ขับรถเร็วถึงไวจริงๆเหรอ?
หากใครบังเอิญผ่านเข้ามาเห็นก็คงจะถามว่า "เองอายุกี่ขวบฟร๊ะ" ใช่ครับ มันเป็นเรื่องที่เด็กอนุบาลยังรู้ ว่าด้วยทฤษฏีที่ว่า บิด80ย่อมเร็วกว่า60 เหยียบ140ย่อมเร็วกว่า120 แต่ขับ120แล้วแช่ขวา(เดี๋ยวๆๆ55) ซึ่งความเร็วแปรผันตรงกับระยะทาง สรุปคือยิ่งขับเร็วก็ย่อมถึงไวเป็นจริงแน่แท้เลยทีเดียวเชียว แต่!!! ในโลกแห่งความเป็นจริงซึ่งมีปัจจัยหลากหลายบนท้องถนนที่เราเดินทางสันจรกัน ทฤษฏีนี้จะถูกเสมอไปไหม? ลองมาคิดเล่นๆนะครับ ถ้าเรามีธุระรีบมากๆ(ประมาณว่าแฟนบอกว่ากำลังจะมาบ้านตอนเราหนีเที่ยวอ่ะครับ) เราก็ต้องขับกลับด้วยความเร็วที่เยอะอยู่แล้ว (ก็ดันโกหกว่าสวดมนต์อยู่กำลังจะนอนแล้วนี่น่า55) คือยังไงเราก็เร่งเท่าที่เราจะทำได้อยู่แล้ว พยายามต้องไปให้ทัน ถึงขั้นต้องขอคันอื่นๆแทรกเข้าข้างหน้าระยะประชันชิดจนได้ตั๋วขึ้นไปชมวิวบนเกาะสวรรค์แดนกลางถนน(เดี๋ยวๆๆๆ) มาคิดดูว่าถ้าดันไปเกิดอุบัติเหตุอย่างเช่น หนอนเดินตัดหน้ารถกระทันหันจนต้องหักหลบไปชนต้นมะเขือข้างทางเข้า รถพังเสียหายเราจะเสียเวลาเพิ่มอีกเท่าไรกันครับ? จากแค่อาจจะไปช้า แต่กลับกลายเป็นว่าไม่ได้ไป ต้องเอารถไปซ่อม คิดดูถ้าถึงร้ายแรงกรณีถึงแก่ชีวิตอาจจะไม่ได้ไปไหนอีกเลยด้วยซ้ำ (ปักหมุด ณ จุดๆนี้เลยนะฮ้าาา)
ไม่ว่าเราจะขับเก่งแค่ไหน ก็ไม่มีหลักประกันว่ารถคันอื่นจะไม่มาสอยรถเรา เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะมีคันไหนขับมาปาดแล้วชักปืน(เดี๋ยวๆๆๆ) มันก็พูดยากนะครัชเรื่องแบบนี้ ใจเขาใจเรา เชื่อว่าทุกคนต้องมีประสบการณ์รีบสุดๆของตัวเอง(ใครยังไม่มีขอให้เจอขอให้โดนกันถ้วนหน้า) จนบางครั้งเราต้องฝืนคุณธรรมในตัว ทำบางสิ่งบางอย่างที่เราเคยด่าคันอื่นๆเอาไว้
สุดท้ายอยากฝากนิทานไว้สักเรื่อง (เองเป็นเด็กอนุบาลแน่ๆ55) มี ผช เป็นกับ ผญ ทั้งคู่รักกันมาก มีอยู่วันนึง ผช นัด ผญ ไปกินข้าวร้านอย่างหรูเลย กะว่าจะขอ ผญ แต่งงาน แต่ว่าวันนัด ผช ดันตื่นสาย เลยเวลานัดมาแล้ว20นาที ผช เลยกระโดดขึ้นรถขับออกไป ในใจก็คิดว่าถ้าปล่อยให้ ผญ รอนาน ผญ อาจจะโกรธมากแน่ๆ ผช เลยตัดสินใจเหยียบแบบเร็วแรงทะลุจอ จนไปชนกับเสาไฟฟ้าอย่างแรง เสียชีวิตคาที่ ชีวิตเราก็เป็นอย่างนี้แหละคับ อยากจะไปให้ทัน แต่บางครั้งกลายเป็นไม่ได้ไปอีกเลย สมมุติว่าถ้าขับช้าๆค่อยๆไป อย่างมาก ก็แค่โดนด่า มีงอนกันบ้าง กับ ขับเร็วโดยเอาชีวิตทั้งชีวิตเราไปเสี่ยงซึ่งไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจะไปถึงหรือไม่ มันคุ้มไหม? ชีวิตเราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้ เกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว (แล้วถ้าตายแล้วฟื้นละ อันนั้นก็ตามใจท่านเลยละกัน55)
