ประสบการณ์เกือบเป็นสโตกเกอร์ค่ะ

สวัสดีค่ะ  นี่เป็นกระทู้แรกของเราเลย แท็กผิดแท็กถูก หรือยาวเกินไปขออภัยด้วยน้า

เราเป็นพนักงานออฟฟิตธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ เวลาทำงานก็ทำงานเวลาพักก็พักเหมือนคนอื่นทั่วๆไป แต่ใครจะรู้ค่ะว่า เรามีอะไรมากกว่าที่เพื่อนร่วมงานของเราเห็น เราทำงานที่บริษัทของเรามาได้ 3 ปีกว่าๆแล้วค่ะ ที่นี้เงินเดือนดีบวกกับที่ว่าบ้านเราก็ค่อนข้างมีฐานะอยู่แล้วเลยทำให้เราไม่มีปัญหาเรื่องเงิน เราก็ค่อนข้างติดหรูเลยน่ะ แต่ก็ไม่ได้ขนาดแบบทำงานบ้านไม่เป็นหรือว่ากินกาแฟข้างทางไม่ได้ เราแค่จะบอกว่าเราก็มีรถ มีของแบรนเนมใช้เฉยๆอ่ะ จะบอกว่าตอนเรียนนี้ยิ่งกว่านี้นะ แต่พอทำงานแล้วรู้เลยว่าเงินอ่ะมันหายาก เราก็เลยประหยัดขึ้น เราพักอยู่ที่คอนโด เช่าเอาไม่ได้ซื้อ ก็ไม่ได้แพงเวอร์อะไรมากมาย พอดีๆค่ะ อยู่คนเดียวได้ เราอยู่เป็นโสดมาเกือบสองปีแล้วแหละ ช่างมันเถอะเนอะ555

เรื่องที่เราจะมาเล่าวันนี้มันเกิดขึ้นที่ว่า ตอนต้นปีที่ผ่านมา บริษัทของเรารับพนักงานเข้ามาใหม่ค่ะ รับมาเยอะอยู่น่ะ แต่น้องที่เข้ามาแผนกเรามีอยู่ 2 คนค่ะ เป็นชาย 1 และ หญิงอีก 1 ตัว น้องชะนีเอ๋ย! น้องผู้หญิงไม่ต้องไปพูดถึงหรอกเนอะ55 เรามาพูดเรื่องของน้องผู้ชายดีกว่า >///< เราขอเรียกน้องว่า น้องเอกละกันเนอะ(อันนี้เป็นนามสมมตินะคะ)

เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ข้างๆโต๊ะเรามันว่างค่ะ พี่ที่คุมแผนกเลยให้น้องเอกมานั่งข้างเราค่ะ ก็คนละโต๊ะเนอะ เราก็เริ่มสำรวจหน้าน้องเอกค่ะ น้องแกหน้าใสมากค่า  ตัวก็สูง หุ่นนี้ไม่ต้องพูดถึง น้องเป็นคนเรียบร้อย เรียบร้อยมากๆ พูดจาสุภาพอ่อนหวานมาก แบบ น่ารักเลยอ่า คือน้องตรงสเปคของเราทุกอย่างเลยอ่ะ เราเป็นคนชอบผู้ชายตัวสูงค่ะ ตอนแรกๆเราก็ไม่ได้ไรกับน้องมากมายน่ะ เราก็เออเฉยๆอ่ะ แต่พอนานๆเข้า(ไม่ถึงเดือนอ่ะน่ะ) เราก็เริ่มสนิทกับน้องมากขึ้นค่ะ ก็แบบมันนั่งข้างกันนี้เนอะ แล้วเราก็เริ่มรู้สึกว่าเราอยากได้น้องอ่า 55 พูดแบบไม่อายปากเลยย เราเริ่มตามน้องแล้วค่ะ แบบเวลาที่น้องกลับบ้านแล้วก็แบบจ้ากลับดีๆน่า แต่น้องหารู้ไม่ว่าเราตามน้องไปค่ะ น้องเขาขึ้นวินมอไซต์ไป เราก็ตามจนถึงหอเลยค่า ทีนี้เกิดปัญหาแล้วค่ะ หอน้องต้องใช่ตัวตื้ดแม่เหล็กอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าเพื่อนๆจะคิดกันออกไหมน่ะ แต่เป็นตัวกลมๆอ่ะ แต่ดีนะประตูค่อนข้างปิดช้าอยู่ค่ะ เราก็เลยวิ่งตามเข้าไปค่ะ น้องนี้ก็ไม่รู้อะไรเลยยย555 เราตามจนรู้ว่าน้องอยู่ห้องไรชั้นไหนอ่ะ เก่งช่ะ

