หลังไทยทีวี-เอ็มวีแฟมิลี่ จอดำ “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล”จะขยับไปทางไหน? : ทีวีดิจิทัล
26 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ช่องไทยทีวี-และช่องเอ็มวีแฟมิลี่ 2 ช่องทีวีดิจิทัลของ พันธุ์ทิพา ศกุณต์ชัย หรือ เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล “เจ้าแม่สื่อ” ในวงการบันเทิงไทย จะต้องจอดำหยุดการทำธุรกิจลงพร้อมทั้งยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.
โดยเจ๊ติ๋ม เห็นว่าการประกอบธุรกิจทีวีดิจิทัล และการทำงานของ กสทช. ยังไม่เป็นระบบตามเงื่อนไขที่ให้ไว้ก่อนการประมูลทีวีดิจิทัล ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อนักลงทุน จึงขอให้ กสทช. เพิกถอนคำสั่งการเรียกให้บริษัท ไทยทีวี ชำระเงินค่าธรรมเนียมและชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท ไทยทีวี เป็นจำนวนเงิน 700 ล้านบาท โดยศาลปกครองนัดไต่สวนเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม เวลา 13.30 น.
“ซึ่งการทำงานของกสทช.ในด้านต่างๆ อาทิ 1.การผิดสัญญาในเรื่องการแจกคูปองทีวีดิจิทัลที่บอกไว้ว่าจะแจกให้ 22.5 ล้านครัวเรือน แต่แจกจริงแค่ 14 ล้านครัวเรือน 2.การแจกกล่องทีวีดิจิทัลที่แทนที่จะเป็นกล่องทีวีดิจิทัลเพียงอย่างเดียวแต่กลับเป็นกล่องที่ดูได้ทั้งทีวีดาวเทียมและทีวีดิจิทัลทำให้ทีวีดาวเทียมซึ่งมีค่าขอใบอนุญาตที่ถูกกว่าอยู่แล้วได้ประโยนช์ ซึ่งทางเรามองว่าไม่เป็นธรรมสำหรับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล 3.การที่กสทช.ยอมให้ช่อง 3 อนาล็อกออกอากาศคู่ขนานกับทีวีดิจิทัล 4.เรื่องเสาสัญญาที่ล่าช้ากว่ากำหนดเดิมไปมาก ทำให้คนดูทีวีดิจิทัลได้น้อย 5.การประชาสัมพันธ์ทีวีดิจิทัลไปสู่ประชาชนที่ถูกมองว่าไม่จริงจัง 6.เรื่องกฎมัสแครี่ซึ่งจะให้ทีวีดิจิทัลอยู่ในทุกแพลตฟอร์ม 7.การที่กสทช.ระบุว่ารายการข่าวบันเทิงที่ทางไทยทีวีทำไม่ถือเป็นข่าว จนทำให้ไทยทีวีไม่สามารถนำจุดแข็งที่ถนัดมาใช้เพื่อผลิตรายการสร้างรายได้ให้ช่องได้ 8.กสทช.ไม่สามารถทำให้เลขช่องของทีวีดิจิทัลเป็นเลขเดียวกันได้บนทุกแพลตฟอร์ม และ9.เรื่องกฎเกณฑ์การให้เงินสนับสนุนผู้ประมูลที่ชัดเจน” เจ๊ติ๋มแจกแจง
ทีมข่าวบันเทิง "คม ชัด ลึก” จะพาไปดูว่าหลังจากนี้ ทั้งช่องไทยทีวีและเอ็มวีแฟมิลี่ (โลก้า เดิม) จะยังมีตัวตนอยู่อีกหรือไม่ โดยที่ผ่านมา ทางช่องมีการปล่อยตัวหนังสือวิ่งอยู่ข้างหน้าจอโทรทัศน์ตลอดทั้งวัน ด้วยข้อความว่า "ตามที่ บริษัท ไทยทีวี จำกัด ได้ขอยกเลิกการประกอบกิจการโทรทัศน์และใบอนุญาต ให้บริการภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลต่อกสทช. จะดำเนินการงดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลในช่อง LOCA และไทยทีวี ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค.2558 ตั้งแต่เวลา 00.00 น. ทั้งนี้ผู้ชมสามารถรับชมรายการต่างๆ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง LOCA และไทยทีวีได้ตามปกติผ่านระบบดาวเทียม เคเบิลทีวีทั้งประเทศและเว็บไซต์"
