ขอแนะนำตัวเจ้าของกระทู้ก่อนนะค่ะ คือเราอยู่ในช่วงวัยทำงานแล้วก็มาเจอกับแฟนที่ทำงานเดียวกันนี้แหละ นิสัยเราก็เหมือนผู้หญิงทั่วๆไป จุจี้ จุกจิก ขี้บ่น อามรณ์ขึ้นๆลงเวลาจะเป็นประจำเดือน แต่เราหน้าตาดีนะ
เพราะมีคนชมบ่อยอยู่พอประมาณ เหอะๆ ส่วนแฟนก็เป็นผู้ชายหน้าตาดีแบบบ้านๆอะค่ะ นิสัยก็ดูแลเอาใจใส่ ดี ฐานะที่บ้านก็ปานกลาง
มาเข้าเรื่องกันเลยดีว่า..... ตอนนั้นพึ่งคบกันได้ประมาณ3เดือนได้มั้ง เพื่อนของแฟนก็มาทวงเงินกับเราก็ก็งงว่าเงินอะไร จนไปถามแฟน แฟนเราก็เลยบอกว่าติดค่าแทงบอลประมาณ 10,000 เราก็เลยถามเพราะเป็นห่วงมาก เราเลยแบกหน้าไปขอยืมเพื่อนเรามาให้แฟนก่อน แฟนก็สัญญาว่าจะไม่เล่นอีกถ้าคบกำหนดให้กู้จะไปกู้เงินมาปิดให้ จนแฟนไปกู้เงินมาได้แต่แฟนกู้มาเยอะเกินหนี้ที่สร้างไว้ประมาณ แสนนิดๆ ก็เลยปิดหนี้ที่ยืมเพื่อนไป ไอ้เพื่อนเราก็แสนดี บอกเราว่าคิดดีแล้วหรอจะคบคนนี้ ประมาณว่าเพื่อนก็เคยได้ยินกันปากต่อปากมาว่าแฟนเราเป็นคนเล่นพนันหนักมาก
เราก็ได้แค่ฟังเพื่อนที่เตือนเรา ก็มันรักเนอะ จะให้ทำไงได้ นี้คือครั้งแรก
พอผ่านไป6-7เดือน เงินที่แฟนเรากู้มาไปเที่ยวบ้างแต่เวลาเที่ยวเราก็ช่วยแชร์บ้างตามกำลังทรัพย์เราที่มี ตอนนั้น ในความคิดเราคิดเสมอๆว่าสักว่าเค้าคงจะเปลี่ยนให้เราบ้างแหละ แต่เรารู้สึกเหมือนเค้ายังจะแอบเล่นพนันอยู่ ช่วงนั้นเราก็ทะเลาะกันบ่อยมากเรื่องนี้ จนเงินที่แฟนกู้มาก็หมด
แถมเงินเดือนก็ได้รับน้อยอีก แฟนเลยเอาทองที่เป็นของที่พ่อแม่เค้าซื้อให้ไปจำนำกับเพื่อนของเค้า เราพึ่งมารู้ว่าแฟนเราติดพนันจนเป็นหนี้ท่วมหัว ด้วยความที่เรายังรักเพราะคบกันได้10 เดือนอยู่ เราก็อยากจะช่วยแฟนจนยอมกู้เงินมาช่วย นี้คือครั้ง2 เราบอกว่า ”พอเลยนะครั้งนี้มันเดือดร้อนถึงเรามากแล้ว เธอก็ไม่ได้มีเงินมาช่วยเราผ่อน” แฟนเราก็ได้แต่บอกว่ารอครบกำหนดค่อยรีเงินกู้ใหม่จะปิดให้หมด เค้าขอยืมเงินเราไปปิดหนี้ก่อน(เหมือนในความคิดของแฟนคือเงินที่เรากู้มาให้คือเงินของเค้านั้งแระยังไงก็ต้องคืนเราอยู่ดี)
เราเลยบอกให้ไปสาบานต่อหน้าพระเลยได้มั้ยว่าจะไม่ไปยุ่งกับการพนันอีก เค้าก็สัญญาว่าจะไปวัด แต่เค้าก็ไม่ได้ทำตามที่เคยสัญญาไว้กับเรา ช่วงนั้นรู้สึกเหนื่อยมากกับคนๆนี้ เราแอบคิดนะว่า ชีวิตกูมัน เคยสบายกว่านี้นะเว๊ย คนแชทเฟสแชทไลน์มาจีบก็เยอะแยะทำไมไม่เลิกไปว่ะ