เราตามน้องอยู่อย่างนี้ไปเกือบอาทิตย์ค่ะ เราก็ไม่รู้ว่าเราตามไมอ่ะนะ แต่ใจมันสั่งมาอ่ะ ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เราไปถามเจ้าของหอก็ไม่รู้อ่ะค่ะว่า "พี่ค่ะห้อง 401ว่างไหมค่ะ" ซึ้งห้อง 401 มันป็นห้องที่อยู่ข้างๆห้องน้องค่ะ เหมือนโชคช่วยมั้ง ห้องว่างค่ะ คุณพระ เราตัดสินใจเอาห้องนั้นทันทีค่ะ แบบไม่ได้คิดไรเลยน่ะ ค่ามัดจำอยู่ 6 เดือนเราก็ไม่เกี่ยงค่ะ เราไหว พร้อมทุ่ม 555 เราเข้าไปอยู่ห้องนั้นตั้งแต่วันนั้นเลยค่ะ กลับไปเก็บเสื้อผ้าแล้วก็ของจำเป็นอีกนิดหน่อยที่คอนโด แล้วรีบกลับมาหอเลยค่ะ

ตั้งแต่เช้าของวันที่เรามาอยู่ เราก็ลงไปซื้อของที่เซ่เวนมาเลยค่า เอาไปห้อยที่ห้องของน้องเอกเลย เราซื้อพวกน้ำผลไม้ค่ะ เราไม่ได้อยู่ดูน่ะว่าน้องจะได้เอาไปไหม แต่พอเราจะออกไปทำงานน้ำผลไม้มันก็ไม่อยู่แล้วค่า ก็เป็นอันรู้ว่าน้องเอาไปเนอะ เราไปทำงานเช้าค่ะกลัวน้องออกมาเห็นแล้วรู้ว่าเราตามน้องมา ที่ทำงานก็เหมือนกับทุกวันค่ะเราก็พูดคุยกับน้องเอกแกปกติ เราไม่กล้าแสดงออกมากแต่น้องนี้ยิ่งอยู่ยิ่งป๊อบค่ะ คนเข้าหาเยอะมาก แต่น้องก็ไม่ได้สนใจอะไรใครเป็นพิเศษอ่ะ(รวมทั้งเราด้วยอ่ะนะ) เราตามน้องแบบนั้นไปอีกเป็นเดือนน่ะ ของก็เอาไปให้อยู่ตลอด น้องก็ยังไม่รู้อ่ะ คือเราก็สงสัยน่ะว่าน้องไม่อยากรู้บ้างหรอว่าเป็นใคร ถ้าเป็นเรานะจะแอบออกมาดักดูว่าใครมันเอาของมาให้ จนอยู่มาวันหนึ่งค่ะ เราพลาดเองแหละ จากที่ตอนแรกกะแบบแอบตามน้องแบบไม่ให้น้องรู้ตัวไปเรื่อยๆ แต่คราวนี้เราพลาดไง เราตื่นสายเว้ย เราเลยได้ออกสายกว่าปกติ เป็นแบบที่ทุกคนคิดค่ะ น้องเจอเรา น้องเดินเข้ามาทักเราเลยค่ะ เราก็ทำเป็นเนียนๆ หวัดดีน้อง น้องเอกก็ถามว่า พี่มาทำไรแถวนี้ เราก็บอกไปว่าพี่พักอยู่ที่หอนี้ น้องก็เลยถามว่าห้องไรพี่ เราก็ตอบไปตามจริงค่ะ กลัวโกหกไม่เนียนอ่ะ น้องก็เอ้าห้องข้างๆผมเลยนิ เราก็เอ้าหร้อ ไม่รู้เลยน่ะเนี้ยย วันนั้นน้องก็ไปทำงานกับเราค่ะ ตอนกลับจากที่น้องกลับบ้านไว น้องก็รอกลับบ้านพร้อมเรา คือถ้าวันไหนเราทำงานไม่ทันเราก็อยู่ดึกอ่ะค่ะ น้องรอเราจน 6 โมงมั้ง นั้งรอตั้ง1 ชั้วโมงแหนะ เราก็เออไปพี่เลี้ยงข้าวขอบคุณที่รอไรงี้ เนียนๆไง

