GD110 ใส่เครื่อง sr400 ไหวมั้ยครับ ?

กระทู้คำถาม
เดือนนี้ว่าจะไปออกเจ้าGD110มาขี่ครับ  

1ลูกสูบ ขนาด113cc ปัญหาคือมันเป็นลูกสูบแบบเล็ก และcc น้อยไป

อยากเปลี่ยนเครื่อง จะเอาความเร็วยืนพื้นซัก 100นิดๆ โดยที่ไม่เค้นเครื่องมากไป ไม่รู้จะเอาเครื่องอะไรดี ถ้าใส่เครื่องsr400 จะไหวมั้ยครับ ?

ตามด้วยเปลี่ยนล้อ เปลี่ยนยางให้ใหญ่ขึ้น เปลี่ยนเบาะ เอาแรคท้ายออก คงจะจบเท่านี้

หรือมีเครื่องอะไรแนะนำที่มันไม่ใช่ทรงเครื่องBB (นึกภาพลูกสูบcbr150) ช่วยแนะนำด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ ยิ้ม
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
เข้าใจแล้วครับ

ผมเข้าใจ คอนเซ็ป คุณแล้ว อย่างนี้คุยกันง่ายครับ

ส่วนคำถามที่คุณถามไว้ ผมขอมาตอบตรงนี้นะครับ

"ถามนิดครับ ที่บอกว่า ชิ้นส่วนต่างๆต้องรับภาระหนักขึ้น

มันสามารถอยู่ได้ถึง 3 4 ปีรึเปล่าครับ หรือแค่ปีเดียวก็ไปแล้ว ต้องเปลี่ยนใหม่หมด (ในกรณีที่ซัดเต็มที่บ่อยๆ)

แล้วมันสามารถทำให้เครื่องระเบิด หรือไฟลุก แบบพวกรถสูตรที่ทำเยอะๆมั้ยครับ ? "


เรื่องชิ้นส่วนต่างๆที่ต้องรับภาระมากขึ้นจากการ modify มีอยู่แล้วครับ
เพียงแต่เราสามารถที่จะลดภาระที่เกิดขึ้นได้ครับ

- ขยายกระบอกสูบ = ไอดีมากขึ้น = การจุดระเบิดและเผาไหม้ที่มากขึ้นตามมา = ความร้อนที่เพิ่มมากขึ้น = ภาระที่เพิ่มขึ้น
วิธีลดภาระก็คือ ติด oil cooller เพื่อระบายความร้อนในน้ำมันเครื่อง อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในเครื่อง
จะถ่ายเทไปให้น้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องก็จะไป oil cooller เพื่อให้อากาศถ่ายเทความร้อนจากน้ำมันเครื่องอีกทีนึง

ทำครีบเสื้อสูบเพื่ม วิธีนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยม แต่ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพและทนทาน
เพียงแต่ต้องหาช่างเชื่อมเก่งๆ และหาเสื้อสูบเก่าตัดครีบเสื้อมันมาต่อใช้


ส่วนคำถามที่ว่า "มันสามารถอยู่ได้ถึง 3 4 ปีรึเปล่าครับ"

เป็นหนึ่งในคำถามที่ตอบยากมากครับ เพราะมันมีปัจจัยมาเกี่ยวข้องหลายส่วนมาก เช่น
- การบำรุงรักษา ตั้งวาล์ว เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง-ไส้กรอง แผ่นครัช ซึ่งขึ้นอยู่ที่ผู้ใช้งาน
- การใช้งาน ถ้าเป็นพวกใช้รถโหดๆรอบเครื่องสูงๆแช่ยาวๆ ความสึกหรอก็จะมากขึ้น = ควรตรวจเช็คและบำรุงรักษาให้ถี่ขึ้น
- คุณภาพของชิ้นส่วนที่ใช้ในการ modify ลูกสูบ แหวนลูกสูบ วาล์ว ก้านสูบ 4 อย่างนี้คือส่วนที่ควรใส่ใจในคุณภาพมากที่สุด
- ฝีมือของช่างและโรงกลึง เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เพราะต่อให้ใช้ของเกรดที่ดีที่สุดแต่ช่างไม่ได้เรื่อง ประกอบมาห่วยๆ
ไม่ใส่ใจในคุณภาพของงาน สิ่งที่ได้ออกมาจากการใช้ของที่ดีที่สุด ก็แทบจะกลายเป็นขยะ
กับช่างที่มีฝีมือมีคุณภาพ สามารถใช้ของธรรมดา มาปรับตั้ง ดัดแปลง ดึงประสิทธิภาพออกมาได้ดีที่สุด

แต่ถ้าให้ผมสรุป รถที่ผ่านการ modify มานั้น ควรจะต้องหมั่นตรวจเช็ค มากกว่ารถปกติ เพราะเราฉีกกฏของคนออกแบบมา
และคุณก็บอกกรณีมาว่า "ซัดเต็มที่บ่อยๆ" ผมให้ไม่น่าเกิน ปีครึ่ง (1 ปี 6 เดือน) ไม่ + มีแต่ - อาจได้ถึง 1 ปี
และจากการ modify แบบที่ผมบอก ภาษาช่างเรียกลูกโต สิ่งที่ควรใส่ใจในการตรวจเช็คมากที่สุดคือ "ก้านสูบ"
เพราะก้านสูบคือสิ่งเดียวที่ทำหน้าที่ ดึงและดันลูกสูบ ฉะนั้นลูกสูบที่ใหญ่ขึ้น = แรงเสียดทานก็มากขึ้น = ก้านสูบก็รับภาระหนักขึ้น


ส่วนอีกคำถาม "แล้วมันสามารถทำให้เครื่องระเบิด หรือไฟลุก แบบพวกรถสูตรที่ทำเยอะๆมั้ยครับ ?"

เครื่องระเบิด ในความหมายไหน ถ้าระเบิดแบบ ตูม ! เครื่องกระจาย อันนี้คงไม่มี
แต่ถ้าความหมายช่าง engine blow คือเครื่องพัง ไม่ว่าจะลูกสูบทะลุ ก้านสูบหัก-งอ วาล์วขาด (อะไรก็ตามที่ทำให้เครื่องไม่สามารถทำงานต่อได้)
พวกนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ครับ และสามารถเกิดได้กับทุกเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะ modify หรือไม่ เพียงแต่โอกาสเกิดไม่เท่ากัน
modify มาจะมีโอกาสเกิด engine blow มากกว่า

แล้วโอกาสไฟลุกไหม้ล่ะ ?

เอาจริงๆเรื่องนี้โอกาสเกิดต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก ถ้าสายน้ำมันและถังน้ำมันไม่ขาด รั่ว ซึม หรืออะไรก็ตามที่จะทำให้น้ำมันออกมานอกระบบได้
คือ ตราบใดที่น้ำมันยังอยู่ในระบบ และ จุดระเบิด ในห้องเผาไหม้ โอกาสเกิดน้อยกว่า engine blow เสียอีก


จริงๆถ้าที่คุณบอกจะแต่งแนว scrambler ค่ายางผมว่าต่ำก็ 6,000 แล้วครับ
ไหนจะเบาะ ไฟหน้า แฮน โช็ค ไฟเลี้ยว
ผมว่าก็หลาย แล้วนะ ค่าแต่งสวย อาจแพงกว่าค่าแต่งเครื่องอีก

จบแล้วครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่