สวัสดีทุกคนค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่ากระทู้นี้เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก หากว่ามีอะไรผิดพลาด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะการว่างงานและความอยากล้วนๆค่ะ ช่วงนี้เป็นช่วงฝึกงาน เราไม่ต้องทำงานทุกวัน ก็เลยคิดว่าอยากเดินทาง ไปไหนสักที่ ที่เป็นธรรมชาติไม่ไกลกรุงเทพฯและที่สำคัญต้องประหยัด!! สระบุรี ที่นี่แหละตอบโจทย์ที่สุดแล้วในตอนนี้ ... รีบไลน์ชวนเพื่อนในกรุ๊ป สรุปตกลงเข้าร่วมอุดมการณ์เดียวกับเรามาหนึ่งคน
นัดแนะกันว่า "วันจันทร์" ที่จะถึงนี้ เจอกันตีห้า ... วางแผนไว้เล็กน้อยว่าจะขึ้นรถไฟฟรีกันรอบนี้ๆ ถึงแล้วจะไปไหนก็แค่นั้น แต่เอาเข้าจริงเราทำผิดแผนตั้งแต่เหยียบแผ่นดินสระบุรี 5555555 ... เราเป็นคนชอบเที่ยว ชอบเดินทางและชอบถ่ายรูปมาก มีกล้องสุดรักอยู่หนึ่งตัว เป็นกล้อง DSLR แต่พอจะไปเที่ยว นึกขึ้นได้ว่าลืมมันไว้ที่บ้าน
แล้ววว!!! ไปเที่ยวไม่มีกล้อง แต่ทำไงได้ ... เอาไอโฟนถ่ายก็ได้วะ พอคืนวันอาทิตย์ ไอโฟนลูกรักที่แบตเสื่อมมาได้สักพักเกิดดับไปซะดื้อๆ เปิดไม่ติดเลย เจริญละ กล้องไม่มี โทรศัพท์ไม่มี จะนัดเจอเพื่อนยังไง (- -)
ได้แต่ถอนหายใจ เห้อออ~ ไปค้นนาฬิกาตั้งโต๊ะในกรุสมบัติ เอาถ่านรีโมททีวีมาใส่ให้มันใหม่ หวังว่าจะปลุกเราให้ตื่นในตอนเช้ามืด ผลคือถ่านใช้ได้แต่นาฬิกาตายแล้ว โอ้ไม่! อะไรจะซวยขนาดนั้น หันไปเจอรีโมทแอร์ ก็ปิ๊งไอเดีย ตั้งเวลาปิดมันแล้วกัน ร้อนก็คงตื่นเอง ... เสร็จปุ๊ป กำลังจะนอนละ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น อินี่ก็ตกใจ ใครกัน!? มาเคาะตอนจะเที่ยงคืนแบบนี้ ค่อยๆแง้มประตู พอเห็นหน้าเพื่อนเท่านั้นแหละ น้ำตาจะไหลเหมือนพลัดพรากกันมานาน อิเพื่อนบอกกูติดต่อไม่ได้ เลยมาลากไปนอนด้วย อินี่ก็รีบเก็บผ้าเก็บผ่อนไปนอนกับเค้าอย่างไม่ต้องลังเล // คืนนั้นได้นอนตีสามจ้าาาา กะไปนอนบนรถไฟเอา ...
