มันเริ่มจากความอยากมีห้องทำงานส่วนตัว...กลางสวนด้วยยิ่งดีเลย
ส่วนแบบห้องทำงาน เห็นตาม facebook แล้วยิ่งกระตุ้นความอยากได้ครับ อย่างเช่นพวกนี้
แล้วก็มาเจอหลังนี้ ผมเลยใช้เป็นตัวแบบที่ผมต้องการ ค่าใชจ่ายต่อรองกับผู้รับเหมาในราคา 1.5 แสน
และขอหลังคาแบบที่เอาลมผ่านได้
(ราคานี้ ไม่รวมอุปกรณ์ในห้องน้ำ / อุปกรณ์ไฟ)
โดยคร่าวๆ ของโครงสร้างที่คุยกับผู้รับเหมา คือ
- พื้นที่ห้องประมาณ 3x5 ตร.ม. วางแปลนให้ด้านใต้ เป็นด้านที่ใส่หน้าต่างกว้างๆ เพราะเป็นด้านลมพัดเข้าครับ
- ฐาน ไม่ตอกเสาเข็ม..แต่วางเสาเข็ม แล้ววางโครงสร้างเหล็กตัวซีบนเสาเข็ม
- ผนัง..ขอเป็นผนังที่บุโฟมกันความร้อน
- หลังคาเมทัลชีท บุโฟมกันความร้อน
- ผนังด้านนอก - พื้นชานด้านนอก ใช้ไม้เชอร์ร่า
- พื้นห้องเป็นวีว่าบอร์ดและ ใช้กระเบื้องยางลายไม้
(ตอนหลังมาอ่านรีวิวของเพื่อน บอกกันว่า หากใช้กระเบื้องยางแบบบ้าง เวลาเดินแล้วมันจะรู้สึกไม่มั่นคง
ซึ่งผู้รับเหมาบอกว่า วางโครงตัวซี ให้ถี่หน่อย ก็ช่วยได้)
เริ่มจากงานฐานครับ วางเสาเข็ม แนวนอน 55555 แล้วขึ้นเหล็กตัวซี ครับ จะมี งงๆ กันหน่อย ก็โครงเหล็กส่วนหลังคา
ที่ผมอยากได้แบบมีช่องให้ลมผ่านนี่แหละครับ
พอโครงเสร็จ ก็ปูพื้น และ เริ่มทำหลังคาครับ ในส่วนนี้ช่างทำไม่กี่วันก็เสร็จครับ
แล้วก็มางานผนังด้านนอก..ช่วงนี้ คือ ฝุ่นเต็มบ้านครับ เพราะต้องตัดไม้ ลบมุม ลบเหลี่ยม
ส่วนผนังด้านใน และฝ้าเพดาน ...อย่างที่บอกครับ ใช้ผนังเบา ที่อีกด้านบุโฟม 2 นิ้ว
ซึ่งใช้เวลารอ ผนังอยู่พอสมควรเลยครับ เห็นผู้รับเหมาว่าต้องสั่งทำ
ลักษณะผนังเป็นแบบนี้ครับ
ทีนี่ มีความลำบากตอนทำครับ เพราะต้องตัดผนังเป็นแผ่นเล็กๆ ให้ได้ขนาดเท่ากับช่องๆ ตามโครงเหล็กด้านข้างทั้ง 4 ที่ขึ้นรูปไว้
ไม่สามารถแปะเป็นแผ่นใหญ่ๆ ได้....ช่างรำพึงเลยครับ ว่าไม่น่าเลย น่าจะคิดล่วงหน้าว่าต้องมาเจองานยากๆ แบบนี้
แต่ก็เสร็จลุล่วงไปได้ ครับ จากนั้น ก็โป้วๆๆๆ ขัดๆๆๆๆ ครับ
จากนั้นก็ลงสีรองพื้นด้านใน และด้านนอก
ระหว่างลงสีรองพื้น ก็ให้ช่างไฟมาทำครับ ผมอยากได้แบบเดินลอย ซึ่งช่างของผู้รับเหมาทำไม่เป็น งานนี้ต้องมีจ้างต่างหากครับ
