ความในใจของแอร์โฮสเตสสายการบินตะวันออกกลางคนหนึ่ง

กระทู้สนทนา
เกริ่นก่อนว่า ทั้งหมดทั้งปวงนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลของจขกท.เองนะจ๊ะ ไม่สามารถเอาไปใช้สรุปเหมาเอาว่าแอร์ทุกคนจะป็นอย่างนี้ได้นะ ออกตัวไว้ก่อน ที่มาตั้งกระทู้เพราะอยากระบาย แค่นั้นเอง 555+ คือเดือนนี้เจอศึกหนักมาหลายอย่าง วันนี้ก็หยุดอยู่บ้านว่าง ๆ เลยมาตั้งกระทู้น่ะ

ขึ้นชื่อว่าเป็นแอร์โฮสเตสแล้ว โดยเฉพาะสายการบินตะวันออกกลาง หลาย ๆ คนก็คงนึกถึงแต่ภาพเบื้องหน้าที่มักจะเห็นกันทั่ว ๆ ไปว่า ต้องสวย หรู ดูดี เงินเดือนเยอะ งานสบาย ได้ท่องเที่ยวอยู่เสมอ ๆ ใช่มั้ยคะ แต่หารู้ไม่ การเป็นแอร์โดยเฉพาะแอร์ที่เบสต่างประเทศนั้นต้องแลกมาด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง ที่ทำให้ทุกวันนี้ดิชั้นคิดอยู่เสมอว่า 'ตูทำถูกมั้ยวะเนี่ยที่มาเป็นแอร์ ?!'

อันลูกเรือไทยนั้น ขึ้นชื่อมากว่าขยันสุด ๆ ในการพยายามหาเรื่องกลับบ้าน (กลับไทย) ถึงแม้ว่าจะมีวันหยุดแค่ 2-3 วันก็ตาม อิแอร์ทั้งหลายก็พร้อมที่จะวิ่งสู้ฟัด ขนาดที่ว่าเพิ่งแลนด์ลงมาอย่างเยินจากไฟล์ท ก็สามารถเปลี่ยนชุดและหอบกระเป๋ามุ่งหน้าไปสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องรอบที่เร็วที่สุดเพื่อกลับบ้านให้ได้
....อันตัวดิชั้นก็เช่นกัน เมื่อวานเพิ่งแลนด์ลงมาจากไฟล์ท มีวันหยุด 3 วันกลับบ้านได้สวย ๆ เม่าบัลเล่ต์ วางแผนไว้ล่วงหน้า 1 เดือนกันเลยทีเดียว

ปรากฏว่าไฟล์ทมากทม. ทั้งเต็ม ทั้ง overbooked ไปลุ้นอยู่ 3 ไฟล์ท นั่งรอ นั่งหลับแล้วหลับอีก เบลอเพราะเพิ่งแลนด์มาจนแทบพูดไม่รู้เรื่อง 555+ สุดท้ายไม่ได้ขึ้นสักไฟล์ท ลากกระป๋ากลับบ้านนอนด้วยความเดียวดาย ~ เม่าร้องไห้


หรือว่าเวลาเล่น Facebook แล้วเห็นเพื่อนๆ หรือคนนั้นคนนี้ โพสรูปแบบว่า "ชีวิตดี๊ดี ไปทะเลกับที่รัก" หรือ "มากินชาบูนางในกับเพื่อน เดือนนี้กินรอบที่ 8 แล้ว" หรือแค่ "วันนี้พากับพ่อกับแม่มากิน MK" เราจะรู้สึกบั่บบบบ เหย มันสะกิดต่อมมาก เพราะชั้นทำอะไรแบบนี้ไม่ได้อะ ก็จริงอยู่ว่าเราได้เที่ยว ได้เดินทางไปตั้งไกลครึ่งค่อนโลก แต่แค่จะไปเจอหน้าครอบครัว ไปหาแฟนยังทำไม่ได้เลย บางทีมันเศร้านะ เศร้าแบบเศร้ามากจริง ๆ นั่งร้องไห้ อยากลาออกซะเดี๋ยวนี้เลยก็มี เป็นบ่อยมากสมัยก่อน แต่เดี๋ยวนี้เริ่มทำใจได้ (บ้าง)


อีกอย่าง อันว่าแอร์โฮสเตสนั้น ได้ทำงานกับผู้คนมากมาย มากมายหลายหลากจริง ๆ เพราะสายการบินของดิชั้นนั้นมีเพื่อนร่วมงานจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งส่วนมากเดชะบุญว่าเราได้เจอแต่คนดี ๆ คนไหนไม่ดีเราก็ทำตัวห่าง ๆ จบไฟล์ทก็จบกันไป นาน ๆ ถึงจะได้มาบินด้วยกันอีกที หรือบางคนอาจไม่มีวันเจอกันเลยก็ได้ ทีนี้ถ้าเป็นแค่เพื่อนร่วมงานที่ไม่เวิร์ค เราก็หลบ ๆ โดยการอยู่ห่าง ๆ โดยทำงานของเราไป แต่ถ้าเกิดหัวหน้าหรือ Senior ไม่เวิร์คเนี่ย กรรมแท้เลยล่ะค่ะคุณ