เกริ่นก่อนเที่ยวมาเยอะ ถึงเวลาเริ่มทริป อ้อ! เพื่อนยืมกล้องพี่สาวมา เป็น Fuji Film X-M1 ซึ่งอินี่ใช้กล้อง mirrorless ไม่เป็น ถนัดแต่ dslr แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรให้บันทึกภาพ ทริปนี้จึงเป็นภาพจากกล้องตัวนี้ทั้งหมดค่ะ
05.30 น. เราถึงสถานีรถไฟดอนเมือง รถไฟฟรีที่เราจะขึ้นคือรอบ 05.53 น. ก็รีบไปเอาตั๋วฟรีกัน บอกพี่เจ้าหน้าที่ว่าไปลง "ชุมทางแก่งคอย" ได้ตั๋วปุ๊ปก็ไปนั่งรอรถไฟกัน ฟ้าก็ค่อยๆสว่างขึ้นเรื่อยๆ ... คนก็เยอะขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน
06.05 น. รถไฟขบวนที่เรารอก็มาถึง พอจอดสนิทเรากับเพื่อนก็กระโดดขึ้นรถไฟฟรีขบวนนี้กันเลย ในตั๋วไม่มีเลขที่นั่งบอก ก็เลยเลือกที่นั่งกันตามอัธยาศัย ไม่นานล้อก็เริ่มหมุนไปตามรางที่ทอดยาว รูประหว่างทางจะไม่เยอะ เพราะเราหลับ 55555555
เราได้นั่งที่นั่งแบบนี้ ไม่นุ่มแต่ก็ไม่ทำให้เมื่อยมาก
ท้องฟ้าเช้านี้ครึ้มมาเลย กะรอพระอาทิตย์ขึ้น แสงเช้าจะได้รูปที่ออกมาสวยๆ กลับไม่มีแสงเลยซะงั้น
จากนั้นก็หลับๆตื่นๆกันทั้งคู่ วิวข้างทางนี่ก็ได้เห็นเป็นพักๆ (- -)
08.10 น. ตื่นอีกทีเมื่อถึงสถานี "สระบุรี" อินี่ก็รีบปลุกเพื่อนเลย ตื่น!! ถึงสระบุรีแล้ว เลยแก่งคอยมาแล้วแน่ๆ (ด้วยความที่เข้าใจว่าแก่งคอยถึงก่อนสระบุรี) จับมือกันวิ่งลงรถไฟที่สถานีสระบุรีทันที!!! ลงมายืนอ่านตั๋วที่กำเอาไว้แน่น สองคนปรึกษากัน เราน่าจะลงสถานีผิดว่ะเพื่อน เคว้งมาก ...
จังหวะนั้นพี่เจ้าหน้าที่ผู้หญิงของสถานีเดินออกมาพอดี ก็เลยถามพี่เค้าว่าพวกหนูลงสถานีผิดใช่มั้ยคะ พี่ตอบมาว่า "ใช่" มองหน้ากับเพื่อนและหัวเราะขื่นๆใส่กัน พี่เจ้าหน้าที่บอกว่าน้องออกจากสถานีแล้วเลี้ยวซ้ายนะคะ เห็นร้านหมออะไรสักอย่างแล้วให้เลี้ยวขวา จากนั้นเดินตรงเข้าไปเรื่อยๆ จะมี บขส. ให้ขึ้นรถเมล์คันสีส้มที่เขียนว่า "สระบุรี-แก่งคอย-มวกเหล็ก" หรือ "สระบุรี-ซับสนุน" หรือ รถเมล์คันสีฟ้า "สระบุรี-อะไรสักอย่าง" ที่ถึงเหมือนกันแต่จะอ้อม เราก็ยกมือไหว้ขอบคุณพี่เค้าไป ไหนๆก็ลงผิดสถานีแล้ว ถือว่าได้เดินเล่นในตัวเมืองสระบุรีแล้วกัน
เราเดินเข้ามาในตลาดตามทางที่พี่เค้าบอกมา คนกำลังพลุกพล่าน เดินไม่ไกลเลยค่ะ
เดินตรงไปเรื่อยๆผ่านตลาดสดตอนเช้า ผ่านตลาดมานิดนึงก็เจอ บขส. แล้วค่ะ ฝั่งซ้ายมือฝั่งเดียวกับตลาดเลย เข้ามาก็เห็นรถเมล์ที่จะพาเราไปแก่งคอย เราก็กระโดดขึ้นรถโลด บอกคุณป้ากระเป๋ารถเมล์ว่าลงที่แก่งคอย จ่ายค่ารถไป 13 บาทขาดตัว!! รถออก 08.30 น.
