ได้เวลาเยียวยาหัวใจ กับ4สาวใสๆใน "กิจกรรมอันแสนสุข" ในรั้วโรงเรียนกันต่อ
OP เปลี่ยนเป็น version2 แล้วนะเออ
ฉากหน้าโรงเรียนมีพี่บี้เดอะสตาร์เดินยั้วเยี้ยะ
ตรงฉากเพื่อนร่วมห้องก็.............
กลายเป็นแบบนี้
งั้นก็แสดงว่า...................
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใน OP ต่อๆไปก็ ฉาก เมกุ-เน่ เพื่อนของมี-คุง กับ น้องหมาก็จะต้องเน่าหนอนตามด้วยสินะ ตับช้าานนนนนนนนนนน
กิจวัตรประจำวันของทั้ง4
ทวินเทลคุรุมิ อิคิมาาสสสสส
งานของเธอคือตรวจตราบาริเคดให้สมบูรณ์ฺกับ...............
กำจัดซอมบี้ที่ป้วนเปี้ยนใกล้ๆแนวป้องกัน
มีแค่คนเดียว ชั้นจัดการได้แน่......... ไม่สิ.... ไม่ใช่ "คน" แล้วสินะ
เหลือบไปเห็นมือถือของซอมบี้สาวน้อยที่ทำตกไว้
วันวานยังหวานอยู่......
แต่วันนี้เน่าหนอน......
อาา ช่างเป็นสีหน้าสดใสที่ดูแล้วเยียวยาหัวใจจริงๆ
i can feel the healing!!!
อ๊าาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!!!
รี-ซังทำหน้าที่บัญชีกับแม่บ้าน มี-คุงเป็นจับฉ่าย ช่วยรี-ซังบ้าง เลี้ยงเด็ก(ยูกิ)บ้าง ผมว่าดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีนะที่ให้มีคุงมาอยู่ด้วยแล้ว เพราะรู้สึกว่ากลุ่มนี้ ตอนมีแค่3คนมันเหงาไปมากๆ พอมี-คุงมาอยู่ด้วยเหมือนมัน "ครบวงรจร" ดี
ส่วนยูกิ.......................
นั่งบ้าอยู่คนเดียว เอ้ย เรียนกับเมกุ-เน่ จนเย็น
งานภาคกลางคืน - scavenge supply โดยยอมจูนิเบียวกับยูกิว่าไปทดสอบความกล้ากันตอนกลางคืนเพื่อบังหน้า
ใครเล่นเคย this war of mine นี่จะอินมากๆ
ที่แรก ปล้นสะดมร้านสหกรณ์
แน่นอนครับ จิ๊กขนมมากินกันถ้วนหน้า
ที่สอง ห้องสมุด เพื่อไปเอาหนังสือมานั่งอ่านหรือเรียนกันเล่นๆ เพื่อไม่ให้จิตใจฟุ้งซ๋านกับซอมบี้มากนัก
ตรงนี้เป็นจุดที่ผมชอบประเด็นแนวซอมบี้ของเรื่องนี้ ซอมบี้เรื่องอื่นในกลุ่มตัวละครมักจะมีความสามารถต่างๆกันไป คนนั้นยิงปืนแม่น คนนี้วิ่งเร็ว คนโน้นเป็นายพรานล่าสัตว์ได้ ฯลฯ
แต่เรื่องนี้ไม่ ไม่มีใครเก่ง ไม่มีใครทนทาน ก็แค่4สาวน้อยโมเอะๆไม่สู้คน ไม่มีทักษะอะไร คุรุมิอย่างมากสุดก็เอาพลั่วไล่สับได้แต่ก็แค่นั้น อีกสามคนนี้แทบจะอาหารปลา เรื่องนี้ไม่ได้แสดงถึงประเด็นว่าตัวละครเก่งไหม? สู้ได้ไหม? แต่เรื่องนี้ชี้ไปที่ "ทนได้นานเท่าไหร่" ไอ้รอดในสถานการณ์ซฮมบี้น่ะใครก็รอดได้ถ้าดวงโอเค แต่จะรอดนานแค่ไหนก่อนที่ความเปล่าเปลี่ยวและทรมานจะเริ่ม "กัดกินวิญญาณ" เราจนเริ่มคลุ้มคลั่งและสูญความเป็นตัวของตัวเอง และเปลี่ยนตัวคน ให้กลายเป็นอะไรที่อันตรายยิ่งกว่าผีดิบซะอีก และนั่นแหละ มันอันตรายกว่าการที่ซอมบี้ "กัดกินเนื้อสดๆ" ของเราซะอีก
ฉะนั้นธีมเรื่องนี้จะไม่ได้อยู่ที่การฆ่าฟันเอาตัวรอดแบบ walking dead หรือ HOTD หรือซอมบี้เรื่องอื่นๆ แต่เป็นการมีความหวังในชีวิต การต่อสู้กับความมืดมนในใจ "ยิ้มไว้แล้วโลกนี้จะสดใส ฉะนั้นหาอะไรสนุกๆเล่นกันเถอะ" อ้อ แนะนำหนังเรื่อง life is beautiful เลย ธีมเดียวกันเป๊ะ
มังงะเรื่อง "studio gurashi" คนทำเมะเองก็อยากอยู่ในสภาพแบบนี้สินะ
สัมผัสได้ถึงพลังงาน.............