-รู้ว่ามีธุระเช้า ->ตั้งนาฬิกาปลุก
-รู้ว่าเส้นนี้ติดบรรลัย ->ออกเช้า
-รู้ว่าต้องเดินทางไกล -> พักผ่อน+เช็ครถ
เชื่อว่าแทบจะทุกคนคงจะบอกว่า "เรื่องแค่นี้ ข้าก็รู้เฟร๊ยย!!" แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นทุกวันจนเราชินเห็นว่ามันเป็นปกติไปแล้ว ท่านรู้ไหมวันๆนึงมีคนเสียชีวิตเพราะรถรากันเท่าไร (ป๋มก็ม่ายยู้วว) แล้วถ้าเกิดเหตุจำเป็นจริงๆละ เกิดอยู่ๆก็มีธุระกะทันหัน(ประมาณว่าบ้านไฟไหม้) จะไม่รีบก็ไม่ได้ ยังไม่ได้ขนหนังต้นทุนต่ำใต้เตียงออกมาเลย(เดี๋ยวๆๆ) ก้อขอให้มีสติกันนะครับ ชีวิตคุณคุณเป็นคนเลือกอยู่แล้วว่าจะใช้มันยังไง บางครั้งเราก็ไม่มีเวลามาคิดหรอกว่าคุ้มไม่คุ้ม โชคดีกันถ้วนหน้านะครัช จุ๊ฟๆปู้นๆ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
เสาไฟฟ้ามันแข็งนะครัชชชช!!!
ขับรถเร็ว ถึงไว จริงเหรอ?
หากใครบังเอิญผ่านเข้ามาเห็นก็คงจะถามว่า "เองอายุกี่ขวบฟร๊ะ" ใช่ครับ มันเป็นเรื่องที่เด็กอนุบาลยังรู้ ว่าด้วยทฤษฏีที่ว่า บิด80ย่อมเร็วกว่า60 เหยียบ140ย่อมเร็วกว่า120 แต่ขับ120แล้วแช่ขวา(เดี๋ยวๆๆ55) ซึ่งความเร็วแปรผันตรงกับระยะทาง สรุปคือยิ่งขับเร็วก็ย่อมถึงไวเป็นจริงแน่แท้เลยทีเดียวเชียว แต่!!! ในโลกแห่งความเป็นจริงซึ่งมีปัจจัยหลากหลายบนท้องถนนที่เราเดินทางสันจรกัน ทฤษฏีนี้จะถูกเสมอไปไหม? ลองมาคิดเล่นๆนะครับ ถ้าเรามีธุระรีบมากๆ(ประมาณว่าแฟนบอกว่ากำลังจะมาบ้านตอนเราหนีเที่ยวอ่ะครับ) เราก็ต้องขับกลับด้วยความเร็วที่เยอะอยู่แล้ว (ก็ดันโกหกว่าสวดมนต์อยู่กำลังจะนอนแล้วนี่น่า55) คือยังไงเราก็เร่งเท่าที่เราจะทำได้อยู่แล้ว พยายามต้องไปให้ทัน ถึงขั้นต้องขอคันอื่นๆแทรกเข้าข้างหน้าระยะประชันชิดจนได้ตั๋วขึ้นไปชมวิวบนเกาะสวรรค์แดนกลางถนน(เดี๋ยวๆๆๆ) มาคิดดูว่าถ้าดันไปเกิดอุบัติเหตุอย่างเช่น หนอนเดินตัดหน้ารถกระทันหันจนต้องหักหลบไปชนต้นมะเขือข้างทางเข้า รถพังเสียหายเราจะเสียเวลาเพิ่มอีกเท่าไรกันครับ? จากแค่อาจจะไปช้า แต่กลับกลายเป็นว่าไม่ได้ไป ต้องเอารถไปซ่อม คิดดูถ้าถึงร้ายแรงกรณีถึงแก่ชีวิตอาจจะไม่ได้ไปไหนอีกเลยด้วยซ้ำ (ปักหมุด ณ จุดๆนี้เลยนะฮ้าาา)
