‘สาวใหญ่’รับโพสต์กุข่าว‘บิ๊กตู่’โอนหมื่นล.
‘ผบ.ตร.’คุม‘สาวใหญ่’แนวร่วมนปช.แถลง รับโพสต์กุข่าว‘บิ๊กตู่’โอนหมื่นล. อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์-คิดว่านายกฯเป็นบุคคลสาธารณะวิจารณ์ได้ พบโยงเครือข่าย‘เอนก ซานฟราน’
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 กรกฎาคม 2558 เจ้าหน้าที่ทหารคุมตัวนางรินดา ปฤชาบุตร อายุ 44 ปี ที่อยู่ 40/1299 ม.4 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาที่โพสต์ข้อความกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและภรรยา โอนเงินไปยังประเทศสิงคโปร์ จำนวน 1 หมื่นล้านบาท จนทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด นำตัวส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนโดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) รับมอบตัวสอบปากคำ
พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า การจับกุมตัว นางรินดา ครั้งนี้ สืบเนื่องจากเป็นผู้โพสต์ส่งต่อข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ที่ใช้ชื่อว่า “รินดา พรศิริพิทักษ์” โดยได้โพสต์เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา กุข่าวกล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์พร้อมภรรยา โอนเงินจำนวน 1 หมื่นล้านบาทไปประเทศสิงคโปร์ ซึ่งข้อความที่โพสต์ดังกล่าวเป็นข้อความเท็จ มีความผิดฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และผิดตามมาตรา 116 ทำให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน และผิดตามมาตรา 348 ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกตกใจ โดยนางรินดา ถูกจับกุมได้ตามหมายศาลทหาร ภายใต้มาตรา 44 ที่บ้านพักย่านคลองหลวง ปทุมธานี เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ทหารนำตัวไปสอบสวนก่อนจะส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อในวันนี้ (10 ก.ค.)
จากการสอบสวน พบว่า นางรินดามีความเชื่อมโยงกับกลุ่ม นปช. ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี นอกจากนี้ยังพบว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายของนายมนูญ ชัยชนะ หรือ เอนก ซานฟราน ผู้ต้องหากระทำผิดมาตรา112 และอีกหลายข้อหารุนแรง โดยเฉพาะเป็นผู้อยู่บงการเบื้องหลังก่อเหตุวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก บริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามกับห้างพารากอน และการปาระเบิดใส่บริเวณหน้าศาลอาญา ถ.รัชดา ขระนี้ยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ
พล.ต.อ.สมยศ ระบุอีกว่า นางรินดา เป็นผู้ที่โพสต์ข้อความมาโดยตลอด ซึ่งนางรินดายอมรับว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงฝากไปยังประชาชนให้ระมัดระวังในการโพสต์หรือส่งต่อข้อความ ที่มีความสุ่มเสี่ยง และให้คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพที่ไม่ควรไปละเมิดผู้อื่น ถ้าหากผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่จะเข้าไปดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ด้านนางรินดา ยอมรับว่า
เป็นผู้โพสต์ข้อความจริง โดยได้ข้อความดังกล่าวมาจากการที่มีบุคคลอื่นแชร์ข้อความผ่านไลน์มา ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายชาติบ้านเมือง แต่คิดว่าตนเองในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่มีสิทธิ์ในการวิพากษ์วิจารณ์แสดงความเห็น เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลสาธารณะ แต่ยอมรับว่ามีข้อความ ถ้อยคำ ที่ทำให้คนอื่นได้รับผลกระทบ ฉะนั้นจึงฝากเตือนไปยังผู้ใช้โซเชียลมีเดียให้ระมัดระวังเนื่องจากมีความละเอียดอ่อน
“ที่ผ่านมาตัวฉันเองไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในการเล่นพวกโลกออนไลน์เหล่านี้ โดยเฟซบุ๊กดังกล่าวอดีตสามีของฉันเป็นผู้ใช้งาน จึงไม่รู้ว่ากลุ่มลับหรือเพจต่างๆที่อดีตสามีไปเป็นสมาชิกไว้หรือเป็นเครือข่าย และฉันก็กดลบหรือกดออกจากเครือข่ายเหล่านั้นไม่เป็น” นางรินดา กล่าว