มีเสียเงินเพิ่มเติมในส่วนนี้ประมาณ 3000 บาท (คนละครึ่งกับผู้รับเหมา) ไม่รวมค่าของครับ แต่ผมก็พอใจครับ เพราะอยากได้แบบที่ต้องการ
ผมลืมเล่าเรื่องโต๊ะกลางห้องครับ.....โต๊ะในฝันก็ประมาณนี้ครับ แต่ราคาเกินเอื้อมมากๆ ตัวละ 20,000 / 30,000 บาท ขึ้นไปทั้งนั้นครับ
เลยต้องไปเอาโต๊ะเก่าของพ่อ เป็นโต๊ะไม้สักผ่านการจมน้ำตอนน้ำท่วมปี 54 มาแล้ว ความพิเศษของมัน คือ สามารถชักออกมา
เพื่อขยายพื้นที่โต๊ะได้..เทพ มากๆ ครับ ผมพยายามหาร้านซ่อมโต๊ะตัวนี้ ค่าซ่อมก็ 7,000 บาทขึ้นไปทั้งนั้น
เลยตกลงขอให้ช่างที่มาทำห้อง ช่วยทำให้มันพอดูได้ และใช้ได้ ...เสียเพิ่มให้เขาไป 3,000 บาทครับ
ได้ตัวนี้มาประดับห้องครับ
กลับมาที่การปูพื้นครับ ผมเป็นคนติดต่อร้าน และเลือกลายกระเบื้องยาง เพราะผมต้องการกระเบื้องยางที่มันหนาๆ หน่อย
ต่อรองกับผู้รับเหมา ให้เขาจ่ายเพิ่มในส่วนนี้ให้นะครับ เพราะเขาคิดราคามาประมาณเป็น กระเบื้องยางธรรมดาๆ ..เขาก็ตกลง
จ่ายค่ากระเบื้องยางให้ไป 7000 บาท ครับ ที่แพง เพราะพื้นที่น้อย เขาคิดแบบเหมา
เสร็จากปูกระเบื้องยางก็ไปซื้อ แอร์มาติดครับ...ติดแอร์นี่ เสียอยู่นิดเดียว คือ น้องช่างแอร์ เขารีบเจาะผนังเพื่อ
เอาท่อแอร์ออกไว้ที่ด้านหลังแอร์เพื่อไม่ให้เห็นรูเจาะ ซึ่งต้องเดินท่อออกมาที่ผนังด้านนอก..ผมมาคิดดูอีกที หลังจากที่เขาเจาะ คือ
เราน่าจะเดินท่อแอร์ลอยในห้อง กะว่าโชว์ท่อครับ และเอาท่อแอร์ไปออกบริเวณคอลย์ร้อนเลย จะได้ไม่เห็นท่อแอร์ที่ผนังด้านข้างด้านนอก
แอร์ที่เลือกเป็นยี้ห้อไดกิ้นตัวเล็ก รุ่นใหม่ครับ เย็นเร็วมาก และประหยัดไฟมากเช่นกัน
(ซื้อแอร์ที่ โฮมเวิร์ค ได้คูปองซื้อของ 1000 บาท + บัตรเงินสด 7-11 อีก 1000 บาท)
สีปูนเปือย..ไม่พลาดครับ ต้องลอง ทำไปได้แค่ 2 ข้างครับ 5555 ผมประเมินว่าหากทาหมดห้อง มันจะมืดเกินไป ครับ
เลยวางแผนจะทาเพิ่มเฉพาะด้านล่างของผนังที่เหลือครับ
แล้วก็ซื้อชั้น ซื้อตู้หนังสือบิลลี่จาก IKEA มาใส่ครับ..เข้าท่าเหมือนกัน
หมดแล้วครับ ห้องทำงานกลางสวนของผม....ขอบคุณครับที่ติดตาม
สิ่งที่จะหามาเพิ่ม คือ ม้านั่งยาวๆ ครับ ตัวนี้ ยาว 180 ซม. กว้าง 40 ซม. สูง 45 ซม. (8000 บาท) กับ สติ๊กเกอร์ตัวอักษร (250 บาท) แบบนี้ครับ
สร้างห้องทำงาน..กลางสวน..
