[CR] [รีวิวอัลบั้ม] To Pimp A Butterfly - Kendrick Lamar (รีวิวเดียวจบ สุดความสามารถหว่ะ)

ผีเสื้อ=สัญลักษณ์แห่งการหลุดพ้น




Title : To Pimp A Butterfly
Artist : Kendrick Lamar
Genre: Hip-Hop
Release Date : 15 March 2015
Executive Producer : Dr.Dre , Antony "Top Dawg " Tiffith


ตุ้ง ตุ้ง ตุ้ง ตุ้ง ! ทักทายชาวพันทิปเป็นกระทู้ที่ 3 ด้วยเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Kendrick Lamar แร็พเปอร์จากเมือง Compton ที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ ใครที่ยังงงว่าเค้าคนนี้คือใคร พอได้ยิน Bad Blood Version remixของสาว Taylor Swift ร้องอ๋อทันที เพราะคนที่ร่วมไปแจมนี่แหละ คือเจ้าของอัลบั้มที่เราจะรีวิวในวันนี้  จะได้ทำความรู้จักแร็พเปอร์หนุ่มคนนี้ไปในตัวด้วย ต้องยอมรับเลยว่า อัลบั้ม 2ชุดที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น Section .80 และ good kid m.A.A.d City ตั้งมาตรฐานไว้สูงมาก สิ่งที่ทำให้ผลงานเพลงของKendrick เป็นที่น่าจดจำ นอกจากการแร็พที่ไหลเป็นน้ำและดุดัน นั่นก็คือ การวางคอนเซปต์ที่น่าสนใจในแต่ละอัลบั้มที่ทำออกมาได้น่าติดตามตั้งแต่แทร็คแรกจนถึงแทร็คสุดท้าย

Section.80 ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของเคนดริก การนำผู้ฟังไปสู่สังคมที่เต็มไปด้วยสิ่งยั่วยุมากมาย ทั้งยาเสพติด เซกส์และความรุนแรง ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในยุค80 ตัวเพลงค่อนข้างแปลกแหวกแนว ออกแนวอัลเทอเนทีพฮิพฮอพ ฟังไม่น่าเบื่อดีครับ

ส่วน GKMC คอนเซปต์ทำออกมาได้น่าติดตามมากๆ สะท้อนความเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนของเมืองที่ขึ้นชื่อว่าอันตรายที่สุดอย่าง Compton ผ่านการเล่าเรื่องผ่านประสบการณ์ในสมัยวัยรุ่น ขโมยรถแวนของแม่ไปขับเล่น เพื่อที่จะไปซั่มสาวรายนึง แต่ภารกิจก็ดันสะดุดเมื่อเคนดริกไปเจอพวกเพื่อนๆเสียก่อน พาลพาไปทำอะไรที่เลยเถิดจนเกิดเรื่องบานปลาย นำมาซึ่งจุดจบอันน่าเศร้า GKMC จึงเป็นอัลบั้มที่ให้อะไรที่มากกว่าความเอนเตอร์เทน มันเป็นการนำเอากลิ่นอายความเป็น west coast hip hopกลับคืนมาด้วย  GKMC จึงเป็นอัลบั้มฮิพฮอพที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุดในเรื่องของเนื้อหาและดนตรี

จึงเป็นอะไรที่น่ากดดันมากพอสมควรสำหรับตัว Kendrick ที่จะต้องทำอัลบั้มชุดที่3 ให้ออกมาได้ดีกว่าหรือเท่ากับมาตรฐานที่ได้ตั้งไว้ใน2ชุดแรก สำหรับชุดที่3 To Pimp A Butterfly มีความแตกต่างจาก2ชุดแรกอยู่พอสมควรเลยล่ะ โดยเฉพาะภาคดนตรีไม่ได้เน้น gangsta hiphop จ๋าๆ ไม่ให้อารมณ์พลุ่งพล่านแบบ2ชุดก่อน แต่จะเน้นไปในทาง Hip-hop G-Funk ที่ผสมความเป็น Jazz , Neo-Soul เข้าถึงความเป็น Black Music มากขึ้น โดยรวมแล้วดนตรีพัฒนานะครับ เพิ่มความซับซ้อนให้ฟังยากบ้างง่ายบ้าง ส่วนเนื้อหาของเพลงพัฒนาไปในทางที่เป็นเพื่อชีวิตมากขึ้น จริงจัง หนักแน่น จิกกัดการเมืองและวงการเพลงอยู่พอสมควร ที่สำคัญเนื้อหาในแต่ละเพลงมีdetails ซ่อนอยู่มากมายเลยล่ะครับ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฟังครั้งแรกแล้วไม่เก็ท เพราะชุดนี้ฟังยากกว่าชุดที่แล้วอย่างแน่นอน



ทันทีที่แทร็คแรกอย่าง Wesley's Theory เปิดขึ้นมา เราจะได้ยินประโยค every nigger is a star ทิ้งไว้เป็นประโยคนัยสำคัญให้ได้คิดกันต่อ จากนั้น Jazz ก็ฟุ้งเข้าหูเลยล่ะครับท่าน  จังหวะกำลังดี ฟังแล้วรื่นหู  คลอด้วยเสียงของนักร้องรุ่นเดอะ Geoge Clington  เป็นเพลงเปิดที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย โดยที่มาของชื่อเพลงมาจากนักแสดงผิวสีอย่าง Wesley Snipes ที่โดนจับในข้อหาหนีภาษี น่าจะเป็นเพลงที่จิกกัดระบบการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลโดยอ้อมนะครับ ประมาณว่าศิลปินผิวสีโดนเอาเปรียบจากสังคมยังไม่พอ โดนชาร์จภาษีภาษีที่สูงเกินอีก เพลงนี้ได้ Flying Lotus มา produce ให้

