มิตซูสีเหลืองในตำนาน อ่วมหนักเจอตั้ง3ข้อหา | เดลินิวส์ „มิตซูสีเหลืองในตำนาน อ่วมหนักเจอตั้ง3ข้อหา“
อ่านต่อที่ :
http://www.dailynews.co.th/regional/333987
มิตซูสีเหลืองในตำนาน อ่วมหนักเจอตั้ง3ข้อหา
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 10 ก.ค. เวลา 14.00 น. นายสิทธิรักษ์ ไพฑูรย์พงษ์ อายุ 40 ปี คนขับรถเก๋งสีเหลือง พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.วิโรจน์ มูลมานัส พนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและรับทราบข้อกล่าวหา โดยไม่ยอมให้สื่อมวลชนเข้าทำการบันทึกภาพทำข่าว ใช้เวลาในการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวนายสิทธิ์รักษ์ เข้าพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติ พร้อมปล่อยตัวกลับไปรอการส่งฟ้องศาล โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 3 ข้อกล่าวหาแก่นายสิทธิ์รักษ์ 1.ข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน เนื่องจากในวันเกิดเหตุ นายสิทธิ์รักษ์ เดินทางมาแจ้งความว่าถูกรถยนต์เก๋งคู่กรณีเฉี่ยวชนแล้วหนี แต่ไม่เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบข้อเท็จจริง กระทั่งภายหลังคู่กรณีได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์เช่นกัน พร้อมทั้งนำคลิปวีดีโอซึ่งเป็นหลักฐานในขณะเกิดเหตุมามอบให้ 2.ข้อหาขับรถประมาทหวาดเสียวโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น โดยแจ้งข้อกล่าวหาตามภาพวีดีโอที่ปรากฏในขณะเกิดเหตุ และ 3.ข้อหาข่มขู่ผู้อื่นให้ตกใจกลัว เนื่องจากในขณะที่เกิดเหตุนายสิทธิ์รักษ์ได้มีการพูดจาข่มขู่คู่กรณี.“
มิตซูสีเหลืองในตำนาน อ่วมหนักเจอตั้ง3ข้อหา
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/regional/333987
มิตซูสีเหลืองในตำนาน อ่วมหนักเจอตั้ง3ข้อหา
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 10 ก.ค. เวลา 14.00 น. นายสิทธิรักษ์ ไพฑูรย์พงษ์ อายุ 40 ปี คนขับรถเก๋งสีเหลือง พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.วิโรจน์ มูลมานัส พนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและรับทราบข้อกล่าวหา โดยไม่ยอมให้สื่อมวลชนเข้าทำการบันทึกภาพทำข่าว ใช้เวลาในการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวนายสิทธิ์รักษ์ เข้าพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติ พร้อมปล่อยตัวกลับไปรอการส่งฟ้องศาล โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 3 ข้อกล่าวหาแก่นายสิทธิ์รักษ์ 1.ข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน เนื่องจากในวันเกิดเหตุ นายสิทธิ์รักษ์ เดินทางมาแจ้งความว่าถูกรถยนต์เก๋งคู่กรณีเฉี่ยวชนแล้วหนี แต่ไม่เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบข้อเท็จจริง กระทั่งภายหลังคู่กรณีได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์เช่นกัน พร้อมทั้งนำคลิปวีดีโอซึ่งเป็นหลักฐานในขณะเกิดเหตุมามอบให้ 2.ข้อหาขับรถประมาทหวาดเสียวโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น โดยแจ้งข้อกล่าวหาตามภาพวีดีโอที่ปรากฏในขณะเกิดเหตุ และ 3.ข้อหาข่มขู่ผู้อื่นให้ตกใจกลัว เนื่องจากในขณะที่เกิดเหตุนายสิทธิ์รักษ์ได้มีการพูดจาข่มขู่คู่กรณี.“