แบ่งประสบการณ์ผ่าตัดลดความอ้วนค่ะ

บอกก่อนนะคะ  นี่เป็นกระทู้แรกเลยที่มาแชร์ประสบการณ์  ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ หลังจากที่มาถามและแอบส่องค่ะ

ขอเกริ่นก่อนนะคะ  ในการผ่าตัดเนี่ย  เราได้ตัดสินใจแล้ว  และลองวิธีการอื่นๆทั้งการอดอาหาร(อดแรกก็ลดค่ะ  หลังๆก็เพิ่มขึ้น) เข้าสถาบันลดความอ้วน  หรือลองกินยาลดความอ้วน(กินได้แค่มื้อเดียวค่ะ  แล้วเกิดอาการแสบร้อนในคอ  จนต้องล้วงคอเลยค่ะ  แล้วเข็ดเลย)

ตอนที่เราเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัด เราน้ำหนัก 92  สูง  162 ซม. ค่า BMI 35.06 (วิธีคิดคือ เอา นน หารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรสองรอบ  92/1.62/1.62  ประมาณนี้ค่ะ)  หรือกรอกในเว็บก็จะมีการคิดให้แบบอัตโนมัติค่ะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ในตอนแรกบีก็จะหาข้อมูลตามเว็บค่ะ  แล้วก็รีวิวต่างๆ  ทั้งคลิปของคุณหมอที่ออกมาให้ข้อมูล  เว็บในเว็บนอกต่างๆ  ผลกระทบ  คุณหมอท่านไหนเก่ง  แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ค่ะ  บอกตรงๆเลยว่ากลัวเหมือนกัน

แต่เนื่องจากบีมีโรคประจำตัวคือโรค PCOS ซึ่งเป็นโรคความผิดปกติของฮอโมนค่ะ  ถ้าผอมลงก็ช่วยได้  ผนวกกับเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับและภูมิแพ้(ใช้เครื่อง CPAP อยู่นะคะ)  ซึ่ง 2 โรคนี้คุณหมอที่รักษาทั้งสองท่านบอกว่า  ถ้าผอมลงโรคจะทุเลาลงค่ะ  เลยลองถามคุณหมอดูว่าแล้วเราจะไปหาคุณหมอท่านไหนดี  ทางคุณหมอจึงแนะนำให้ไปหา คุณหมอสุเทพ อุดมแสวงทรัพย์  ที่โรงพยาบาลจุฬา  แต่เราทราบมาว่าคุณหมอออกตรวจที่โรงพยาบาลกรุงเทพด้วย  เลยไปปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลกรุงเทพก่อน  ด้วยเหตุผลของเวลาต่างๆนาๆค่ะ

พอพบคุณหมอครั้งแรก  คุณแม่ก็เผาเลยค่ะ  ว่าเราฟังคลิปคุณหมอทุกคืนเลย  เราเลยได้แต่หัวเราะแหะๆ  คุณหมอก็ถามว่าฟังแล้วได้อะไรบ้างล่ะ เราก็ร่ายเลยค่ะ  ว่าก่อนผ่าเราต้องตรวจส่องกล้องทางเดินอาหารและกระเพาะอาหาร ตรวจต่อมไร้ท่อ  ตรวจภาวะหยุดหายใจขณะหลับ  ตรวจเกี่ยวกับภาวะร่างกายอื่นๆ  เพราะคนอ้วนแบบเราเหมือนจะแข็งแรง  แต่จริงๆแล้วเรามีภาวะความเสี่ยงมากมายนักค่ะ

แล้วในการที่เราจะผ่าตัดได้นั้นจะมีเกณฑ์ที่สำคัญคือค่า BMI ค่ะ  นั่นคือค่า BMI จะต้องมากกว่า 35  โดยมีภาวะโรคร่วมเช่น เบาหวาน , ข้ออักเสบปวดมาก, นอนกรน , ความดัน เป็นต้น  หรือ ค่า BMI 40 โดยไม่มีโรคร่วมค่ะ  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น  ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคุณหมอด้วยค่ะ  เพราะการผ่าตัดมันคือการเปลี่ยนชีวิตของเราเลยค่ะ  ทั้งวิธีการกิน  การดำเนินชีวิตต่างๆ  คุณหมอจะต้องมั่นใจว่าเราจะไม่มีปัญหาในการดำเนินชีวิตหลังผ่าตัดแน่นอนอ่ะค่ะ

