หลงกลทำบัตรเครดิตวิสดอม ที่แท้เป็นประกันชีวิต อยากกยเลิกทำไงดี

สวัสดีค่ะ เพื่อนสมาชิกทุกท่าน ดิฉันมีเรื่องอยากขอปรึกษาหน่อยค่ะ  เมื่อเดือนกันยายน ปี 2557 ได้มีผู้จัดการธนาคารกสิกรไทยสาขาแห่งหนึ่งมาเชิญชวนให้ดิฉันสมัครบัตรเครดิสวิสดอม  โดยนำเสนอสิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ  ของการถือบัตรให้ดิฉันฟัง  แต่เงื่อนไขการสมัครคือ  ต้องทำการออมเงินกับธนาคารปีละ 600000 บาท   และบังคับให้ทำประกันชีวิตด้วยในปีแรก  แต่ปีต่อๆไปสามารถยกเลิกประกันตัวนี้ได้ ดิฉันตกลงใจสมัครบัตรวิสดอม เนื่องด้วยต้องการออมเงิน  และเพื่อหวังผลในการต่อยอดทางธุรกิจต่อไป ดิฉันชำระเงิน 600000 บาท  ตามเงื่อนไขการสมัคร  และในเวลาต่อมา  เมื่อเดือนมิถุนายน 58 ได้มีข่าวออกมาทางอินเตอร์เน็ตถึงการฝากเงินแต่ไม่สามารถถอนเงินได้จนกว่าจะอายุ 90 ปี (เป็นแบบพรีเมีย ซึ่งจะมียอดฝากน้อยกว่าวิสดอม) ดิฉันจึงนึกเอะใจในการออมเงินของตัวเอง  จึงรีบตัดสินใจโทรไปถามผู้จัดการถึงเรื่องข่าวที่ออกมา  และถามว่ากรณีวิสดอมของเราเป็นอย่างนั้นด้วยมั๊ย  และถ้าเราต้องการถอนเงินคืนจะทำอย่างไร  มาถึงจุดนี้ทำให้ดิฉันใจสั่น มึนงงไปหมดกับคำตอบที่ได้มาว่า "ขอคืนได้ค่ะ  แต่ต้องดูว่าจุดคุ้มทุนของเราอยู่ตรงไหน  ดิฉันถามกลับไปว่าแล้วจุดคุ้มทุนมันเมื่ไหร่คะ ผู้จัดการตอบว่า  จุดคุ้มทุนอยู่ปีที่ 16-17 ค่ะ" ดิฉันถามต่อไปอีกว่า "ที่ดิฉันออมเงินไว้กับคุณเนี้ย ดิฉันฝากเงินไว้กับธนาคารกสิกรไทยแล้วบังคับทำประกันชีวิต  หรือดิฉันทำประกันชีวิตแบบออมเงินค่ะ ผู้จัดการตอบ ทำประกันชีวิตแบบออมเงินค่ะ "  อ้าว...มาถึงครงนี้ดิฉันเพิ่งถึงบางอ้อ  นี่เราโดนหลอกให้ทำประกันชีวิต  โดยที่ต้องส่งเบี้ยสูงถึงปีละ 600000  บาท เลยหรือนี่ !!!!!!! คำถามเกิดขึ้นในใจ 1. ดิฉันคุยอยู่กับผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย (ใส่ชุดยูนิฟอร์มมาด้วย)  2. เอกสารที่นำมาเสนอมีหัวกระดาษเป็นธนาคารกสิกรไทย 3.บัตรเครดิตวิสดอมเป็นของธนาคารกสิกรไทย 4.ตอนชำระเงิน ดิฉันนำเงินเข้าบัญชีตนเองไว้และผู้จัดการธนาคารเป็นผู้หักเงินดิฉันออกจากบัญชี ทุกอย่างคือธนาคารกสิกรไทย  แต่ไงสุดท้ายกลายเป็นดิฉันได้ทำประกันชีวิตกับบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต  และไมาสามารถยกเลิกสัญญาได้จนกว่าจะครบสัญญา  ถ้ายกเลิกก็จะไม่สามารถรับเงินคืนได้  คือสูญเงิน 600000 บาทฟรีๆ ดิฉันตัดสินใจไปแจ้งความที่ คปภ. และ คปภ. ได้นัดเจรจาทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ ดิฉัน ผู้จัดการ และตัวแทนบริษัทเมืองไทย  แต่ผลการเจรจายังไม่ยุติ เพราะทางผู้จัดการได้อ้างกับ คปภ. ว่าได้บอกรายละเอียดกับดิฉันแล้ว และให้บริษัทเมืองไทยไปพิจารณาว่าจะทำอย่างไร และนัดฟังผลวันที่ 21 ก.ค.58 นี้ ดิฉันขอถามว่า 1. นอกจากการรอฟังผลจากทาง บ. เมืองไทย แล้ว จะมีวิธีอื่นอีกมั๊ยที่จะทำให้ได้เงินคืน  เพราะดิฉันไม่แน่ใจว่าผลที่ออกมาจะเป็นไปในทางดีหรือป่าว เพราะดูบริษัทเมืองไทยบอกว่า กรมธรรมคุ้มครองมาได้ 8 เดือนแล้ว      2.ต้องการทราบว่าคนที่ได้เงินคืนจากเหตุการแบบนี้ต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ  3.นอกจาก คปภ.แล้ว ยังมีหน่วยงานอื่นอีกมั๊ยค่ะที่เราสามารถร้องเรียนและช่วยเหลือเราได้อีก 4.หากเจอคนที่มีประสบการณ์เดียวกัน  หรือให้คำเนะนำได้ รบกวนติดต่อได้โดยตรงเลยนะคะ (ร้อนใจมาก)  สุดท้ายนี้ดิฉันขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน  และคอมเมนท์ด้วยค่ะ  ความจริงยังมีรายละเอียดมากกว่านี้  แต่ดิฉันเกรางใจคนอ่านค่ะ เลยสรุปเอาแบบย่อๆ มาแชร์ประสบการกันนะคะ  ขอบคุณมากค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
น่าจะแบ่งล้อคธนาคาร หรือตั้งโต๊ะเพิ่มไปเลย แปะป้ายไว้เลย
ว่า ขายประกัน ออมก่อนตาย ออมไว้เวลาตายคนข้างหลังจะได้สบาย โต้ะทำยอด
หรือเขียนคำว่า"ประกัน"กลางหน้ากระดาษทุกใบที่เป็นเงื่อนไข และใบที่เราต้องเซ็น
เวลาจะขายประกันให้ลูกค้าในธนาคาร น่าจะมีกล้องตั้งไว้เลยอัดเสียงไว้ จะได้รู้ว่าพี่ๆ ใช้คำพูดว่าอะไรเวลาขายประกัน
เช่น ออมแบบพิเศษ ออมดอกเบี้ยสูงระยะยาว ออมแบบเพิ่มความคุ้มครองชีวิต ออมเพื่อสมัครวิสด้อม
ออมเพื่อตายแล้วลูกหลานจะได้มีเงินใช้ ออมเพื่อเดินยอด ออมพระโคกินหญ้า

กระทู้ประกันมาบ่อยมาก โดยเฉพาะกสิกรจะเยอะเป็นพิเศษ ไม่รู้ทำไม
ความคิดเห็นที่ 9


ดูสิดู

ไอ้ที่โต34% มีเคสแบบเจ้าของกระทู้กี่%นะ ที่ยังไม่รู้ตัว
ให้เขาสมัครใจทำเถอะครับ บางคนกว่าจะเก็บเงินได้ เผื่อฉุกเฉินต้องใช้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่