ซึ่งชัดเจนว่าอนาคตช่องไทยทีวีและเอ็มวีแฟมิลี่ (โลก้า เดิม) กำลังจะโดดกลับไปอยู่บนแพลตฟอร์มทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีแทนโดยพันธุ์ทิพา ศกุณต์ชัย หรือ เจ๋ติ๋ม ทีวีพูลเผยกับทีมข่าวบันเทิง "คม ชัด ลึก” ออกมาแล้วว่า ได้ติดต่อผ่านทางสมาคมเคเบิลทีวีไว้ก่อนหน้านี้แล้วโดยได้เลข 7 เป็นช่องประจำ บนแพลตฟอร์มเคเบิลทีวีทั่วประเทศ ซึ่งมีฐานคนดูกว่า 5 ล้านครัวเรือน
นอกจากนั้น ยังสามารถดูรายการต่างๆ ของทั้ง 2 ช่อง ผ่านทางจานดาวเทียม PSI ทางช่องดร้ากอน ซึ่งเป็นช่องในเครือ MV ทีวี ของชัยยุทธ เจ้าพ่อทีวีดาวเทียม ซึ่งมาร่วมกับทางเจ๊ติ๋ม ทีวีพูล ผลิตรายการในช่องโลก้าแฟมิลี่นั่นเอง นอกจากนั้น ยังมีจานส้ม IPM ในระบบ KU BAND ที่เลข 7 เช่นเดียวกัน ในนามช่อง "ทีวีพูล”
โดยจะเห็นได้ว่าทางเจ๊ติ๋มได้ปรับผังรายการให้เช่าเวลามากขึ้น โดยเฉพาะรายการขายสินค้า เช่าพระเครื่อง มาแทนที่รายการที่ผลิตโดยทีวีพูล อีกทั้งโฆษณาส่วนใหญ่ จะเป็นการโปรโมทรายการต่างๆ ของช่องทีวีพูลหรือของทางทีวีพูลเป็นหลัก ส่วนรายการที่ยังดำเนินการอยู่ อาจจะเหลือไม่ถึง 30% ส่วนใหญ่จะเป็นรายการสด เช่น รายการข่าว สน.17 ลูกทุ่งทีวีพูล รายการที่กำลังมีเรตติ้ง ดีวันดีคืน และหลังจากนี้รายการของช่องก็จะเป็นรายการบันเทิงแนวที่เจ้าแม่บันเทิงถนัดและคาดว่าจะทำรายได้ให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
อนาคตอีกอย่างที่เจ๊ติ๋ม ทีวีพูลเจ้าแม่สื่อบันเทิงวางไว้คือการนำบริษัททีวีพูลเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเจ้าตัวออกมาบอกอย่างชัดเจนด้วยว่า ในส่วนนี้จะให้ลูกๆ ทั้ง 3 คนที่ส่งไปเรียนถึงเมืองนอกมานั่งบริหาร สืบทอดวงการสื่อบันเทิงแทนตัวเองที่ยังไม่รู้ว่าผลการฟ้องร้องกับกสทช.จะออกมาแบบใด
โดยเมื่อเร็วๆ นี้เจ๊ติ๋มได้เดินทางไปยังประเทศลาว กับเขมร กับชัยยุทธ เอ็มวีทีวีเพื่อเตรียมรุกธุรกิจด้านโมบาย (โทรศัพท์) เช่น การดาวน์โหลดรูปดารา เป็นต้น นอกจากนั้น ก็จะบุกสื่อโซเชียลมีเดีย, เว็บไซต์, เฟซบุ๊ก ไปในคราวเดียวกัน
ซึ่งการไปส่องธุรกิจใน 2 ประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวและเขมรนั้น เจ๋ติ๋มยังพ่วงเอาหนังสือ ทีวีพูล และ สไปซี ไปเปิดตลาดที่นั่นด้วยโดยมีการแปลเป็นภาษาลาวและเขมรเพื่อขยายฐานคนอ่านนอกประเทศ
ข่าวจาก : คม ชัด ลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20150722/210179.html
หลังไทยทีวี-เอ็มวีแฟมิลี่ จอดำ “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล”จะขยับไปทางไหน?