09.15 น. เราถึง อ.แก่งคอย เดินทางไม่นานมาก นั่งมองวิวเรื่อยๆ อากาศครึ้มๆ มีแดดอ่อนๆ คุณป้ากระเป๋ารถเมล์ถามว่ามาเที่ยวกันเหรอ มาจากไหน เราก็ตอบคุณป้าไป ป้าใจดีมาก ยิ้มแย้มตลอด
ลงรถเรากับเพื่อนก็เดินกันไปเรื่อยๆ
ไม่อยากพลาดร้านกาแฟขึ้นชื่อ ก็เลยถามคนแถวนั้นว่าร้าน "โรงสีกาแฟ" อยู่ตรงไหน เค้าก็บอกเราว่าให้เราเดินย้อนกลับไป ร้านอยู่ในซอยข้างธนาคารไทยพาณิชย์ เราก็เดินย้อนกลับมา ในที่สุดก็เจอซอยแล้ว!! ก็เดินเข้ามาในซอยไม่ลึกมาก
เดินต่อจากรั้วสังกะสีไปนิดเดียว ก็เจอทางเข้าร้านโรงสีกาแฟ แต่!! ร้านเปิด 10.00 น. ถามเพื่อนว่านี่กี่โมงแล้ว เพื่อนบอก 09.30 น. อีกครึ่งชั่วโมงเอาไงดี? เอางี้แล้วกัน ถ่ายรูปตรงนี้ก่อน 5555555
ตัดสินใจเดินเข้าประตูทางเข้าไปร้านโรงสีกาแฟ เผื่อเค้าจะเปิดก่อนเวลา ระหว่างทางเดินไปก็ยังมีอะไรให้ต้องถ่ายอยู่ดี ...
แต่สุดท้ายเราก็ถอดใจ เดินกลับออกมาหาอะไรกินข้างนอกแทน เอาไว้คราวหน้าไม่พลาดแน่ๆ ... เราเดินออกมาที่ถนนใหญ่อีกครั้ง เจอร้านหนึ่งที่ชื่อชวนให้น่าลิ้มลองมากๆ ก็พากันข้ามถนนไปร้านนั้นทันที ร้าน "บะหมี่โบราณศรีสุพรรณ"
นั่งปุ๊ปก็สั่งเลย เราสั่งบะหมี่หมูกรอบแห้ง เพื่อนเราสั่งบะหมี่หมูกรอบน้ำ คือดี คืออร่อย ติดใจหมูกรอบมากกกก ต้องไปลองกันนะ ที่สำคัญไม่แพงเลย ป้าเจ้าของร้านก็ใจดีด้วย
มื้อนี้จ่ายกันคนละ 55 บาท (บะหมี่ 35 + ชาเย็น 20)
กินเสร็จก็ถามคุณป้าว่าหนูจะไปน้ำตกมวกเหล็กหรือน้ำตกเจ็ดสาวน้อยดี คุณป้าทั้งสองท่านบอกไปเจ็ดสาวน้อยเลยลูก น้ำเยอะกว่า ไอ้เราก็โอเคเลย เพราะคุยกับเพื่อนระหว่างกินว่าไปน้ำตกเจ็ดสาวน้อยกันดีไหม สรุปคือไปน้ำตกเจ็ดสาวน้อยไปรอรถเมล์ฝั่งตรงข้าม เราก็ขอบคุณแล้วพากันวิ่งข้ามถนนมารอรถเมล์ รถเมล์มาทุกชั่วโมงค่ะ รถสีส้มเหมือนตอนที่นั่งมาจากสระบุรีเลย
ก็นั่งรอรถกับเพื่อนไปเพลินๆ ดูเวลาแล้วคงได้ขึ้นรอบ 11 โมง เพื่อนก็บ่นว่าตื่นเต้น อินี่ก็สงสัยว่าตื่นเต้นที่จะได้เที่ยวเหรอ มันบอกเปล่าจะกินยาหลังอาหารแต่กลัวเอาออกมากินแล้วรถมาก่อนจะเก็บของไม่ทัน เราเลยบอก โอ๊ย! กินไปเลย อีกนาน พอมันหยิบยามากองไว้เท่านั้นแหละ ไอ้เราก็ตาดีเหลือบไปเห็นรถเมล์สีส้มคันคุ้นตามาไกลๆ "รถมาแล้ว" อิเพื่อนรีบเก็บของ เราวิ่งไปหน้าถนนกวักมือเรียกรถก่อนเ หันไปหาเพื่อนมันกำลังเก็บของลงกระเป๋า อินี่กวักทั้งรถกวักทั้งเพื่อนเลยค่ะ (- -) สรุปรถมาจอดเราก็กระโดดขึ้นนั่งแถวหน้าสุดเลย ตื่นเต้นอย่างที่เพื่อนมันว่าจริงๆ ...
