[CR] เนปาลในความทรงจำ (Namaste Nepal: Jomsom Poonhill Trekking and Nepal world heritage) part 7

ต่อกันรัวๆกับวันที่ 7 ครับ
ย้อนรอยกระทู้เก่า
part 1 http://ppantip.com/topic/33922935 (ฺBKK-Kathmandu-Pokhara)
part 2 http://ppantip.com/topic/33923061 (Pokhara-Jomsom)
part 3 http://ppantip.com/topic/33923220 (Jomsom-Kalopani)
part 4 http://ppantip.com/topic/33926411 (Kalopani-Tatopani)
part 5 http://ppantip.com/topic/33926789 (Tatopani-Jitre)
part 6 http://ppantip.com/topic/33927025 (๋Jitre-Galopani-Poonhill-Hile)
part 7 http://ppantip.com/topic/33927145 (Hile-Pokhara)

good morning Hile
อรุณสวัสดิ์ฮิลเล วันที่ 7 ในประเทศเนปาล และวันสุดท้ายของการเทร็คกิ้ง จากเมื่อวานที่เราขึ้นยอดปุนฮิล และช่วงบ่ายก็เดินลงมายังหมู่บ้านต้นทางเพื่อกลับโพคารา เราทำเวลาได้ดี และเดินเลยหมู่บ้านเป้าหมายมาอีกหนึ่งหมู่บ้าน และตามแพลนเดิมวันนี้เราต้องเดินลงไปให้ถึงหมู่บ้านนายาปุล ซึ่งเป็นที่ที่เรานัดรถจี๊ปให้มารับเรากลับไปยังโพคารา แต่เนื่องจากปวดขาสะสมกันมาเริ่มเดินไม่ไหวแล้ว เราจึงให้รถจี๊ปขึ้นมารับที่หมู่บ้านนี้แทน (ซึ่งมีราชคอยติดต่อประสานกับคุณบิคาชให้) ซึ่งก็เป็นเรื่องโชคดีที่วันนี้ไม่ต้องเดิน อิอิอิ


refresh
เนื่องจากว่าวันนี้เราจะมีราชรถมารับถึงปากทางหมู่บ้าน ก็เลยถือโอกาสนอนตื่นสายกว่าทุกๆวัน นักท่องเที่ยวห้องอื่นๆเก็บข้าวเก็บของออกไปเดินกันหมดแล้วแต่พวกเราเพิ่งตื่นนอน ออกมาเดินเล่นชิลๆกันอยู่เลย ซึ่งเรานัดรถไว้ประมาณ 10 โมง 8 โมงเราก็ตาสว่างกันแล้วเพราะเมื่อคืนก็นอนเร็ว ตื่นมามองออกไปนอนหน้าต่าง อากาศสดชื่น แต่ไม่มียอดภูเขาหิมะให้เราได้ชื่นชนเหมือนเช่นเช้าวันก่อนๆ แต่ก็เป็นวันที่เราได้ทำตัวสบายๆไม่รีบร้อน ล้างหน้าแปรงฟัน สั่งข้าวไว้ แล้วก็ออกไปเดินเล่นรอบหมู่บ้านซะหน่อย


Cabbage
ตั้งแต่เดินมาจากหมู่บ้านตาโตปานิ ก็จะได้เห็นหมู่บ้านต่างๆเริ่มทำเกษตรกรรมกันมากขึ้น ทั้งปลูกข้าว ปลูกผัก ด้วยอากาศที่หนาว แถมดินก็สมบูณ์ กะหล่ำปลีที่ปลูกจึงหัวใหญ่ๆ เหมือนกับแถวๆภาคเหนือของประเทศไทย แต่ดูที่นี่น่าจะปลอดสารพิษมากกว่าเพราะตั้งแต่ขึ้นมายังไม่เห็นอะไรที่เป็นยาฆ่าแมลงเลย เพราะเค้าก็ทำกินเองในครัวเรือน ไม่ได้ทำเพื่อการค้าขายแบบในประเทศไทย จึงไม่ต้องเร่งผลผลิต เกิดจากธรรมชาติล้วนๆ