ต่อจากนั้นก็ต่อด้วยinterlude For Free? ตอนผมฟังครั้งแรกก็อุทานเลยว่า อะไรของมันว่ะ ดนตรีออกแนวยั้วเยี้ยมากๆ แร็พก็ออกแนวประชดประชันเกิ๊น ฟังครั้งแรกแทบไม่เก็ทเลย ตอพอฟัง2-3ครั้งก็เอ่อเริ่มเก็ทล่ะ ประมาณว่าเคนดริกเริ่มหลงรักวงการบันเทิงแล้วล่ะครับ เพลงสั้นๆเสียดสีเย้ยหยันได้อย่างมีสีสันดีครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


King Kunta แร็พสไตล์ฟังก์จังหวะชวนโยกโคตร ๆ บ่งบอกความเป็น G-Funk ได้ดีมากๆทำให้ผมนึกถึงสไตล์เก่าๆของดร.เดร ผมเชื่อว่าหลายๆคนน่าจะชอบเพลงนี้อยู่ไม่น้อย ไม่แปลกใจที่เพลงนี้ถูกตัดเป็นซิงเกิ้ล เนื้อหาตัดพ้อเพื่อนที่ทรยศ โดนอิจฉาริษยาไม่ให้เคนดริกได้เผยแพร่ผลงานอย่างเต็มที่ ถามหามิตรภาพที่แท้จริง

I remember you was conflicted, misusing your influence. Sometimes, I did the same


Institutionalized และ These Wall เป็นเพลงที่คู่ขนานกันครับ โดยเพลงแรกพูดถึงอำนาจของเงินตรา เพลงถัดมาก็เป็นเรื่องผู้หญิง การที่เคนดริกนั้นเริ่มมีชื่อเสียง 2 สิ่งนี้จะตามมาครับ หลงระเริงจนโดนมอมเมาจนแทบโงหัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


institutionalized ได้Snoop Dogg มาร่วมแจมด้วย ป๋านูบแร็พมีเสน่ห์มากๆ ส่วน These Wall หวาบหวามใช้ได้ เปลี่ยนโทนดาร์กในช่วงท้าย ดูดีมีมิติ

Abusing my power full of resentment
Resentment that turned into a deep depression
Found myself screaming in a hotel room


Kendrick ได้เพิ่มระดับความยากด้วยเพลง u เพลงที่รวมของเด็ดไว้เพียบไม่ว่าจะเป็นแร็พแบบดิบๆ องค์ประกอบดนตรีที่ซับซ้อนสุดๆ โทนเพลงที่ดาร์กสร้างความอึดอัดสับสนให้กับคนฟังไม่น้อย ยังดีที่ช่วงครึ่งหลังของเพลงลดความอึดอัดได้บ้าง แร็พแบบเมาๆคลอด้วยดนตรีแจ๊ส kendrick เคยให้สัมภาษณ์ว่า เพลงนี้เป็นเพลงที่ยากที่สุดเท่าที่เคยทำมา โดยเนื้อหาตัดพ้อตัวเองที่หลงระเริงกับชื่อเสียง เงินทอง และเซกส์ จนรู้สึกท้อแท้ที่ไม่สามารถเป็นพี่ชายที่ดีให้กับน้องสาวได้ ซึ่งมารู้ภายหลังว่าเธอตั้งท้องกับใครไม่รู้ ดั่งท่อนที่ว่า
Situation had stopped with your little sister bakin'
A baby inside, just a teenager, where your patience?
Where was your antennas, where was the influence you speak of?
You preached in front of 100,000 but never reached her
ฟังยากแต่เด็ดดวงของแท้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


Alright แทร็คนี้ปลอบโยนความหนักหน่วงจากเพลงที่แล้วได้เป็นอย่างดี จังหวะ Neo-Soul ท่อนฮุกติดหูบวกกับกรูฟเท่ๆอันเป็นเอกลักษณ์ของ Pharrell Williams ช่วยให้เพลงไหลลื่นและลงตัว ถูกปล่อยออกเป็นซิงเกิ้ลมีเอ็มวีมาให้ชมแล้วเรียบร้อย ผมเชื่อว่าหลายคนต้องชื่นชอบเพลงนี้

I didn't wanna self destruct
The evils of Lucy was all around me
So I went runnin' for answers




For Sale? Interlude อีกต่อนึงที่ดูเหมือนเป็นเพลงมากกว่า เพลงให้อารมณ์เรื่อยๆ ล่องลอย ชิวๆ ดูเหมือนว่าเคนดริกเริ่มคิดอะไรบางอย่างได้ (#ดึงสติกันหน่อยนะ คงจะเหมาะกับคำนิยามของเพลงนี้ เฮ้อ เฮ้อ) ดูเหมือนว่าเคนดริกเริ่มมองวงการเพลงต่างไปจากเดิมแล้วล่ะครับ
ชื่อสินค้า:   ซีดีอัลบั้มเพลงสากล To Pimp A Butterfly - Kendrick Lamar
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่