+++ " CUTLOSS นั้นสำคัญไฉน..." +++
Trading Like A PILOT
ถ้ามีคนมาถามผมว่า สิ่งที่ควรฝึกอย่างแรกการเทรดหุ้น คือ อะไร ผมตอบได้อย่างมั่นใจนะคับ ว่า คือ การ CUTLOSS (มันคือส่วนหนึ่งของการควบคุมความเสี่ยงนะคับ - Risk Control)
ถามต่อ ทำไมเราต้องคัทลอสล่ะ เพราะ บางตำราบอกให้คัท บางตำราบอกให้ถือตลอดชีวิต ขอสรุปให้ฟังแบบง่ายๆนะคับ
1.คนที่ลงทุน สไตล์ VI ซื้อราคาต่ำกว่าพื้นฐาน รอเวลาสะท้อนพื้นฐานที่แท้จริง เขาจะทำการบ้าน เรื่อง Fundamental ของหุ้นตัวนั้นมาเป็นอย่างดีแล้วครับเป็น filter ที่ 1 อันนี้ ถึงราคาจะลง แต่ถ้าพื้นฐานไม่เปลี่ยนเราก็ไม่ต้องคัท เพราะเดี่ยวราคาก็สะท้อนพื้นฐานให้วิ่งกลับมาเองครับ ตัวอย่างของคุณลุงบัฟเฟต์ที่ คัทลอสหุ้น Tesco lotus ไปเมื่อเร็วๆนี้นะคับ
"ในรายงานการถือหุ้น Tesco ของ Warren Buffett เมื่อสิ้นปี 2013 ระบุว่า Buffett มีหุ้นอยู่ 3.7% และคิดเป็นมูลค่าขณะนั้นราว 1,670 ล้านดอลลาร์ แต่จากการเปิดเผยล่าสุดของ Tesco เกี่ยวกับปัญหาการลงบัญชีที่ผิดพลาดจนบริษัทเสียหาย ก็ทำให้ Buffett ถึงกับเผยว่าการลงทุนใน Tesco เป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของเขา" อันนี้คุณลุงบัพเฟต คัททิ้งเพราะ พื้นฐานมันเปลี่ยนคับ
ข้อดี นิ่งคับ เพราะทำการบ้านมาดีแล้ว ราคาสวิ่งยังไงไม่หวั่น พื้นฐานไม่เปลี่ยนไม่คัท
ข้อเสีย คือ ถ้าพื้นฐาน มันเปลี่ยนขึ้นมาตอนราคาร่วงมามากๆ เช่น -40% นี่ดอยสูงลิบเลยคับ เรียกว่า โดดจากยอดเขาเอเวอเรสเลย
2.คนที่ลงทุนแนวเเก็งกำไร เรียกกันว่า Speculator ถ้าพูดว่าเก็งกำไรก็ไม่ได้หมายความว่า จะซื้อถูกไปขายแพงก็ได้นะคับ ซื้อแพงขายแพงกว่า ก็คือเก็งกำไร คล้ายๆการที่เราซื้อที่ดิน ใบจองคอนโด นี่ละครับ ถ้าเราไม่ได้อยู่เอง ก่อนซื้อก็ต้องคิดแล้วว่าจะขายต่อใคร ได้ราคากำไรเท่าไร สำคัญที่สุดคือ ต้องขายได้แพงกว่าที่เราซื้อมา (คือ ถ้าซื้อมาขายได้ถูกกว่าเดิมนี่ก็เอาเงินใส่ตุ่มฝังไว้หลังบ้านดีกว่า ถูกไหมครับ) อันนี้หลายๆท่าน 80% ก็จะใช้กราฟ Technical เป็นหลัก บวกทำการบ้าน พื้นฐานมาสักหน่อย คือเลือกหุ้นพื้นฐานดีมา ประเด็นอยู่ที่ว่า กราฟมันอิงจากราคาปิดในแต่ละวันเป้นหลัก หรือ ใครเทรด Tfex Gold Future จะใช้ราย ชม. หรือ 10 นาทีก็แล้วแต่นะครับ ฉะนั้นเวลามันลง บางทีเราก็ไม่รู้หรอกคับว่ามันจะลงมาตรงไหน และเนื่องจากการที่เราเข้าด้วยกราฟราคาเป็นหลัก เวลาตัดสินใจจะหนี ก็ควนหนีด้วยกราฟราคาเช่นเดียวกัน การเทรดเก็งกำไร มันคือ การเอาเงินต่อเงิน ถ้าติดดอยจนเงินหมด จะเอาเงินที่ไหนมาต่อให้งอกเงยละจริงไหมครับ