ส่วนแบบห้องทำงาน เห็นตาม facebook แล้วยิ่งกระตุ้นความอยากได้ครับ อย่างเช่นพวกนี้
แล้วก็มาเจอหลังนี้ ผมเลยใช้เป็นตัวแบบที่ผมต้องการ ค่าใชจ่ายต่อรองกับผู้รับเหมาในราคา 1.5 แสน
และขอหลังคาแบบที่เอาลมผ่านได้
(ราคานี้ ไม่รวมอุปกรณ์ในห้องน้ำ / อุปกรณ์ไฟ)
โดยคร่าวๆ ของโครงสร้างที่คุยกับผู้รับเหมา คือ
- พื้นที่ห้องประมาณ 3x5 ตร.ม. วางแปลนให้ด้านใต้ เป็นด้านที่ใส่หน้าต่างกว้างๆ เพราะเป็นด้านลมพัดเข้าครับ
- ฐาน ไม่ตอกเสาเข็ม..แต่วางเสาเข็ม แล้ววางโครงสร้างเหล็กตัวซีบนเสาเข็ม
- ผนัง..ขอเป็นผนังที่บุโฟมกันความร้อน
- หลังคาเมทัลชีท บุโฟมกันความร้อน
- ผนังด้านนอก - พื้นชานด้านนอก ใช้ไม้เชอร์ร่า
- พื้นห้องเป็นวีว่าบอร์ดและ ใช้กระเบื้องยางลายไม้
(ตอนหลังมาอ่านรีวิวของเพื่อน บอกกันว่า หากใช้กระเบื้องยางแบบบ้าง เวลาเดินแล้วมันจะรู้สึกไม่มั่นคง
ซึ่งผู้รับเหมาบอกว่า วางโครงตัวซี ให้ถี่หน่อย ก็ช่วยได้)
เริ่มจากงานฐานครับ วางเสาเข็ม แนวนอน 55555 แล้วขึ้นเหล็กตัวซี ครับ จะมี งงๆ กันหน่อย ก็โครงเหล็กส่วนหลังคา
ที่ผมอยากได้แบบมีช่องให้ลมผ่านนี่แหละครับ
พอโครงเสร็จ ก็ปูพื้น และ เริ่มทำหลังคาครับ ในส่วนนี้ช่างทำไม่กี่วันก็เสร็จครับ
แล้วก็มางานผนังด้านนอก..ช่วงนี้ คือ ฝุ่นเต็มบ้านครับ เพราะต้องตัดไม้ ลบมุม ลบเหลี่ยม
ส่วนผนังด้านใน และฝ้าเพดาน ...อย่างที่บอกครับ ใช้ผนังเบา ที่อีกด้านบุโฟม 2 นิ้ว
ซึ่งใช้เวลารอ ผนังอยู่พอสมควรเลยครับ เห็นผู้รับเหมาว่าต้องสั่งทำ
ลักษณะผนังเป็นแบบนี้ครับ
ทีนี่ มีความลำบากตอนทำครับ เพราะต้องตัดผนังเป็นแผ่นเล็กๆ ให้ได้ขนาดเท่ากับช่องๆ ตามโครงเหล็กด้านข้างทั้ง 4 ที่ขึ้นรูปไว้
ไม่สามารถแปะเป็นแผ่นใหญ่ๆ ได้....ช่างรำพึงเลยครับ ว่าไม่น่าเลย น่าจะคิดล่วงหน้าว่าต้องมาเจองานยากๆ แบบนี้
แต่ก็เสร็จลุล่วงไปได้ ครับ จากนั้น ก็โป้วๆๆๆ ขัดๆๆๆๆ ครับ
จากนั้นก็ลงสีรองพื้นด้านใน และด้านนอก
ระหว่างลงสีรองพื้น ก็ให้ช่างไฟมาทำครับ ผมอยากได้แบบเดินลอย ซึ่งช่างของผู้รับเหมาทำไม่เป็น งานนี้ต้องมีจ้างต่างหากครับ
