เนื่องจากได้มีการกู้สินเชื่อบ้านของธนาคารกสิกรไทย ได้ประมาณ 6 ปี ช่วงแรกที่ทำสัญญาทางธนาคารให้ทำประกันภัยอัคคีภัยกับเมืองไทยประกันภัย เป็นสัญญา 3 ปี โดยไม่ได้บอกล่วงหน้าตอนที่กู้ แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไร เพราะไหน ๆ ก็กู้เงินธนาคารแล้ว ประกันภัยก็ควรทำเพียงแต่คิดว่าธนาคารน่าจะบอกก่อน หรือถ้าจะเลือกทำประกันกับบริษัทอื่นก็ควรเป็นสิทธิของเรา แต่ก็เข้าใจธนาคาร ผ่านไป 3 ปีจู่ ๆ ก็มีSMS หักเงินจากATM อัตโนมัติ เป็นเงินเกือบ 5 พันบาท ได้โทรไปถามทางธนาคาร Callcenter แจ้งว่าเป็นการเรียกเก็บจากบริษัทเมืองไทยประกันภัย เป็นค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย 3 ปี ก็ได้ตำหนิไปว่า ไม่เคยได้รับใบแจ้งว่าประกันภัยเราครบกำหนด 3 ปี หรือสอบถามว่าเรายินดีจะต่อสัญญากับเมืองไทยหรือไม่ จู่ ๆ มาหักเงินโดยไม่บอกล่วงหน้า ทางธนาคารแจ้งว่า เป็นเรื่องของลูกค้า กับบริษัท เราย้อนถามไปว่า ถ้าบริษัทใดส่งใบเรียกเก็บมา ธนาคารก็สามารถหักเงินโดยไม่สอบถามเลยหรือ โทรไปบริษัทเมืองไทย ว่าทำไมถึงไม่มีการแจ้งหรือใบเตือนกับลูกค้ามาก่อน จู่ ๆมาหักเงิน ถ้าเรามีความจำเป็นต้องใช้เงินพอดีไม่ได้เตรียมที่จะจ่ายค่าเบี้ยประกัน ทางเมืองไทยก็บอกว่าเป็นเรื่องที่เราต้องต่ออยู่แล้ว โอเคขี้เกียจพูดมากทั้งที่คิดว่า ประกันภัยเป็นสัญญาปีต่อปี เรามีสิทธิเลือกที่จะทำกับบริษัทไหนก็ได้หรือทำปีต่อปีก็ได้จะได้ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน แต่หนนี้ถือว่าหยวน ๆแม้จะไม่ค่อยพอใจที่เหมือนโดนหักคอแต่ขี้เกียจต้องมาทำเรื่องยกเลิก แต่ขอให้คราวหน้าช่วยแจ้งล่วงหน้ากับลูกค้าหน่อย ไม่ใช่จู่ ๆมาหักเงินกัน ไหน ๆ ก็ต่อไปแล้ว
ผ่านไป 3 ปีจนเกือบลืม วันศุกร์ที่ผ่านมา ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีกสิกร และเรามีเรื่องที่จะต้องใช้เงินจำนวนนี้ พอวันเสาร์จะทำเรื่องโอนเงิน ปรากฏว่าเงินในบัญชีหายไป 5,764 บาท เพื่อบริษัทเมืองไทยประกันภัย
หนนี้เราของขึ้นมาก เพราะไม่มีจดหมาย โทรศัพท์ ใบเตือนแจ้งค่าเบี้ยประกันภัย(ที่ปรับขึ้นแถมต่อให้เราอีก 3 ปี) ทั้งที่ประกันภัยเป็นสัญญาปีต่อปี แต่ถ้าทำ 3 ปึถูกกว่าจ่ายปีต่อปี แต่ทางบริษัทเมืองไทยมีสิทธิอะไรหรือคะ ที่จะมาต่อสัญญาให้เราโดยอัตโนมัติ3ปี โดยไม่ถามเราก่อนถึงแม้ว่าจะมีสินเชื่อกับกสิกร เราก็มีสิทธิที่จะทำประกันอัคคีภัยกับบริษัทอื่นมิใช่หรือ โทรไปกสิกรก่อน callcenter ตอบเหมือน 3 ปีที่แล้ว(แม้จะเป็นคนละคนกัน) ว่าเป็นเรื่องของบริษัทประกันกับลูกค้า ให้เราติดต่อกับเมืองไทยเอง แต่เราลองโทรหาเมืองไทยจากโทรศัพท์อีกเครื่อง แจ้งว่าให้ติดต่อในวันทำการ เลยถามกสิกรว่า มันเป็นการมัดมือชกลูกค้ามาก เข้าใจว่าเมืองไทยกับกสิกร มีเกี่ยวดองเป็นแม่ลูกกัน แต่การหักเงินจากลูกค้าโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ยืนยันว่าไม่มีจดหมายแจ้งเตือน โทรศัพท์สอบถามจากทางบริษัทเรื่องการต่อสัญญาไปอีก 3ปี และประกันอัคคีภัยเป็นสัญญาปีต่อปี กสิกรและเมืองไทย กลับใช้ความได้เปรียบในการที่เรามีบัญชีกับธนาคาร มัดมือชกลูกค้าโดยการหักบัญชี เพราะลูกค้าที่หยวน ๆ เหมือนเราเมื่อ 3 ปีที่แล้วคงมีไม่น้อย แต่ครั้งนี้เสียความรู้สึกมาก ประกันไฟเราคงยังต้องทำอยู่ แต่ไม่ใช่มาหักคอลูกค้าแบบนี้ ตอนแรกจะให้เราติดต่อเมืองไทยเอง(เหมือน 3 ปีที่แล้ว) เราเลยบอกคนต้องทำมาหากินนะคะ