Paddy
นาข้าวขั้นบันได มีอยู่ตลอดทุกหมู่บ้านที่เดินผ่านมา แต่เช้านี้ เดินออกมาหน้าที่พักก็เจอเลย เป็นขั้นบันไดเรียงอยู่ตรงหน้า สวยงามเป็นระเบียบมาก


harvest
ชาวบ้านเริ่มออกมาทำงาน บางส่วนก็ดูแลที่พักหลังจากนักท่องเที่ยวจากไป บางส่วนก็ออกมาเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร ในภาพก็เป็นหญิงชาวบ้านกำลังเก็บมันฝรั่ง แต่เป็นมันฝรั่งที่ลูกเล็กมาก (ไม่รู้ใช่รึป่าวนะ แต่ลักษณะจะเป็นแบบนั้น) ดูพอเพียงสมกับเป็นมันฝรั่งเนปาลจริงๆ


good
ที่พักเราวันนี้มีเด็กๆมาวิ่งเล่นอยู่สองสามคน วันนี้เป็นวันสุดท้ายของพวกเราแล้วแต่ขนมเสบียงเรายังเหลืออีกบาน ก็เลยเอาออกมาแจกเด็กๆที่วิ่งเล่นอยู่แถวนั้น ตอนแรกก็เขินๆ แต่พอได้ขนมแล้วก็คุ้นเคยกันทันที เข้ามาเล่นด้วย ไม่กลัวกันเลย ก็เลยเล่นด้วยกัน ถึงจะคุยกันคนละภาษาแต่ก็สนุกด้วยกันได้ ผู้ใหญ่ชาวไทยหน้าตาใจดี ก็สอนเด็กๆเนปาลให้รู้จักกับคำว่าอร่อย goodๆ พร้อมกับชูนิ้วโป้งขึ้นมา เด็กๆก็ว่าง่ายและทำตาม น่ารักจุงเบย


Peekaboo
จ๊ะเอ๋ เด็กๆไม่ว่าจะชาติไหนในโลกก็มีความน่ารักสดใสอยู่เสมอ ด้วยความไร้เดียงสาและใจที่บริสุทธิ์ จนบางครั้งผู้ใหญ่อย่างเราก็อดอิจฉาและอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งไม่ได้


bye trekking trail
ลาก่อนเส้นทางเทร็คกิ้ง สิบโมงแล้วเราเก็บข้าวเก็บของออกจากที่พัก เพื่อออกมายังหน้าหมู่บ้าน ซึ่งเป็นจุดที่จอดรถ(รถเข้าในหมู่บ้านไม่ได้) ซึ่งก็มีรถจิ๊บจอดรอเราอยู่ แต่จริงๆรถของเรารออยู่ข้างล่าง ต้องเดินไปอีกซักพัก ส่วนรถคันนี้มารอรับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี เกิดความเข้าใจผิดกันนิดหน่อย เนื่องจากเค้าคิดว่าเราเป็นเกาหลี แต่ก็โชคดี ได้นั่งรถฟรี ไม่ต้องเดิน


Pokhara again
นั่งรถลงมาประมาณ 3 ชั่วโมง เราก็เข้ามาถึงตัวเมืองโพคาราเรียบร้อย วันนี้เราเหลือเวลาเดินเที่ยวอีกครึ่งวัน อันดับแรกเข้าที่พักก่อน ซึ่งที่พักเราก็จองไว้ตั้งแต่วันแรกที่เรามาถึง ซึ่งคุณบิคาชก็รอเราอยู่ที่นี่เพื่อรับค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ แล้วก็ร่ำลากับลูกหาบทั้งสองคนของเรารู้สึกใจหายเหมือนกันนะ ถึงจะสื่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็รู้สึกผูกพัน ดราม่ากันเสร็จเราก็เข้าห้อง เคลียร์ตัวเองเสร็จเรียบร้อย รอแดดร่มๆเราก็ออกมาเดินชมเมืองโพคารากัน ในเมืองก็ดูไม่วุ่นวายเท่ากาฎมานฑุ นักท่องเที่ยวเยอะ ทั้งต่างชาติและท้องถิ่น นอกจากจะเดินเที่ยวแล้วเรายังมีเป้าหมายที่จะต้องหารถเพื่อวิ่งเข้ากาฎมานฑุในวันพรุ่งนี้


walking street
เดินเรื่อยๆในตลาดมาเราก็ตัดเข้าสู่ทางเดินริมทะเลสาบเฟวา(phewa lake) ที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจประจำเมือง เส้นทางปูด้วยหินอย่างดี แต่ก็ยังเดินไม่ชิน เพราะที่ผ่านมาเดินทางขรุขระ ใช้ไม้เท้าตลอด พอมาเดินแบบนี้แล้วรู้สึกมือมันว่างๆ ไม่รู้จะถืออะไรดี ริมทะเลสาบก็คนเยอะดี บรรยากาศดี เดินเพลิน


