ไม่ได้มารีวิวค่ะ แต่มาเล่าประสบการณ์ท่องเที่ยวแปลกที่เจอมา พอดีเพิ่งกลับมาค่ะ
คืนสุดท้ายในลังกาวี ที่ลังกาวีการเช่ารถขับเที่ยวเองจะสะดวกสบายที่สุด เพราะจุดเที่ยวแต่ละจุดจะห่างกันพอควร ไม่เห็นรถเมล์ มีแต่รถนำเที่ยวเป็นรถตู้คล้ายแท็กซี่ หลังจากเที่ยวครบและคืนรถเช่าแล้ว พวกเราตัดสินใจที่จะเลือกโรงแรมที่ใกล้ท่าเรือออกจากเกาะมากที่สุด เราไม่อยากเรียกแท็กซี่เพราะมันเป็นการเปลืองโดยใช่เหตุ ดูจากแผนที่ มีโรงแรมอยู่รอบ ๆ ท่าเรือพอควร แต่โรงแรมที่เราตัดสินใจเลือกมันดูใกล้ท่าเรือมากที่สุด(จากในแผนที่) สามารถเดินไปท่าเรือได้เอง เลยตัดสินใจจองจากเวปอโกด้า เป็นโรงแรมสามดาวมีสระว่ายน้ำ ห้องดูมาฐาน สะอาด(รูปในอโกด้า) ฟร้อนที่โรงแรมใจดี เพราะจริงๆแล้วกฎของโรงแรมให้เช็กอินบ่าย 3 เราไปถึงตอน 11 โมงกว่า พนักงานบอกสามารถทำการเช็คอินได้เลยเพราะมีห้อง เราจัดการเอาสัมภาระไปเก็บในห้องแล้วออกมาเดินเที่ยวแถวท่าเรือ Jetty Point โรงแรมดูเก่าจากในรูปมาก ๆ ดูวังเวงด้วย แต่ก็คิดว่านอนแปบเดียว อยู่ใกล้ท่าเรือดี สะดวก เลยลืม ๆ บรรยากาศน่ากลัวของโรงแรมไป ตอนเย็นหลังจากออกไปเดินเล่นจนเหนื่อย เลยกลับเข้าโรงแรมมาพักผ่อน ห้องพักเป็นห้องทริปเปิ้ล สำหรับสามคน ข้าง ๆ มีประตูเล็กเหมือนเป็นห้องสวีทเชื่อมกันได้ถ้ามากันหลายคน ไอ้เราก็ซนลองไปเปิดประตูเล็กดู ปกติโรงแรมอื่นจะมีประตูสองบาน คือของห้องเราและห้องข้าง ๆ แต่ที่นี่ใช้ประตูบานเดียว ล็อคจากสองด้าน แต่ห้องข้าง ๆ กลับไม่ได้ล็อค ทำให้เราเห็นเป็นห้องเปล่า ไม่มีคนอยู่ เลยปิดประตูไป ซักพักทั้งแฟนและน้องชายงีบหลับกันไปแล้ว เหลือเราอยู่คนเดียวที่นอนเล่นอยู่บนเตียง แล้วอยู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะจากประตูเล็กนั้น หัวใจไปอยู่ตาตุ่มเลย เพราะรู้ว่ามันเป็นห้องเปล่า แล้วเสียงก็เงียบไป นอนแข็งอยู่บนเตียง แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังอีก แต่คราวนี้เป็นประตูหน้าห้อง ไม่กล้าไปดูตาแมว ไม่กล้าเดินไปเปิด ไม่กล้าปลุกใคร จากนั้นก็เผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ พอหลับไปก็ฝันว่าไปยืนอยู่ตรงล็อบบี้ของโรงแรม แล้วเจอผู้หญิงคนนึง หน้าเข้ม ๆ ออกแขก ๆ แต่ไม่ได้โพกหัว ทาขอบตาล่างดำเข้ม ๆ อายุประมาณห้าสิบกว่า ๆ ในฝันเหมือนรู้สึกว่าเค้าอยู่ที่นี่ คือตอนนี้ในใจยังกลัวอยู่เรื่องที่มีคนมาเคาะประตูก่อนนอน เลยตัดสินใจพูดกับผู้หญิงคนนั้นไปว่า อยากเปลี่ยนห้อง จะขอเปลี่ยนห้องได้ไหม ผู้หญิงคนนั้นจากหน้ายิ้ม ๆ เปลี่ยนเป็นเศร้าทันที แล้วเค้าก็พูดออกมาว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก" แล้วเราก็สะดุ้งตื่น ตอนแรกไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง มาเล่าทีหลัง แต่น้องชายดันได้ยินเสียงเคาะประตูเหมือนกัน แต่ไม่สนใจ แต่อ้วนมาบอกว่าห้องข้าง ๆ จะไม่มีคนได้อย่างไรเพราะได้ยินเสียงคนอยู่ห้องข้าง ๆ แล้วได้ยินเสียงเปิดทีวีด้วย!!! เราบอกแฟน...ตลกแล้ว เพราะเห็นมากับตาเห็นกับน้องชายด้วย ว่ามันเป็นห้องเปล่า...ทุกคนเลยเงียบกันไป.....
มาวันนี้ นึกยังไงไม่รู้ เลยลองไปหากูเกิ้ลเกี่ยวกับโรงแรมนี้ ไปเจอรีวิวเยอะมากใน Tripadvisor มีหลายคนเจออะไรแปลก ๆ ในโรงแรมนี้หลายคน บางคนเจอผู้หญิงอยู่ในห้อง หรือในกระจก บางคนไม่เล่ารายละเอียด พูดแค่ว่า Haunted Hotel นอนได้แค่คืนเดียวแล้วต้องย้ายโรงแรม บรึ้ยย ถ้ามาเจอรีวิวก่อนคงไม่กล้านอน อีกประสบการณ์แปลก ๆ ที่เกิดขึ้นอีกครั้วนึงในชีวิต
เรื่องเล่าจากลังกาวี โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
คืนสุดท้ายในลังกาวี ที่ลังกาวีการเช่ารถขับเที่ยวเองจะสะดวกสบายที่สุด เพราะจุดเที่ยวแต่ละจุดจะห่างกันพอควร ไม่เห็นรถเมล์ มีแต่รถนำเที่ยวเป็นรถตู้คล้ายแท็กซี่ หลังจากเที่ยวครบและคืนรถเช่าแล้ว พวกเราตัดสินใจที่จะเลือกโรงแรมที่ใกล้ท่าเรือออกจากเกาะมากที่สุด เราไม่อยากเรียกแท็กซี่เพราะมันเป็นการเปลืองโดยใช่เหตุ ดูจากแผนที่ มีโรงแรมอยู่รอบ ๆ ท่าเรือพอควร แต่โรงแรมที่เราตัดสินใจเลือกมันดูใกล้ท่าเรือมากที่สุด(จากในแผนที่) สามารถเดินไปท่าเรือได้เอง เลยตัดสินใจจองจากเวปอโกด้า เป็นโรงแรมสามดาวมีสระว่ายน้ำ ห้องดูมาฐาน สะอาด(รูปในอโกด้า) ฟร้อนที่โรงแรมใจดี เพราะจริงๆแล้วกฎของโรงแรมให้เช็กอินบ่าย 3 เราไปถึงตอน 11 โมงกว่า พนักงานบอกสามารถทำการเช็คอินได้เลยเพราะมีห้อง เราจัดการเอาสัมภาระไปเก็บในห้องแล้วออกมาเดินเที่ยวแถวท่าเรือ Jetty Point โรงแรมดูเก่าจากในรูปมาก ๆ ดูวังเวงด้วย แต่ก็คิดว่านอนแปบเดียว อยู่ใกล้ท่าเรือดี สะดวก เลยลืม ๆ บรรยากาศน่ากลัวของโรงแรมไป ตอนเย็นหลังจากออกไปเดินเล่นจนเหนื่อย