นายวิโรจน์ ภูมิศิริสวัสดิ์ ทนายความของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญาเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายนวการ ขอนศรี และนายประเสริฐ ด้วงทิพย์ 2 แนวร่วม กปปส. เป็นจำเลยในข้อหาขัดขวางผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการลงคะแนน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง กรณียกพวกไปปิดล้อมสำนักงานเขตดินแดงเพื่อขัดขวางการเลือกตั้ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557
นายวิโรจน์กล่าวว่า ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยว่าการชุมนุมของ กปปส.เป็นการชุมนุมโดยสิทธิเสรีภาพโดยชอบด้วยกฎหมาย เว้นแต่จะมีการข่มขู่ทำร้ายเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตและเจ้าหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง ในข้อเท็จจริงจำเลยพร้อมพวก 30-50 คน ไม่ได้ข่มขู่หรือทำร้ายเจ้าหน้าที่ จึงเป็นการชุมนุมตามสิทธิรัฐธรรมนูญ ส่วนที่จำเลยขัดขวางการเลือกตั้งนั้น ศาลเห็นว่าหากจะจัดการเลือกตั้งจริงๆ เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการให้มีการเลือกตั้งต่อไปได้ จึงพิพากษายกฟ้อง
นายวิโรจน์กล่าวว่า เชื่อว่าอัยการโจทก์น่าจะยื่นอุทธรณ์ เพราะคดีขัดขวางการเลือกตั้งมีอยู่ที่ศาลอาญาอีกเกือบ 10 สำนวน หากอัยการไม่อุทธรณ์อาจกลายเป็นบรรทัดฐานต่อคดีอื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตามจะนำแนวทางคำพิพากษาคดีนี้ไปนำสืบประกอบคดีที่มีการกล่าวหาการกระทำลักษณะเดียวกัน รวมถึงคดีฐานกบฏด้วย โดยคดีที่กล่าวหาแกนนำ กปปส.ในความผิดฐานกบฏนั้นมีการกล่าวหาพฤติการณ์หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการขัดขวางการเลือกตั้งด้วย อาจนำเอาแนวทางคดีนี้ไปสืบประกอบคดีเช่นกัน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1436585416
ไม่เห็นต้องลุ้นเลย ชนะใสๆ
ใช้ยกฟ้องขวางเลือกตั้ง สู้อีก10คดี ทนาย "กปปส." ลุ้นชนะรวด!
นายวิโรจน์กล่าวว่า ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยว่าการชุมนุมของ กปปส.เป็นการชุมนุมโดยสิทธิเสรีภาพโดยชอบด้วยกฎหมาย เว้นแต่จะมีการข่มขู่ทำร้ายเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตและเจ้าหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง ในข้อเท็จจริงจำเลยพร้อมพวก 30-50 คน ไม่ได้ข่มขู่หรือทำร้ายเจ้าหน้าที่ จึงเป็นการชุมนุมตามสิทธิรัฐธรรมนูญ ส่วนที่จำเลยขัดขวางการเลือกตั้งนั้น ศาลเห็นว่าหากจะจัดการเลือกตั้งจริงๆ เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการให้มีการเลือกตั้งต่อไปได้ จึงพิพากษายกฟ้อง
นายวิโรจน์กล่าวว่า เชื่อว่าอัยการโจทก์น่าจะยื่นอุทธรณ์ เพราะคดีขัดขวางการเลือกตั้งมีอยู่ที่ศาลอาญาอีกเกือบ 10 สำนวน หากอัยการไม่อุทธรณ์อาจกลายเป็นบรรทัดฐานต่อคดีอื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตามจะนำแนวทางคำพิพากษาคดีนี้ไปนำสืบประกอบคดีที่มีการกล่าวหาการกระทำลักษณะเดียวกัน รวมถึงคดีฐานกบฏด้วย โดยคดีที่กล่าวหาแกนนำ กปปส.ในความผิดฐานกบฏนั้นมีการกล่าวหาพฤติการณ์หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการขัดขวางการเลือกตั้งด้วย อาจนำเอาแนวทางคดีนี้ไปสืบประกอบคดีเช่นกัน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1436585416
ไม่เห็นต้องลุ้นเลย ชนะใสๆ