วันก่อนดิชั้นได้ทำไฟล์ทไปแถวเอเชีย โห มีความสุขมากๆ ช้อปปิ้ง กิน เที่ยว แบบเพลินสุด ๆ มาทำไฟล์ทขากลับด้วยอารมณ์ที่เบิกบานมาก ๆ แต่ดั๊นนนนนนนนนนนน ไปมีปัญหากับหัวหน้าใหญ่ ดีเทลขออนุญาตไม่เล่านะ แต่ประมาณว่าเค้าอารมณ์แรงมา เราทนไม่ได้เราก็แรงกลับไป (ผิดตรงนี้แหละที่ไม่ได้ก้มหน้ายอมรับให้เขาด่าๆๆๆๆๆไปจนพอใจ) เรื่องยืดยาววุ่นวายไปอีกเพราะเขารีพอร์ทเราถึงผู้จัดการ ทำให้ต้องส่งเมล์ชี้แจงตอบกันไปมาหลายฉบับ ซึ่งสุดท้ายผู้จัดการเราเค้าเข้าใจดี เรื่องก็จบลงได้ แต่ช่วงนั้นเราต้องกลับมาเครียด พารานอยด์ไปหลายวันเลย พูดได้ว่าเซ็งสุด ๆ


นอกจากนั้นอีกข้อดีที่เห็นได้ชัดของการเป็นแอร์คือ "ได้เที่ยว" อันนี้เราเห็นด้วยมาก ๆ เลยนะ เพราะเราเป็นคนชอบเที่ยว ถึงแม้จะมีเวลาแค่ 24 ชั่วโมง เราก็ยังออกเทียวได้ตั้งหลายที่ บ่ยั่นว่างั้นเหอะ ถึงอย่างแย่ที่สุด ไม่ได้เที่ยว แต่ก็พอได้ซื้อของกินกลับฐานทัพก็มีความสุขมาก ๆ แล้ว เช่น ไปเยอรมันทีไรต้องซื้อไส้กรอกมาแช่ตู้เย็นเก็บไว้ไรงี้ ซึ่งล่าสุดฮ่ะ ดิชั้นโดนถอดจากไฟล์ทๆหนึ่ง แล้วโดนไปทำไฟล์ทที่เซี่ยงไฮ้แทน แว่บแรก ดีใจม้าก เพราะชอบเซี่ยงไฮ้ แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มารู้ทีหลังว่าไฟล์ทนี้มันดีเลย์ พอไปถึงเซี่ยงไฮ้ก็เข้าโรงแรมนอนแถวแอร์พอร์ท ตื่นมาก็ทำไฟล์ทขากลับเลย ไม่มีเวลาเที่ยวหรือทำอะไรทั้งนั้น แถมวันรุ่งขึ้นก็ต้องออกไปทำอีกไฟล์ทต่อเลยแบบได้พักน้อยมากๆ ต่อกัน 2 ไฟล์ท ปวดขามาก ๆ แบบว่ากลับมานี่ต้องนอนยกขาเลย ทรมารสังขารสุด ๆ เม่าเป็นลม


บ่นมาตั้งเยอะ (ก็บอกแล้วตั้งเพื่อระบายง่ะ หาสาระใด ๆ ไม่ได้) แต่กระทู้นี้ก็ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อจะมาบอกว่างานนี้มันไม่ดี อย่ามาทำกันเลย แต่คิดเสียว่าเราเล่าข้อเสียให้ฟังตรง ๆ แบบไม่โลกสวย ว่างานนี้มันก็ไม่ได้มีแต่ข้อดีนะ ใครฟังแล้วยังอยากมาทำก็เชิญมาสมัครกันนะจ๊ะ โฮะ ๆ ๆ  เจ้าคิกคัก

สุดท้ายแล้วสรุปสักนิดว่างานนี้มันก็เป็นงานที่ดีแหละ อยู่ที่ว่าคุณจะมองมุมไหน เพราะหลังจากทำงานนี้มาสักพักก็ค้นพบว่าเรามีการพัฒนาอุปนิสัยให้พึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น (คือจากที่แก่อยู่แล้วก็แก่ขึ้นไปอีก เอิ้กก) รู้จักคิดและติดสินใจมากขึ้น กล้าขึ้น เริ่มมีภูมิคุ้มกันต่อความเหงามากขึ้น และที่สำคัญคือ เงินเก็บเพิ่มขึ้นเยอะมากกกกกกก มากแบบที่ถ้ายังทำงานเดิมอยู่ไทย ไม่รู้กี่ปีถึงจะเก็บได้แบบนี้ (ข้อดีทุกข้อรวมกันก็ไม่สู้ข้อนี้ข้อเดียวสินะ เหอๆ) และเราก็โชคดีที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ หรือเรื่องสุขภาพ (แปลว่าขี้เซาและถึกนั่นเอง) ในขณะเดียวกันข้อเสียต่าง ๆ เราก็พยายามเอามามองเป็นข้อดีนะ แบบแฟนอยู่ไกลกันก็ได้พิสูจน์ใจไรงี้ มีปัญหาในการทำงานเข้ามาบ้างก็จะได้ถือเป็นการฝึกฝนตัวเอง ยังไงก็ยังเชื่อนะว่าหลังมีพายุฟ้าก็คงจะสดใสนั่นแหละ ยิ้ม


จบเถอะ บ่นไรสาระมาขนาดนี้ สุดท้ายดิชั้นก็คงจะทำอาชีพนี้ต่อไป จนกว่าร่างจะไม่ไหว หรือจนกว่าจะมีใครมาขอน่ะ อมยิ้ม16
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ทำงานต่างประเทศ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่