บทนำ
สวัสดีครับ วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาทำการทดสอบ เฟรมเสือหมอบ แอโร่ ตัวนี้กันครับ
จากการที่ผมได้ปั่นจักรยานเสือหมอบมาสักระยะหนึ่ง ประมาณ 1 ปีเศษ ผมก็ได้ศึกษาและหาข้อมูลเรื่องเฟรม มาพอสมควร และได้ทำการทดลองการใช้งานมา ทั้งท๊อปอลู และ Full Carbon
ซึ่งวันนี้ผมก็จะมาทำรีวิว เพื่อให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ไว้เป็นตัวเลือกในการใช้จักรยานเสือหมอบ ฟลูคาบอน ซึ่งเป็น Open Mold จาก Hongfu นะครับ พระเอกของเราคือ FM139 Aero Dynamic
สัมผัสแรก..
ก่อนอื่นขอบอกเลยจากการที่ได้ลูบๆ คลำๆ เนื้อคาบอน (UD Matt) และรูปทรง ทุกอย่างเนียน ดีหมด ไร้ที่ดิ ทุกสัดส่วน ได้รับการออกแบบมาให้ Aero เพื่อการลดลมต้านพอสมควร
และด้วยตัวเอง ก็มองหา เสือหมอบ Aero แบบเต็มๆ ก็บอกได้คำเดียวว่า มันลงตัวเลยทีเดียว
น้ำหนักเฟรมและตัวรถ
ข้อนี้ผมว่าทุกๆ ท่านที่คิดจะซื้อเฟรมสักตัว เรื่องของน้ำหนักเป็นสิ่งประกอบการตัดสินใจ ถือเป็นเรื่องใหญ่
FM139 สามารถรีดน้ำหนัก ให้อยู่ในเกณท์ มาตรฐาน ของเฟรม Aero ได้ในพิกัด 1066 กรัม Size 50 (น้ำหนักเฟรมเปล่ารวมตะเกียบ และหลักอาน) ซึ่งถือว่าเบาสำหรับเฟรมคาร์บอน Aero และพอประกอบเสร็จสรรพ ก็คงอยู่ในพิกัดที่รับได้ แต่ทางผู้รีวิว ไม่ได้ชั่งเพราะไม่มีเครื่องชั่ง ได้แต่เพียงคาดคะเน ก็ประมาณ 7 kg. กว่าๆ รวมชุดขับ 105 และล้อคาบอนขอบสูง 50mm และเก็บรายละเอียดอีกเล็กน้อย ก็สามารถรีดน้ำหนักรถลงมาอยู่ในพิกัด 7 kg. ต้น ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
มิติและรูปทรง
เฟรมเป็นรูปทรงแอโรวร์ แบน มีส่วนเว้าส่วนโค้งต่างๆ ถ้วยคอหน้า เก็บงานได้ละเอียด ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป เฟรมท่อล่างใหญ่ ล้อหน้าอย่างลงตัว ท่อนั่งแอโร่ว์รับกับหลักอาน จุดยึดน๊อต ทันสมัยเก็บมิดชิดสวยงาม เก็บซ่อนสายเต็มระบบ เรียบเนียนไม่ขัดสายตา และถ้าชอบทรงของ Venge ก็คงถูกใจมิใช่น้อย
สัมผัสพื้นถนนครั้งแรก