หลังไทยทีวี-เอ็มวีแฟมิลี่ จอดำ “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล”จะขยับไปทางไหน? : ทีวีดิจิทัล
26 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ช่องไทยทีวี-และช่องเอ็มวีแฟมิลี่ 2 ช่องทีวีดิจิทัลของ พันธุ์ทิพา ศกุณต์ชัย หรือ เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล “เจ้าแม่สื่อ” ในวงการบันเทิงไทย จะต้องจอดำหยุดการทำธุรกิจลงพร้อมทั้งยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.
โดยเจ๊ติ๋ม เห็นว่าการประกอบธุรกิจทีวีดิจิทัล และการทำงานของ กสทช. ยังไม่เป็นระบบตามเงื่อนไขที่ให้ไว้ก่อนการประมูลทีวีดิจิทัล ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อนักลงทุน จึงขอให้ กสทช. เพิกถอนคำสั่งการเรียกให้บริษัท ไทยทีวี ชำระเงินค่าธรรมเนียมและชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท ไทยทีวี เป็นจำนวนเงิน 700 ล้านบาท โดยศาลปกครองนัดไต่สวนเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม เวลา 13.30 น.
“ซึ่งการทำงานของกสทช.ในด้านต่างๆ อาทิ 1.การผิดสัญญาในเรื่องการแจกคูปองทีวีดิจิทัลที่บอกไว้ว่าจะแจกให้ 22.5 ล้านครัวเรือน แต่แจกจริงแค่ 14 ล้านครัวเรือน 2.การแจกกล่องทีวีดิจิทัลที่แทนที่จะเป็นกล่องทีวีดิจิทัลเพียงอย่างเดียวแต่กลับเป็นกล่องที่ดูได้ทั้งทีวีดาวเทียมและทีวีดิจิทัลทำให้ทีวีดาวเทียมซึ่งมีค่าขอใบอนุญาตที่ถูกกว่าอยู่แล้วได้ประโยนช์ ซึ่งทางเรามองว่าไม่เป็นธรรมสำหรับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล 3.การที่กสทช.ยอมให้ช่อง 3 อนาล็อกออกอากาศคู่ขนานกับทีวีดิจิทัล 4.เรื่องเสาสัญญาที่ล่าช้ากว่ากำหนดเดิมไปมาก ทำให้คนดูทีวีดิจิทัลได้น้อย 5.การประชาสัมพันธ์ทีวีดิจิทัลไปสู่ประชาชนที่ถูกมองว่าไม่จริงจัง 6.เรื่องกฎมัสแครี่ซึ่งจะให้ทีวีดิจิทัลอยู่ในทุกแพลตฟอร์ม 7.การที่กสทช.ระบุว่ารายการข่าวบันเทิงที่ทางไทยทีวีทำไม่ถือเป็นข่าว จนทำให้ไทยทีวีไม่สามารถนำจุดแข็งที่ถนัดมาใช้เพื่อผลิตรายการสร้างรายได้ให้ช่องได้ 8.กสทช.ไม่สามารถทำให้เลขช่องของทีวีดิจิทัลเป็นเลขเดียวกันได้บนทุกแพลตฟอร์ม และ9.เรื่องกฎเกณฑ์การให้เงินสนับสนุนผู้ประมูลที่ชัดเจน” เจ๊ติ๋มแจกแจง
ทีมข่าวบันเทิง "คม ชัด ลึก” จะพาไปดูว่าหลังจากนี้ ทั้งช่องไทยทีวีและเอ็มวีแฟมิลี่ (โลก้า เดิม) จะยังมีตัวตนอยู่อีกหรือไม่ โดยที่ผ่านมา ทางช่องมีการปล่อยตัวหนังสือวิ่งอยู่ข้างหน้าจอโทรทัศน์ตลอดทั้งวัน ด้วยข้อความว่า "ตามที่ บริษัท ไทยทีวี จำกัด ได้ขอยกเลิกการประกอบกิจการโทรทัศน์และใบอนุญาต ให้บริการภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลต่อกสทช. จะดำเนินการงดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลในช่อง LOCA และไทยทีวี ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค.2558 ตั้งแต่เวลา 00.00 น. ทั้งนี้ผู้ชมสามารถรับชมรายการต่างๆ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง LOCA และไทยทีวีได้ตามปกติผ่านระบบดาวเทียม เคเบิลทีวีทั้งประเทศและเว็บไซต์"
