เมื่อแฟนเพจ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้เผยแพร่เรื่องราวของคุณตา
คุณยายท่านหนึ่งที่ยอมลำบากทำงานส่งเสียลูกเรียนจบปริญญาตรี จนตัวเองต้องตาบอด แต่สุดท้ายลูกกลับทิ้งไปไม่เหลียวแล
โดยบิณฑ์ เผยว่า ตนได้มีโอกาสมาหาคุณตาสมชาย แย้มทองคำ อายุ69ปีอยู่กับคุณยาย สิริยา แย้มทองคำ อายุ67ปีมีอาชีพขายกับข้าวตามสถานที่ราชการโดยต้องไปรับเขามาอีกที กำไรต่อวันประมาณ150-200บาท นำเงินที่ได้มาซื้อข้าวประทังชีวิต
ส่วนที่เหลือก็ทำบุญซึ่งคุณตาสมชายตาบอดหนึ่งข้าง ส่วนอีกข้างอยู่ระหว่างการรักษา ซ้ำร้ายก่อนหน้านี้คุณตาเคยโดนรถชนขาต้องดามเหล็กไว้ ทำให้เดินไม่ถนัดส่วนสาเหตุที่คุณตาสูญเสียดวงตาไปเพราะเมื่อปี 2540 คุณตาไม่ยอมเอาเงินไปรักษาดวงตาแต่เอาเงินส่งเสียให้ลูกได้เรียนจบปริญญาสองคน จากลูกทั้งหมดที่มี 6 คน แต่ละคนไม่มีใครกลับมาเหลียวแลคุณตาเลย ทุกวันนี้ได้เงินคนพิการ800บาทและได้เงินผู้สูงอายุอีก600บาท ส่วนคุณยายก็ได้600บาท มีค่าใช้จ่ายเป็นค่าเช่าห้องเดือนละ1,000บาท ค่าน้ำค่าไฟอีก500บาท โดยตนได้ช่วยคุณตาด้วยการมอบเงินช่วยเหลือ 20,000บาทเอาไว้เป็นค่ารถไปหาหมอ
โอ้ขนาดนี้เลยเหรอครับ สังคมไทย แหลกเหลวเกินจะเยียวยาจริงๆ
สังคมไทยทุกวันนี้เป็นถึงขนาดนี้เลยหรือ
คุณยายท่านหนึ่งที่ยอมลำบากทำงานส่งเสียลูกเรียนจบปริญญาตรี จนตัวเองต้องตาบอด แต่สุดท้ายลูกกลับทิ้งไปไม่เหลียวแล
โดยบิณฑ์ เผยว่า ตนได้มีโอกาสมาหาคุณตาสมชาย แย้มทองคำ อายุ69ปีอยู่กับคุณยาย สิริยา แย้มทองคำ อายุ67ปีมีอาชีพขายกับข้าวตามสถานที่ราชการโดยต้องไปรับเขามาอีกที กำไรต่อวันประมาณ150-200บาท นำเงินที่ได้มาซื้อข้าวประทังชีวิต
ส่วนที่เหลือก็ทำบุญซึ่งคุณตาสมชายตาบอดหนึ่งข้าง ส่วนอีกข้างอยู่ระหว่างการรักษา ซ้ำร้ายก่อนหน้านี้คุณตาเคยโดนรถชนขาต้องดามเหล็กไว้ ทำให้เดินไม่ถนัดส่วนสาเหตุที่คุณตาสูญเสียดวงตาไปเพราะเมื่อปี 2540 คุณตาไม่ยอมเอาเงินไปรักษาดวงตาแต่เอาเงินส่งเสียให้ลูกได้เรียนจบปริญญาสองคน จากลูกทั้งหมดที่มี 6 คน แต่ละคนไม่มีใครกลับมาเหลียวแลคุณตาเลย ทุกวันนี้ได้เงินคนพิการ800บาทและได้เงินผู้สูงอายุอีก600บาท ส่วนคุณยายก็ได้600บาท มีค่าใช้จ่ายเป็นค่าเช่าห้องเดือนละ1,000บาท ค่าน้ำค่าไฟอีก500บาท โดยตนได้ช่วยคุณตาด้วยการมอบเงินช่วยเหลือ 20,000บาทเอาไว้เป็นค่ารถไปหาหมอ
โอ้ขนาดนี้เลยเหรอครับ สังคมไทย แหลกเหลวเกินจะเยียวยาจริงๆ