วันจันทร์ Callcenter กสิกรจะติดต่อมาอีกที จะคอยดูว่า เงินที่หักเราไป จะคืนเราได้ทันทีไม๊ เพราะเกรงว่าสิ่งที่จะเจอคือต้องดำเนินการยกเลิกกรมธรรม์นะคะ(เวลาต่อกรมธรรม์และหักเงิน คุณไม่ถามเราซักคำ) เวลาคืนเงิน(ของตัวเอง)แม้เป็นเงินแค่ 5 พันกว่าบาท แต่สำหรับคนทำมาหากินนะคะที่ต้องส่งเงินกู้บ้านให้ธนาคารเดือนละ 2 หมื่นกว่าบาท จำนวนเงินนี้มีค่ามากนะคะ
มาเล่าไว้เป็นประสบการณ์ค่ะ วันจันทร์นี้ได้คืบหน้ายังไง จะมาเล่าต่อนะคะ
กสิกรไท&เมืองไทยประกันภัย มีสิทธิหักตังเราแบบนี้ด้วยหรือคะ
ผ่านไป 3 ปีจนเกือบลืม วันศุกร์ที่ผ่านมา ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีกสิกร และเรามีเรื่องที่จะต้องใช้เงินจำนวนนี้ พอวันเสาร์จะทำเรื่องโอนเงิน ปรากฏว่าเงินในบัญชีหายไป 5,764 บาท เพื่อบริษัทเมืองไทยประกันภัย
หนนี้เราของขึ้นมาก เพราะไม่มีจดหมาย โทรศัพท์ ใบเตือนแจ้งค่าเบี้ยประกันภัย(ที่ปรับขึ้นแถมต่อให้เราอีก 3 ปี) ทั้งที่ประกันภัยเป็นสัญญาปีต่อปี แต่ถ้าทำ 3 ปึถูกกว่าจ่ายปีต่อปี แต่ทางบริษัทเมืองไทยมีสิทธิอะไรหรือคะ ที่จะมาต่อสัญญาให้เราโดยอัตโนมัติ3ปี โดยไม่ถามเราก่อนถึงแม้ว่าจะมีสินเชื่อกับกสิกร เราก็มีสิทธิที่จะทำประกันอัคคีภัยกับบริษัทอื่นมิใช่หรือ โทรไปกสิกรก่อน callcenter ตอบเหมือน 3 ปีที่แล้ว(แม้จะเป็นคนละคนกัน) ว่าเป็นเรื่องของบริษัทประกันกับลูกค้า ให้เราติดต่อกับเมืองไทยเอง แต่เราลองโทรหาเมืองไทยจากโทรศัพท์อีกเครื่อง แจ้งว่าให้ติดต่อในวันทำการ เลยถามกสิกรว่า มันเป็นการมัดมือชกลูกค้ามาก เข้าใจว่าเมืองไทยกับกสิกร มีเกี่ยวดองเป็นแม่ลูกกัน แต่การหักเงินจากลูกค้าโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ยืนยันว่าไม่มีจดหมายแจ้งเตือน โทรศัพท์สอบถามจากทางบริษัทเรื่องการต่อสัญญาไปอีก 3ปี และประกันอัคคีภัยเป็นสัญญาปีต่อปี กสิกรและเมืองไทย กลับใช้ความได้เปรียบในการที่เรามีบัญชีกับธนาคาร มัดมือชกลูกค้าโดยการหักบัญชี เพราะลูกค้าที่หยวน ๆ เหมือนเราเมื่อ 3 ปีที่แล้วคงมีไม่น้อย แต่ครั้งนี้เสียความรู้สึกมาก ประกันไฟเราคงยังต้องทำอยู่ แต่ไม่ใช่มาหักคอลูกค้าแบบนี้ ตอนแรกจะให้เราติดต่อเมืองไทยเอง(เหมือน 3 ปีที่แล้ว) เราเลยบอกคนต้องทำมาหากินนะคะ
วันจันทร์ Callcenter กสิกรจะติดต่อมาอีกที จะคอยดูว่า เงินที่หักเราไป จะคืนเราได้ทันทีไม๊ เพราะเกรงว่าสิ่งที่จะเจอคือต้องดำเนินการยกเลิกกรมธรรม์นะคะ(เวลาต่อกรมธรรม์และหักเงิน คุณไม่ถามเราซักคำ) เวลาคืนเงิน(ของตัวเอง)แม้เป็นเงินแค่ 5 พันกว่าบาท แต่สำหรับคนทำมาหากินนะคะที่ต้องส่งเงินกู้บ้านให้ธนาคารเดือนละ 2 หมื่นกว่าบาท จำนวนเงินนี้มีค่ามากนะคะ
มาเล่าไว้เป็นประสบการณ์ค่ะ วันจันทร์นี้ได้คืบหน้ายังไง จะมาเล่าต่อนะคะ