บอกพี่กระเป๋ารถเมล์ว่าไป "เจ็ดสาวน้อย" ค่ารถ 30 บาท นั่งจนสุดสายเลย ลุงคนขับจอดเราก็ลง พี่เค้าบอกว่างั้น 5555555
ระหว่างทางก็ถ่ายรูปไปด้วย เราชอบสีเขียว เรามองไปทางไหนก็เห็นแต่สีเขียวของต้นไม้ อากาศดีมากกกกกกกกก
ประมาณสิบเอ็ดโมงเกือบเที่ยง เราถึง อ.มวกเหล็ก
นั่งต่อไปอีกไม่นานรถเมล์ก็จอดปลายทางที่หน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย รถเมล์ขากลับจะออกทุกชั่วโมง รอบสุดท้ายสี่โมงครึ่งนะคะ
เดินเข้าอุทยานกันดีกว่า ...
เดินกันเข้าไปเรื่อยๆ ยิ่งเดินยิ่งเปลี่ยวแอบกลัวเหมือนกัน 55555555 แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ ไม่สิ! สู้กับกิ้งกือ ที่นี่กิ้งกือตัวใหญ่มากกกกก และเยอะมากกกกก เวลาเดินนี่ต้องมองทางดีๆเลย
14.00 น. เราออกมาขึ้นรถเมล์กลับ ตกลงกับเพื่อนว่าจะนั่งรถไฟขากลับที่สถานีรถไฟมวกเหล็ก เช็คตารางการเดินรถในเว็บแล้ว มีรอบสามโมงกับห้าโมง ก็ออกมาขึ้นรถเมล์ที่หน้าอุทยาน ค่ารถไปลงที่มวกเหล็ก 15 บาท ..
ระหว่างทางไม่ได้ถ่ายรูปเลย เพราะพี่กระเป๋ารถเมล์กับคนขับชวนคุยตลอดทาง คนที่นี่อัธยาศัยดีมาก เราประทับใจจริงๆนะ บางคนหน้าดุแต่กลับเป็นคนที่ชวนเราคุยก่อนด้วยซ้ำ ว่ามาจากไหน มาเที่ยวกันเหรอ เรามักจะได้ยินประโยคนี้บ่อยมากในการเดินทางครั้งนี้ คนสระบุรีน่ารักจริงๆค่ะ ^^ อย่างพี่กระเป๋ารถเมล์นี่คุยเก่งมาก ยังมีการพูดว่ามาเที่ยวกันสองคนไม่สนุกหรอกต้องมากับแฟน ไอ้เราก็ได้แต่หัวเราะ แต่ในใจนี่แบบ ... ถ้าหนูมีก็จะพามันมาด้วยแหละค่ะ แต่ประเด็นคือไม่มีเลยต้องมากับเพื่อนสองคน 5555555555
14.30 น. เราถึงสถานีรถไฟมวกเหล็ก เดินขึ้นบันไดไปซื้อตั๋ว ได้ตั๋วราคา 57 บาท รอบ 14.48 น. ลงสถานีดอนเมืองเช่นเดิม ระหว่างรอรถไฟมาก็ลงมาซื้อน้ำกิน เสียกันคนละ 15 บาท พี่เจ้าของร้านก็ถามอีกว่ามาเที่ยวกันเหรอ เที่ยวไหนมาบ้าง กลับยังไง โอ๊ยยย คนที่นี่อัธยาศัยดีจริงๆบอกแล้ว หมาที่นี่ก็ยังน่ารักและใจดีอีก รักเลยอะ อิอิ
15.00 น. รถไฟก็มาค่ะ หลับถึงดอนเมืองเลย 5555555
สรุปค่าใช้จ่าย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ค่ารถไฟขาไป : ฟรี
ค่ารถเมล์ไปแก่งคอย : 13 บาท
ค่าอาหาร : 55 บาท
ค่ารถเมล์แก่งคอย-เจ็ดสาวน้อย : 30 บาท
ค่ารถเมล์เจ็ดสาวน้อย-มวกเหล็ก : 15 บาท
ค่าน้ำ : 15 บาท
ค่ารถไฟขากลับ : 57 บาท
รวม 185 บาท
