สวัสดีครับผม สืบเนื่องจากกระทู้ก่อนหน้านู้น ที่ผมเคยประกอบสตูดิโอเล็กๆใว้ใช้ถ่ายนางแบบ ในงบ 500 บาท (โฆษณาแพรพ อิอิ)
(link :
http://ppantip.com/topic/33388533)
จากตอนนั้นมาผมก็เริ่มถูกจ้างงานมากขึ้นเรื่อยๆ พองานเยอะขึ้น ก็มีความคิดที่ว่าจะเปิดสตูดิโอถ่ายรูป เล็กๆ ราคาเบาๆ ในบ้าน แบบเป็นกิจจะลักษณะซักที
โอเคสถานที่มีแล้ว อุปกรณ์ฉากทุกอย่างมีหมดแล้ว สิ่งที่ต้องซื้อเข้ามาเหลือแต่พวก prop ของประกอบฉากตกแต่ง และหลอดไฟ บลาบลาบลา
ซึ่งหลอดไฟเนี่ยแหละปัญหาใหญ่เลยครับ เพราะผมคำนวณคร่าวๆ แล้วต้องใช้จำนวนไม่น้อยและอาจต้องซื้อใหม่ยกเซท พอซื้อใหม่ผมก็อยากให้มันใช้งานได้คุ้มค่ายาวนานและประหยัด(เรื่องมากเนอะ 5555)
ก็มานั่งคิดว่ายี่ห้ออะไรแบบใหนดีหว่า ตอนแรกก็คิดว่าจะใช้ยี่ห้อเดิมที่เคยใช้กระทู้ที่แล้วต่อไป แต่ก็แอบลังเลเบา ๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้นก็เอาวะ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ไม่รู้จะถามใคร ก็ทดลองเองแม่มเลย ลุยยยยยย !
นี่จึงเป็นที่มาของการทดลองครั้งนี้ครับ
มาครับ เรามาเริ่มการทดลอง (แบบบ้านๆ) กันดีกว่า โดยการทดลองครั้งนี้ผมปรึกษาเพื่อนที่มีความรู้ด้านนี้บางส่วน + ความรู้ใน internet + คำแนะนำจาก sales ใน Homepro ผนวกกับภูมิปัญญาชาวบ้าน (อันน้อยนิด) ของผม
หัวข้อการทดลอง :
เปรียบเทียบหลอดไฟว่า หลอดใหนจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด ?!
มาดูอุปกรณ์กันก่อนเลย
1. หลอดไฟ 5 หลอด : LED 3 หลอด กับหลอดประหยัดไฟแบบเกรียว 2 หลอด (ต้องขอบพระคุณคุณตั้มเพื่อนรัก ที่อุตส่าห์นำตัว tester จากที่บ้านมาให้หยิบยืมบางส่วน) ทั้งหมดเป็นแสงแบบ Warm white ครับ (จริงๆอยากได้สี Cool daylight เพราะเหมาะกับการถ่ายรูป มากกว่าแต่หาลูเมนใกล้เคียงกันยากจริงๆครับ)
ค่าลูเมนคืออะไร? ค่าลูเมนคือหน่วยวัดความสว่างของแสงครับ หลอดไฟสว่างมากสว่างน้อยจะขึ้นอยู่กับค่าลูเมนและการทดลองครั้งนี้ผมใช้ค่าลูเมนเป็นค่ากลาง ซึ่งความหมายก็คือทุกหลอดจะสว่างเท่ากัน ยกเว้นหลอดประหยัดไฟ S ที่ค่าลูเมนจะสูงกว่าเพื่อนนิดหน่อยครับ (reference : http://ppantip.com/topic/32339177)
เรียงจากซ้ายไปขวานะครับ
1. LED T 9.5 Watt / 806 lumen ราคา 229 บาท
2. LED P 10.5 Watt / 806 lumen ราคา 225 บาท
3. LED S 13 Watt / 806 lumen ราคา 229 บาท
4. หลอดประหยัดไฟแบบเกรียว L 13 Watt / 793 lumen ราคา 159 บาท
5. หลอดประหยัดไฟแบบเกรียว S 15 Watt / 820 lumen ราคา 149 บาท
2. ขาหนีบไฟ : อันนี้ซื้อที่ร้าน hardware แถวบ้านครับ ไม่รู้ว่าอันเก่าหายไปใหน 40 บาท
