ลูกเมียน้อย

เราอยากรู้ว่าลูกเมียน้อยคนอื่นๆเป็นแบบเราบ้างมั้ย แล้วผิดมั้ยที่เรารู้สึกเกลียดพ่อตัวเอง เรื่องที่เราจะเล่าเป็นเรื่องที่เกิดกับเราเอง

ตั่งแต่เกิดเราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่และไม่เคยเห็นหน้าแม่แท้ๆเลย แต่พ่อยกเราให้ป้า(พี่สาวพ่อ) เป็นลูกบุญธรรม เราเรียกป้าว่าแม่ และแม่ก็รักเรามากๆเหมือนลูกคนนึงเพราะป้าเราไม่มีลูกไม่มีสามี ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นมาตั่งแต่เด็กๆ และไม่เคยรู้เลยว่าเราเป็นลูกเมียน้อย จนเราเริ่มโตอ่านหนังสื่อออกก็เริ่มสงสัยมีคำถามมากมายทำไมชื่อแม่เราในใบเกิดไม่ใช่ชื่อแม่เราแล้วเป็นชื่อใคร? ทำไมพ่อเราเป็นน้องชายแม่เรา? ทำไมเรามีแม่สองคน? ทำไมพ่อแม่เราไม่อยู่ด้วยกับเหมือนกับครอบครัวอื่น? จนในที่สุดแม่เรา(พี่สาวพ่อ) ก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เราฟังทำให้เรารู้ว่าเราคือลูกเมียน้อย พอเรายิ่งโตเราก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเกลียดพ่อ ใช่เราเกลียดพ่อแท้ๆของเราเอง จากเด็กที่ไร้เดียงสาไม่รู้ประสีประสาอะไรก็เริ่มไม่สนิทกับพ่อ ไม่มีความรู้สึกเหมือนกับที่พ่อลูกคนอื่นๆเค้ามีกัน อยากจะบอกว่าความรู้สึกนี้มันเป็นเองค่ะ เพราะพ่อเราย้ายครอบครัวไปอยู่ต่างจังหวัดซึ่งในตอนแรกพ่อเราก็ไม่ได้อยู่กับเราหลอกแต่อยู่กับครอบครัวเมียหลวงแต่ก็ยังไปๆมาบ้านแม่เรา(พี่สาวพ่อ) พอหลังจากที่ย้ายไปต่างจังหวัด 3-4 ปีก็กลับมาอยู่บ้านหลังเดิม ซึ่งในตอนนั้นเราก็เริ่มโตเป็นสาวแล้วความรู้สึกที่เคยสนิทกับพ่อคุยเล่นกับพ่อก็ไม่มีอีกเลยไม่รู้สึกถึงความผูกพันแบบพ่อลูกเลย ย้ำนะค่ะว่าไม่ได้อคติกับพ่อแต่ความรู้สึกมันเป็นมันเอง ตอนที่พ่อไม่อยู่เราเคยคิดถึงพ่อมากเวลาที่โรงเรียนมีงานวันพ่อหรือวันแม่แต่เราก็ไม่เคยมีใครมาเป็นผู้ปกครองเราเลยสักคน เวลาที่คุณครูให้เขียนเรียงความเกี่ยวกับพ่อเราก็จะนึกถึงพ่อมากๆ รู้แต่ว่าพ่อไม่ได้อยู่กับมาหลายปีแล้ว พ่อไปทำงานที่ต่างจังหวัดกับแม่(เมียหลวง)และพี่กับน้องๆ(ลูกเมียหลวง) ตอนนั้นก็มีแต่ความสงสัยแบบเด็กๆที่ผู้ใหญ่ตอบแล้วไม่เข้าใจ เวลาเลิกเรียนเด็กคนอื่นๆมีพ่อแม่ไปรับไปส่งที่โรงเรียนทุกวันแต่เราไม่มีใครเลยต้องเดินไปกลับเองตั่งแต่อนุบาลแต่ในช่วงแรกที่เริ่มเข้าโรงเรียนแม่(พี่สาวพ่อ)เป็นคนไปรับส่งพอเราเริ่มจำทางได้แล้วก็ไปกลับเองเพราะแม่ต้องดูแลร้านไม่มีคนเฝ้าร้านเป็นแบบนี้มาตลอด แม้แต่เข้ามหาลัยก็ไม่มีใครไปส่ง ไม่มีใครช่วยขนของเอารถไปส่งเรา ยังดีที่มีน้าพาไปแต่ก็ไปด้วยรถโดยสารไม่มีรถส่วนตัวขึ้นถูกๆผิดๆบ้างของที่เอาไปก็มีแต่เสื้อผ้าในประเป๋าเป้ใบเดียว ส่วนลูกเมียหลวงพ่อแม่เค้าไปรับส่งที่โรงเรียนทุกวัน(อยู่กันคนละโรงเรียน)พอเข้ามหาลัยพ่อกับเมียหลวงก็ไปส่งมีรถส่วนตัวขนของเยอะแยะมากมาย ทำไมพ่อไม่ทำแบบนั้นกับเราบ้าง เวลาผลการเรียนออกเราก้มักจะโดนผู้ใหญ่ต่อว่าตำหนิเรื่องการเรียนและเปลียบเทียบกับลูกเมียหลวง เราก็ได้แต่นั่งฟังผู้ใหญ่พูดอวดลูกของตัวเอง ลูกข้าเก่งงี้ ลูกข้าฉลาดงี้ แต่เราก็ได้แต่นั่งโง่ๆเอาเราไปเปรียบเทียบกับลูกเค้าว่าลูกเค้าเก่งเราโง่กว่าโดยเฉพาะเมียหลวง แม้แต่พ่อเราเองก็พูดว่าลูกเมียหลวงเก่งฉลาดแต่เราโง่ไม้เอาไหน เราได้แต่คิดในใจทำมัยเราไม่รู้สึกว่าเราเป็นลูกพ่อเลยมีแต่แม่(พี่สาวพ่อ)ที่คอยปกป้องเราร้องไห้