จบแล้วค่าา~ ขอบคุณที่อ่านกันมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ // การออกเดินทางหนึ่งครั้งมันได้อะไรกลับมาจริงๆค่ะ ไม่ต้องมีเงินมากมายก็ไปได้ ไม่ต้องกลัวหลงเพราะการหลงทางคือการเดินทางที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ติดตามรูปอื่นๆได้ที่ ig : oumbazo ค่าา ^^
[CR] กำเงิน 200 กระโดดขึ้นรถไฟฟรี ... เที่ยว "สระบุรี" วันเดียวสามอำเภอ
สวัสดีทุกคนค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่ากระทู้นี้เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก หากว่ามีอะไรผิดพลาด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะการว่างงานและความอยากล้วนๆค่ะ ช่วงนี้เป็นช่วงฝึกงาน เราไม่ต้องทำงานทุกวัน ก็เลยคิดว่าอยากเดินทาง ไปไหนสักที่ ที่เป็นธรรมชาติไม่ไกลกรุงเทพฯและที่สำคัญต้องประหยัด!! สระบุรี ที่นี่แหละตอบโจทย์ที่สุดแล้วในตอนนี้ ... รีบไลน์ชวนเพื่อนในกรุ๊ป สรุปตกลงเข้าร่วมอุดมการณ์เดียวกับเรามาหนึ่งคน
นัดแนะกันว่า "วันจันทร์" ที่จะถึงนี้ เจอกันตีห้า ... วางแผนไว้เล็กน้อยว่าจะขึ้นรถไฟฟรีกันรอบนี้ๆ ถึงแล้วจะไปไหนก็แค่นั้น แต่เอาเข้าจริงเราทำผิดแผนตั้งแต่เหยียบแผ่นดินสระบุรี 5555555 ... เราเป็นคนชอบเที่ยว ชอบเดินทางและชอบถ่ายรูปมาก มีกล้องสุดรักอยู่หนึ่งตัว เป็นกล้อง DSLR แต่พอจะไปเที่ยว นึกขึ้นได้ว่าลืมมันไว้ที่บ้าน แล้ววว!!! ไปเที่ยวไม่มีกล้อง แต่ทำไงได้ ... เอาไอโฟนถ่ายก็ได้วะ พอคืนวันอาทิตย์ ไอโฟนลูกรักที่แบตเสื่อมมาได้สักพักเกิดดับไปซะดื้อๆ เปิดไม่ติดเลย เจริญละ กล้องไม่มี โทรศัพท์ไม่มี จะนัดเจอเพื่อนยังไง (- -)
ได้แต่ถอนหายใจ เห้อออ~ ไปค้นนาฬิกาตั้งโต๊ะในกรุสมบัติ เอาถ่านรีโมททีวีมาใส่ให้มันใหม่ หวังว่าจะปลุกเราให้ตื่นในตอนเช้ามืด ผลคือถ่านใช้ได้แต่นาฬิกาตายแล้ว โอ้ไม่! อะไรจะซวยขนาดนั้น หันไปเจอรีโมทแอร์ ก็ปิ๊งไอเดีย ตั้งเวลาปิดมันแล้วกัน ร้อนก็คงตื่นเอง ... เสร็จปุ๊ป กำลังจะนอนละ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น อินี่ก็ตกใจ ใครกัน!? มาเคาะตอนจะเที่ยงคืนแบบนี้ ค่อยๆแง้มประตู พอเห็นหน้าเพื่อนเท่านั้นแหละ น้ำตาจะไหลเหมือนพลัดพรากกันมานาน อิเพื่อนบอกกูติดต่อไม่ได้ เลยมาลากไปนอนด้วย อินี่ก็รีบเก็บผ้าเก็บผ่อนไปนอนกับเค้าอย่างไม่ต้องลังเล // คืนนั้นได้นอนตีสามจ้าาาา กะไปนอนบนรถไฟเอา ...