3. ตุ๊กตาไว้ถ่ายรูป มีอยู่แล้ว
4. เทอร์โมมิเตอร์ มีอยู่แล้ว
อุปกรณ์ก็มีเท่านี้ครับผม เรามาเริ่มเข้าการทดลองกันดีกว่า
สาหรับหัวข้อที่ผมทดลอง จะแบ่งเป็น 3 ห้วข้อใหญ่ๆ คือ
1. ความประหยัด
2. ความสว่าง / แสง
3. ความร้อน
ความประหยัด
เริ่มจากความประหยัดก่อนเลยครับ
สารภาพตามตรงเลยครับ ตอนแรกผมไม่รู้วิธีว่าจะวัดยังไง
ผมเลยปรึกษาเพื่อนที่มีความรู้ด้านนี้ จบคำถาม
เพื่อนผมเลยให้ตารางสูตรสำหรับคำนวนค่าไฟ แบบง่ายๆ บวกลบคูณหารเป็นก็ทำได้
โจทย์ : เปิดหลอดไฟทุกวัน วันละ 10 ชั่วโมง 1ปีเต็ม เราจะเสียค่าไฟเป็นกี่บาทต่อหลอด 1 ดวง ?
** วิธีทำอยู่ใน spoil นะครับ**
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Watt = ค่า watt ของหลอดไฟ 1 ดวง
Unit/Time = Watt * Time(จานวนชั่วโมงที่เปิดต่อวัน) * Day(จานวนวันที่ใช้งาน)/1000
สรุปค่าไฟที่ใช้ = นา Unit/Time * Electric cost (ค่าไฟหน่วยบ้านเรา = 4 บาท)
คำตอบนะครับ
LED P เสียค่าไฟ= 138.68 บาทต่อปี
LED T เสียค่าไฟ = 153.28 บาทต่อปี
LED S เสียค่าไฟ = 160.6 บาทต่อไป
หลอดประหยัดไฟ L เสียค่าไฟ = 189.8 บาทต่อปี
หลอดประหยัดไฟ S เสียค่าไฟ = 219 บาทต่อปี
ฉะนั้นสำหรับยกแรก LED P ชนะเริ่ดดด
TIP : วิธีเลือกหลอดไฟให้ประหยัดคือ ให้เลือกหลอดไฟที่ค่า Watt น้อย แต่ค่าลูเมนสูงครับ
ความสว่าง /แสง
ด้วยค่าความสว่าง (ลูเมน) เท่ากัน ฉะนั้นมีความเป็นไปได้ว่าทั้งสามหลอด จะสว่างเท่ากัน แต่อะไรๆก็ไม่เที่ยง ฉะนั้นเรามาดูกันครับ
ผมแบ่งการทดลองหัวข้อนี้เป็น 2 part : part 1 ผมจะวัดความสว่างของไฟแต่ละหลอดด้วยสายตาก่อนครับ
Part 1 : ผมถ่ายรูปจากกล้องโดยตรง เพื่อเปรียบเทียบระหว่าง LED ทั้ง 3 หลอด กับ หลอดประหยัดไฟ 2 หลอด
LED P
LED T
LED S
หลอดประหยัดไฟ L
หลอดประหยัดไฟ S
Part 2 : ถ่ายรูปโดยใช้ไฟส่องมาที่วัตถุ ผมทาการทดลองโดยนาหลอดไฟมาส่องที่วัตถุ เพื่อดูสีที่กระทบกับวัตถุแล้วภาพจะออกมาเป็นอย่างไร
(ไฟจะออกส้มๆครับ)
LED P
LED T
LED S
หลอดประหยัดไฟ L
หลอดประหยัดไฟ S
สรุปคือดูไม่ค่อยออกครับว่าหลอดไหนสว่างกว่ากัน แต่ถ้าถามผมที่มองด้วยตาเปล่าหลอดไฟ LED P และ T จะให้ความสว่างกับแสงที่ค่อนข้าง stable กว่าหน่อยนึง จะให้ความสว่างแบบ clear light กว่านิดๆ ครับ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น อาจเกิดจากทความเพี้ยนของกล้องที่ผมใช้ด้วยครับ
ความร้อน
หัวข้อนี้จะเป็นการวัดอุณหภูมิของหลอดไฟแต่ละดวงมันสูงต่ำต่างกันขนาดใหน หลายๆท่านคงมีประสบการณ์เคยจับหลอดไฟขณะเปิดอยู่แล้วมือพองใช่ใหมครับ (ผมก็เคย 55555 ) ทีนี้เรามาลองดูกันว่าหลอดใหนมือเราจะพองเยอะที่สุด !
