เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้ว ที่โทรทัศน์ไทย ให้ความสุข ความบันเทิง ต่อหน้าผู้ชมเรื่อยมา กว่าพันกว่าหมื่นรายการ กว่าหลายล้านคนที่แวะเวียนมาออกทีวี ทำให้เราได้รู้ถึงพัฒนาการของวงการโทรทัศน์ไทยมากมายหลายอย่าง จากอนาล็อกมาสู่ดิจิตอล ที่ทีวีดิจิตอลช่องต่างๆ นับยี่สิบกว่าช่องแห่กันแย่งชิงเรตติ้ง เรียกว่าในปี 2558 ถือเป็นอีกปีทองของวงการโทรทัศน์ไทยที่พบกับความเปลี่ยนแปลงและการขยายตัวของธุรกิจโทรทัศน์อย่างแท้จริง
แต่ถ้าหากเราย้อนหลังไปเมื่อปี 2534 เรียกว่าปีนั้นถือเป็นความตื่นตัวครั้งยิ่งใหญ่ของวงการโทรทัศน์ หลังจากอัดอั้นอยู่นานนับหลายปี เมื่อมีนโยบายเสรี "ทีวี 24 ชั่วโมง" ทำให้สถานีฟรีทีวีทั้ง 5 ช่องในขณะนั้น (3, 5, 7, 9 และ 11) กำหนดขยายเวลาเปิด-ปิดหรือเพิ่มเวลาการออกอากาศของทางสถานีตามความเหมาะสม ไม่ใช่เปิดตอนเย็น-เลิกแค่เที่ยงคืนดังแต่ก่อนแล้ว โดยเปิดโอกาสทองให้ผู้ผลิตรายการและสตูดิโอต่างๆ อีกหลายรายเข้ามาทำรายการในช่วงเวลาที่ถูกเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว และเวลาถัดจากนั้นไม่นานนักก็มีการยกเลิก กบว. ที่ตรวจพิจารณาเนื้อหาของรายการและมีอำนาจควบคุมการเซ็นเซอร์ไป โดยให้คณะกรรมการของสถานีโทรทัศน์แต่ละแห่งพิจารณากันเอง
สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ถือเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกที่รับสนองนโยบายดังกล่าว โดยเพิ่มเวลาออกอากาศในช่วงเช้าด้วยรายการข่าวสารและบันเทิง และเพิ่มรายการในช่วงหลังเที่ยงคืนตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2534 ด้วยการนำภาพยนตร์จากต่างประเทศ เทปรายการเก่าๆ ของทางสถานีมาฉายอีกครั้ง และรายการมิวสิกวิดีโอของแต่ละค่ายเพลงในยุคที่ตลาดเพลงไทยเฟื่องฟูอย่างมาก จนสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ หันมาใส่ใจตามนโยบายด้วยการเพิ่มเวลาออกอากาศตามกันมา และมีบางช่องสร้างความแตกต่างด้วยการนำละครซิทคอมฝีมือคนไทยมาฉายในช่วงหลังเที่ยงคืนด้วย จนกระทั่งในปลายปี 2538 ช่อง 5 จึงเปิดสถานีออกอากาศได้ตลอด 24 ชั่วโมงเป็นแห่งแรกของไทย
ไม่ว่ารายการในช่วงดึกเข้าวันใหม่นั้นจะดูดีอย่างไร แต่ปัญหาที่พบคือ โฆษณาจากเอเยนซี่ต่างๆ ไม่เข้ามา ทางสถานีจึงใช้เวลาในช่วงพักเบรคเป็นสปอตแนะนำรายการของทางสถานี หรือสปอตโปรโมทเทปเพลงของค่ายเพลงที่มาเช่าเวลาเสนอรายการมิวสิกวิดีโอนั้นๆ แม้ว่าโฆษณาจะเข้าน้อย แต่ทว่าบางช่วงเป็นช่วงเวลาของคนอดหลับอดนอนที่มีค่าไม่แพ้ช่วงไพรม์ไทม์ โดยเฉพาะเมื่อมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬานัดสำคัญ เรตติ้งย่อมมากขึ้น โฆษณาเข้าได้เต็มเมื่อนั้น
ทีวี 24 ชม. จึงเป็นไปและเป็นมาจนถึงทุกวันนี้ ...24 ปีแล้วที่เรามองเห็นผ่านจอแก้วที่เปิดกว้างได้ทุกชั่วโมงทุกวินาที ไม่มีหยุดเว้น สวัสดี.