จากการที่ได้ทดสอบ วันแรกปั่นไป 77 กม. ในทางเรียบ พบว่า ช่วงสปิ้นดีพึงพอใจ อาจไม่หวือหวาเท่า เฟรมเบาๆ แต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พอความเร็วแตะขึ้นไป 40+ สามารถทยานความเร็วขึ้นอีกได้เรื่อยๆ อาจเรียกว่าไหล ยิ่งความเร็วสูง หมอบทรง Aero สามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้อย่างดีทีเดียว
หลังจากวันที่สอง สามารถ ก็ได้ทดสอบปีนเนิน ไต่เขา ณ เขื่อนศรีฯ ระยะทาง 90 กม. (ไป-กลับ) การขึ้นเขาสามารถทำได้อย่างไม่ยากเย็นหนัก เพียงแต่อาจสู้ เฟรมน้ำหนักเบาไม่ได้ ช่วงเวลายืนโยกก็ให้ความรู้สึกแข็ง ไม่ย้วย สามารถกดได้ตามแรงที่มี และในช่วงลงเขา ลงด้วยความเร็ว 70 km/h สามารถลงมาได้อย่างนิ่ง ไม่รู้สึกถึงหน้าไว คอไว แต่ข้อด้อย คือช่วงเวลาขึ้นเขา เวลากดลูกบันได มันไม่สามารถขึ้นแบบปลู๊ดปล๊าด ครับ (ใช้คำไม่ถูก ขออภัย)
จุดเด่นที่สุดของรถคันนี้
เอาล่ะครับ หลังจากที่ได้สัมผัส และทดลองปั่น มาได้สัก 1 อาทิตย์ ก็พบว่า มันเป็นเฟรม Aero ที่เบา และสติฟ ทีเดียว สามารถยืนระยะในย่านความเร็วสูงได้ยาวนานขึ้น และยังไหลได้อย่างต่อเนื่อง และการปีนเขาก็ไม่ได้ให้เป็นอุปสรรคอะไร สามารถไปได้เรื่อยๆ และการปั่นในพื้นถนนที่ไม่เรียบ ก็สามารถซับแรงกระแทกได้ดีทีเดียว ไม่รู้สึกสะท้านมือ
บทสรุป
สำหรับท่านที่ชื่นชอบรถ Aero และชอบความไหล และมีแรงเฉื่อย น่าจะไม่ผิดหวัง รวมทั้งถ้าชอบรูปทรง Venge ก็คงโดนใจไม่น้อยเลยทีเดียว และ เกรดคาบอน T800 เลยทีเดียว
อารมณ์ และความรู้สึกแรกของเฟรม Aero Dynamic กับพระเอกของเรา FM139
สวัสดีครับ วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาทำการทดสอบ เฟรมเสือหมอบ แอโร่ ตัวนี้กันครับ
จากการที่ผมได้ปั่นจักรยานเสือหมอบมาสักระยะหนึ่ง ประมาณ 1 ปีเศษ ผมก็ได้ศึกษาและหาข้อมูลเรื่องเฟรม มาพอสมควร และได้ทำการทดลองการใช้งานมา ทั้งท๊อปอลู และ Full Carbon
ซึ่งวันนี้ผมก็จะมาทำรีวิว เพื่อให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ไว้เป็นตัวเลือกในการใช้จักรยานเสือหมอบ ฟลูคาบอน ซึ่งเป็น Open Mold จาก Hongfu นะครับ พระเอกของเราคือ FM139 Aero Dynamic
สัมผัสแรก..
