[จิจ้าบ้ารีวิว] พี่ชาย My Hero (2015) หนังไทยที่อยากให้ลองชม


ขอกรีดร้องให้ก้องพันทิปด้วยเสียงเชียร์ที่ดังมากให้หนังไทยคุณภาพดีที่แอบฉายอยู่เงียบ ๆ จิจ้าอยากให้เพื่อน ๆ ที่สนใจไปชมกัน อ่านดูก่อนตัดสินใจก็ได้จ้ะ

พี่ชาย My Hero (2015) หมากชีวิต

เรื่องราวสู้ชีวิตของเอกกับโอ๊ตสองพี่น้องกำพร้าพ่อแม่ เมื่อเอกถูกหมายเรียกเกณฑ์ทหาร โอ๊ตเด็กน้อยก็พยายามเสาะหาวิธีให้พี่ชายที่รักผู้เป็นเสาหลักของครอบครัวจับได้ใบดำเพื่อไม่ต้องใช้เวลาสองปีในการรับใช้ชาติ

หนังมีชื่ออังกฤษเก๋ไก๋ว่า How to Win at Checkers (Every Time) แปลเป็นไทยตรงตัวเพ๊ะคือ ‘เล่นหมากฮอร์สอย่างไรให้ชนะทุกตา’ เป็นธีมหลักของหนัง หมากฮอร์สคือกิจกรรมสุดโปรดของสองหนุ่ม โอ๊ตหาหนังสือเซียนหมากมาปราบพี่ชายและใช้หลักการเดียวกันนั้นเพื่อพลิกชะตาชีวิต

จิจ้าว่าหนังเปรียบชีวิตเหมือนกระดานหมากที่ทุกการเดิน 1 ตาเปลี่ยนการเดินเกมของฝ่ายตรงข้าม เราอาจสละหมากเพื่อลวงคู่ต่อสู้ให้ติดกับเพื่อเราจะได้เดินหน้าแต่ถ้าเกมพลิกเราเองก็อาจถูกตอกหน้าด้วยมูฟที่คาดไม่ถึงจนพ่ายแพ้หมดกระดานในที่สุด

การเดินหมากชีวิตของเด็กโอ๊ตเพื่อรักษาพี่ชายไว้ หลายครั้งก็ไม่ฉลาดจนน่าตบให้เกรียนแตก แต่ถ้ามองดูแบคกราวด์ของเค้าก็จะสำเหนียกได้ว่านางเป็นเพียงเด็กประถมตัวน้อย ๆ ที่เลี้ยงดูโดยป้าที่หาเช้าและพี่ชายที่กินค่ำ ทั้งฐานะและการศึกษาก็แลดูบกพร่อง ถ้ามองอย่างไม่ตัดสินจะเข้าใจว่าสิ่งที่น้องทำไปเพราะรักพี่ แม้จะดูไร้สติแต่ก็มีที่มา

ชอบการแสดงที่ดูเรียลโดยเฉพาะน้องโอ๊ต (อิงครัตน์ ดำรงศักดิ์กุล) ที่น่ารักน่ากอดโดยไม่ต้องปรุงแต่ง และพี่เอก (ถิร ชุติกุล) ที่กร้านโลกเกินวัยเพราะสังคมบีบให้เค้าต้องโตไวกว่าที่ควรเป็น (เอ๊ะ รึนางแค่หน้าแก่?) ก็บาลานซ์ด้านมืดและสว่างได้ลงตัวเป็นธรรมชาติ

สแตนดิ้งโอให้จอช คิม ผกก.ชาวเกาหลี-เมกันที่เข้าถึงสังคมไทยสะท้อนออกมาเป็นผลงานได้ดีจนเขินแทนผกก.บ้านเรา โดยเฉพาะประเด็นเกณฑ์ทหารที่เป็นเรื่องสยองสองบรรทัดคู่บ้านเมืองมาทุกสมัย หนังนำเสนอผลลัพธ์อีกด้านของความซื่อสัตย์และการเสียสละต่อชาติในมุมที่โลกไม่สวยแต่จริงใจ ฉากจับใบดำใบแดงหยิบเรื่องจริงมาตีแผ่ได้น่าลุ้นเพราะเค้าบิ้วให้คนดูแคร์อนาคตของสองพี่น้องไง แบคกราวด์ด้านงานสารคดีของคิมทำให้องค์ประกอบทุกสิ่งไล่ตั้งแต่การกำกับภาพ ลำดับภาพ ดนตรีประกอบ ดูนิ่ง น้อย แต่ได้มาก กินใจโดยไม่ต้องประดิดประดอย

คนที่กลัวว่า เอ๊ะ นี่หนังเกย์รึเปล่า? ถ้าดูจากหน้าหนังตั้งแต่โปสเตอร์ที่มีสองหนุ่มยืนสาดน้ำกันมุ้งมิ้ง ขอบอกให้สบายใจว่านั่นเป็นเพียง Sub-plot ของเรื่องที่เกี่ยวพันกับรสนิยมทางเพศของเอก ซึ่งเปิดโอกาสให้มีตัวละครสมทบเพศที่สามสี่ห้าได้รับการนำเสนอที่มากกว่าแค่ตัวตลกคั่นฉาก ถ้าใครหวังฉากรักสวยใสเอาใจสาววายและเก้งกวางพูดเลยว่าจะผิดหวังเพราะนั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก หัวใจของหนังคือความสัมพันธ์และความสำคัญของคนในครอบครัวต่างหากจ้ะ

ตอนจบเกิดคำถามในใจเมื่อได้เห็นโอ๊ตตอนโต (ไม่ได้สปอยล์นะ เพราะโทนี่ รากแก่นนางออกมาเล่าเรื่องในอดีตตั้งแต่ฉากแรก) ว่าจากเด็กในสังคมชายขอบต้องผ่านการเดินหมากชีวิตมายังไง เสียสละอะไรมาบ้าง จนมาอยู่ในจุดที่นางอยู่โดยไม่ล้มกระดานไปซะก่อน

--------

พี่ชาย My Hero ฉายในเครือเมเจอร์ ลิโด้ และ House เช็ครอบก่อนเพราะหนังฉายวันละไม่กี่รอบ ถ้ามัวช้าคงพลาดโอกาสสนับสนุนหนังไทยดี ๆ ที่เคยฉายงานใหญ่อย่างเทศกาลหนัง Berlin และได้รับเสียงชื่นชมมากมายจากหลายมุมของโลกมาแล้วแน่ ๆ เลย นี่ลุ้นให้สมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติพิจารณาส่งเรื่องนี้เป็นตัวแทนหนังไทยไปออสการ์ปีที่จะถึงเลยเชียวแหละ

บทความนี้เราเคยลงในเพจเราเอง https://www.facebook.com/jijabanang ก็ขอเป็นกระบอกเสียงเล็ก ๆ ให้กับหนังดีที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉายอยู่จ้ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่