เขียนถึงหนังหลังตกตะกอน "พี่ชาย...My Hero" (No Spoiler)

หลังจากปล่อยให้ความคิดตกตะกอนหลังดูจบไป 2 วัน ก็คิดได้ว่าควรเขียนอะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้บ้างดีกว่า

ภาพยนตร์ไทยที่หลายๆคนอวยกันว่า "เป็นหนังไทยที่ดีที่สุดในรอบครึ่งปีแรก" พอได้ดูก็พบว่าเป็นจริงอย่างที่ว่า

ภาพยนตร์ที่หน้าหนังดูเป็นหนังเกย์ และ Coming of Age แต่หลังดูจบกลับคิดว่า ประเด็น 2 เรื่องข้างต้นเป็นแค่เครื่องมือในการสื่อสารที่วิพากษ์ความเหลื่อมล้ำ และการเอาตัวรอดในสังคมมากกว่า
โดยหยิบเรื่องของการเกณฑ์ทหารมาสื่อสารให้ชัดขึ้น

น่าแปลกใจที่หนังไทยในบ้านเรายุคหลังๆ มักจะหลีกเลี่ยงความจริงในสังคมกันมากขึ้น
แต่หนังเรื่องนี้กลับพูดถึงสิ่งที่มีอยู่และเป็นจริงในสังคมไทยอย่างตรงไปตรงมา และที่สำคัญคนที่สื่อสารถึงเรื่องเหล่านี้ดันเป็นชาวต่างชาติซะนี่(ผกก.เป็นชาวเกาหลีใต้)

หลายๆคนบ่นถึงหนังเรื่องนี้ ว่ามันสั้นไป(80นาที)และจบได้แบบไม่อิ่มเอมเท่าไรนัก
แต่ข้าพเจ้ากลับมองว่า การที่หนังจบแบบนี้ จะทำให้เราหวนระลึกถึงตัวหนังแม้เราจะดูจบไปแล้วได้มากกว่า
โดยการทิ้งภาพสุดท้าย ขณะที่ตัวละครขณะขี่จักรยานยนต์จากด้านหลัง เหมือนจะเป็นการบอกลาคนดู(ของทั้งคู่)
*จักรยานยนต์แทบจะเป็นตัวละครหนึ่งของเรื่องก็ว่าได้

ที่สำคัญคือนักแสดงหลัก พี่-น้องทั้ง 2 คนเล่นดีมาก
โดยคนน้องบางจังหวะก็ไร้เดียงสาซะจนน่าตบเกรียนแตก บางจังหวะก็น่าเห็นใจอย่างสุดๆเช่นกัน
ส่วนคนพี่ แม้ในบทจะร่าเริงเพื่อน้องชายขนาดไหน แต่แววตานี่บอกได้เลยว่า"เหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบจริงๆ"
แต่พอมาดูคลิปของนักแสดงคนนี้ ก็เพิ่งรู้ว่าเป็นนักเรียนนอก และพูดไทยไม่ชัด(แต่ในหนังพูดไทยชัดนะ) และถึงใบหน้าจะดูซื่อๆ อบอุ่น แต่ Sex Appeal สูงมาก



สำหรับคนที่ต้องการไปดูหนังสายวายเพื่อ"ความจิ้นและมโน"
ขอบอกได้เลยว่าต้องผิดหวังแน่ๆ เพราะฉากเหล่านั้นเป็นแค่ส่วนประกอบของหนังจริงๆ
(หลายคนที่กลัวความสะอิดสะเอียนจากฉากรักร่วมเพศ ไม่ต้องกลัวไป เพราะมันมีน้อยมาก)

ปล.ข้าพเจ้าชอบชื่อหนัง How to Win at Checkers (Every Time) มากกว่า

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่