ก่อนอื่นขอบอกเลยจากการที่ได้ลูบๆ คลำๆ เนื้อคาบอน (UD Matt) และรูปทรง ทุกอย่างเนียน ดีหมด ไร้ที่ดิ ทุกสัดส่วน ได้รับการออกแบบมาให้ Aero เพื่อการลดลมต้านพอสมควร
และด้วยตัวเอง ก็มองหา เสือหมอบ Aero แบบเต็มๆ ก็บอกได้คำเดียวว่า มันลงตัวเลยทีเดียว
น้ำหนักเฟรมและตัวรถ
ข้อนี้ผมว่าทุกๆ ท่านที่คิดจะซื้อเฟรมสักตัว เรื่องของน้ำหนักเป็นสิ่งประกอบการตัดสินใจ ถือเป็นเรื่องใหญ่
FM139 สามารถรีดน้ำหนัก ให้อยู่ในเกณท์ มาตรฐาน ของเฟรม Aero ได้ในพิกัด 1066 กรัม Size 50 (น้ำหนักเฟรมเปล่ารวมตะเกียบ และหลักอาน) ซึ่งถือว่าเบาสำหรับเฟรมคาร์บอน Aero และพอประกอบเสร็จสรรพ ก็คงอยู่ในพิกัดที่รับได้ แต่ทางผู้รีวิว ไม่ได้ชั่งเพราะไม่มีเครื่องชั่ง ได้แต่เพียงคาดคะเน ก็ประมาณ 7 kg. กว่าๆ รวมชุดขับ 105 และล้อคาบอนขอบสูง 50mm และเก็บรายละเอียดอีกเล็กน้อย ก็สามารถรีดน้ำหนักรถลงมาอยู่ในพิกัด 7 kg. ต้น ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
มิติและรูปทรง
เฟรมเป็นรูปทรงแอโรวร์ แบน มีส่วนเว้าส่วนโค้งต่างๆ ถ้วยคอหน้า เก็บงานได้ละเอียด ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป เฟรมท่อล่างใหญ่ ล้อหน้าอย่างลงตัว ท่อนั่งแอโร่ว์รับกับหลักอาน จุดยึดน๊อต ทันสมัยเก็บมิดชิดสวยงาม เก็บซ่อนสายเต็มระบบ เรียบเนียนไม่ขัดสายตา และถ้าชอบทรงของ Venge ก็คงถูกใจมิใช่น้อย
สัมผัสพื้นถนนครั้งแรก
จากการที่ได้ทดสอบ วันแรกปั่นไป 77 กม. ในทางเรียบ พบว่า ช่วงสปิ้นดีพึงพอใจ อาจไม่หวือหวาเท่า เฟรมเบาๆ แต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พอความเร็วแตะขึ้นไป 40+ สามารถทยานความเร็วขึ้นอีกได้เรื่อยๆ อาจเรียกว่าไหล ยิ่งความเร็วสูง หมอบทรง Aero สามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้อย่างดีทีเดียว
หลังจากวันที่สอง สามารถ ก็ได้ทดสอบปีนเนิน ไต่เขา ณ เขื่อนศรีฯ ระยะทาง 90 กม. (ไป-กลับ) การขึ้นเขาสามารถทำได้อย่างไม่ยากเย็นหนัก เพียงแต่อาจสู้ เฟรมน้ำหนักเบาไม่ได้ ช่วงเวลายืนโยกก็ให้ความรู้สึกแข็ง ไม่ย้วย สามารถกดได้ตามแรงที่มี และในช่วงลงเขา ลงด้วยความเร็ว 70 km/h สามารถลงมาได้อย่างนิ่ง ไม่รู้สึกถึงหน้าไว คอไว แต่ข้อด้อย คือช่วงเวลาขึ้นเขา เวลากดลูกบันได มันไม่สามารถขึ้นแบบปลู๊ดปล๊าด ครับ (ใช้คำไม่ถูก ขออภัย)
จุดเด่นที่สุดของรถคันนี้
เอาล่ะครับ หลังจากที่ได้สัมผัส และทดลองปั่น มาได้สัก 1 อาทิตย์ ก็พบว่า มันเป็นเฟรม Aero ที่เบา และสติฟ ทีเดียว สามารถยืนระยะในย่านความเร็วสูงได้ยาวนานขึ้น และยังไหลได้อย่างต่อเนื่อง และการปีนเขาก็ไม่ได้ให้เป็นอุปสรรคอะไร สามารถไปได้เรื่อยๆ และการปั่นในพื้นถนนที่ไม่เรียบ ก็สามารถซับแรงกระแทกได้ดีทีเดียว ไม่รู้สึกสะท้านมือ
บทสรุป
สำหรับท่านที่ชื่นชอบรถ Aero และชอบความไหล และมีแรงเฉื่อย น่าจะไม่ผิดหวัง รวมทั้งถ้าชอบรูปทรง Venge ก็คงโดนใจไม่น้อยเลยทีเดียว และ เกรดคาบอน T800 เลยทีเดียว