เมกุ-เน่ผู้คอยคุ้มครองหนูยูกิ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จะเห็นได้ว่ายูกิแม้จะฟั่นเฟือน แต่ก็ไม่ได้ถึงกับบ้าใบถือใบบัว สัญชาตญาณเอาชีวิตรอดของเธอยังทำงาน และยังคอยบอกจิตใต้สำนึกเธอถึงอันตราย โดยแฝงมาในภาพลวงตาของเมกุ-เน่ที่คอยชี้แนะยูกิให้ตอบโต้กับสถานการณ์ได้อย่างสมควร
จบบทเรียนภาคกลางคืนวันนี้ มีให้จิ้นวายพอกระสัยแบบน่ารักๆ ไม่ใช่แบบเกียวอานิเดี๋ยวนี้ ที่อยากได้ยอดขายจนเว่อร์เลยยัดฉากจิ้นมันเข้าไป เรื่องก็นอร์มอลแท้ๆ แต่คลุมถุงชนนางเอกสองคน จนเค้าแทบจะท้องกันอยู่แล้ว
สรุป - ใครที่หวังว่าตอนหลังจากการดัก เมะจะเปลี่ยนเพลงเปิดให้เข้ากับเรื่อง ก็ตกไปนะครับ แต่ภาพใน OP ต่างหาก ที่จะบีบตับมากขึ้นเรื่อยๆ 555
[SPOIL] Gakkou Gurashi - 2 "มาสนุกสนานในห้องสมุดกันเถอะ"
OP เปลี่ยนเป็น version2 แล้วนะเออ
ฉากหน้าโรงเรียนมีพี่บี้เดอะสตาร์เดินยั้วเยี้ยะ
ตรงฉากเพื่อนร่วมห้องก็.............
กลายเป็นแบบนี้
งั้นก็แสดงว่า...................
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กิจวัตรประจำวันของทั้ง4
ทวินเทลคุรุมิ อิคิมาาสสสสส
งานของเธอคือตรวจตราบาริเคดให้สมบูรณ์ฺกับ...............
กำจัดซอมบี้ที่ป้วนเปี้ยนใกล้ๆแนวป้องกัน
มีแค่คนเดียว ชั้นจัดการได้แน่......... ไม่สิ.... ไม่ใช่ "คน" แล้วสินะ
เหลือบไปเห็นมือถือของซอมบี้สาวน้อยที่ทำตกไว้
วันวานยังหวานอยู่......
แต่วันนี้เน่าหนอน......
อาา ช่างเป็นสีหน้าสดใสที่ดูแล้วเยียวยาหัวใจจริงๆ i can feel the healing!!!
อ๊าาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!!!
รี-ซังทำหน้าที่บัญชีกับแม่บ้าน มี-คุงเป็นจับฉ่าย ช่วยรี-ซังบ้าง เลี้ยงเด็ก(ยูกิ)บ้าง ผมว่าดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีนะที่ให้มีคุงมาอยู่ด้วยแล้ว เพราะรู้สึกว่ากลุ่มนี้ ตอนมีแค่3คนมันเหงาไปมากๆ พอมี-คุงมาอยู่ด้วยเหมือนมัน "ครบวงรจร" ดี
ส่วนยูกิ.......................
