เที่ยว-นั่น-นู่น-นี่  
[Journey around the World]

ต้องเกริ่นกันก่อนว่ากว่าจะได้มาเขียนรีวิวการไปพม่าครั้งนี้คือดองเค็มหลายเดือนมากๆ
ไปเมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา กว่าจะมานั่งเทียนเขียนรีวิวก็ปาไป ก.ค. แล้วค่ะ
อาจจำได้บ้างไม่ได้บ้างเทมส์ก็ต้องขออภัยกันไว้ตรงนี้เลยนะคะ (กราบบบบ)

*รีวิวแรกฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ*

จุดเริ่มต้นของการไปก็คือช่วงมีนาปี 57 โดยแก๊งเพื่อนๆ ที่คณะฯ เคยพูดว่าอยากไปพม่ากัน ก็เลยบอกกันไว้ว่าถ้ามีโปรฯ เครื่องบินมา “วันได้...เวลาได้...สอยเลยนะ” อย่าได้ช้า หลังจากนั้น 3 เดือนโปรฯ ของนกแอร์ก็มาค่ะ ได้ราคาไปกลับคนละ 2,400 บาท ความจริงมีถูกกว่านี้แต่บินบ่ายกลับสาย ยอมจ่ายแพงหน่อยดีกว่าค่ะ เนื่องจากวันพักร้อนเรามีค่าต้องใช้สอยอย่างประหยัดค่ะ 5555

จองไป 6.35 น. วันศุกร์ กลับ 21.05 น. วันอาทิตย์ ช่วงเวลาบินช่างเหมาะเจาะยิ่งนัก แหม่~ ฟินดีจริงๆ ลางานแค่วันเดียว สรุปว่ามีผู้หลงผิดไปร่วมทริปกันทั้งสิ้น 3 ชีวิตค่ะ ผู้หญิง 2 ผู้ชาย 1 ค่ะ

แต่ว่าจองก่อนนานใช่ว่าจะได้มีเวลาเตรียมตัวนะคะ ตอนนั้นรีวิวพม่าที่ backpack ไปกันเองยังไม่ค่อยมี หาอ่านยากมาก เจอแต่ไปกับทัวร์กับไกด์ หนังสือนำเที่ยวพม่าในร้านหนังสือมีอยู่ 2-3 เล่มเห็นจะได้ แผนที่และรายละเอียดก็มีไม่มากนัก แต่เราก็หากันต่อไปถึงแม้ความหวังในการหาเจอจะริบหรี่ก็เถอะ หาไม่เจอก็ออกแนวช่างเหอะ เดี๋ยวว่างค่อยหา

...แต่ๆๆ เราก็ไม่ได้ว่างหากันเลยค่า~ TT

สโลแกนเรา "แพลนเอง เที่ยวเอง หลงเองและโง่เอง"

รีวิวมาหาอ่านกันจริงๆ คืออีก 2 อาทิตย์ก่อนที่จะไปค่ะ อารมณ์แบบไฟลนก้นเพราะนึกขึ้นได้ว่าจะไปอีกไม่กี่วันนี้แล้ว (เนื่องจากติดพันกับภารกิจการงาน ถึงลางานแล้วแต่ถ้าทำไม่เสร็จอาจจะอดไปได้ เพื่อนที่ทำงานราชการช่วงนั้นก็มีอบรมกับงานราชการต่างจังหวัดซึ่งคิวแน่นมาก ส่วนเพื่อนอีกคนกำลังย้ายไปคุมไซต์งานที่หาดใหญ่ ช่วงนั้นก็บินไปกลับกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ อาทิตย์ละ 2-3 วัน ซึ่งดูแพลนแล้วแต่ละคนนี่ความเสี่ยงสูงที่จะไม่ได้ไป! ตื่นเต้นจริงๆ ขนาดจะไปทำวีซ่ายังไม่ว่างจะลางานไปทำเลยค่ะ)

แต่ในที่สุดเราก็ได้ไปจนได้ 3 วัน 2 คืน 6-8 มีนาคม 2558

... เ ร า ไ ป บุ ก พ ม่ า กั น ! ! ...



แวะไปเม้าท์กันต่อ --> https://www.facebook.com/pages/เที่ยว-นั่น-นู่น-นี่-Journey-around-the-world/970136619664520

ส่วนการจองโรงแรมและทำวีซ่าก็มาทำกันตอน 2 อาทิตย์ก่อนที่จะไป (อีกแล้ว) แต่แพลนเรายังไม่ลงตัว ส่วนการขอวีซ่าสามารถฝากเพื่อนยื่นให้ได้นะคะ (แต่ได้มากสุดแค่ 3 คนนะคะ มากกว่านั้นต้องกรอกเอกสารเพิ่มเติม)

เทมส์ฝากวีซ่าให้เพื่อนไปทำให้วันที่ 18 ก.พ. เป็นวันก่อนวันตรุษจีนซึ่งคนน้อยมาก แล้วไปรับวันที่ 20 ก.พ. คนนี่โล่งมากกกก ไปถึงตอน 17.20 น. นึกว่าปิดซะแล้ว แต่ยังเหลือคนรอรับวีซ่าอยู่ 2 คิว 17.30 น. เสร็จเรียบร้อยสบายไปค่ะ

แต่เพื่อนอีกคนไปทำช่วงสิ้นเดือนคนไปรับแบบมหาศาลมาก ไปตอน 16.00 น. กว่าจะได้ 20.30 น. แทบจะเอาผ้าไปปูนอนกันเลยทีเดียว
*จิ๊กรูปเพื่อนมาลงค่ะ ระหว่างรอคุณเพื่อนก็ส่งรูปอัพเดทตลอดๆ*

วิธีเดินทาง
นั่ง BTS ไปลงสถานีสุรศักดิ์ ทางออกที่ 3 เดินผ่านหน้าโรงเรียนกรุงเทพคริสต์เตียน
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนปั้นไปประมาณ 40 เมตร จะเจอแผนกวีซ่า (Visa Section) ของสถานทูตพม่าค่ะ

เวลาทำการ
วันจันทร์ – วันศุกร์ (เว้นวันหยุดราชการของไทยและพม่า)
เวลายื่นขอทำวีซ่า 09.00 – 12.00 น. และ
เวลารับวีซ่าและหนังสือเดินทาง 15.30 -16.30 น.