เกริ่นก่อนเที่ยวมาเยอะ ถึงเวลาเริ่มทริป อ้อ! เพื่อนยืมกล้องพี่สาวมา เป็น Fuji Film X-M1 ซึ่งอินี่ใช้กล้อง mirrorless ไม่เป็น ถนัดแต่ dslr แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรให้บันทึกภาพ ทริปนี้จึงเป็นภาพจากกล้องตัวนี้ทั้งหมดค่ะ
05.30 น. เราถึงสถานีรถไฟดอนเมือง รถไฟฟรีที่เราจะขึ้นคือรอบ 05.53 น. ก็รีบไปเอาตั๋วฟรีกัน บอกพี่เจ้าหน้าที่ว่าไปลง "ชุมทางแก่งคอย" ได้ตั๋วปุ๊ปก็ไปนั่งรอรถไฟกัน ฟ้าก็ค่อยๆสว่างขึ้นเรื่อยๆ ... คนก็เยอะขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน
06.05 น. รถไฟขบวนที่เรารอก็มาถึง พอจอดสนิทเรากับเพื่อนก็กระโดดขึ้นรถไฟฟรีขบวนนี้กันเลย ในตั๋วไม่มีเลขที่นั่งบอก ก็เลยเลือกที่นั่งกันตามอัธยาศัย ไม่นานล้อก็เริ่มหมุนไปตามรางที่ทอดยาว รูประหว่างทางจะไม่เยอะ เพราะเราหลับ 55555555
เราได้นั่งที่นั่งแบบนี้ ไม่นุ่มแต่ก็ไม่ทำให้เมื่อยมาก
ท้องฟ้าเช้านี้ครึ้มมาเลย กะรอพระอาทิตย์ขึ้น แสงเช้าจะได้รูปที่ออกมาสวยๆ กลับไม่มีแสงเลยซะงั้น
จากนั้นก็หลับๆตื่นๆกันทั้งคู่ วิวข้างทางนี่ก็ได้เห็นเป็นพักๆ (- -)
08.10 น. ตื่นอีกทีเมื่อถึงสถานี "สระบุรี" อินี่ก็รีบปลุกเพื่อนเลย ตื่น!! ถึงสระบุรีแล้ว เลยแก่งคอยมาแล้วแน่ๆ (ด้วยความที่เข้าใจว่าแก่งคอยถึงก่อนสระบุรี) จับมือกันวิ่งลงรถไฟที่สถานีสระบุรีทันที!!! ลงมายืนอ่านตั๋วที่กำเอาไว้แน่น สองคนปรึกษากัน เราน่าจะลงสถานีผิดว่ะเพื่อน เคว้งมาก ...
จังหวะนั้นพี่เจ้าหน้าที่ผู้หญิงของสถานีเดินออกมาพอดี ก็เลยถามพี่เค้าว่าพวกหนูลงสถานีผิดใช่มั้ยคะ พี่ตอบมาว่า "ใช่" มองหน้ากับเพื่อนและหัวเราะขื่นๆใส่กัน พี่เจ้าหน้าที่บอกว่าน้องออกจากสถานีแล้วเลี้ยวซ้ายนะคะ เห็นร้านหมออะไรสักอย่างแล้วให้เลี้ยวขวา จากนั้นเดินตรงเข้าไปเรื่อยๆ จะมี บขส. ให้ขึ้นรถเมล์คันสีส้มที่เขียนว่า "สระบุรี-แก่งคอย-มวกเหล็ก" หรือ "สระบุรี-ซับสนุน" หรือ รถเมล์คันสีฟ้า "สระบุรี-อะไรสักอย่าง" ที่ถึงเหมือนกันแต่จะอ้อม เราก็ยกมือไหว้ขอบคุณพี่เค้าไป ไหนๆก็ลงผิดสถานีแล้ว ถือว่าได้เดินเล่นในตัวเมืองสระบุรีแล้วกัน
เราเดินเข้ามาในตลาดตามทางที่พี่เค้าบอกมา คนกำลังพลุกพล่าน เดินไม่ไกลเลยค่ะ
เดินตรงไปเรื่อยๆผ่านตลาดสดตอนเช้า ผ่านตลาดมานิดนึงก็เจอ บขส. แล้วค่ะ ฝั่งซ้ายมือฝั่งเดียวกับตลาดเลย เข้ามาก็เห็นรถเมล์ที่จะพาเราไปแก่งคอย เราก็กระโดดขึ้นรถโลด บอกคุณป้ากระเป๋ารถเมล์ว่าลงที่แก่งคอย จ่ายค่ารถไป 13 บาทขาดตัว!! รถออก 08.30 น.