แมร่งสงสัยคงเป็นกรรมเก่ากูมั้ง ตอนนั้นก็ได้ทองคืนมา เราก็เห็นเค้าใส่อยู่สัก 3 สัปดาห์ ได้มั้ง แล้วทองมันก็หายไปจะคอของแฟน เราเลยถามว่าทองไปไหน เค้าก็เงียบเราก็เค้นจนได้ความจริงเอาไปใช้หนี้พนันอีกแล้วครัชพี่น้อง แต่คราวนี้เราบอกว่า “เราไม่ช่วยเธอแล้วนะ เธอก็รับผิดชอบตัวเองละกัน” ช่วงนั้นร้องไห้หนักมา ตาบวมไปทำงานทุกวัน
พอจะสิ้นเดือนมิถุนา58เค้าบอกจะกลับบ้านไปคุยเรื่องแต่งงาน แต่ถ้าไม่มีทองใส่ไปให้ที่บ้านเห็นเค้าคงโดนที่บ้านด่าให้แน่นอน โควตาการกู้เงินเค้าก็หมดแล้ว เค้าเลยมาขอให้เรากู้ให้หน่อยอีก4เดือนเค้าถึงจะกู้มาคืนให้ เค้าจะได้กลับบ้านเค้าไปคุยเรื่องแต่งงานของเราไง น่าจะด้วยเหตุนี้แระ เราเลยไปกู้เงินมาให้เค้าอีก ครั้งที่3นะจ่ะ และแล้วเราก็ได้กลับบ้านแฟนซึ่ง อยู่ ตจว. เคยไปบ้านแฟนประมาณ 3-4 ครั้งได้ ครั้งนี้แฟนเราก็มาคุยกับญาติที่บ้านเค้าว่าจะแต่งกับคนนี้นะ ตกลงกำหนดวันเดือนกันเองพ่อแม่แฟนก็บอกเอาที่สะดวกเราไม่ต้องจัดใหญ่โตเพราะมันสิ้นเปลืองเราก็โอเคโทรไปบอกพ่อแม่เราเขาก็โอเคตามใจลูก แล้วแฟนก็พาเพื่อนๆสมัยเรียนด้วยกันมาแนะนำให้เรารู้จัก
กลับมาจากบ้านแฟนเราก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้างแระ ผ่านไปสัก 2 สัปดาห์ได้ พึ่งสังเกตตอนเพื่อนของแฟนเราทักว่าสร้อยหายอีกแระเอาไปฝากเค้าไว้กลัวหายอีกหรอ ตอนนั้นโมโหมากแต่เก็บอาการมาต่อว่าที่ห้อง แฟนก็ได้แต่พูดว่าขอโทษๆ จะไม่ทำอีกแล้ว
(ในความรู้สึกเรา มันโกธรจนพูดไม่ออก คือมันหลายครั้ง เกินไปมั้ยอะ จากที่เราคิดว่าเค้าคงจะเปลี่ยนให้เราได้ มันคงเป็นไปไม่ได้แล้วใช่มั้ย) ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ความรู้สึกมันเปลี่ยน แต่เราไม่กล้าบอกที่บ้าน เพราะเราเคยบอกว่าเค้าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ โดยที่ไม่เคยบอกสิ่งที่ไม่ดีให้ที่บ้านเรารับรู้เลย ที่บ้านก็เลยอยากให้รีบแต่งงาน เพราะเราก็อายุเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆที่บ้านเค้ากลัวเราจะมีลูกยาก เลยตกลงกันว่าจะแต่งสักสิ้นปี58 ถ้าถามตอนแรกที่คุยกันก็อยากแต่งงานมั๊ย บอกเลยว่ามาก แต่ตอนนี้เรา รู้สึกว่าเราไม่ได้รักเค้าเหมือนเดิม มันมีความคิดอยากไปอยู่ตัวคนเดียวใช้ชีวิตแบบอยู่ด้วยตัวเอง เราไม่รู้ว่าเราควรตัดสินใจยังไงดี ควรหยุดหรือไปต่อ