ผมเริ่มจากการเปิดหลอดไฟทั้งสี่หลอดทิ้งไว้หลอดละ 1 ชั่วโมง และเริ่มทดลองโดยแบ่งเป็น 2 part
Part 1 : มือจับ (การทดลองนี้ไม่ควรเลียนแบบ จขกท โดนไฟดูดมาแล้วว 55555 )
ผมลองใช้มืออังๆ ดูก่อนครับ ลองดูว่าร้อนขนาดใหนพอจับได้รึเปล่า
พอมั่นใจว่าน่าจะจับได้ ก็ลองใช้มือจับ และใช้ความรู้สึกวัดว่าหลอดไฟอะไรร้อนที่สุด
ผมจะ list ตามความรู้สึกของผมนะครับว่าหลอดอะไรร้อนที่สุดจากมากไปหาน้อย
หลอดประหยัดไฟ L > หลอดประหยัดไฟ S > LED S > LED T > LED P
อย่างที่บอกว่าการทดลองนี้อย่าลองทำนะครับ จขกท โดนไฟดูดไปทีนึงจี๊ดเลยย
Part 2 .เทอร์โมมิเตอร์ : หลังจากที่เราลองจับดูแล้วก็ยังไม่แน่ใจในผลการดลอง ทีนี้ผมใช้หลอดวัดอุณหภูมิ (เทอร์โมมิเตอร์) วัดแต่ละหลอดเลยครับ เพื่อดูว่าอุณหภูมิของหลอดใหนสูงที่สุด
ผมวัดโดยนาเทอร์โมมิเตอร์จ่อตรงส่วนที่ปล่อยแสงไฟแล้วทิ้งไว้เป็นระยะเวลา 1 นาที เรามาดูผลกันครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้LED P :
LED T :
LED S :
หลอดประหยัดไฟ L :
หลอดประหยัดไฟ S :
LED P อุณหภูมิที่วัดได้ภายใน 1 นาทีคือ 29๐
LED T อุณหภูมิที่วัดได้ภายใน 1 นาทีคือ 33๐
LED S อุณหภูมิที่วัดได้ภายใน 1 นาทีคือ 39๐
หลอดประหยัดไฟ L อุณหภูมิที่วัดได้ภายใน 1 นาทีคือ 49๐
หลอดประหยัดไฟ S อุณหภูมิที่วัดได้ภายใน 1 นาทีคือ 46๐
TIP : ความร้อนของหลอดไฟมีผลต่อค่าไฟบ้านด้วยนะครับ คือ บ้านทุกบ้านจะเปิดแอร์ใช่ใหมครับ ที่นี้ถ้าเราใช้หลอดไฟที่มีอุณหภูมิสูง จะทาให้อุณหภูมิในห้องสูงขึ้นไปด้วย แอร์ก็จะทางานหนักขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิห้อง ค่าไฟเลยจะขึ้นตาม
(Ref :
http://ppantip.com/topic/30418452)
เอาหละครับผมจะขอสรุปการทดลองทั้งหมด พร้อมข้อมูลที่ผมหามาเพิ่มเติมนิดหน่อยในตารางข้างล่างนี้เลยนะครับ
ผมให้หลอด LED P เฉือนนิดๆ แต่ราคาค่อนข้างเอาเรื่องอยู่ ก็คงต้องแล้วแต่ละท่านตัดสินใจแล้วหละครับ
ขออนุญาตแปะรูปความรู้เพิ่มเติมที่ไปเจอที่ Homepro ครับ
ตามนี้เลยครับเพื่อนๆ ผมหวังว่าการทดลองครั้งนี้จะช่วยเพื่อนๆ ตัดสินใจซื้อได้ไม่มากก็น้อยนะครับผม
จบแล้วครับกับการทดลองแบบมั่วๆ บ้านๆ ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกัน รอบหน้าถ้ามีเวลากว่านี้
ผมจะมารีวิวสตูใหม่ผมให้อ่านกันเน้อออออ
หากข้อมูลของการทดลองนี้คลาดเคลื่อน หรือไม่ถูกใจยังไง ขออภัย และ ขอคำชี้แนะด้วยคร้าบบบบบบ
ราตรีสวัสดิ์ครับ พี่น้องชาวไทย
รีวิวหลอดไฟ เพราะหลอดประหยัดไม่ประหยัดเสมอไป !