เลยกลับเข้าโรงแรมมาพักผ่อน ห้องพักเป็นห้องทริปเปิ้ล สำหรับสามคน ข้าง ๆ มีประตูเล็กเหมือนเป็นห้องสวีทเชื่อมกันได้ถ้ามากันหลายคน ไอ้เราก็ซนลองไปเปิดประตูเล็กดู ปกติโรงแรมอื่นจะมีประตูสองบาน คือของห้องเราและห้องข้าง ๆ แต่ที่นี่ใช้ประตูบานเดียว ล็อคจากสองด้าน แต่ห้องข้าง ๆ กลับไม่ได้ล็อค ทำให้เราเห็นเป็นห้องเปล่า ไม่มีคนอยู่ เลยปิดประตูไป ซักพักทั้งแฟนและน้องชายงีบหลับกันไปแล้ว เหลือเราอยู่คนเดียวที่นอนเล่นอยู่บนเตียง แล้วอยู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะจากประตูเล็กนั้น หัวใจไปอยู่ตาตุ่มเลย เพราะรู้ว่ามันเป็นห้องเปล่า แล้วเสียงก็เงียบไป นอนแข็งอยู่บนเตียง แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังอีก แต่คราวนี้เป็นประตูหน้าห้อง ไม่กล้าไปดูตาแมว ไม่กล้าเดินไปเปิด ไม่กล้าปลุกใคร จากนั้นก็เผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ พอหลับไปก็ฝันว่าไปยืนอยู่ตรงล็อบบี้ของโรงแรม แล้วเจอผู้หญิงคนนึง หน้าเข้ม ๆ ออกแขก ๆ แต่ไม่ได้โพกหัว ทาขอบตาล่างดำเข้ม ๆ อายุประมาณห้าสิบกว่า ๆ ในฝันเหมือนรู้สึกว่าเค้าอยู่ที่นี่ คือตอนนี้ในใจยังกลัวอยู่เรื่องที่มีคนมาเคาะประตูก่อนนอน เลยตัดสินใจพูดกับผู้หญิงคนนั้นไปว่า อยากเปลี่ยนห้อง จะขอเปลี่ยนห้องได้ไหม ผู้หญิงคนนั้นจากหน้ายิ้ม ๆ เปลี่ยนเป็นเศร้าทันที แล้วเค้าก็พูดออกมาว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก" แล้วเราก็สะดุ้งตื่น ตอนแรกไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง มาเล่าทีหลัง แต่น้องชายดันได้ยินเสียงเคาะประตูเหมือนกัน แต่ไม่สนใจ แต่อ้วนมาบอกว่าห้องข้าง ๆ จะไม่มีคนได้อย่างไรเพราะได้ยินเสียงคนอยู่ห้องข้าง ๆ แล้วได้ยินเสียงเปิดทีวีด้วย!!! เราบอกแฟน...ตลกแล้ว เพราะเห็นมากับตาเห็นกับน้องชายด้วย ว่ามันเป็นห้องเปล่า...ทุกคนเลยเงียบกันไป.....
มาวันนี้ นึกยังไงไม่รู้ เลยลองไปหากูเกิ้ลเกี่ยวกับโรงแรมนี้ ไปเจอรีวิวเยอะมากใน Tripadvisor มีหลายคนเจออะไรแปลก ๆ ในโรงแรมนี้หลายคน บางคนเจอผู้หญิงอยู่ในห้อง หรือในกระจก บางคนไม่เล่ารายละเอียด พูดแค่ว่า Haunted Hotel นอนได้แค่คืนเดียวแล้วต้องย้ายโรงแรม บรึ้ยย ถ้ามาเจอรีวิวก่อนคงไม่กล้านอน อีกประสบการณ์แปลก ๆ ที่เกิดขึ้นอีกครั้วนึงในชีวิต