นั่งบ้าอยู่คนเดียวเอ้ย เรียนกับเมกุ-เน่ จนเย็นงานภาคกลางคืน - scavenge supply โดยยอมจูนิเบียวกับยูกิว่าไปทดสอบความกล้ากันตอนกลางคืนเพื่อบังหน้า
ใครเล่นเคย this war of mine นี่จะอินมากๆ
ที่แรก ปล้นสะดมร้านสหกรณ์
แน่นอนครับ จิ๊กขนมมากินกันถ้วนหน้า
ที่สอง ห้องสมุด เพื่อไปเอาหนังสือมานั่งอ่านหรือเรียนกันเล่นๆ เพื่อไม่ให้จิตใจฟุ้งซ๋านกับซอมบี้มากนัก
ตรงนี้เป็นจุดที่ผมชอบประเด็นแนวซอมบี้ของเรื่องนี้ ซอมบี้เรื่องอื่นในกลุ่มตัวละครมักจะมีความสามารถต่างๆกันไป คนนั้นยิงปืนแม่น คนนี้วิ่งเร็ว คนโน้นเป็นายพรานล่าสัตว์ได้ ฯลฯ
แต่เรื่องนี้ไม่ ไม่มีใครเก่ง ไม่มีใครทนทาน ก็แค่4สาวน้อยโมเอะๆไม่สู้คน ไม่มีทักษะอะไร คุรุมิอย่างมากสุดก็เอาพลั่วไล่สับได้แต่ก็แค่นั้น อีกสามคนนี้แทบจะอาหารปลา เรื่องนี้ไม่ได้แสดงถึงประเด็นว่าตัวละครเก่งไหม? สู้ได้ไหม? แต่เรื่องนี้ชี้ไปที่ "ทนได้นานเท่าไหร่" ไอ้รอดในสถานการณ์ซฮมบี้น่ะใครก็รอดได้ถ้าดวงโอเค แต่จะรอดนานแค่ไหนก่อนที่ความเปล่าเปลี่ยวและทรมานจะเริ่ม "กัดกินวิญญาณ" เราจนเริ่มคลุ้มคลั่งและสูญความเป็นตัวของตัวเอง และเปลี่ยนตัวคน ให้กลายเป็นอะไรที่อันตรายยิ่งกว่าผีดิบซะอีก และนั่นแหละ มันอันตรายกว่าการที่ซอมบี้ "กัดกินเนื้อสดๆ" ของเราซะอีก
ฉะนั้นธีมเรื่องนี้จะไม่ได้อยู่ที่การฆ่าฟันเอาตัวรอดแบบ walking dead หรือ HOTD หรือซอมบี้เรื่องอื่นๆ แต่เป็นการมีความหวังในชีวิต การต่อสู้กับความมืดมนในใจ "ยิ้มไว้แล้วโลกนี้จะสดใส ฉะนั้นหาอะไรสนุกๆเล่นกันเถอะ" อ้อ แนะนำหนังเรื่อง life is beautiful เลย ธีมเดียวกันเป๊ะ
มังงะเรื่อง "studio gurashi" คนทำเมะเองก็อยากอยู่ในสภาพแบบนี้สินะ
สัมผัสได้ถึงพลังงาน.............
เมกุ-เน่ผู้คอยคุ้มครองหนูยูกิ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จบบทเรียนภาคกลางคืนวันนี้ มีให้จิ้นวายพอกระสัยแบบน่ารักๆ ไม่ใช่แบบเกียวอานิเดี๋ยวนี้ ที่อยากได้ยอดขายจนเว่อร์เลยยัดฉากจิ้นมันเข้าไป เรื่องก็นอร์มอลแท้ๆ แต่คลุมถุงชนนางเอกสองคน จนเค้าแทบจะท้องกันอยู่แล้ว
สรุป - ใครที่หวังว่าตอนหลังจากการดัก เมะจะเปลี่ยนเพลงเปิดให้เข้ากับเรื่อง ก็ตกไปนะครับ แต่ภาพใน OP ต่างหาก ที่จะบีบตับมากขึ้นเรื่อยๆ 555