มีจุดเด่นคือได้แรงบันดาลใจมาจากกลีบกุหลาบบัลแกเรีย
ฉะนั้นทั้งลายกุหลาบและกลิ่นกุหลาบอ่อนๆของบลัช ก็ทำออกมาได้ดีตรงตามคอนเซป
แถมสีสันยังชัดเจน เนื้อนิ่ม ชนิดที่แตะนิดเดียวก็พอแล้ว มีทั้งเนื้อเหลือบๆ เนื้อมีชิมเมอร์(เบาๆ)
และเนื้อแมท ใครชอบกุหลาบ ชอบบลัชออนสีน่ารักๆใช้ง่าย ลองไปเล่นดูได้ครับ
ในกล่องมีแปรงมาให้ ส่วนตัวเราเป็นคนถนัดใช้แปรงแบบมีด้าม เพราะถ้าด้ามแปรงสั้น
อาจจะเผลอหนักมือ เลยยังไม่ได้ใช้แปรงที่แถมมาให้อย่างจริงจัง
คิดว่าแปรงคาบูกิทรงนี้ พกไว้เติมแป้งฝุ่นระหว่างวันจะเลิศเลยหละ



ขยับมาที่รุ่นตลับสีขาวกันบ้างครับ รุ่นนี้เปิดขึ้นมาก็รู้เลยว่า เป็นรุ่นที่เน้นความวาว
ชื่อว่า Mille Dazzling Rose Blusher เป็นบลัชเนื้อวาวแบบ 2 โทนสีในตลับเดียว
มีทั้งหมด 3 สีด้วยกัน



เปิดมาในตลับ จะมีแปรงแบนๆมาให้ วางอยู่บนที่กั้ยพลาสติกใส (ถ้าเป็นแพคเกจอื่น
พลาสติกใสนี้เราคงทิ้งไปแล้ว55 แต่นี่เค้าเอาไว้กันไม่ให้แปรงโดนเนื้อบลัช เก็บไวก่อนนะจ๊ะ)
เนื้อบลัชไม่ได้แบน มีความนูนเป็นทรงกลม มีความวาวแสงอย่างเห็นได้ชัด
แยกสองโทนสีชัดเจน ใช้ยังไงล่ะที่นี้ ไม่ยากๆ มาลองดูกัน



Mille Dazzling Rose Blusher #1 Innocent Pink สีชมพูพาสเทล/สีชมพูอ่อน เนื้อวาว
สีอ่อนกว่าใช้เป็นไฮไลท์ได้เลย ส่วนสีชมพูด้านขวาก็เป็นบลัชเนื้อวาว สีนี้อาจจะเหมาะกับคนผิว
ค่อนไปทางขาว สีจะกลมกลืนไม่โดดเกินไป



Mille Dazzling Rose Blusher #2 Peach Champagne สีชมพูพาสเพล/สีแชมเปญเบจอ่อน เนื้อวาว
ชอบสีนี้ เพราะมีทั้งโทนชมพูและโทนแชมเปญ (มีอมส้มนิดๆด้วย) ทั้งสองสีถ้าปัดเบา
ก็เป็นไฮไลท์ได้ และถ้าปัดหนักก็เป็นบลัชได้



Mille Dazzling Rose Blusher #3 Sassy Love สีพีชเบจอ่อน/สีชมพูกลาง เนื้อวาว
สีนี้ถ้าดูในตลับอาจจะเข้ม แต่ปัดมาจริงๆกำลังดี เป็นวอร์ชั่นที่เข้มขึ้นหน่อยของเบอร์2
คนผิวสองสีใช้สีนี้จะกำลังดีไม่โดดไป