พอคุณหมอถามเราเรียบร้อยคุณหมอก็บอกว่าเรามีความเข้าใจเกี่ยวกับการผ่าตัดถูกต้องแล้ว เราเลยบอกคุณหมอค่ะว่าเราอยากผ่าตัดที่โรงพยาบาลจุฬาค่ะ  เพราะว่าเราสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว

วันแรกของการไปโรงพยาบาลจุฬาบอกเลยค่ะ  ว่าไปตั้งแต่ตี 4  ไปนั่งรอที่ตึกภปร.ค่ะ  เค้าจะแจกบัตรคิวเราไม่แน่ใจว่าประมาณกี่โมง น่าจะประมาณ 6.00 น. นะคะ  ซึ่งบีไปรับบัตรคิวตรงฝั่งผู้ป่วยจ่ายเองค่ะ  ซึ่งจะมีแถว 2 ด้าน อีกด้านนึงจะเป็นของผู้ป่วนสิทธิบัตรทองโรงพยาบาลอื่นค่ะ  ซึ่งแถวยาวมากค่ะ  พอได้บัตรคิวจะมีใบมาให้เรากรอกข้อมูลผู้ป่วยใหม่  แล้วพอถึงเวลาก็จะเปิดให้เราเข้าไปข้างในค่ะ  ซึ่งตรงนี้นั่งรอเลยค่ะเดียวเวลา 7.00 น. เค้าเตอร์พยาบาลคัดกรองจะเรียกเราตามบัตรคิวค่ะ  ถ้าจำไม่ผิดจะเรียกทีละ 50 คิวซึ่งเราก็ไปต่อแถวตามคิว  แล้วพยาบาลจะแยกว่าเราต้องไปหาหมอที่ชั้นอะไร  ซึ่งบีได้ไปหาที่ชั้น 6 ค่ะ  โดยหลังจากออกจากเคาเตอร์เราก็ต้องไปต่อแถวทำบัตรผู้ป่วยค่ะเสร็จแล้วก็ขึ้นไปชั้น 6 โดยเอาเอกสารไปใส่ที่กล่องผู้ป่วยใหม่ค่ะ  แล้วนั่งรอเรียกชื่อ  ซึ่งนานมากกกกก  เพราะคนเยอะมากค่ะ

ซึ่งอาจจะมีการเรียกผู้ป่วยที่มาทีหลังเราก่อนก็ได้ค่ะ  อย่าตกใจ  เพราะว่าเค้าต้องทำแฟ้มประวัติให้เราก่อนค่ะ ก็นั่งรอไปค่ะ  อ้อระหว่างรอให้ไปชั่งน้ำหนัก + วัดความดันรอเลยนะคะ  แล้วพยาบาลคัดกรองก็จะเรียกเราอีกรอบค่ะเพื่อถามว่าเราเป็นอะไร  จะต้องพบหมอท่านใดแน่  ซึ่งบีได้เข้าไปในห้องฝั่ง2ค่ะ (มีฝั่ง1ฝั่ง2)  พอเข้าไปที่ห้อง 2 ก็รอค่ะ  ตรงนี้อาจจะต้องยืนเพราะห้องเล็ก เก้าอี้ค่อนข้างน้อย แล้วจะมีพยาบาลมาเรียกเราเข้าไปห้องด้านหลังค่ะ  ซึ่งตรงนี้เราจะเจอคนหัวอกเดียวกันค่ะนั่งอยู่ในห้องๆเดียวรวมกันสิบกว่าคน  แล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่มาเรียกเราให้ไปชั่งน้ำหนักที่เครื่องค่ะ  ซึ่งเครื่องก็จะมีการวิเคราะห์เราออกมาค่ะ  เพียงแค่เรายืนเอาเท้าวางให้ตรงจุด แล้วมือก็ถือที่จับเอาไว้  เครื่องจะคำนวณข้อมูลของเราออกมาเป็น 1 กระดาษ A4 เลยค่ะ  ทั้งภาวะบวมน้ำ ไขมันส่วนเกินต่างๆ  จากนั้นก็นั่งรอคุณหมอค่ะ  ระหว่างนี้เราจะนั่งคุยกับคนอื่นไปก็ได้ค่ะ  เพราะว่าในห้องนั้นจะมีทั้งคนที่อยู่ระหว่างตรวจเช็คร่างกายรอผ่า  และคนที่ผ่าแล้ว  ซึ่งแต่ละคนจะแนะนำเราโดยละเอียดเลยค่ะ
พอผู้ป่วยโรคอ้วนทุกคนที่ต้องมาในวันนั้นมาครบแล้วคุณหมอจะเข้ามาค่ะ  ซึ่งคุณหมอจะพูดเกี่ยวกับโรคอ้วนโดยรวม  รวมถึงวิธีการผ่าตัด 3 วิธีว่าต้องทำอย่างไรบ้างบีขอข้ามนะคะเพราะข้อมูลในเว็บไซส์ต่างๆมีเยอะแล้ว[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ขอนำลิงค์มาแปะให้คร่าวๆแทนนะคะ

