+++. ดอลลาร์ร่วง vs หยวนพุ่ง มุ่งสู่สงคราม The Series. +++
ตอนที่ 1..."ปิโตรดอลลาร์ คาถาปั๊มเงิน ชองอเมริกา"
Trading Like A PILOT
ผมลองเขียนเป็นซีรีย์ส เป็นตอน อ่านง่ายๆดูนะครับ เพื่อนๆลองอ่านกันสนุกๆนะครับ
......ผมเคยพูดถึงการปั๊มเงินของอเมริกาในโพสก่อนหน้านี้ไปครับ วันนี้ตลาดปิด มาลองอ่านเรื่องวิธีปั๊มเงินของพี่เขา ไว้เป็นความรู้นะครับ ....เรื่องมีอยู่ว่า... ประเทศต่างๆในโลกนี้เวลาพิมพ์ธนบัตรออกมา จะต้องมีทองคำเป็นหลักประกันค่าเงินของตัวเองนะครับ ซึ่งมีประเทศเดียวที่ไม่ต้องใช้ทองมาเป็นหลักประกันคืออเมริกาครับ
.....เมื่อก่อนสหรัฐอเมิรกาก็เหมือนบ้านเรานี่ละครับจะพิมพพ์เงินแต่ละทีก็ต้องมีทองวางไว้ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐ เริ่มเป็นชาติมหาอำนาจเพราะชนะสงคราม พอมีอำนาจก็เลยกำหนดให้ทุกประเทศในโลกใช้เงินดอลลาร์เป็นสื่อกลางในการซื้อขายของ และเรียกประชุมทุกประเทศต่าวๆเกี่ยวกับการ กำหนดค่าเงินของดอลลาร์ว่าอเมริกา ต้องใช้ทองวางเป็นจำนวนเท่าไรดี ต่อการพิมพ์ US DOLLAR ในปี คศ1935
......ต่อมาเมื่อเกิดสงครามเย็น สหรัฐจำเป็นต้อง แอบพิมพ์ธนบัตรออกมาเป็นจำนวนมากเพื่อใช้เป็นงบการทหาร แน่นอนครับ ทำได้ไม่นานทุกประเทศก็เริ่มสงสัยว่าพี่เขาพิมพ์มามีทองวางเป็นหลักประกันไหมนะ .... ในปี 1971 ประธานาธิบดี สหรัฐ ริชาร์ด นิกสัน ก็เลยประกาศ ชักดาบ !!!!! เลิกใช้ทองเป็นหลักประกันต่อไปอีก เป็นประเทศเดียวในโลก กำหนดสัญญาเองและก็ฉีกสัญญาเอง ถึงจะทำแบบนี้ แต่ไม่มีใครกล้าหือครับ พี่เขาเป็นมหาอำนาจ ต่อปากต่อคำไป นอกจากทำอะไรไม่ได้แล้วจะโดนทิ้งบอมบ์ใส่เสียเปล่าๆ
.......เมื่อนโยบายเลิกผูกค่าเงิน US DOLLAR กับทองเกิดขึ้น เงินที่พิมพ์ออกมาก็เริ่มเป็นกระดาษ หลายประเทศก็ไม่มีใครจะเอาครับ ใครจะเอาเงิน สินค้าส่งออก หรือทรัพยากรของตัวเองมาแลกกับกระดาษเปล่าละครับ ? อเมริกาก็เลยต้องแก้เกมใหม่ ด้วยการ ตกลง กับกลุ่มประเทศ OPEC คือประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน โดยมีซาอุดีอาระเบีย เจ้าแรก ว่า ไอ จะให้ความคุ้มครอง ยู นะ แต่หลังจากนี้ขอว่า ถ้าจะซื้อขายน้ำมันใดๆก็ตาม จะต้องซื้อขายด้วยเงิน US DOLLAR เท่านั้น ไอมีอาวุธกับทหารเยอะขนาดนี้ ไม่มีใครกล้ามาแตะยูหรอก OK ป่ะ ? (อันนี้ละครับ คือ ต้นกำเนิด ของ PETRO DOLLAR ที่ผมพูดถึงนะครับ)
.......สรุปว่าข้อตกลงนี้เป็นผลครับ เมื่อกลุ่ม OPEC ตกลงในการใช้ US DOLLAR เพื่อซื้อขายน้ำมัน ก็เลยทำให้ทุกประเทศ ต้องการเงินดอลลาร์กันอีกครั้ง และใช้ป็นทุนสำรอง เพราะ ทุกประเทศต้องมีการใช้พลังงาน และ น้ำมันคือแหล่งพลังงานที่เราต้องใช้กันทุกวันครับ
......เมื่อทุกประเทศต้องเงินดอลลาร์ซื้อน้ำมัน อเมริกา ก็เลยมีข้ออ้างพิมพ์ธนบัตร US DOLLAR เพิ่ม เท่าไรก็ได้ แถมยังมั่นใจได้ดด้วยว่า US DOLLAR ที่พิมพ์ออกมา ยังอยู่ในความต้องการของประเทศต่างๆ ด้วย จริงไหมครับ...
