ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนแม่น้ำทุกสายในโลก
ย่อมไหลรวมลงไปยังมหาสมุทร และน้ำฝนจากอากาศก็ตกลงสู่มหาสมุทร
แต่ความลดหรือความเต็มของมหาสมุทร
ย่อมไม่ปรากฏ (แก่ตา) ฉันใด ; แม้ภิกษุทั้งหลายเป็นอันมากย่อม
ปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ แต่ความลดหรือความเต็มขึ้นของ
นิพพานธาตุนั้น ก็ปรากฏว่าไม่พร่องหรือไม่เต็มด้วยภิกษุนั้น เพราะเหตุนั้น ฉันนั้น.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ ความลดหรือความเต็มของนิพพานชาติ ย่อมไม่
ปรากฏ เพราะเหตุนั้น ๆ; นั่น ก็เป็นความประหลาดมหัศจรรย์ข้อหนึ่ง ใน
ธรรมวินัยนี้ ไม่เคยมีมา.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมวินัยนี้มีรสเดียว คือวิมุตติรส เปรียบเหมือน
มหาสมุทรมีรสเดียว คือ รสเค็มฉะนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ข้อธรรมวินัยนี้มีรส
เดียว คือ วิมุตติรส นี้ก็เป็นธรรมอันน่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมวินัยนี้มีรัตนะมากมายหลายชนิด ในธรรมวินัย
นั้นมีรัตนะเหล่านี้ คือ สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕
พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘ เปรียบเหมือนมหาสมุทรมีรัตนะมากมาย
หลายชนิด ในมหาสมุทรนั้นมีรัตนะเหล่านี้ คือ แก้วมุกดา แก้วมณี แก้ว
ไพฑูรย์ สังข์ ศิลา แก้วประพาฬ เงิน ทอง ทับทิม แก้วมรกต ฉะนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ข้อที่ธรรมวินัยนี้มีรัตนะมากมายหลายชนิด ... อริยมรรคมี
องค์ ๘ นี้ก็เป็นธรรมอันน่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมวินัยนี้เป็นที่พำนักอาศัยสิ่งมีชีวิตใหญ่ๆ ใน
ธรรมวินัยนั้น มีสิ่งที่มีชีวิตใหญ่ๆ เหล่านี้ คือ พระโสดาบัน ท่านผู้ปฏิบัติ
เพื่อทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล พระสกทาคามี ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่ง
สกทาคามิผล พระอนาคามี ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล พระ-
*อรหันต์ ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อความเป็นพระอรหันต์ เปรียบเหมือนมหาสมุทรเป็นที่
พำนักอาศัยของสิ่งมีชีวิตใหญ่ๆ ในมหาสมุทรนั้นมีสิ่งที่มีชีวิตใหญ่ๆ เหล่านี้
คือ ปลาติมิ ปลาติมิงคละ ปลาติมิติมิงคละ อสูร นาค คนธรรพ์ แม้มีร่างกาย
ใหญ่ประมาณร้อยโยชน์ สองร้อยโยชน์ สามร้อยโยชน์ สี่ร้อยโยชน์
ห้าร้อยโยชน์ฉะนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ข้อที่ธรรมวินัยนี้เป็นที่พำนักอาศัยสิ่งที่
มีชีวิตใหญ่ๆ ... ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อความเป็นพระอรหันต์ นี้ก็เป็นธรรมอันน่า
อัศจรรย์ ไม่เคยมีมา
"ฝน คือ กิเลสย่อมรั่วรดสิ่งที่ปกปิด ย่อมไม่รั่วรดสิ่งที่เปิด
เพราะฉะนั้น พึงเปิดสิ่งที่ปกปิดไว้เสีย ฝน คือ กิเลส
ย่อมไม่รั่วรดสิ่งที่เปิดนั้นอย่างนี้ ฯ"
- อุ. ขุ. ๒๕/๑๑๘/๑๕๗
ดูกรสุภัททะ เราเมื่อมีวัย ๒๙ ปี บวชแล้ว ตามแสวงหาอยู่ว่าอะไรเป็นกุศล ๆ,
นับแต่บวชแล้วได้ ๕๑ ปี ความเป็นไปแห่งธรรมประเทศเครื่องตรัสรู้ มิได้มี
ภายนอกจากธรรมวินัยนี้ ฯ, แม้สมณะ (สมณะที่๑ คือ โสดาบัน) ก็มิได้มี.
ภายนอกจากธรรมวินัยนี้ แม้สมณะที่ ๒, ที่ ๓, หรือที่ ๔, ก็มิได้มี. วาทะ
เครื่องสอนของผู้อื่น ว่างจากสมณะของพวกอื่น ผู้รู้ทั่วถึง, สุภัททะ! ก็ภิกษุ:-
เหล่านี้พึงอยู่โดยชอบเถิด โลกก็จะไม่ว่างเปล่าจากพระอรหันต์ทั้งหลาย.