09.15 น. เราถึง อ.แก่งคอย เดินทางไม่นานมาก นั่งมองวิวเรื่อยๆ อากาศครึ้มๆ มีแดดอ่อนๆ คุณป้ากระเป๋ารถเมล์ถามว่ามาเที่ยวกันเหรอ มาจากไหน เราก็ตอบคุณป้าไป ป้าใจดีมาก ยิ้มแย้มตลอด ลงรถเรากับเพื่อนก็เดินกันไปเรื่อยๆ
ไม่อยากพลาดร้านกาแฟขึ้นชื่อ ก็เลยถามคนแถวนั้นว่าร้าน "โรงสีกาแฟ" อยู่ตรงไหน เค้าก็บอกเราว่าให้เราเดินย้อนกลับไป ร้านอยู่ในซอยข้างธนาคารไทยพาณิชย์ เราก็เดินย้อนกลับมา ในที่สุดก็เจอซอยแล้ว!! ก็เดินเข้ามาในซอยไม่ลึกมาก
เดินต่อจากรั้วสังกะสีไปนิดเดียว ก็เจอทางเข้าร้านโรงสีกาแฟ แต่!! ร้านเปิด 10.00 น. ถามเพื่อนว่านี่กี่โมงแล้ว เพื่อนบอก 09.30 น. อีกครึ่งชั่วโมงเอาไงดี? เอางี้แล้วกัน ถ่ายรูปตรงนี้ก่อน 5555555
ตัดสินใจเดินเข้าประตูทางเข้าไปร้านโรงสีกาแฟ เผื่อเค้าจะเปิดก่อนเวลา ระหว่างทางเดินไปก็ยังมีอะไรให้ต้องถ่ายอยู่ดี ...
แต่สุดท้ายเราก็ถอดใจ เดินกลับออกมาหาอะไรกินข้างนอกแทน เอาไว้คราวหน้าไม่พลาดแน่ๆ ... เราเดินออกมาที่ถนนใหญ่อีกครั้ง เจอร้านหนึ่งที่ชื่อชวนให้น่าลิ้มลองมากๆ ก็พากันข้ามถนนไปร้านนั้นทันที ร้าน "บะหมี่โบราณศรีสุพรรณ"
นั่งปุ๊ปก็สั่งเลย เราสั่งบะหมี่หมูกรอบแห้ง เพื่อนเราสั่งบะหมี่หมูกรอบน้ำ คือดี คืออร่อย ติดใจหมูกรอบมากกกก ต้องไปลองกันนะ ที่สำคัญไม่แพงเลย ป้าเจ้าของร้านก็ใจดีด้วย มื้อนี้จ่ายกันคนละ 55 บาท (บะหมี่ 35 + ชาเย็น 20)
กินเสร็จก็ถามคุณป้าว่าหนูจะไปน้ำตกมวกเหล็กหรือน้ำตกเจ็ดสาวน้อยดี คุณป้าทั้งสองท่านบอกไปเจ็ดสาวน้อยเลยลูก น้ำเยอะกว่า ไอ้เราก็โอเคเลย เพราะคุยกับเพื่อนระหว่างกินว่าไปน้ำตกเจ็ดสาวน้อยกันดีไหม สรุปคือไปน้ำตกเจ็ดสาวน้อยไปรอรถเมล์ฝั่งตรงข้าม เราก็ขอบคุณแล้วพากันวิ่งข้ามถนนมารอรถเมล์ รถเมล์มาทุกชั่วโมงค่ะ รถสีส้มเหมือนตอนที่นั่งมาจากสระบุรีเลย
ก็นั่งรอรถกับเพื่อนไปเพลินๆ ดูเวลาแล้วคงได้ขึ้นรอบ 11 โมง เพื่อนก็บ่นว่าตื่นเต้น อินี่ก็สงสัยว่าตื่นเต้นที่จะได้เที่ยวเหรอ มันบอกเปล่าจะกินยาหลังอาหารแต่กลัวเอาออกมากินแล้วรถมาก่อนจะเก็บของไม่ทัน เราเลยบอก โอ๊ย! กินไปเลย อีกนาน พอมันหยิบยามากองไว้เท่านั้นแหละ ไอ้เราก็ตาดีเหลือบไปเห็นรถเมล์สีส้มคันคุ้นตามาไกลๆ "รถมาแล้ว" อิเพื่อนรีบเก็บของ เราวิ่งไปหน้าถนนกวักมือเรียกรถก่อนเ หันไปหาเพื่อนมันกำลังเก็บของลงกระเป๋า อินี่กวักทั้งรถกวักทั้งเพื่อนเลยค่ะ (- -) สรุปรถมาจอดเราก็กระโดดขึ้นนั่งแถวหน้าสุดเลย ตื่นเต้นอย่างที่เพื่อนมันว่าจริงๆ ...