เรากับน้องไปกลับหอกันอีกหลายอาทิตย์ค่ะ แต่ว่าเราไม่เคยได้เข้าห้องน้องเลยน่ะ ของที่เราให้ก้ยังให้ค่ะ แต่เอาไปให้เช้าขึ้นเท่านั้นเอง
จุดพีคของเรื่องมันอยู่ตรงนี้ค่ะ คืออันนี้เราไม้ได้ตั้งใจจริงน่ะ จริ๊งจริงง คือเราลืมกุญแจห้องไว้ค่ะ พอกลับมาห้องตอนเย็นเราก็เอ้าซวยแล้ว ลืมกุญแจห้อง เราก็เข้าห้องไม่ได้อีก ลงไปหาคนเฝ้าหอก็ไม่อยู่เราเลยเขียนโพสอิดว่าเราเข้าห้องไม่ได้มาไขเข้าห้องให้หน่อย น้องยังไม่ได้แยกกับเราค่ะ น้องอยู่กับเราตลอดน่ะ พาลงมาข้างล่างด้วย น้องเลยให้เราไปรอในห้องของน้องก่อนค่ะ เราก็บอกว่าไม่เป็นไรพี่ไปรอข้างนอกก็ได้ น้องก็พูดจนเราเข้าห้องน้องจนได้ค่ะ เราเข้าไปในห้องน้องค่ะ น้องเอกก็เอาน้ำเอาขนมออกมาเต็มเลย เราพึงรู้ว่าน้องชอบกินขนมคือมันมีตุ่นไว้เยอะมากอ่ะ น้องขอไปอาบน้ำค่ะ เราก็โอเครจ้าพี่ไม่อยากรบกวนมาก ทำไรก็ทำเลย พอน้องเขาห้องน้ำ เราก็เลยได้โอกาสสำรวจห้องน้องค่ะ เราก็เดินๆดูไปค่ะ ห้องน้องก็ไม่ได้แตกต่างจากห้องเรามาเท่าไรอ่ะ แต่ของเยอะกว่าเฉยๆ หน้าโต๊ะเครื่องแป้งของน้องมีครีมอะไรเยอะแยะไปหมดเลยค่ะ สำอางมากกกกกก! เราก็ดูๆไปอ่ะ มีพวกครีมล้างหน้าด้วย ที่โกนหนวดยังมีอ่ะ เราก็ทำไมไม่เอาไว้ในห้องน้ำว่ะ แล้วอยู่ๆน้องก็เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำค่ะ แล้วบอกเราว่า พี่ครับหยิบแปรงล้างหน้ากับเจลล้างหน้าให้ผมหน่อยครับ ด้วยความพี่เราก็เขินไง ลนๆ ถามน้องว่าคือไหนอ่ะ น้องก็บอกว่า ที่มันเขียนว่าคลาริโซนิคอ่ะ (ต๊าย ไอ้อันที่เราคิดว่าที่โกนหนวดที่แท้มันไม่ใช่ แต่มันคือแปรงล้างหน้า ผู้ชายอะไร สำอางจัง) เราก็เขินๆลนๆอ่ะ แล้วก็หยิบไปให้น้อง เรานี้หน้าแดงเป็นไรก็ไม่รู้น่ะ รู้แค่ว่าเขินอ่ะ เราไม่เห็นหกแพคของน้องน่ะ น้องตะโกนผ่านช่องเล็กๆของประตูเอง แอบเสียดายอยู่น่ะ 555  กว่าเราจะได้ออกจากห้องน้องก็ตอน สี่ทุ่มแล้วค่ะ

เรากับน้องก็ยังเหมือนเดิมเรื่อยๆค่ะไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลยตั้งแต่วันนั้น ก็กลับหอกับน้องปกติเลยค่ะ แล้วเราก็แบบอารมณ์ติสแตกออกไปนั้งปิดไฟที่ระเบียงห้องนั่งมองฟ้าอ่ะค่ะ เคยเป็นกันไหมแบบอยากเฉยๆบ้างคือช่วงนั้นงานมันหนักอ่ะค่ะ เราเห็นระเบียงห้องน้องเปิดอยู่เราก็ไม่ได้สนใจไรอ่ะ แต่ว่าภาพต่อมาทำเราช็อคเลยค่ะ เราเห็นผู้ชายอีกคนอ่ะ หล่อกว่าน้องเอกเราอีก สูงเท่าๆกันน่ะ เปลือยท่อนบนเดินออกมาจากระเบียงห้องน้อง เราก็สงสัยเพื่อนมั้ง น้องแกถือน้ำผลไม้ที่เราจำได้ว่าเราเป็นคนเอาไปให้น้องเอกกินอ่ะ เราก็เอ้าน้องเอกอ่ะ แอบงอลเล็กๆน่ะ แต่กำลังฟินกับหกแพคน้องอีกคนอยู่ แต่ว่าอยู่ดีๆน้องเอกก็ออกมาตรงระเบียงแล้วเขาไปกอดน้องคนนั้นจากข้างหลังอ่ะ แล้วพูดว่า "อย่างอลเอกเลยนะคะ" เท่านั้นแหละค่ะ จบข่าว เราย้ายกลับคอนโดเราเลย จบแบบเซ็งๆค่ะ สมัยนี้ไม่มีที่ยืนให้ชะนีค่ะ

-----------------------------------------------------------------------
Ps. ขอชี้แจงก่อนนะคะ นี่เป็นเรื่องจริง แต่ขออนุญาตแท็กเรื่องแต่งไว้ก่อนล่ะกันนะคะเพราะเราเล่าแบบใส่ฟีลลิ่งไปเต็มๆค่ะ ฮ่าๆๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่