ไม่ว่าเราจะขับเก่งแค่ไหน ก็ไม่มีหลักประกันว่ารถคันอื่นจะไม่มาสอยรถเรา เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะมีคันไหนขับมาปาดแล้วชักปืน(เดี๋ยวๆๆๆ) มันก็พูดยากนะครัชเรื่องแบบนี้ ใจเขาใจเรา เชื่อว่าทุกคนต้องมีประสบการณ์รีบสุดๆของตัวเอง(ใครยังไม่มีขอให้เจอขอให้โดนกันถ้วนหน้า) จนบางครั้งเราต้องฝืนคุณธรรมในตัว ทำบางสิ่งบางอย่างที่เราเคยด่าคันอื่นๆเอาไว้
สุดท้ายอยากฝากนิทานไว้สักเรื่อง (เองเป็นเด็กอนุบาลแน่ๆ55) มี ผช เป็นกับ ผญ ทั้งคู่รักกันมาก มีอยู่วันนึง ผช นัด ผญ ไปกินข้าวร้านอย่างหรูเลย กะว่าจะขอ ผญ แต่งงาน แต่ว่าวันนัด ผช ดันตื่นสาย เลยเวลานัดมาแล้ว20นาที ผช เลยกระโดดขึ้นรถขับออกไป ในใจก็คิดว่าถ้าปล่อยให้ ผญ รอนาน ผญ อาจจะโกรธมากแน่ๆ ผช เลยตัดสินใจเหยียบแบบเร็วแรงทะลุจอ จนไปชนกับเสาไฟฟ้าอย่างแรง เสียชีวิตคาที่ ชีวิตเราก็เป็นอย่างนี้แหละคับ อยากจะไปให้ทัน แต่บางครั้งกลายเป็นไม่ได้ไปอีกเลย สมมุติว่าถ้าขับช้าๆค่อยๆไป อย่างมาก ก็แค่โดนด่า มีงอนกันบ้าง กับ ขับเร็วโดยเอาชีวิตทั้งชีวิตเราไปเสี่ยงซึ่งไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจะไปถึงหรือไม่ มันคุ้มไหม? ชีวิตเราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้ เกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว (แล้วถ้าตายแล้วฟื้นละ อันนั้นก็ตามใจท่านเลยละกัน55)
-รู้ว่ามีธุระเช้า ->ตั้งนาฬิกาปลุก
-รู้ว่าเส้นนี้ติดบรรลัย ->ออกเช้า
-รู้ว่าต้องเดินทางไกล -> พักผ่อน+เช็ครถ
เชื่อว่าแทบจะทุกคนคงจะบอกว่า "เรื่องแค่นี้ ข้าก็รู้เฟร๊ยย!!" แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นทุกวันจนเราชินเห็นว่ามันเป็นปกติไปแล้ว ท่านรู้ไหมวันๆนึงมีคนเสียชีวิตเพราะรถรากันเท่าไร (ป๋มก็ม่ายยู้วว) แล้วถ้าเกิดเหตุจำเป็นจริงๆละ เกิดอยู่ๆก็มีธุระกะทันหัน(ประมาณว่าบ้านไฟไหม้) จะไม่รีบก็ไม่ได้ ยังไม่ได้ขนหนังต้นทุนต่ำใต้เตียงออกมาเลย(เดี๋ยวๆๆ) ก้อขอให้มีสติกันนะครับ ชีวิตคุณคุณเป็นคนเลือกอยู่แล้วว่าจะใช้มันยังไง บางครั้งเราก็ไม่มีเวลามาคิดหรอกว่าคุ้มไม่คุ้ม โชคดีกันถ้วนหน้านะครัช จุ๊ฟๆปู้นๆ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
เสาไฟฟ้ามันแข็งนะครัชชชช!!!