ต้านกันจัง ต้านกันเข้าไป ทั้งโรงไฟฟ้า ทั้งพลังงาน ทั้งเขื่อน ทั้งคลองคอดกระ รักทุกอย่างยกเว้นความเป็นอยู่ของคนในประเทศ
เอาความคิดผิดๆมายัดใส่หัวคนอื่น ไม่มีป่า = ไม่มีน้ำ สรุปว่ามีป่าคือมีน้ำหรอครับ ต้นไม้มันระเหยกลายเป็นไอ ได้ด้วยหรอครับ ?????
ต่อให้ไม่มีต้นไม้ฝนมันก็ตกเหมือนเดิมแหละครับ สิ่งที่เป็นปัจจัยคือลม ครับลมเปลี่ยนทิศ พัดเมฆออกจากทะเล นั่นแหละครับที่จะทำให้ฝนไม่ตก
แต่ไม่ใช่จะบอกว่า ไม่ให้มีต้นไม้นะครับต้นไม่มันก็มีประโยชน์แต่มันไม่ใช่ปัจจัยหลักในการทำให้เกิดฝนแต่มันคือเขื่อนธรรมชาติ แค่นั้นเองครับ

แต่เดี๋ยวก่อนเรามาลองดูเขื่อนกันดีกว่าว่าต้นไม้ไม่มีอย่างพวก โง่ เค้าว่าไหม

เขื่อนสิริกิต์

ป่าไม่มีเลยจริงๆนะครับ

เขื่อนภูมิพนธ์

สัตว์ป่าไม่มีที่อยู่จริงๆแบบพวก โง่บอกเลยครับ ทะเลทรายทั้งนั้น

เขื่อนศรีนครินทร์

แห้งแล้งมากกกกกกกกก

เขื่อนวชิราลงกรณ์

เขื่อนสิรินธร

เขื่อนอุบลรัตน์

เขื่อนจุฬาภรณ์

เขื่อนแก่งกระจาน


นี่คือตัวอย่างว่าสร้างเขื่อนแล้ว ป่าไม้น้อยลง ........... เหรอออออ !!!


มันแค่ข้ออ้างที่อยากจะค้านหรือปล่าวครับ
เดี๋ยวคอยดู พอเรื่องเงียบโผล่มาอีกแล้ว เดินมั่ง วิ่งมั่ง ต้านเข้าไป
พอน้ำท่วมมาเป็นขอมดำดินอีกรอบ
ผมว่าพวกคุณไม่มีราคาก็แค่พวกหัวแข็งที่แค่อยากได้ทุกอย่างแบบที่ตัวเองคิด โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของใครแค่นั้นแหละครับ
เดี๋ยวคอยดูเรื่องโรงไฟฟ้า(พอจะสร้างไม่ให้สร้างพอไฟไม่มีให้ใช้เดี๋ยวก็ออกมาด่าอีกค่อยดูสิครับ) คลองคอดกระ ไม่ก็พวกขุดเจาะน้ำมันวางท่อแก๊ซจะทำเมื่อไหร่ออกมากันอีกเต็มเชื่อสิครับ

ผมชอบต้นไม้ ผมชอบเดินเขา แต่มันคนเรื่องกับเรื่องเขื่อนอะไรมันต้องสร้างมันก็ต้องสร้าง
คนส่วนใหญ่ต้องมาก่อน ไม่ใช่ค้านหมดทุกอย่างฟังแต่เขาพูดจนหัวจะมีเขาอยู่แล้ว
เอาความจริงมาคุยกันครับ ต้นไม้ไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้ฝนตก ต่อให้ไม่มีต้นไม้ น้ำก็ระเหยขึ้นไปแล้วตกมาเป็นฝนอยู่ดี
แต่ต้นไม้ไม่ใช่ไม่ควรจะมีมันก็มีประโยชน์ในตัวของมันแต่ไม่ใช่สาเหตุในการเกิดฝน
1. ต้นไม้ เป็นแหล่งต้นน้ำ ลำธาร เนื่องจากที่บริเวณราก ที่ดูดซับน้ำ และ แร่ธาตุ เป็นการกัก เก็บน้ำไว้บริเวณผิวดิน อันนี้คือความจริง
2.ต้นไม้ช่วยในการอนุรักษ์ดินและน้ำ เมื่อฝนตกน้ำฝนบางส่วนจะถูกต้นไม้ในป่าดูดซับไว้ แล้วค่อยๆ ปลดปล่อยให้ไหลลงสู่ผิวดิน อีกส่วนหนึ่งจะซึมลงสู่ดินชั้นล่าง สามารถลดการพังทลายของดินได้ ลดการกัดเซาะหน้าดินที่อุดมสมบูรณ์ ป้องกันการเกิดน้ำท่วมฉับพลันและสามารถลดความรุนแรงของการเกิดภาวะน้ำท่วม เนื่องจากต้นไม้ช่วยชะลอการไหลของน้ำบนผิวหน้าดิน และการมีป่าไม้ปกคลุมดินจะช่วยป้องกันการกัดเซาะได้ดีกว่าปลูกพืชชนิดอื่น ๆ อันนี้คือความจริง
3.ต้นไม้เป็นแนวป้องกันลมพายุ เมื่อลมพายุพัดมาปะทะพื้นที่ป่าไม้ซึ่งเป็นสิ่งกีดขวางความเร็วและลมพายุจะลดลง ดังนั้นลมพายุที่พัดผ่านแนวป่าไม้จะมีความเร็วน้อยกว่าพัดผ่านที่โล่งแจ้ง ช่วยลดความเสียหายของสิ่งก่อสร้าง ป่าไม้จึงเป็นกำแพงธรรมชาติที่ช่วยป้องกันความรุนแรงของลมพายุได้ อันนี้ก็ใช่
4.ต้นไม้ช่วยปรับสภาพบรรยากาศ เนื่องจากป่าไม้ช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นในดินไว้ ร่มเงาของป่าช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนจากดวงอาทิตย์ตกกระทบผิวดินโดยตรง บริเวณป่าไม้จะมีน้ำที่เกิดจากการระเหยจากใบและลำต้น กลายเป็นไอน้ำในอากาศจำนวนมาก อากาศเหนือป่าไม้จึงมีความชื้นมาก เมื่ออุณหภูมิอากาศลดลง ไอน้ำจะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำเกิดเป็นเมฆจำนวนมาก สุดท้ายก่อให้เกิดฝนตกลงมาในป่าที่มีต้นไม้หนาแน่นและส่งผลให้พื้นที่ใกล้เคียงได้รับน้ำฝน และทำให้สภาพอากาศที่ชุ่มชื้นแม้กระทั่งในฤดูร้อน ดังนั้นพื้นที่ที่มีป่าไม้มาก เช่น เขาใหญ่ ดอนอินทนนท์ ภูกระดึง เขาหลวง จะเห็นว่ามีเมฆปกคลุมอยู่บนภูเขาและจะมีฝนตกมากกว่าบริเวณข้างล่าง <<<< ต้นไม้มีส่วนให้ฝนตกในส่วนที่มีต้นไม้ แต่ถ้าไม่มีต้นไม้ ฝนมันก็ตกอยู่ดี เพราะยังไงน้ำฝนที่ตกลงมา มันก็ระเหยขึ้นไปอยู่ดีและพอระเหยมันก็ตกลงมาเป็นฝน แต่ว่าจะตกตรงไหนก็อีกเรื่อง