ครั้งนี้เป็นการรีวิวครั้งแรกของผมเลย พอดีเห็นว่ายังมีคนมารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมไปมายังไม่เยอะ คราวนี้ได้โอกาสไปเที่ยวเลยอยากจะมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ดูกันครับ สมัครพันทิป รอการอนุมัติใช้เวลาสักพัก กว่าจะได้มารีวิว ยังไงฝากแนะนำติชมด้วยนะคร้าบบบบ ขอออกตัวก่อนเลยถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคร้าบบบบบบบบ

ทริปนี้เป็นทริปที่ค่อนข้างตัดสินใจเร็วมากๆ แต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไร เพราะว่าพวกเราอยู่จังหวัดนครสวรรค์ พอดีมีเพื่อนที่ลำปางด้วย ทริปนี้ไปวันเสาร์เช้า กลับวันอาทิตย์เย็น พักที่ลำปางหนึ่งคืน ห้องพักฟรีจ้าาาาาาาาาาา
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ไปด้วย
ขอบคุณกล้องและเลนส์คู่ใจ Nikon D3200 Lens: Fix 50mm f1.8 และ Kit 18-55 mm

เราออกเดินทางจาก นครสวรรค์ มุ่งหน้า ลำปาง ตอนประมาณ หกโมงเช้า แวะใส่บาตร (ดูดีใจบุญใสๆ) กินกาแฟ เข้าห้องน้ำ อะไรต่างๆ มากมาย กว่าจะถึงลำปางก็ประมาณ สิบโมงกว่าๆ พอถึงอำเภอเกาะคา ก็ต้องแวะเข้าไปไหว้สักการะวัดพระธาตุลำปางหลวงก่อนเลยยย
อ๋อ ลืมบอก พอดีผมเคยทำงานที่จังหวัดลำปางมาก่อนด้วย การเดินทางเลยค่อนข้างสบาย พอรู้ทางบ้าง
เส้นทางไปวัดก็ง่ายๆ นะครับ การเดินทางจากนครสวรรค์ สู่ลำปาง จะมาถึงอำเภอเกาะคาก่อนตัวเมืองลำปาง ให้เลี้ยวซ้ายเข้าอำเภอเกาะคาก่อน แล้วพอเข้าอำเภอเกาะคา ก็เลี้ยวซ้ายไปวัดพระธาตุลำปางหลวงได้เลยจ้า ตรงนี้ง่ายๆ  


หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง และร้อนเท้าจากการเดินรอบพระธาตุลำปางหลวงสามรอบตามธรรมเนียมแล้วเราก็ต้องหาที่พักผ่อนหย่อนใจกันหน่อยนะ
ร้านนนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าเป้นร้านที่สมัยเราอยู่ลำปางไปจะชอบไปนั่งทุกวันเสาร์ อ่านหนังสือ ฟังเพลงชิลๆ เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบร้านกาแฟแบบบรรยากาศ Outdoor

ที่สำคัญนะครับ คุณลุง คุณป้า และลูกสาว น่ารักมาก ท่านใจดีและรับแขกอย่างดี เรายังเคยบอกเลยว่าคุณลุงคือบารริสตาร์ร้านกาแฟที่เข้าตำราที่สุด เพราะคุณลุงจะพูดคุยต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาในร้านเป็นอย่างดีทุกคน ทำให้ร้านกาแฟเป็นเหมือนนั่งอยู่ที่บ้านได้
ร้านกาแฟมีสวนล้อมรอบ บรรยากาศดีมากครับ
เส้นทางไปร้านกาแฟเฮือนน้ำใสนะครับ ถ้าจำตอนที่ขัยรถเข้ามาทางอำเภอเกาะคาได้ เมื่อถึงที่ว่าการอำเภอเกาะคา ถ้าเลี้ยวขวาจะไปวัดพระธาตุลำปางหลวง แต่ถ้าจะไปร้านเฮือนน้ำใสต้องเลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอเสริมงามนะครับ ไปไม่ไกลน่าจะประมาณกิโลนิดๆ (กิโลเมตรนะ อิอิ)

หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางทั้งวันละ พอดีวันนั้นวันเสาร์อ่ะนะครับ ตอนเย็นพวกเราได้ไปเดินถนนคนเดินเมืองลำปางกันด้วย ไปดูละอ่อนเมืองเหนือน่าฮักๆ ตลาดก็ครึกครื้นอย่างเคย แต่ว่าตอนนี้ไม่มีภาพรีวิวนะจ้ะ เพราะว่าถ่ายไม่สะดวกเลยไม่ได้เก็บภาพมาครับ

คราวนี้มาถึงวันฟินที่สุดในทริปแล้ว
เช้าวันอาทิตย์จ้า เป็นวันที่เราจะเดินทางไปสักการะวัดปู่ผาแดง ที่ อ.แจ้ห่ม
การเดินทาง : พวกเราเดินทางจากอำเภอเกาะคา ใช้ถนนเส้นลำปาง - พะเยา แล้วไปเลี้ยวซ้ายซอยก่อนถึงโรงพยาบาลศูนย์มะเร็งลำปาง ตรงไปเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวาไปทางอำเภอแจ้ห่ม จากนั้นก็วิ่งตรงไปเรื่อยๆ เลยนะจ้ะ อันนี้ก็บอกทางคร่าวๆ นะครับ เพราะว่าไม่ได้จำชื่อถนนมาด้วย เป็ฯคนขับด้วยอ่ะจิ อิอิ
แต่ว่าลักษณะเส้นนทางไป อ.แจ้ห่ม จะโค้งเยอะนิดหน่อย แต่ก็ไม่ลำบากมาก แต่ที่จำได้เลยคือเราแอบเลยทางเข้าวัดด้วยนะ ต้องไปยูเทิร์นกลับมาเลยแหละ