การคัทลอสที่ราคาติดลบเท่าไรก็แล้วแต่คนนะคับ ผมเองใช้ 10% ขายทิ้งทุกกรณี เหตุผลคือ เวลาติดลบยิ่งมาเท่าไร(drawdown) เวลากู้คืนจะยิ่งต้องทำมากขึ้นเท่านั้น(recovery)
ผมลองทำให้ดูนะคับ
เงิน 100 ลบ 10% เหลือ 90 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 11.1%
เงิน 100 ลบ 20% เหลือ 80 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 25%
เงิน 100 ลบ 25% เหลือ 75 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 33%
เงิน 100 ลบ 33% เหลือ 66 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 50%
เงิน 100 ลบ 50% เหลือ 50 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 100%
ถ้าผ่านลบ 50 ไปล่ะ !!!??
เงิน 100 ลบ 75% เหลือ 25 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 300%
เงิน 100 ลบ 80% เหลือ 20 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 400%
เงิน 100 ลบ 90% เหลือ 10 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 900%
เห็นไหมคับว่า หนาวจัดดอยสูงลิบเลย... ลบ10% ทำคืน 11.1% ละคับเหมาะกับผมแล้ว ส่วนใครจะตั้งสูงหรือต่ำกว่านี้ไม่ว่ากันคับ
(เอามาแชร์ให้อ่านเป็นไอเดียวันหุ้นตกละกันนะครับ)
TON
21 กค 58
รูปด้านบน Cr.Page รูปคอมมเม้นต์ ผมนี้ นะคับ
+++ CUTLOSS นั้นสำคัญไฉน ....(ในวันหุ้นตก).... +++ มือใหม่หัดเล่าครับ
+++ " CUTLOSS นั้นสำคัญไฉน..." +++
Trading Like A PILOT
ถ้ามีคนมาถามผมว่า สิ่งที่ควรฝึกอย่างแรกการเทรดหุ้น คือ อะไร ผมตอบได้อย่างมั่นใจนะคับ ว่า คือ การ CUTLOSS (มันคือส่วนหนึ่งของการควบคุมความเสี่ยงนะคับ - Risk Control)
ถามต่อ ทำไมเราต้องคัทลอสล่ะ เพราะ บางตำราบอกให้คัท บางตำราบอกให้ถือตลอดชีวิต ขอสรุปให้ฟังแบบง่ายๆนะคับ
1.คนที่ลงทุน สไตล์ VI ซื้อราคาต่ำกว่าพื้นฐาน รอเวลาสะท้อนพื้นฐานที่แท้จริง เขาจะทำการบ้าน เรื่อง Fundamental ของหุ้นตัวนั้นมาเป็นอย่างดีแล้วครับเป็น filter ที่ 1 อันนี้ ถึงราคาจะลง แต่ถ้าพื้นฐานไม่เปลี่ยนเราก็ไม่ต้องคัท เพราะเดี่ยวราคาก็สะท้อนพื้นฐานให้วิ่งกลับมาเองครับ ตัวอย่างของคุณลุงบัฟเฟต์ที่ คัทลอสหุ้น Tesco lotus ไปเมื่อเร็วๆนี้นะคับ
"ในรายงานการถือหุ้น Tesco ของ Warren Buffett เมื่อสิ้นปี 2013 ระบุว่า Buffett มีหุ้นอยู่ 3.7% และคิดเป็นมูลค่าขณะนั้นราว 1,670 ล้านดอลลาร์ แต่จากการเปิดเผยล่าสุดของ Tesco เกี่ยวกับปัญหาการลงบัญชีที่ผิดพลาดจนบริษัทเสียหาย ก็ทำให้ Buffett ถึงกับเผยว่าการลงทุนใน Tesco เป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของเขา" อันนี้คุณลุงบัพเฟต คัททิ้งเพราะ พื้นฐานมันเปลี่ยนคับ