phewa lake
ทะเลสาบเฟวา ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา มีเรือให้เช่าเพื่อนั่งชมวิวทะเลสาบ หรือจะข้ามฟากไปวัดกลางน้ำก็ได้


juices
เดินมาเรื่อยๆชักคอแห้ง เห็นร้านน้ำปั่นตั้งเรียงรายอยู่ริมทะเลสาบ ลองชิมดูซักหน่อย ดูผลไม้สดๆดี ยืนเลือกดูอยู่หน้าร้าน พ่อค้าก็ออกมาเสนอการขายเลย เข้าถึงลูกค้ามาก เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินจึงขอทดลองสั่งมาชิมก่อน 1 แก้ว พ่อค้าเชิญเราไปนั่งในร้าน ซึ่งมืดๆ และมีม้านั่งยาวอยู่สองตัว จากนั้นก็โชว์กรรมวิธีการผลิตให้ดูสดๆ เราสั่งน้ำส้มผสมมะม่วงไป พ่อค้าก็จัดเลย ปอกมะม่วงใส่ที่คั้น ตามด้วยคั้นน้ำส้มใส่แก้ว กลั้วมือกับถังน้ำข้างหลัง เช็ดมือกับผ้าที่ผ่านอะไรมาบ้างก็ไม่รู้ แล้ว "ล้วงมือลงไปขยำทุกอย่างให้เข้ากัน" แล้วเทใส่แก้วให้เรา (ให้กูนั่งหน้าร้านแล้วแสร้งทำเป็นไม่เห็นอะไรเลยยังจะดีซะกว่า) หลังจากที่รับแก้วมา ก็พยายามกลืนคนละอึกสองอึก พ่อค้ายังมีหน้ามาถามว่าอร่อยไหม คะยั้นคะยอให้เราสั่งอีกแล้วสองแก้ว ถามว่าอร่อยมั้ย คิดว่าถ้าไม่ได้เห็นว่าทำยังไงคงจะรู้สึกอร่อยกว่านี้ ก็พอกินได้ล่ะนะ น้ำจากผลไม้สดๆไม่ผสมน้ำตาล ทุกอย่างสดมากจนน่ากลัว รีบจ่ายตังค์แล้วบ้ายบายออกมาทันที


Snake charmer
จากภาพติดตาในการ์ตูนสมัยเด็กๆ วันนี้ได้มาเห็นของจริงแล้ว แขกเป่าปี่เรียกงูให้ชูคอออกมาจากตะกร้า ในตะกร้ามีงูอยู่จริงๆ พอเราทำท่าจะถ่ายรูปดันปิดซะงั้น แล้วทำท่าจะขอตังค์ เราเลยรีบเดินออกมาไกลๆ แล้วแอบถ่าย เลยได้มาแค่นี้


เดินย้อนกลับมาในตลาดที่เป็นเส้นทางเลียบทะเลสาบ เพื่อหารถวิ่งเข้ากาฎมานฑุพรุ่งนี้ ก็จะมีสวนและจุดลงเรือเพื่อล่องทะเลสาบอยู่หลายๆจุดรอบๆ แวะถ่ายรูปสีเขียวๆของภูเขาและทะเลสาบ ช่างเป็นที่ที่สบายตา แต่แค่กลับหลังหันก็จะได้เห็นความวุ่นวายในตัวเมือง ช่างคอนทราสต์อะไรเช่นนี้


Sunset
พระอาทิตย์ตกแล้ว จบไปอีกหนึ่งวันสำหรับการเดินทาง พรุ่งนี้เราจะเข้าไปเที่ยวชมศิลปะวัฒนธรรมของเมืองมรดกโลก กาฎมานฑุ กันบ้าง โดยพรุ่งนี้เราต้องตื่นกันแต่เช้าเพื่อใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงนั่งรถแท๊กซี่ที่เพิ่งต่อรองราคากันได้เมื่อกี้เข้ากาฎมาณฑุ วันนี้ก็เดินเล่นลั้นลา และกลับที่พักนอน และการท่องเที่ยวเทร็คกิ้งของเราก็สิ้นสุดลงพร้อมกับตะวันตกดิน


สิ้นสุดกับเส้นทางเทร็คกิ้ง และเมืองโพคารา พรุ่งนี้เราจะไปตระเวนกันต่อกับเมืองหลวงที่ได้ขึ้นเป็นมรดกโลกอย่างกาฐมานฎุ
ชื่อสินค้า:   Nepal, trekking, เนปาล
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่