บอกพี่กระเป๋ารถเมล์ว่าไป "เจ็ดสาวน้อย" ค่ารถ 30 บาท นั่งจนสุดสายเลย ลุงคนขับจอดเราก็ลง พี่เค้าบอกว่างั้น 5555555
ระหว่างทางก็ถ่ายรูปไปด้วย เราชอบสีเขียว เรามองไปทางไหนก็เห็นแต่สีเขียวของต้นไม้ อากาศดีมากกกกกกกกก
ประมาณสิบเอ็ดโมงเกือบเที่ยง เราถึง อ.มวกเหล็ก
นั่งต่อไปอีกไม่นานรถเมล์ก็จอดปลายทางที่หน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย รถเมล์ขากลับจะออกทุกชั่วโมง รอบสุดท้ายสี่โมงครึ่งนะคะ เดินเข้าอุทยานกันดีกว่า ...
เดินกันเข้าไปเรื่อยๆ ยิ่งเดินยิ่งเปลี่ยวแอบกลัวเหมือนกัน 55555555 แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ ไม่สิ! สู้กับกิ้งกือ ที่นี่กิ้งกือตัวใหญ่มากกกกก และเยอะมากกกกก เวลาเดินนี่ต้องมองทางดีๆเลย
14.00 น. เราออกมาขึ้นรถเมล์กลับ ตกลงกับเพื่อนว่าจะนั่งรถไฟขากลับที่สถานีรถไฟมวกเหล็ก เช็คตารางการเดินรถในเว็บแล้ว มีรอบสามโมงกับห้าโมง ก็ออกมาขึ้นรถเมล์ที่หน้าอุทยาน ค่ารถไปลงที่มวกเหล็ก 15 บาท ..
ระหว่างทางไม่ได้ถ่ายรูปเลย เพราะพี่กระเป๋ารถเมล์กับคนขับชวนคุยตลอดทาง คนที่นี่อัธยาศัยดีมาก เราประทับใจจริงๆนะ บางคนหน้าดุแต่กลับเป็นคนที่ชวนเราคุยก่อนด้วยซ้ำ ว่ามาจากไหน มาเที่ยวกันเหรอ เรามักจะได้ยินประโยคนี้บ่อยมากในการเดินทางครั้งนี้ คนสระบุรีน่ารักจริงๆค่ะ ^^ อย่างพี่กระเป๋ารถเมล์นี่คุยเก่งมาก ยังมีการพูดว่ามาเที่ยวกันสองคนไม่สนุกหรอกต้องมากับแฟน ไอ้เราก็ได้แต่หัวเราะ แต่ในใจนี่แบบ ... ถ้าหนูมีก็จะพามันมาด้วยแหละค่ะ แต่ประเด็นคือไม่มีเลยต้องมากับเพื่อนสองคน 5555555555
14.30 น. เราถึงสถานีรถไฟมวกเหล็ก เดินขึ้นบันไดไปซื้อตั๋ว ได้ตั๋วราคา 57 บาท รอบ 14.48 น. ลงสถานีดอนเมืองเช่นเดิม ระหว่างรอรถไฟมาก็ลงมาซื้อน้ำกิน เสียกันคนละ 15 บาท พี่เจ้าของร้านก็ถามอีกว่ามาเที่ยวกันเหรอ เที่ยวไหนมาบ้าง กลับยังไง โอ๊ยยย คนที่นี่อัธยาศัยดีจริงๆบอกแล้ว หมาที่นี่ก็ยังน่ารักและใจดีอีก รักเลยอะ อิอิ
15.00 น. รถไฟก็มาค่ะ หลับถึงดอนเมืองเลย 5555555
จบแล้วค่าา~ ขอบคุณที่อ่านกันมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ // การออกเดินทางหนึ่งครั้งมันได้อะไรกลับมาจริงๆค่ะ ไม่ต้องมีเงินมากมายก็ไปได้ ไม่ต้องกลัวหลงเพราะการหลงทางคือการเดินทางที่สมบูรณ์แบบที่สุด ติดตามรูปอื่นๆได้ที่ ig : oumbazo ค่าา ^^