จะแต่งกับคนนี้จริงๆหรือ??? ไม่รู้ว่าควรใช้สมอง หรือใช้หัวใจ ในการตัดสินเลือกใช้ชีวิตคู่ดี
มาเข้าเรื่องกันเลยดีว่า..... ตอนนั้นพึ่งคบกันได้ประมาณ3เดือนได้มั้ง เพื่อนของแฟนก็มาทวงเงินกับเราก็ก็งงว่าเงินอะไร จนไปถามแฟน แฟนเราก็เลยบอกว่าติดค่าแทงบอลประมาณ 10,000 เราก็เลยถามเพราะเป็นห่วงมาก เราเลยแบกหน้าไปขอยืมเพื่อนเรามาให้แฟนก่อน แฟนก็สัญญาว่าจะไม่เล่นอีกถ้าคบกำหนดให้กู้จะไปกู้เงินมาปิดให้ จนแฟนไปกู้เงินมาได้แต่แฟนกู้มาเยอะเกินหนี้ที่สร้างไว้ประมาณ แสนนิดๆ ก็เลยปิดหนี้ที่ยืมเพื่อนไป ไอ้เพื่อนเราก็แสนดี บอกเราว่าคิดดีแล้วหรอจะคบคนนี้ ประมาณว่าเพื่อนก็เคยได้ยินกันปากต่อปากมาว่าแฟนเราเป็นคนเล่นพนันหนักมาก เราก็ได้แค่ฟังเพื่อนที่เตือนเรา ก็มันรักเนอะ จะให้ทำไงได้ นี้คือครั้งแรก
พอผ่านไป6-7เดือน เงินที่แฟนเรากู้มาไปเที่ยวบ้างแต่เวลาเที่ยวเราก็ช่วยแชร์บ้างตามกำลังทรัพย์เราที่มี ตอนนั้น ในความคิดเราคิดเสมอๆว่าสักว่าเค้าคงจะเปลี่ยนให้เราบ้างแหละ แต่เรารู้สึกเหมือนเค้ายังจะแอบเล่นพนันอยู่ ช่วงนั้นเราก็ทะเลาะกันบ่อยมากเรื่องนี้ จนเงินที่แฟนกู้มาก็หมด แถมเงินเดือนก็ได้รับน้อยอีก แฟนเลยเอาทองที่เป็นของที่พ่อแม่เค้าซื้อให้ไปจำนำกับเพื่อนของเค้า เราพึ่งมารู้ว่าแฟนเราติดพนันจนเป็นหนี้ท่วมหัว ด้วยความที่เรายังรักเพราะคบกันได้10 เดือนอยู่ เราก็อยากจะช่วยแฟนจนยอมกู้เงินมาช่วย นี้คือครั้ง2 เราบอกว่า ”พอเลยนะครั้งนี้มันเดือดร้อนถึงเรามากแล้ว เธอก็ไม่ได้มีเงินมาช่วยเราผ่อน” แฟนเราก็ได้แต่บอกว่ารอครบกำหนดค่อยรีเงินกู้ใหม่จะปิดให้หมด เค้าขอยืมเงินเราไปปิดหนี้ก่อน(เหมือนในความคิดของแฟนคือเงินที่เรากู้มาให้คือเงินของเค้านั้งแระยังไงก็ต้องคืนเราอยู่ดี) เราเลยบอกให้ไปสาบานต่อหน้าพระเลยได้มั้ยว่าจะไม่ไปยุ่งกับการพนันอีก เค้าก็สัญญาว่าจะไปวัด แต่เค้าก็ไม่ได้ทำตามที่เคยสัญญาไว้กับเรา ช่วงนั้นรู้สึกเหนื่อยมากกับคนๆนี้ เราแอบคิดนะว่า ชีวิตกูมัน เคยสบายกว่านี้นะเว๊ย คนแชทเฟสแชทไลน์มาจีบก็เยอะแยะทำไมไม่เลิกไปว่ะ แมร่งสงสัยคงเป็นกรรมเก่ากูมั้ง ตอนนั้นก็ได้ทองคืนมา