[CR] " สังขละบุรี " กับชีวิตที่ Slow จนแทบ Stop

" สั ง ข ล ะ บุ รี "

“ เมืองสามหมอก ดินแดนสามวัฒนธรรม ”

" R u n a w a y "




สวัสดีครับ ^ ^

รู้สึกเขินๆยังไงไม่รู้ 5555 เพิ่งเคยใช้เวปพันทิพครั้งแรก ใจจริงอยากจะมาเล่าประสบการณ์(เหมือนบ่นมากกว่า)ในการท่องเที่ยวให้ฟังแต่ไม่รู้จะไปที่ไหนเลยมาสมัครพันทิพเนี่ยแหละครับ  ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ^ ^

เรื่องมีอยู่ว่า ผมเห็นเพื่อโพสรูปที่ตังเองไปเที่ยวที่สังขละบุรี บางคนนี้มาเป็นรีวิวเลย "ชั้นไปมาแล้วสวยจริงอะแกร"
จริงหรอแกรรร สำเนียงอย่างจีบปากจีบคอ ด้วยความที่รีวิวกันขนาดนี้คนที่ชอบเที่ยวอย่างผมจะพลาดได้ไง ผมเลยไปนั่งคุยกับพี่ที่รู้จักให้เขาแนะนำว่า

"พี่ผมอยากไปสังขละบุรี"
"เอ็งก็ไปดิ ไปง่ายชิป"
"ผมไม่กล้าไปคนเดียวพี่"
"ไม่กล้าไปคนเดียว เอ็งไปกระโดดน้ำป่ะ"
"แต่พี่ ผมว่ายน้ำไม่เป็น"
"ก็นั้นแหละ"



มันไม่ง่ายเลยที่เราจะไปไหนมาไหนคนเดียว ผมเคยนั่งรถไฟไปเชียงใหม่คนเดียวก็จริงแต่ก็มีพี่อีกคนคอยรอรับอยู่ผมที่นู้น
มันไม่เหมือนกันงานนี้ผมต้องวางแผลน ศึกกษาเส้นทางการเดินรถด้วยตัวเองเผื่อผมเสร่อตกรถจะได้มีทางรอดทางอื่นคอย
ดูสภาพอากาศฝนตกหนักมั้ยกลัวไม่ได้ถ่ายรูป และยิ่งเพิ่งเกิดแผ่นดินไหวด้วยยิ่งต้องระวังตัวผมคิดอยู่เยอะมากเยอะจน

ไม่ไปยิ้มละ เอ้า -*-


" สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการเดินทาง คือ ไป กับ ไม่ไป "

มันเป็นประโยคที่ผมใช้ปลุกใจตัวเองอยู่บ่อยๆ เวลาเราเริ่มรู้สึกว่าการเดินทางทริปนี้เริ่มเป็นไปไม่ได้ โดยผมตัดทุกปัจจัยทิ้งและถาม
ตัวเองจริงๆว่าอยากไปมั้ย ถ้าไป ไปจัดกระเป๋าแล้วเตรียมตัวออก อย่ากลัวถ้าวันนั้นเมิงจะต้องนอนข้างถนนก็นอน แต่เมิง
ต้องไปให้ถึง ผมคิดไตร่ตรองพลางนั่งดูรีวิวสังขละบุรีเพื่อบิ้วอารมณ์ จนเดินไปหยิบกระเป๋ายัดเสื้อผ้าของที่จำเป็นต้องใช้
ที่พ้งที่พักไม่มีจองไว้ไปถึงค่อยว่ากัน ผมก้าวเดินออกมาจากห้องอย่างคนที่ไม่มีความลังเลในหัวอีก
แล้วค่อยๆคลานต่ำเข้าไปขอแม่เที่ยวด้วยวิธีการโผ

"เมิงเที่ยวอีกแล้วนะ" เป็นประโยคที่ฟังแล้วชื่นใจจจจจ



ผมออกเดินทางไปขึ้นรถตู้ที่อนุเสาวรีตอน 9 โมง งานนี้ผมมีเพื่อนร่วมทางเป็นน้องสมัยมัธยมน้องเขาจะลงที่มหิดลเลยจะขอ
ร่วมทางไปด้วย วินรถตู้ กรุงเทพ-กาญจนบุรี จะอยู่ตรงป้ายรถเฝั่งโรงพยาบาลราชวิถีจะมีพี่หน้าตาหล่อๆ(เผื่อได้ส่วนลด)นั่งอยู่
เราใช้เวลา 3 ชั่วโมง กว่าจะเดินทางถึงบขส.กาญจนบุรีก็ปาเข้าไป 11.00น. พอดี



ขณะที่ผมนั่งอึนๆกำลังจะก้าวลงจากรถตู้ก็มีลุงชุดดำเดินมาถาม
" น้องไปไหน! "
" ห๊ะ...  ไปสังขละครับ "  ผมรีบรวบรวมสติและตอบไป
" น้องรีบไปที่รถเมล์สีแดงคันนั้นเลย รถจะออกละ "
ผมรีบวิ่งไปที่รถ พอขึ้นไปก็เห็นคนเยอะอยู่พอสมควร เรา2พี่น้องสอดสายสายตามองหาที่นั่งอย่างนักล่าผู้ชำนาญ และเมื่อลงหลักปักฐาน
แล้วต่อให้คนขาขาด 2 ข้างเดินขึ้นมาพวกเราจะไม่ยอมลุก (ล้อเล่นนะครับแหม่ถ้าขาดมาขนาดนั้น ต่อให้นั่งในผมก็ลุ๊กกกก)
และลุงคนเดิมก็เดินขึ้นมาหน้านิ่งๆและพูดว่า
" รถจะออก 11.20น. นะครับอีก 20 นาที " แล้วก็เดินลงไป....
และลุงจะให้ผมรีบขึ้นทำไมวะครับ !!