@@@มุมกาแฟNONแดง(มุมนี้ไม่มีใครเป็นเสื้อแดง)ศุกร์ที่ 10/7/2015:รู้ทันข่าวทางสื่อโซเชียล กุข่าวบิ๊กตู่’โอนหมื่นล.@@@
‘ผบ.ตร.’คุม‘สาวใหญ่’แนวร่วมนปช.แถลง รับโพสต์กุข่าว‘บิ๊กตู่’โอนหมื่นล. อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์-คิดว่านายกฯเป็นบุคคลสาธารณะวิจารณ์ได้ พบโยงเครือข่าย‘เอนก ซานฟราน’
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 กรกฎาคม 2558 เจ้าหน้าที่ทหารคุมตัวนางรินดา ปฤชาบุตร อายุ 44 ปี ที่อยู่ 40/1299 ม.4 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาที่โพสต์ข้อความกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและภรรยา โอนเงินไปยังประเทศสิงคโปร์ จำนวน 1 หมื่นล้านบาท จนทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด นำตัวส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนโดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) รับมอบตัวสอบปากคำ
พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า การจับกุมตัว นางรินดา ครั้งนี้ สืบเนื่องจากเป็นผู้โพสต์ส่งต่อข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ที่ใช้ชื่อว่า “รินดา พรศิริพิทักษ์” โดยได้โพสต์เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา กุข่าวกล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์พร้อมภรรยา โอนเงินจำนวน 1 หมื่นล้านบาทไปประเทศสิงคโปร์ ซึ่งข้อความที่โพสต์ดังกล่าวเป็นข้อความเท็จ มีความผิดฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และผิดตามมาตรา 116 ทำให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน และผิดตามมาตรา 348 ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกตกใจ โดยนางรินดา ถูกจับกุมได้ตามหมายศาลทหาร ภายใต้มาตรา 44 ที่บ้านพักย่านคลองหลวง ปทุมธานี เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ทหารนำตัวไปสอบสวนก่อนจะส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อในวันนี้ (10 ก.ค.)
จากการสอบสวน พบว่า นางรินดามีความเชื่อมโยงกับกลุ่ม นปช. ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี นอกจากนี้ยังพบว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายของนายมนูญ ชัยชนะ หรือ เอนก ซานฟราน ผู้ต้องหากระทำผิดมาตรา112 และอีกหลายข้อหารุนแรง โดยเฉพาะเป็นผู้อยู่บงการเบื้องหลังก่อเหตุวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก บริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามกับห้างพารากอน และการปาระเบิดใส่บริเวณหน้าศาลอาญา ถ.รัชดา ขระนี้ยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ
พล.ต.อ.สมยศ ระบุอีกว่า นางรินดา เป็นผู้ที่โพสต์ข้อความมาโดยตลอด ซึ่งนางรินดายอมรับว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงฝากไปยังประชาชนให้ระมัดระวังในการโพสต์หรือส่งต่อข้อความ ที่มีความสุ่มเสี่ยง และให้คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพที่ไม่ควรไปละเมิดผู้อื่น ถ้าหากผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่จะเข้าไปดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ด้านนางรินดา ยอมรับว่า เป็นผู้โพสต์ข้อความจริง โดยได้ข้อความดังกล่าวมาจากการที่มีบุคคลอื่นแชร์ข้อความผ่านไลน์มา ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายชาติบ้านเมือง แต่คิดว่าตนเองในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่มีสิทธิ์ในการวิพากษ์วิจารณ์แสดงความเห็น เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลสาธารณะ แต่ยอมรับว่ามีข้อความ ถ้อยคำ ที่ทำให้คนอื่นได้รับผลกระทบ ฉะนั้นจึงฝากเตือนไปยังผู้ใช้โซเชียลมีเดียให้ระมัดระวังเนื่องจากมีความละเอียดอ่อน
“ที่ผ่านมาตัวฉันเองไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในการเล่นพวกโลกออนไลน์เหล่านี้ โดยเฟซบุ๊กดังกล่าวอดีตสามีของฉันเป็นผู้ใช้งาน จึงไม่รู้ว่ากลุ่มลับหรือเพจต่างๆที่อดีตสามีไปเป็นสมาชิกไว้หรือเป็นเครือข่าย และฉันก็กดลบหรือกดออกจากเครือข่ายเหล่านั้นไม่เป็น” นางรินดา กล่าว