ซึ่งชัดเจนว่าอนาคตช่องไทยทีวีและเอ็มวีแฟมิลี่ (โลก้า เดิม) กำลังจะโดดกลับไปอยู่บนแพลตฟอร์มทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีแทนโดยพันธุ์ทิพา ศกุณต์ชัย หรือ เจ๋ติ๋ม ทีวีพูลเผยกับทีมข่าวบันเทิง "คม ชัด ลึก” ออกมาแล้วว่า ได้ติดต่อผ่านทางสมาคมเคเบิลทีวีไว้ก่อนหน้านี้แล้วโดยได้เลข 7 เป็นช่องประจำ บนแพลตฟอร์มเคเบิลทีวีทั่วประเทศ ซึ่งมีฐานคนดูกว่า 5 ล้านครัวเรือน
นอกจากนั้น ยังสามารถดูรายการต่างๆ ของทั้ง 2 ช่อง ผ่านทางจานดาวเทียม PSI ทางช่องดร้ากอน ซึ่งเป็นช่องในเครือ MV ทีวี ของชัยยุทธ เจ้าพ่อทีวีดาวเทียม ซึ่งมาร่วมกับทางเจ๊ติ๋ม ทีวีพูล ผลิตรายการในช่องโลก้าแฟมิลี่นั่นเอง นอกจากนั้น ยังมีจานส้ม IPM ในระบบ KU BAND ที่เลข 7 เช่นเดียวกัน ในนามช่อง "ทีวีพูล”
โดยจะเห็นได้ว่าทางเจ๊ติ๋มได้ปรับผังรายการให้เช่าเวลามากขึ้น โดยเฉพาะรายการขายสินค้า เช่าพระเครื่อง มาแทนที่รายการที่ผลิตโดยทีวีพูล อีกทั้งโฆษณาส่วนใหญ่ จะเป็นการโปรโมทรายการต่างๆ ของช่องทีวีพูลหรือของทางทีวีพูลเป็นหลัก ส่วนรายการที่ยังดำเนินการอยู่ อาจจะเหลือไม่ถึง 30% ส่วนใหญ่จะเป็นรายการสด เช่น รายการข่าว สน.17 ลูกทุ่งทีวีพูล รายการที่กำลังมีเรตติ้ง ดีวันดีคืน และหลังจากนี้รายการของช่องก็จะเป็นรายการบันเทิงแนวที่เจ้าแม่บันเทิงถนัดและคาดว่าจะทำรายได้ให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
อนาคตอีกอย่างที่เจ๊ติ๋ม ทีวีพูลเจ้าแม่สื่อบันเทิงวางไว้คือการนำบริษัททีวีพูลเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเจ้าตัวออกมาบอกอย่างชัดเจนด้วยว่า ในส่วนนี้จะให้ลูกๆ ทั้ง 3 คนที่ส่งไปเรียนถึงเมืองนอกมานั่งบริหาร สืบทอดวงการสื่อบันเทิงแทนตัวเองที่ยังไม่รู้ว่าผลการฟ้องร้องกับกสทช.จะออกมาแบบใด
โดยเมื่อเร็วๆ นี้เจ๊ติ๋มได้เดินทางไปยังประเทศลาว กับเขมร กับชัยยุทธ เอ็มวีทีวีเพื่อเตรียมรุกธุรกิจด้านโมบาย (โทรศัพท์) เช่น การดาวน์โหลดรูปดารา เป็นต้น นอกจากนั้น ก็จะบุกสื่อโซเชียลมีเดีย, เว็บไซต์, เฟซบุ๊ก ไปในคราวเดียวกัน
ซึ่งการไปส่องธุรกิจใน 2 ประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวและเขมรนั้น เจ๋ติ๋มยังพ่วงเอาหนังสือ ทีวีพูล และ สไปซี ไปเปิดตลาดที่นั่นด้วยโดยมีการแปลเป็นภาษาลาวและเขมรเพื่อขยายฐานคนอ่านนอกประเทศ
ข่าวจาก : คม ชัด ลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20150722/210179.html