- มหา. ที. ๑๐/๑๓๘-๑๓๙/๑๗๕
ว่าด้วยสิ่งที่ไม่เต็มขึ้นหรือพร่องลง
ย่อมไหลรวมลงไปยังมหาสมุทร และน้ำฝนจากอากาศก็ตกลงสู่มหาสมุทร
แต่ความลดหรือความเต็มของมหาสมุทร
ย่อมไม่ปรากฏ (แก่ตา) ฉันใด ; แม้ภิกษุทั้งหลายเป็นอันมากย่อม
ปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ แต่ความลดหรือความเต็มขึ้นของ
นิพพานธาตุนั้น ก็ปรากฏว่าไม่พร่องหรือไม่เต็มด้วยภิกษุนั้น เพราะเหตุนั้น ฉันนั้น.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ ความลดหรือความเต็มของนิพพานชาติ ย่อมไม่
ปรากฏ เพราะเหตุนั้น ๆ; นั่น ก็เป็นความประหลาดมหัศจรรย์ข้อหนึ่ง ใน
ธรรมวินัยนี้ ไม่เคยมีมา.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมวินัยนี้มีรสเดียว คือวิมุตติรส เปรียบเหมือน
มหาสมุทรมีรสเดียว คือ รสเค็มฉะนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ข้อธรรมวินัยนี้มีรส
เดียว คือ วิมุตติรส นี้ก็เป็นธรรมอันน่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมวินัยนี้มีรัตนะมากมายหลายชนิด ในธรรมวินัย
นั้นมีรัตนะเหล่านี้ คือ สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕
พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘ เปรียบเหมือนมหาสมุทรมีรัตนะมากมาย
หลายชนิด ในมหาสมุทรนั้นมีรัตนะเหล่านี้ คือ แก้วมุกดา แก้วมณี แก้ว
ไพฑูรย์ สังข์ ศิลา แก้วประพาฬ เงิน ทอง ทับทิม แก้วมรกต ฉะนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ข้อที่ธรรมวินัยนี้มีรัตนะมากมายหลายชนิด ... อริยมรรคมี
องค์ ๘ นี้ก็เป็นธรรมอันน่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมวินัยนี้เป็นที่พำนักอาศัยสิ่งมีชีวิตใหญ่ๆ ใน
ธรรมวินัยนั้น มีสิ่งที่มีชีวิตใหญ่ๆ เหล่านี้ คือ พระโสดาบัน ท่านผู้ปฏิบัติ
เพื่อทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล พระสกทาคามี ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่ง
สกทาคามิผล พระอนาคามี ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล พระ-
*อรหันต์ ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อความเป็นพระอรหันต์ เปรียบเหมือนมหาสมุทรเป็นที่
พำนักอาศัยของสิ่งมีชีวิตใหญ่ๆ ในมหาสมุทรนั้นมีสิ่งที่มีชีวิตใหญ่ๆ เหล่านี้
คือ ปลาติมิ ปลาติมิงคละ ปลาติมิติมิงคละ อสูร นาค คนธรรพ์ แม้มีร่างกาย
ใหญ่ประมาณร้อยโยชน์ สองร้อยโยชน์ สามร้อยโยชน์ สี่ร้อยโยชน์
ห้าร้อยโยชน์ฉะนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ข้อที่ธรรมวินัยนี้เป็นที่พำนักอาศัยสิ่งที่
มีชีวิตใหญ่ๆ ... ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อความเป็นพระอรหันต์ นี้ก็เป็นธรรมอันน่า
อัศจรรย์ ไม่เคยมีมา
"ฝน คือ กิเลสย่อมรั่วรดสิ่งที่ปกปิด ย่อมไม่รั่วรดสิ่งที่เปิด
เพราะฉะนั้น พึงเปิดสิ่งที่ปกปิดไว้เสีย ฝน คือ กิเลส
ย่อมไม่รั่วรดสิ่งที่เปิดนั้นอย่างนี้ ฯ"
- อุ. ขุ. ๒๕/๑๑๘/๑๕๗
ดูกรสุภัททะ เราเมื่อมีวัย ๒๙ ปี บวชแล้ว ตามแสวงหาอยู่ว่าอะไรเป็นกุศล ๆ,
นับแต่บวชแล้วได้ ๕๑ ปี ความเป็นไปแห่งธรรมประเทศเครื่องตรัสรู้ มิได้มี
ภายนอกจากธรรมวินัยนี้ ฯ, แม้สมณะ (สมณะที่๑ คือ โสดาบัน) ก็มิได้มี.
ภายนอกจากธรรมวินัยนี้ แม้สมณะที่ ๒, ที่ ๓, หรือที่ ๔, ก็มิได้มี. วาทะ
เครื่องสอนของผู้อื่น ว่างจากสมณะของพวกอื่น ผู้รู้ทั่วถึง, สุภัททะ! ก็ภิกษุ:-
เหล่านี้พึงอยู่โดยชอบเถิด โลกก็จะไม่ว่างเปล่าจากพระอรหันต์ทั้งหลาย.
- มหา. ที. ๑๐/๑๓๘-๑๓๙/๑๗๕