เอกสารขอวีซ่าพม่า
1. Passport ที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
2. สำเนา Passport 1 แผ่น
3. รูปถ่ายแบบสี หน้าตรง เห็นหูด้วยนะคะ (พื้นหลังสีขาว) ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป
(ติดรูป 1 รูปในแบบฟอร์มขอวีซ่า อีกรูปใช้คลิปหนีบกระดาษหนีบไปกับแบบฟอร์มค่ะ)

สามารถกรอกแบบคำร้องขอวีซ่าพม่าล่วงหน้าได้ค่ะ จะได้ประหยัดเวลา
แนะนำให้ไปก่อน 8.00 น. ถ้าไปหลัง 10.00 น. บัตรคิวอาจหมดได้ เจอแบบนี้ตะเตือนไตกันเลยทีเดียว
(แบบฟอร์ม --> https://docs.google.com/file/d/0Bz01pUrAQ4SdMl82aUFoOXVOaTg/edit)

ค่าธรรมเนียมสำหรับวีซ่า
1. ธรรมดา (3 วัน) = 810 บาท
2. ด่วน (2 วัน) = 1,025 บาท
3. ด่วนพิเศษ (1 วัน ยื่นเช้ารับบ่าย) = 1,200 บาท
(อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ พี่เค้าเขียนไว้ละเอียดเลยค่ะ -->http://ppantip.com/topic/32854358)

---

ในที่สุดก็ถึงวันเดินทาง กว่าจะเคลียร์งานราษฎร์งานหลวงเสร็จก็เกือบ 5 ทุ่ม
กระเป๋าก็เริ่มจัดตอนนั้นแหละค่ะ ได้นอนเกือบตี 1 พอตี 3 ต้องตื่นแล้วค่ะ
ณ จุดๆ นั้นคือง่วงมากบอกเลยยย อยากจะงอแงนอนต่อซะเหลือเกินแต่เค้าก็ทำไม่ได้
(เวลาเดินทางไกลก็นอนให้เต็มอิ่มนะคะอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ไม่ดีค่ะ)

ของที่เตรียมไปนะคะ

1. กระเป๋าเป้ : อันนี้แนะนำเลยค่ะสำหรับคนที่จะเดินทางไปหลายเมือง เพราะเดินการขึ้นรถเมล์ รถบัส และรถสองแถวของพม่านั้น ถ้าใช้กระเป๋าลากนี่ค่อนข้างจะลำบาก ยิ่งถ้าใบใหญ่นี่ไม่แนะนำให้เอาไป แต่ถ้าอยู่แค่ย่างกุ้งอย่างเดียวใช้กระเป๋าลากก็ได้ค่ะ

2. รองเท้าแตะ : เอาไปคู่เดียวพอ ใส่สบายๆ แตะคีบธรรมดาๆ นี่แหละค่ะ ช้างดาว hippo เอาแบบถอดง่ายๆ เพราะไปที่พม่าการเข้าวัดต้องถอดรองเท้าทุกครั้ง ใครใส่ถุงเท้าก็ต้องถอดออกนะคะ รองเท้าผ้าใบไม่ค่อยแนะนำค่ะ

3. เสื้อผ้า : เสื้อยืด 4 ตัว กางเกงยีนส์ขายาว 1 ตัว กางเกงขาสั้นไว้ใส่นอนอีก 1 ตัว ผ้าขนหนู 1 ผืนที่พม่าผู้ชายใส่กางเกงขาสั้นได้ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ผู้หญิงควรใส่กางเกงขายาว หรือถ้าจะใส่กระโปรงก็ไม่ควรสั้นเหนือเข่าค่ะ เนื่องจากที่พม่าผู้ชายนิยมนุ่งโสร่ง ผู้หญิงนุ่งผ้านุ่ง

4. กล้อง : ต้องบอกว่าสถานที่บางแห่งมีข้อจำกัด เพราะบางสถานที่ผู้หญิงห้ามเข้าเข้าใกล้องค์พระ เจดีย์ และพระธาตุ ถ้าจะถ่ายรูปใกล้ๆ นี่บอกเลยว่ายาก ดังนั้นคุณผู้หญิงถ้ามีเลนส์เทเลพกไปด้วยนี่จะโอเคมากค่ะ ควรเตรียมชุดทำความสะอาดไปด้วยค่ะ เพราะฝุ่นเยอะมากกกกก บางสถานที่เก็บค่ากล้องด้วยนะคะ

5. อื่นๆ :
- ครีมกันแดด
- เสื้อกันฝน (ฝนไม่ตก แต่ได้ใช้ ใช้ยังไงเดี๋ยวเล่าให้ฟังค่ะ)
- ปลั๊กพ่วงและ Adepter แปลงไฟ
- ไฟฉาย
- ยา
- หมวกและแว่นกันแดด : แดดแรงจริงจังค่ะ แต่เข้าวัดก็ควรถอดออกนะคะ
- ถุงสำหรับใส่รองเท้า*** อันนี้สำคัญมาก เพราะบางสถานที่ไม่มีที่วางรองเท้า เราต้องถือรองเท้าไปด้วยค่ะ การมีถุง...จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น