เพราะเหตุนี้ละครับ อเมริกา จึงประเทศหนึ่งที่มีเหลือกินเหลือใช้ อยากได้อะไรก็ เอากระดาษมาปั๊มเป็นแบงค์ไปแลก คนในประเทศอื่นๆ จะต้องผลิตสินค้าส่งออก แต่อเมริกาใช้การส่งออกเงินแทนครับ ใช้ซื้อสินค้า ซื้อน้ำมัน ซื้อทรัพยากร ใช้หนี้ ได้หมด เศรษฐกิจดีขนาดไหน ดูจากดัชนีดาวโจนส์ ที่วิ่งขึ้นทุกวันๆ ก็ได้ครับ
..... แต่ทุกอย่างก็ต้องมีเสื่อมสลายไปตามกาลเวลาครับ แล้วโพสหน้าผมจะมาเล่าให้ฟัง .... (ผมเล่าตามเนื้อผ้า ไม่ได้เกลียดชังอะไรกันนะครับ)
Cr. คุณพ่อผมครับ ที่เล่าให้ผมฟังเมื่อนานมาแล้ว
TON
11 ก.ค. 58
เชิญเพื่อนๆช่าวสินธร ติดตามอ่านเรื่องหุ้น เศรษฐกิจสนุกๆ ของผมได้ใน facebook Trading Like A PILOT นะครับ ผมมือใหม่ลองเขียนดูสนุกๆครับ
https://www.facebook.com/tradinglikeapilot
https://m.facebook.com/tradinglikeapilot
+++ ดอลลาร์ร่วง vs หยวนพุ่ง มุ่งสู่สงคราม .....ตอนที่ 1 "ปิโตร ดอลลาร์ คาถาปั๊มเงินของอเมริกา" มือใหม่หัดเขียนครับ +++
ตอนที่ 1..."ปิโตรดอลลาร์ คาถาปั๊มเงิน ชองอเมริกา"
Trading Like A PILOT
ผมลองเขียนเป็นซีรีย์ส เป็นตอน อ่านง่ายๆดูนะครับ เพื่อนๆลองอ่านกันสนุกๆนะครับ
......ผมเคยพูดถึงการปั๊มเงินของอเมริกาในโพสก่อนหน้านี้ไปครับ วันนี้ตลาดปิด มาลองอ่านเรื่องวิธีปั๊มเงินของพี่เขา ไว้เป็นความรู้นะครับ ....เรื่องมีอยู่ว่า... ประเทศต่างๆในโลกนี้เวลาพิมพ์ธนบัตรออกมา จะต้องมีทองคำเป็นหลักประกันค่าเงินของตัวเองนะครับ ซึ่งมีประเทศเดียวที่ไม่ต้องใช้ทองมาเป็นหลักประกันคืออเมริกาครับ
.....เมื่อก่อนสหรัฐอเมิรกาก็เหมือนบ้านเรานี่ละครับจะพิมพพ์เงินแต่ละทีก็ต้องมีทองวางไว้ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐ เริ่มเป็นชาติมหาอำนาจเพราะชนะสงคราม พอมีอำนาจก็เลยกำหนดให้ทุกประเทศในโลกใช้เงินดอลลาร์เป็นสื่อกลางในการซื้อขายของ และเรียกประชุมทุกประเทศต่าวๆเกี่ยวกับการ กำหนดค่าเงินของดอลลาร์ว่าอเมริกา ต้องใช้ทองวางเป็นจำนวนเท่าไรดี ต่อการพิมพ์ US DOLLAR ในปี คศ1935
......ต่อมาเมื่อเกิดสงครามเย็น สหรัฐจำเป็นต้อง แอบพิมพ์ธนบัตรออกมาเป็นจำนวนมากเพื่อใช้เป็นงบการทหาร แน่นอนครับ ทำได้ไม่นานทุกประเทศก็เริ่มสงสัยว่าพี่เขาพิมพ์มามีทองวางเป็นหลักประกันไหมนะ .... ในปี 1971 ประธานาธิบดี สหรัฐ ริชาร์ด นิกสัน ก็เลยประกาศ ชักดาบ !!!!! เลิกใช้ทองเป็นหลักประกันต่อไปอีก เป็นประเทศเดียวในโลก กำหนดสัญญาเองและก็ฉีกสัญญาเอง ถึงจะทำแบบนี้ แต่ไม่มีใครกล้าหือครับ พี่เขาเป็นมหาอำนาจ ต่อปากต่อคำไป นอกจากทำอะไรไม่ได้แล้วจะโดนทิ้งบอมบ์ใส่เสียเปล่าๆ