มีเสียเงินเพิ่มเติมในส่วนนี้ประมาณ 3000 บาท (คนละครึ่งกับผู้รับเหมา) ไม่รวมค่าของครับ แต่ผมก็พอใจครับ เพราะอยากได้แบบที่ต้องการ
ผมลืมเล่าเรื่องโต๊ะกลางห้องครับ.....โต๊ะในฝันก็ประมาณนี้ครับ แต่ราคาเกินเอื้อมมากๆ ตัวละ 20,000 / 30,000 บาท ขึ้นไปทั้งนั้นครับ
เลยต้องไปเอาโต๊ะเก่าของพ่อ เป็นโต๊ะไม้สักผ่านการจมน้ำตอนน้ำท่วมปี 54 มาแล้ว ความพิเศษของมัน คือ สามารถชักออกมา
เพื่อขยายพื้นที่โต๊ะได้..เทพ มากๆ ครับ ผมพยายามหาร้านซ่อมโต๊ะตัวนี้ ค่าซ่อมก็ 7,000 บาทขึ้นไปทั้งนั้น
เลยตกลงขอให้ช่างที่มาทำห้อง ช่วยทำให้มันพอดูได้ และใช้ได้ ...เสียเพิ่มให้เขาไป 3,000 บาทครับ
ได้ตัวนี้มาประดับห้องครับ
กลับมาที่การปูพื้นครับ ผมเป็นคนติดต่อร้าน และเลือกลายกระเบื้องยาง เพราะผมต้องการกระเบื้องยางที่มันหนาๆ หน่อย
ต่อรองกับผู้รับเหมา ให้เขาจ่ายเพิ่มในส่วนนี้ให้นะครับ เพราะเขาคิดราคามาประมาณเป็น กระเบื้องยางธรรมดาๆ ..เขาก็ตกลง
จ่ายค่ากระเบื้องยางให้ไป 7000 บาท ครับ ที่แพง เพราะพื้นที่น้อย เขาคิดแบบเหมา
เสร็จากปูกระเบื้องยางก็ไปซื้อ แอร์มาติดครับ...ติดแอร์นี่ เสียอยู่นิดเดียว คือ น้องช่างแอร์ เขารีบเจาะผนังเพื่อ
เอาท่อแอร์ออกไว้ที่ด้านหลังแอร์เพื่อไม่ให้เห็นรูเจาะ ซึ่งต้องเดินท่อออกมาที่ผนังด้านนอก..ผมมาคิดดูอีกที หลังจากที่เขาเจาะ คือ
เราน่าจะเดินท่อแอร์ลอยในห้อง กะว่าโชว์ท่อครับ และเอาท่อแอร์ไปออกบริเวณคอลย์ร้อนเลย จะได้ไม่เห็นท่อแอร์ที่ผนังด้านข้างด้านนอก
แอร์ที่เลือกเป็นยี้ห้อไดกิ้นตัวเล็ก รุ่นใหม่ครับ เย็นเร็วมาก และประหยัดไฟมากเช่นกัน
(ซื้อแอร์ที่ โฮมเวิร์ค ได้คูปองซื้อของ 1000 บาท + บัตรเงินสด 7-11 อีก 1000 บาท)
สีปูนเปือย..ไม่พลาดครับ ต้องลอง ทำไปได้แค่ 2 ข้างครับ 5555 ผมประเมินว่าหากทาหมดห้อง มันจะมืดเกินไป ครับ
เลยวางแผนจะทาเพิ่มเฉพาะด้านล่างของผนังที่เหลือครับ
แล้วก็ซื้อชั้น ซื้อตู้หนังสือบิลลี่จาก IKEA มาใส่ครับ..เข้าท่าเหมือนกัน
หมดแล้วครับ ห้องทำงานกลางสวนของผม....ขอบคุณครับที่ติดตาม
สิ่งที่จะหามาเพิ่ม คือ ม้านั่งยาวๆ ครับ ตัวนี้ ยาว 180 ซม. กว้าง 40 ซม. สูง 45 ซม. (8000 บาท) กับ สติ๊กเกอร์ตัวอักษร (250 บาท) แบบนี้ครับ