           ตั่งแต่เกิดพ่อไม่เคยส่งเสียค่าเราเรียน ไม่เคยให้เงินค่าขนม และไม่เคยซื้ออะไรให้เลย มีแต่แม่(พี่สาวพ่อ)ให้ทุกอย่างส่งเสียเล่าเรียนแต่เล็กจนโต ไม่เคยได้ความอบอุ่นจากพ่อเลย นอกจากเรื่องพวกนี้เราแล้วยังมีเรื่องอื่นๆในอตีดที่เราไม่เคยรู้ แต่มีผู้ใหญ่ญาติๆแม้กระทั่งคนแถวบ้านเล่าเรื่องแม่แท้ๆสาเหตุที่แม่ไม่อยู่กับพ่อ ชีวิตเราเหมือนในนิยายเลยค่ะ แม่แท้ๆถูกพ่อหลอกแม่ไม่รู้ว่าพ่อมีเมียแล้วจนแม่ท้องเรื่องก็แตก เมียหลวงตอนนั้นก็กำลังท้องเหมือนกันท้องแก่กว่าแม่เรา 3 เดือน พอเมียหลวงคลอดก็ตามตบแม่เราที่ท้องแก่ใก้ลคลอดจนพ่อต้องพาแม่ไปอยู่กับป้าที่รับเราเป็นลูกบุญธรรม พอเราคลอดก็ยกเราให้ป้าทั้งๆที่แม้ไม่ยอมแต่พ่อบังคับเพราะไม่มีเงินค่าผ่าตัดทำคลอดแม่เราเลยจำใจยกให้ และก็พึ่งมารู้ที่หลังจากป้าถ้าป้าไม่รับเลี้ยงพ่อจะยกเราให้สถานเลี้ยงเด็กกำพล้า ทำให้เรารู้สึกเป็นขยะของพ่อ พอแม่คลอดเราแม่ก็ต้องไปเพราะพ่อเลือกที่จะอยู่กับเมียหลวงเพราะแม่เราจนแต่เมียหลวงรวยกว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องอีกเยอะแยะมากมาย ถึงขั้นเคยทะเลาะกับเมียหลวง ทำให้ตอนนี้เราเกลียดพ่อตัวเอง ถ้าเล่าทั้งหมดคงไม่จบ

           อยากจะฝากถึงคนที่คิดจะมีเมียน้อย เพราะเรื่องราวทั้งหมดที่ผู้ใหญ่ทำมันส่งผลต่อความรู้สึกและจิตใจเด็กที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยมีแต่ผลเสียทางจิตใจทั้งเมียหลวงเมียน้อยและลูกๆของคุณ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่