สังขละบุรี เป็นอำเภอที่ติดต่อกับชายแดนพม่า ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี ประมาณ 215 กิโลเมตร มีแม่น้ำซองกาเลียไหลตัดผ่านกลาง
อำเภอ และด้วยความที่มันห่างจากตัวเมืองกาญ 215 กิโลเมตรซึ้งไกลมว๊ากกกก ทำให้ต้องใช้เวลาเดินทางถึง 4 ชม. นั่งกันร่างแตกละทีนี้
ไอ้ชั่วโมงแรกก็สุขสันต์ดีนะ ตื่นตาตื่นใจมากประดั่งบ้านนอกเข้ากรุง หยิบกล้องมาถ่ายไม่หยุดเลย พอเข้าชั่วโมงที่สองถึงม.มหิดลที่นี้เริ่ม
เหงาละเพราะน้องผมลงไม่มีเพื่อนคุย พอเข้าชั่วโมงที่สามร่างก็อืดเต็มที่เลย พยายามนอนก็นอนไม่หลับ นั่งมองออกไปนอนกระจกแบบ
ไม่มีจุดหมายไม่เห็นวี่แววของสังขละบุรีเลย ไม่ซิ.. เงาทองผาภูมิกุยังไม่เห็นเลยตอนนี้!!



ผ่านไปอีกครึ่งชัวโมงกับการนั่งสติหลุดอยู่บนเบาะ 3 ที่นั่ง รถก็เลี้ยวเข้าทองผาภูมิ ในตอนขึ้นมาแรกๆผมสังเกตเห็นกลุ่มวัยรุ่นหลายกลุ่มมาก
และดูท่าทางน่าจะไปเที่ยวสังขละเหมือนกัน ผมคิดในใจว่า เฮ้ยก็ไม่เลวนะเดี๋ยวเราไปจับกลุ่มกับเขาตอนลงรถ เราน่าจะได้เพื่อนเพิ่มอีก
เฟรนด์ชิพอิสเมจิค!! มั้ยละเมิง!! 55555555

แต่พอผมเผลอหลับไปในชั่วโมงที่สองตื่นขึ้นมา เหลือ 9 คน และพอมาถึงทองผาภูมิเหลือ " กุคนเดียว -*- "

แต่ผมเฉยๆนะ(keep lookอยู่)ยังไงปลายทางเราก็สังขละ และจะมีเพื่อนไม่มีเพื่อนเราก็ไม่ได้ต้องการขนาดนั้น ใจเราอยากมาเที่ยวคนเดียวอยู่แล้วนิคิดไรมากแต่แล้วเรื่องเซอร์ไพรส์มันก็ตามมาทัน ผมสังเกตเห็นลุงมองหน้าอยู่ 2 - 3 ครั้ง ครั้งแรกก็ไม่อะไร คนจะนับคนอะแหละ ลุงแกก็มองผมรอบสอง
ผมก็ยิ้มให้ปรกติ คงนับเพื่อความชัว พอมองครั้งที่สาม เดี๋ยวๆแปลกๆละ พอครั้งที่สี่ลุงแกเดินมาเลย
" หนุ่มไปไหน "
" ไปสังขละครับ "
" ลงตรงนี้ได้มั้ย "
" ห๊ะ " เฮ้ยลงอะไรลงไปไหน
" รถจะออกอีกที 4 โมงนู้น ลุงกลัวเราจะถึงมืด "
" แล้วทำไมลุงออก 4 โมงอะครับ "
" ลุงต้องรอเด็กนักเรียนเลิก 4 โมงนู้นแหนะ เดี๋ยวลุงให้รถไปจอดที่วินรถตู้ "
" ครับๆ "
" ไม่รู้จะยังเหลือรึป่าวนะ "
ลุงแกจบประโยคสนทนาได้โคตรสะเทือนใจผมเลย T T
ลุงให้เงินคืนผมมา 50 บาทผมรับเงินแล้วรีบลงจากรถ วิ่งตาเหลือกข้ามฝั่งไปที่วินรถตู้ ในใจก็อธิฐานขอให้ยังมีรถเหลืออยู่
พอถึงหน้าเค้าเตอร์ผมรีบถามว่ายังมีรถไปสังขระอยู่มั้ยครับ พี่ผู้หญิงก็เปิดสมุดบันทึกอย่างสุขุม สมุดบนโต๊ะเล่มนั้นน่าจะเป็น
ตารางเวลารถตู้ในในวันนั้นๆ พี่แกเปิดสมุดไปๆมาๆหันมามองหน้าผมแล้วก็พูดว่า

" เมื่อกี้ว่าไงนะคะ ? " เอ๊า -*- ยังมีรถไปสังขละยังมีเหลืออยู่มั้ยครับ
" ยังมีอยู่คะเดี๋ยวรอเรียกซื้อตั๋วนะคะ " ผมนี้โล่งเลย เฮ้ยยยย...
ตอนที่ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่วินรถตู้ผมได้มีเวลามานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย แต่แล้วอยู่ดีๆก็มีเนื้อเพลงท่อนนึงนึงดังขึ้นมาให้หัวผม

" ทำ ถูก แล้ววว ที่เธอเลือกเขาและทิ้งฉันไว้ตรงกลางทาง "

อืม






เดี๋ยวกลับมาจากต่างจังหวัfแล้วจะมาเขียนต่อนะครับ แหะ ๆ ^ ^
ชื่อสินค้า:   สังขละบุรี, กาญจนบุรี สะพานมอญ ท่องเที่ยว การเดินทาง ภาพถ่าย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่