ข้อดี นิ่งคับ เพราะทำการบ้านมาดีแล้ว ราคาสวิ่งยังไงไม่หวั่น พื้นฐานไม่เปลี่ยนไม่คัท
ข้อเสีย คือ ถ้าพื้นฐาน มันเปลี่ยนขึ้นมาตอนราคาร่วงมามากๆ เช่น -40% นี่ดอยสูงลิบเลยคับ เรียกว่า โดดจากยอดเขาเอเวอเรสเลย
2.คนที่ลงทุนแนวเเก็งกำไร เรียกกันว่า Speculator ถ้าพูดว่าเก็งกำไรก็ไม่ได้หมายความว่า จะซื้อถูกไปขายแพงก็ได้นะคับ ซื้อแพงขายแพงกว่า ก็คือเก็งกำไร คล้ายๆการที่เราซื้อที่ดิน ใบจองคอนโด นี่ละครับ ถ้าเราไม่ได้อยู่เอง ก่อนซื้อก็ต้องคิดแล้วว่าจะขายต่อใคร ได้ราคากำไรเท่าไร สำคัญที่สุดคือ ต้องขายได้แพงกว่าที่เราซื้อมา (คือ ถ้าซื้อมาขายได้ถูกกว่าเดิมนี่ก็เอาเงินใส่ตุ่มฝังไว้หลังบ้านดีกว่า ถูกไหมครับ) อันนี้หลายๆท่าน 80% ก็จะใช้กราฟ Technical เป็นหลัก บวกทำการบ้าน พื้นฐานมาสักหน่อย คือเลือกหุ้นพื้นฐานดีมา ประเด็นอยู่ที่ว่า กราฟมันอิงจากราคาปิดในแต่ละวันเป้นหลัก หรือ ใครเทรด Tfex Gold Future จะใช้ราย ชม. หรือ 10 นาทีก็แล้วแต่นะครับ ฉะนั้นเวลามันลง บางทีเราก็ไม่รู้หรอกคับว่ามันจะลงมาตรงไหน และเนื่องจากการที่เราเข้าด้วยกราฟราคาเป็นหลัก เวลาตัดสินใจจะหนี ก็ควนหนีด้วยกราฟราคาเช่นเดียวกัน การเทรดเก็งกำไร มันคือ การเอาเงินต่อเงิน ถ้าติดดอยจนเงินหมด จะเอาเงินที่ไหนมาต่อให้งอกเงยละจริงไหมครับ
การคัทลอสที่ราคาติดลบเท่าไรก็แล้วแต่คนนะคับ ผมเองใช้ 10% ขายทิ้งทุกกรณี เหตุผลคือ เวลาติดลบยิ่งมาเท่าไร(drawdown) เวลากู้คืนจะยิ่งต้องทำมากขึ้นเท่านั้น(recovery)
ผมลองทำให้ดูนะคับ
เงิน 100 ลบ 10% เหลือ 90 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 11.1%
เงิน 100 ลบ 20% เหลือ 80 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 25%
เงิน 100 ลบ 25% เหลือ 75 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 33%
เงิน 100 ลบ 33% เหลือ 66 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 50%
เงิน 100 ลบ 50% เหลือ 50 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 100%
ถ้าผ่านลบ 50 ไปล่ะ !!!??
เงิน 100 ลบ 75% เหลือ 25 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 300%
เงิน 100 ลบ 80% เหลือ 20 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 400%
เงิน 100 ลบ 90% เหลือ 10 เวลาทำคืนให้ได้ 100 ต้องทำ 900%
เห็นไหมคับว่า หนาวจัดดอยสูงลิบเลย... ลบ10% ทำคืน 11.1% ละคับเหมาะกับผมแล้ว ส่วนใครจะตั้งสูงหรือต่ำกว่านี้ไม่ว่ากันคับ
(เอามาแชร์ให้อ่านเป็นไอเดียวันหุ้นตกละกันนะครับ)
TON
21 กค 58
รูปด้านบน Cr.Page รูปคอมมเม้นต์ ผมนี้ นะคับ