เมื่อถึงตัวอำเภอแจ้ห่ม ก็ขับตรงไปเรื่อยๆ แล้วทางเข้าวัจะอยู๋ด้านซ้ายมือไม่ใหญ่มาก ต้องพยายามสังเกตุหน่อยนะครับ เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้าไปแล้ว ก็จะเลี้ยวซ้ายอีกทีเพื่อขับเข้าไปตรงจุดที่เราต้องไปขึ้นรถโดยสารเพื่อจะขึ้นเขาครับ ซึ้งเส้นทางนี้ก็สภาพเป็นโค้งเป้ฯเขานิดหน่อย แต่ว่ารถเรา Almera ก็ผ่านไปได้อยู่นะครับ
เนื่องจากทางวัดเค้าไม่อนุญาตให้เอารถขึ้นไปเองนะครับ เค้าก็เลยจัดผู้ที่มีความชำนาญมาขับให้พวกเรา ในราคาตั๋วไป - กลับ 100 บาท เท่านั้นเอง แต่ขอบอกนะ ความเสียวเกินราคาจริงๆ เพราะว่าสภาพถนนเป็นถนเส้นเล็กๆ และขึ้นเขาชันมาก รถสวนกันไม่ได้ ต้องเร่งเครื่องอย่างเดียว เวลาขึ้นลงต้องรอจนกว่ารถคันที่ขึ้นไปก่อนหน้านี้ลงมาก่อน คนจัดรถเค้าก็ดี๊ดี มีวิทยุสื่อสารบอกกันตลอด ไม่งั้นไม่ไหวนะจ๊ะ เสียดายที่ความเสียวนี่มันถ่ายทอดทางภาพไม่ได้ แต่ไปเถอะถ้าคุณยังไม่เคย อิอิ
นี่คือบรรยากาศจากข้างล่างตรงจุดขึ้นรถรับจ้างครับ

ผ่านความเสียวมาแล้ว ก็มาถึงชั้นที่สอง (เราเรียกเอง)
วิวจากบริเวณชั้นที่สองชั้นนี้เค้าจะมีทางแยกทางซ้ายไปนมัสการรอยพระพุทธบาทและรอยพระหัตถ์ด้วยนะคร้าบบบ ต้องเดินไปทาซ้าย แต่ว่าพวกเรากล้วร้อน เลยขอขึ้นเขาก่อน
การเดินทางขึ้นเขานะครับ (หามีอีกหรา!!!!!)  คราวนี้เอารถขึ้นไปไม่ได้นะจ้ะ ต้องเดินจ้า
ทางเดินขึ้นเค้าจะมีบันไดเหล็กให้เดินนะครับ ก็สะดวกหน่อยไม่ต้องห่วง ระหว่างทางคุณลุง คุณป้า คุณพ่อ คุณแม่ คุณพี่เยอะแยะ สวนกันเค้าก็ให้กำลังใจกัน สนุกสนาน มิตรภาพใหม่ๆ เยอะเลย ระพว่างทางเดินก็มีต้นไม้บังแดดให้เราโดยตลอด ไม่ร้อนนะจ้ะ นี่ขนาดไม่ได้ไปไหน้าหนาวนะ ถ้าไปหน้าหนาวต้องฟินมากๆ แต่ถ้าใครไม่สะดวกช่วงหน้าหนาว ก็ไปวันที่ฝนไม่ตกเหมือนพวกเราก็พอละครับ อิอิ

คราวนี้หลังจากเดินไปสักพัก ก็ไม่ไกลเท่าไหร่ ประมาณเกือบโลได้มั้งเห็นเค้าว่านะ แต่ว่าเรายังสบายไม่เหนื่อยเลย ชิลๆ คือตอนเดินต้องบอกเลยมันมีกำลังใจ เพราะว่าคนที่อายุเยอะกว่าเรายังไปได้เลย เราก็ต้องไปได้ดิว่ะ
คราวนี้ก็ถึงที่หมายละ จะขึ้นไปเจอมุม 360 องศาแล้ว ตื่นเต้น

เจอวิวสวยๆ แบบนี้แล้วก็ชื่นใจ
จากพื้นดินตรงนี้ เราจะต้องเดินขึ้นบันได้ไปอีกนะครับ เพื่อชมวิว (ขึ้นอีกแล้ว!!!!!)
นี่ไงบันได้ที่เราขึ้น อันนี้ถ่ายอีกมุมนึง

และนี่คือภาพวิวสวยๆ ที่ได้ คุ้มค่าอ่ะ พูดเลย

ถึงเวลาลงละ นั่งรถขาลงก็เสียวไม่แพ้กัน ต้องมาลองนะ คุ้มเกินคุ้ม ก่อนกลับก็เก็บภาพอีกนิดหน่อย


จบทริปการเดินทางครั้งนี้อุปกรณ์ถ่ายภาพ  Nikon D3200 Lens: Fix 1.8 50mm and Kit 18-55 mm