60 ปี ทีวีไทย - 24 ปี ทีวี 24 ชม. (มาทวนความหลังกัน)
เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้ว ที่โทรทัศน์ไทย ให้ความสุข ความบันเทิง ต่อหน้าผู้ชมเรื่อยมา กว่าพันกว่าหมื่นรายการ กว่าหลายล้านคนที่แวะเวียนมาออกทีวี ทำให้เราได้รู้ถึงพัฒนาการของวงการโทรทัศน์ไทยมากมายหลายอย่าง จากอนาล็อกมาสู่ดิจิตอล ที่ทีวีดิจิตอลช่องต่างๆ นับยี่สิบกว่าช่องแห่กันแย่งชิงเรตติ้ง เรียกว่าในปี 2558 ถือเป็นอีกปีทองของวงการโทรทัศน์ไทยที่พบกับความเปลี่ยนแปลงและการขยายตัวของธุรกิจโทรทัศน์อย่างแท้จริง
แต่ถ้าหากเราย้อนหลังไปเมื่อปี 2534 เรียกว่าปีนั้นถือเป็นความตื่นตัวครั้งยิ่งใหญ่ของวงการโทรทัศน์ หลังจากอัดอั้นอยู่นานนับหลายปี เมื่อมีนโยบายเสรี "ทีวี 24 ชั่วโมง" ทำให้สถานีฟรีทีวีทั้ง 5 ช่องในขณะนั้น (3, 5, 7, 9 และ 11) กำหนดขยายเวลาเปิด-ปิดหรือเพิ่มเวลาการออกอากาศของทางสถานีตามความเหมาะสม ไม่ใช่เปิดตอนเย็น-เลิกแค่เที่ยงคืนดังแต่ก่อนแล้ว โดยเปิดโอกาสทองให้ผู้ผลิตรายการและสตูดิโอต่างๆ อีกหลายรายเข้ามาทำรายการในช่วงเวลาที่ถูกเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว และเวลาถัดจากนั้นไม่นานนักก็มีการยกเลิก กบว. ที่ตรวจพิจารณาเนื้อหาของรายการและมีอำนาจควบคุมการเซ็นเซอร์ไป โดยให้คณะกรรมการของสถานีโทรทัศน์แต่ละแห่งพิจารณากันเอง
สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ถือเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกที่รับสนองนโยบายดังกล่าว โดยเพิ่มเวลาออกอากาศในช่วงเช้าด้วยรายการข่าวสารและบันเทิง และเพิ่มรายการในช่วงหลังเที่ยงคืนตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2534 ด้วยการนำภาพยนตร์จากต่างประเทศ เทปรายการเก่าๆ ของทางสถานีมาฉายอีกครั้ง และรายการมิวสิกวิดีโอของแต่ละค่ายเพลงในยุคที่ตลาดเพลงไทยเฟื่องฟูอย่างมาก จนสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ หันมาใส่ใจตามนโยบายด้วยการเพิ่มเวลาออกอากาศตามกันมา และมีบางช่องสร้างความแตกต่างด้วยการนำละครซิทคอมฝีมือคนไทยมาฉายในช่วงหลังเที่ยงคืนด้วย จนกระทั่งในปลายปี 2538 ช่อง 5 จึงเปิดสถานีออกอากาศได้ตลอด 24 ชั่วโมงเป็นแห่งแรกของไทย
ไม่ว่ารายการในช่วงดึกเข้าวันใหม่นั้นจะดูดีอย่างไร แต่ปัญหาที่พบคือ โฆษณาจากเอเยนซี่ต่างๆ ไม่เข้ามา ทางสถานีจึงใช้เวลาในช่วงพักเบรคเป็นสปอตแนะนำรายการของทางสถานี หรือสปอตโปรโมทเทปเพลงของค่ายเพลงที่มาเช่าเวลาเสนอรายการมิวสิกวิดีโอนั้นๆ แม้ว่าโฆษณาจะเข้าน้อย แต่ทว่าบางช่วงเป็นช่วงเวลาของคนอดหลับอดนอนที่มีค่าไม่แพ้ช่วงไพรม์ไทม์ โดยเฉพาะเมื่อมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬานัดสำคัญ เรตติ้งย่อมมากขึ้น โฆษณาเข้าได้เต็มเมื่อนั้น
ทีวี 24 ชม. จึงเป็นไปและเป็นมาจนถึงทุกวันนี้ ...24 ปีแล้วที่เรามองเห็นผ่านจอแก้วที่เปิดกว้างได้ทุกชั่วโมงทุกวินาที ไม่มีหยุดเว้น สวัสดี.