.......เมื่อนโยบายเลิกผูกค่าเงิน US DOLLAR กับทองเกิดขึ้น เงินที่พิมพ์ออกมาก็เริ่มเป็นกระดาษ หลายประเทศก็ไม่มีใครจะเอาครับ ใครจะเอาเงิน สินค้าส่งออก หรือทรัพยากรของตัวเองมาแลกกับกระดาษเปล่าละครับ ? อเมริกาก็เลยต้องแก้เกมใหม่ ด้วยการ ตกลง กับกลุ่มประเทศ OPEC คือประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน โดยมีซาอุดีอาระเบีย เจ้าแรก ว่า ไอ จะให้ความคุ้มครอง ยู นะ แต่หลังจากนี้ขอว่า ถ้าจะซื้อขายน้ำมันใดๆก็ตาม จะต้องซื้อขายด้วยเงิน US DOLLAR เท่านั้น ไอมีอาวุธกับทหารเยอะขนาดนี้ ไม่มีใครกล้ามาแตะยูหรอก OK ป่ะ ? (อันนี้ละครับ คือ ต้นกำเนิด ของ PETRO DOLLAR ที่ผมพูดถึงนะครับ)
.......สรุปว่าข้อตกลงนี้เป็นผลครับ เมื่อกลุ่ม OPEC ตกลงในการใช้ US DOLLAR เพื่อซื้อขายน้ำมัน ก็เลยทำให้ทุกประเทศ ต้องการเงินดอลลาร์กันอีกครั้ง และใช้ป็นทุนสำรอง เพราะ ทุกประเทศต้องมีการใช้พลังงาน และ น้ำมันคือแหล่งพลังงานที่เราต้องใช้กันทุกวันครับ
......เมื่อทุกประเทศต้องเงินดอลลาร์ซื้อน้ำมัน อเมริกา ก็เลยมีข้ออ้างพิมพ์ธนบัตร US DOLLAR เพิ่ม เท่าไรก็ได้ แถมยังมั่นใจได้ดด้วยว่า US DOLLAR ที่พิมพ์ออกมา ยังอยู่ในความต้องการของประเทศต่างๆ ด้วย จริงไหมครับ...
เพราะเหตุนี้ละครับ อเมริกา จึงประเทศหนึ่งที่มีเหลือกินเหลือใช้ อยากได้อะไรก็ เอากระดาษมาปั๊มเป็นแบงค์ไปแลก คนในประเทศอื่นๆ จะต้องผลิตสินค้าส่งออก แต่อเมริกาใช้การส่งออกเงินแทนครับ ใช้ซื้อสินค้า ซื้อน้ำมัน ซื้อทรัพยากร ใช้หนี้ ได้หมด เศรษฐกิจดีขนาดไหน ดูจากดัชนีดาวโจนส์ ที่วิ่งขึ้นทุกวันๆ ก็ได้ครับ
..... แต่ทุกอย่างก็ต้องมีเสื่อมสลายไปตามกาลเวลาครับ แล้วโพสหน้าผมจะมาเล่าให้ฟัง .... (ผมเล่าตามเนื้อผ้า ไม่ได้เกลียดชังอะไรกันนะครับ)
Cr. คุณพ่อผมครับ ที่เล่าให้ผมฟังเมื่อนานมาแล้ว
TON
11 ก.ค. 58
เชิญเพื่อนๆช่าวสินธร ติดตามอ่านเรื่องหุ้น เศรษฐกิจสนุกๆ ของผมได้ใน facebook Trading Like A PILOT นะครับ ผมมือใหม่ลองเขียนดูสนุกๆครับ
https://www.facebook.com/tradinglikeapilot
https://m.facebook.com/tradinglikeapilot