หลังจากที่คุณหมอพูดแนะนำจบแล้วคุณหมอก็จะคุยมาคุยทีละคนค่ะ  ระหว่างนั้นคนที่ไม่ได้คุยกับคุณหมอก็คุยกับคนไข้ด้วยกันเอง ว่าผ่ายังไง หลังผ่าเจ็บมั้ย  ผ่าแล้วผอมลงป่าว ลงเยอะมั้ยเป็นต้น  ซึ่งการที่คุณหมอให้ทุกคนมารวมกันทีเดียวก็เพราะต้องการให้คุยกันนี่แหละค่ะ
พอบีพบคุณหมอ  คุณหมอก็ถามแล้วย้ำเราถึงความเข้าใจในการผ่าตัดเหมือนเดิมค่ะ  แล้วคุณหมอก็จะเขียนใบต่างๆนาๆหลากสีมาให้เรา  ซึ่งนั้นเป็นใบส่งเจาะเลือด ส่งเอ็กซเรย์ ต่างๆ  และจะมีใบสีฟ้าพร้อมตารางให้เราไปพบคุณหมอแผนกต่างๆ  เพื่อให้มั่นใจว่าถ้าเราจะผ่า  เราต้องพร้อมและปลอดภัยมากที่สุด  ซึ่งถ้าเราจะผ่าได้  เราต้องได้รับการอนุญาตจากคุณหมอทุกคนค่ะ  พอเราได้ใบทั้งหมดแล้วเราก็ต้องออกไปที่หน้าห้องของคลินิกค่ะ  ซึ่งเราก็จะเจอเจ้าหน้าที่  เจ้าหน้าที่ก็จะทำการนัดของคลินิกให้เราค่ะ  แล้วหลังจากนั้นเราก็จะต้องออกไปหาคุณพยาบาลที่เคาร์เตอร์พยาบาลในห้องที่ 2  ซึ่งตรงนี้เราจะต้องไปต่อคิวค่ะ  แล้วคุณพยาบาลจะแนะนำเราต่อไปค่ะ  ว่าใบสีๆทั้งหลายที่คุณหมอเขียนมาให้นั้น  เราจะต้องไปพบคุณหมอที่ชั้นไหนบ้าง  ซึ่งขั้นตอนนี้บอกตรงๆค่ะว่าเวียนหัวสุดๆ  เพราะเราจะต้องไปทำนัดหลายแผนกมากๆเลย

หลังจากที่ออกจากเคาเตอร์พยาบาลเราก็ไปหาเคาเตอร์ด้านนอกที่เรายืนบัตรตั้งแต่ตอนแรกที่มาชั้น 6 ค่ะ  โดยนำใบจ่ายเงินมาจ่ายที่เคาเตอร์จ่ายเงิน  แล้วเอาแฟ้มวางในตะกร้าทำนัดค่ะ  แล้วก็นั่งรอบัตรนัดของคลินิกโรคอ้วนค่ะ  แล้วตอนที่ไปเอาบัตรนัดก็ต้องนำแฟ้มมาด้วยนะคะ  บอกคุณเจ้าหน้าที่ว่าจะไปนัดที่ชั้นอื่นต่อค่ะ  เค้าก็จะเอาแฟ้มเราใส่ซองให้  แล้วเราก็ไปชั้นอื่นต่อค่ะ  ทำเหมือนขั้นตอนเดิมเลยค่ะ  พอชั้นสุดท้ายเราก็คืนแฟ้มให้เค้าไป  แล้วกลับบ้านพร้อมใบนัดเต็มมือ (ห้ามทำหาย ห้ามผิดนัดโดยไม่โทรมาเลื่อนก่อนเด็ดขาดนะคะ  ถ้าไม่อยากชีวิตวุ่นวาย)

เดียวค่อยมาต่อนะคะ  ทำงานต่อก่อนค่ะ  เดียวจะมาแชร์ประสบการณ์การไปหาคุณหมอแต่ละแผนกค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่