เราก็เห็นเค้าใส่อยู่สัก 3 สัปดาห์ ได้มั้ง แล้วทองมันก็หายไปจะคอของแฟน เราเลยถามว่าทองไปไหน เค้าก็เงียบเราก็เค้นจนได้ความจริงเอาไปใช้หนี้พนันอีกแล้วครัชพี่น้อง แต่คราวนี้เราบอกว่า “เราไม่ช่วยเธอแล้วนะ เธอก็รับผิดชอบตัวเองละกัน” ช่วงนั้นร้องไห้หนักมา ตาบวมไปทำงานทุกวัน พอจะสิ้นเดือนมิถุนา58เค้าบอกจะกลับบ้านไปคุยเรื่องแต่งงาน แต่ถ้าไม่มีทองใส่ไปให้ที่บ้านเห็นเค้าคงโดนที่บ้านด่าให้แน่นอน โควตาการกู้เงินเค้าก็หมดแล้ว เค้าเลยมาขอให้เรากู้ให้หน่อยอีก4เดือนเค้าถึงจะกู้มาคืนให้ เค้าจะได้กลับบ้านเค้าไปคุยเรื่องแต่งงานของเราไง น่าจะด้วยเหตุนี้แระ เราเลยไปกู้เงินมาให้เค้าอีก ครั้งที่3นะจ่ะ และแล้วเราก็ได้กลับบ้านแฟนซึ่ง อยู่ ตจว. เคยไปบ้านแฟนประมาณ 3-4 ครั้งได้ ครั้งนี้แฟนเราก็มาคุยกับญาติที่บ้านเค้าว่าจะแต่งกับคนนี้นะ ตกลงกำหนดวันเดือนกันเองพ่อแม่แฟนก็บอกเอาที่สะดวกเราไม่ต้องจัดใหญ่โตเพราะมันสิ้นเปลืองเราก็โอเคโทรไปบอกพ่อแม่เราเขาก็โอเคตามใจลูก แล้วแฟนก็พาเพื่อนๆสมัยเรียนด้วยกันมาแนะนำให้เรารู้จัก
กลับมาจากบ้านแฟนเราก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้างแระ ผ่านไปสัก 2 สัปดาห์ได้ พึ่งสังเกตตอนเพื่อนของแฟนเราทักว่าสร้อยหายอีกแระเอาไปฝากเค้าไว้กลัวหายอีกหรอ ตอนนั้นโมโหมากแต่เก็บอาการมาต่อว่าที่ห้อง แฟนก็ได้แต่พูดว่าขอโทษๆ จะไม่ทำอีกแล้ว (ในความรู้สึกเรา มันโกธรจนพูดไม่ออก คือมันหลายครั้ง เกินไปมั้ยอะ จากที่เราคิดว่าเค้าคงจะเปลี่ยนให้เราได้ มันคงเป็นไปไม่ได้แล้วใช่มั้ย) ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ความรู้สึกมันเปลี่ยน แต่เราไม่กล้าบอกที่บ้าน เพราะเราเคยบอกว่าเค้าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ โดยที่ไม่เคยบอกสิ่งที่ไม่ดีให้ที่บ้านเรารับรู้เลย ที่บ้านก็เลยอยากให้รีบแต่งงาน เพราะเราก็อายุเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆที่บ้านเค้ากลัวเราจะมีลูกยาก เลยตกลงกันว่าจะแต่งสักสิ้นปี58 ถ้าถามตอนแรกที่คุยกันก็อยากแต่งงานมั๊ย บอกเลยว่ามาก แต่ตอนนี้เรา รู้สึกว่าเราไม่ได้รักเค้าเหมือนเดิม มันมีความคิดอยากไปอยู่ตัวคนเดียวใช้ชีวิตแบบอยู่ด้วยตัวเอง เราไม่รู้ว่าเราควรตัดสินใจยังไงดี ควรหยุดหรือไปต่อ