swatch แต่ละช่องที่แบ่งขีดไว้คือ สีเดี่ยวๆของแต่ละสี+แบบสองสีปัดรวมกัน
#1 Innocent Pink / #2 Peach Champagne / #3 Sassy Love
โดยรวมบลัช Mille Dazzling Rose Blusher เป็นเนื้อบลัชที่มีความวาวสุดพลัง
บลัชลักษณะโดมแบบนี้คือเนื้อ Baked หรือแบบอบมานั่นเอง ถ้าเอามือถูๆๆๆสีจะไม่ขึ้นมาเท่าใช้แปรง
และต้องใช้แปรงที่ขนที่ไม่นิ่มจนเกินไป แบบขนธรรมชาติที่จิกสีขึ้นมาได้ดีกว่า ฉะนั้นบางคนอาจบ่นว่า
บลัชแบบ Baked นั้นสีไม่ค่อยออก เพราะว่าใช้แปรงที่ไม่เข้ากับเนื้อบลัช สีเลยไม่ติดยังไงล่ะจ๊ะ
ซึ่งแปรงที่แถมมาก็เป็นขนแปรงที่จิกเนื้อได้ดี ใช้แล้วเข้าคู่กันพอดิบพอดี พูดถึงสีกันบ้าง
ส่วนตัวเราแนะนำให้ปัดรวมๆกันไปเลย จะได้สีที่ซอฟๆใสๆ กว่าปัดสีใดสีหนึ่งเดี่ยวๆ
แต่ถ้าอยากใช้แบบเดี่ยวๆก็ให้นำสีที่อ่อนกว่าเป็นไฮไลท์(ลงในส่วนที่อยากให้พุ่ง)
แล้วเกลี่ยๆด้วยสีที่เข้มกว่าเข้าไปหากรอบหน้า ใครชอบงานวาว งานเกาหลี บลัชนี้น่าลองอยู่นะ



ไหนๆแล้ว swatch มันทั้ง 7 สีเลยละกัน เทียบความวาว ความแมทอะไรกันไปเลย
จากซ้ายไปขวา : #1 Diana Rose / #2 Katherine Rose
#3 Elizabeth Rose / #4 Lady Anne Rose / #1 Innocent Pink (ปัดรวม)
#2 Peach Champagne (ปัดรวม) / #3 Sassy Love (ปัดรวม)
พอมาเทียบกันแล้ว เห็นมั้ย มันไม่เหมือนกันเลยซักสี 5555 เอาล่ะใครจะถอยซักอันนึงนี่ยากละ
เอาเป็นว่า ดูสี ดูเนื้อ ที่คิดว่าชอบและใช่ความต้องการ และลองไปเล่นๆกันดูก่อนนะ
เพราะเราเชื่อว่าแต่ละคนมีความชอบที่ต่างกัน แต่ถ้าถามเราว่าให้เลือกสีนึง
เราคงเลือก #3 Elizabeth Rose เพราะปัดเบาๆก็จะสีเป็นธรรมชาติกำลังดี
(แถมมีกลิ่นกุหลาบ พกไว้เป็นกระจก เวลาส่องก็ได้กลิ่นเบาๆ555)




คราวนี้ Mille ก็มีไลน์ของบลัชออน ออกมายั่วกิเลสเพิ่มอีกแล้วนะครับ
อย่าพึ่งเชื่อเรานะ อยากให้ไปลองดู (ไปดมดูด้วย55) ถ้าถูกใจก็ตำกันได้ตามอัธยาศัยจ่ะ
หรือใครได้ไปลองไปตำมาแล้ว ก็มีเม้ามอยกันได้ว่าชอบมั้ยอะไรยังไงนะจ๊ะ
http://www.facebook.com/noyneungmakeup
http://instagram.com/noyneungmakeup
http://noyneungmakeup.bloggang.com
.
.
.
ขอขอบคุณ Mille ครับ ที่ส่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้มาให้ทดลอง
และให้น้อยหนึ่งได้ทำ Review นี้ขึ้นมา
หวังว่า Review นี้คงสนุกสนานและมีประโยชน์ต่อพี่ๆเพื่อนๆ
ที่สนใจผลิตภัณฑ์ของ Mille นะครับ เอาไว้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจครับ
ขอบคุณที่รับชมครับ ^^ แล้วเจอกันใหม่ครับ