สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอบอกว่านี่เป็นเรื่องราวเราที่แบ่งปันที่นี่เป็นครั้งแรกค่ะ คำว่าเซราะกราวในที่นี้เจตนาของเราไม่ได้หมายถึงสิ่งไม่ดีนะคะ
เราคิดว่ามันเป็นคำที่น่ารักคำหนึ่งและได้ยินมาว่าที่นี่มีถนนนคนเดินเซราะกราว เราจึงหยิบยกมาใช้ค่ะ
ในกระทู้จะมีภาษาอีสานปนด้วยนิดหน่อยนะคะ ที่ใช้เพราะมันเข้าถึงอารมณ์ของเราตอนนั้นจริงๆค่ะ
ผิดพลาดตรงไหนขออภัยและน้อมรับทุกคำติชมค่ะ ^^ เริ่มเรื่องคือ เรามีโอกาสไปธุระที่จังหวัดร้อยเอ็ดทริปนี้จึงเกิดขึ้นค่ะ
ทริปนี้ประมาณว่าตื่นขึ้นแล้วนึกอยากไป อยากไปไสล่ะ...เขากระโดง อะนะ ข้อมูลที่มีเขากระโดงอยู่บุรีรัมย์ ห่างจากตัวเมือง ๖ กิโล (พ่วนข้อมูลแน่นบักคัก) แฮ่ๆ เยอะจริง คิดได้แบบนั้นจะรออะไรล่ะคะ หยิบเสื้อผ้า ๑ ชุด กับกล้อง ๑ ตัว ใส่เป้ ขาดไม่ได้เลยปัจจัย ๓๐๐๐ และบัตรประชาชนไว้ยื่นยันสถานะคนไทย อิอิ หน้าตาต่างชาติมาก (ชาติไหน คิดเอาเองเด้อค่ะ)
เตรียมทุกอย่างเสร็จบอก อิแม่ (ภาษาอิสานคำนี้ไม่หยาบนะคะ) “แม่เดี๋ยวไปบุรีรัมย์เด้อ” อิแม่มองหน้ามหากาพย์ความห่วงใยออกมาเป็นชุด ไอ้เราก็อยากจะไปให้ได้ ต้องหาแนวร่วมเดะใช่ม่า เวลา ณ ตอนนั้นประมาณ ๘ โมงนิดๆ ไปถึงบ้านเพื่อนรุ่นพี่ คนที่บ้านบอกยังไม่ตื่น ไอ้เราก็บอกไปปลุก รอห้านาทีคุณเธองัวเงียออกมา “ปะไปบุรีรัมย์” “อืม เดี๋ยวอาบน้ำก่อน” เอิ่มคือตกลงแบบไม่คิดอะใจง่ายได้ใจจริงๆ อิอิ ช้อบชอบ
เก้าโมงผ่านไปพร้อมออกเดินทาง ลืมบอกไปที่บ้านเราชนบทมากมาย ให้น้องขี่แมงไซด์มาส่งที่ถนนใหญ่ประมาณ ๕-๖ กิโล รอรถหวานเย็นซึ่งหวานเย็นมากๆ เข้าจังหวัดระยาทาง ๓๘กิโล กินลมจนท้องป่องกว่าจะถึง เมื่อถึงนั่งรอรถไปบุรีรัมย์อีก รถออกเที่ยงครึ่ง ค่ารถ ๑๑๐ บาท เป็นรถ ป.๒ แอร์นี่คงมีไว้หนักรถ หุหุ ไม่ได้ทำให้เกิดความเย็นเลยค่ะ (งึดหลายฮ้อนโพดฮ้อนโพ) ระหว่างทางคำว่าเขาพนมรุ้งเข้ามาในมโน.....
[CR] ฉันหลงเสน่ห์เมืองเซราะกราว
เราคิดว่ามันเป็นคำที่น่ารักคำหนึ่งและได้ยินมาว่าที่นี่มีถนนนคนเดินเซราะกราว เราจึงหยิบยกมาใช้ค่ะ
ในกระทู้จะมีภาษาอีสานปนด้วยนิดหน่อยนะคะ ที่ใช้เพราะมันเข้าถึงอารมณ์ของเราตอนนั้นจริงๆค่ะ
ผิดพลาดตรงไหนขออภัยและน้อมรับทุกคำติชมค่ะ ^^ เริ่มเรื่องคือ เรามีโอกาสไปธุระที่จังหวัดร้อยเอ็ดทริปนี้จึงเกิดขึ้นค่ะ
ทริปนี้ประมาณว่าตื่นขึ้นแล้วนึกอยากไป อยากไปไสล่ะ...เขากระโดง อะนะ ข้อมูลที่มีเขากระโดงอยู่บุรีรัมย์ ห่างจากตัวเมือง ๖ กิโล (พ่วนข้อมูลแน่นบักคัก) แฮ่ๆ เยอะจริง คิดได้แบบนั้นจะรออะไรล่ะคะ หยิบเสื้อผ้า ๑ ชุด กับกล้อง ๑ ตัว ใส่เป้ ขาดไม่ได้เลยปัจจัย ๓๐๐๐ และบัตรประชาชนไว้ยื่นยันสถานะคนไทย อิอิ หน้าตาต่างชาติมาก (ชาติไหน คิดเอาเองเด้อค่ะ)
เตรียมทุกอย่างเสร็จบอก อิแม่ (ภาษาอิสานคำนี้ไม่หยาบนะคะ) “แม่เดี๋ยวไปบุรีรัมย์เด้อ” อิแม่มองหน้ามหากาพย์ความห่วงใยออกมาเป็นชุด ไอ้เราก็อยากจะไปให้ได้ ต้องหาแนวร่วมเดะใช่ม่า เวลา ณ ตอนนั้นประมาณ ๘ โมงนิดๆ ไปถึงบ้านเพื่อนรุ่นพี่ คนที่บ้านบอกยังไม่ตื่น ไอ้เราก็บอกไปปลุก รอห้านาทีคุณเธองัวเงียออกมา “ปะไปบุรีรัมย์” “อืม เดี๋ยวอาบน้ำก่อน” เอิ่มคือตกลงแบบไม่คิดอะใจง่ายได้ใจจริงๆ อิอิ ช้อบชอบ
เก้าโมงผ่านไปพร้อมออกเดินทาง ลืมบอกไปที่บ้านเราชนบทมากมาย ให้น้องขี่แมงไซด์มาส่งที่ถนนใหญ่ประมาณ ๕-๖ กิโล รอรถหวานเย็นซึ่งหวานเย็นมากๆ เข้าจังหวัดระยาทาง ๓๘กิโล กินลมจนท้องป่องกว่าจะถึง เมื่อถึงนั่งรอรถไปบุรีรัมย์อีก รถออกเที่ยงครึ่ง ค่ารถ ๑๑๐ บาท เป็นรถ ป.๒ แอร์นี่คงมีไว้หนักรถ หุหุ ไม่ได้ทำให้เกิดความเย็นเลยค่ะ (งึดหลายฮ้อนโพดฮ้อนโพ) ระหว่างทางคำว่าเขาพนมรุ้งเข้ามาในมโน.....