(link : http://ppantip.com/topic/33388533)
จากตอนนั้นมาผมก็เริ่มถูกจ้างงานมากขึ้นเรื่อยๆ พองานเยอะขึ้น ก็มีความคิดที่ว่าจะเปิดสตูดิโอถ่ายรูป เล็กๆ ราคาเบาๆ ในบ้าน แบบเป็นกิจจะลักษณะซักที
โอเคสถานที่มีแล้ว อุปกรณ์ฉากทุกอย่างมีหมดแล้ว สิ่งที่ต้องซื้อเข้ามาเหลือแต่พวก prop ของประกอบฉากตกแต่ง และหลอดไฟ บลาบลาบลา
ซึ่งหลอดไฟเนี่ยแหละปัญหาใหญ่เลยครับ เพราะผมคำนวณคร่าวๆ แล้วต้องใช้จำนวนไม่น้อยและอาจต้องซื้อใหม่ยกเซท พอซื้อใหม่ผมก็อยากให้มันใช้งานได้คุ้มค่ายาวนานและประหยัด(เรื่องมากเนอะ 5555)
ก็มานั่งคิดว่ายี่ห้ออะไรแบบใหนดีหว่า ตอนแรกก็คิดว่าจะใช้ยี่ห้อเดิมที่เคยใช้กระทู้ที่แล้วต่อไป แต่ก็แอบลังเลเบา ๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้นก็เอาวะ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ไม่รู้จะถามใคร ก็ทดลองเองแม่มเลย ลุยยยยยย !
นี่จึงเป็นที่มาของการทดลองครั้งนี้ครับ
มาครับ เรามาเริ่มการทดลอง (แบบบ้านๆ) กันดีกว่า โดยการทดลองครั้งนี้ผมปรึกษาเพื่อนที่มีความรู้ด้านนี้บางส่วน + ความรู้ใน internet + คำแนะนำจาก sales ใน Homepro ผนวกกับภูมิปัญญาชาวบ้าน (อันน้อยนิด) ของผม
หัวข้อการทดลอง :
เปรียบเทียบหลอดไฟว่า หลอดใหนจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด ?!
มาดูอุปกรณ์กันก่อนเลย
1. หลอดไฟ 5 หลอด : LED 3 หลอด กับหลอดประหยัดไฟแบบเกรียว 2 หลอด (ต้องขอบพระคุณคุณตั้มเพื่อนรัก ที่อุตส่าห์นำตัว tester จากที่บ้านมาให้หยิบยืมบางส่วน) ทั้งหมดเป็นแสงแบบ Warm white ครับ (จริงๆอยากได้สี Cool daylight เพราะเหมาะกับการถ่ายรูป มากกว่าแต่หาลูเมนใกล้เคียงกันยากจริงๆครับ)
เรียงจากซ้ายไปขวานะครับ
1. LED T 9.5 Watt / 806 lumen ราคา 229 บาท
2. LED P 10.5 Watt / 806 lumen ราคา 225 บาท
3. LED S 13 Watt / 806 lumen ราคา 229 บาท
4. หลอดประหยัดไฟแบบเกรียว L 13 Watt / 793 lumen ราคา 159 บาท
5. หลอดประหยัดไฟแบบเกรียว S 15 Watt / 820 lumen ราคา 149 บาท
2. ขาหนีบไฟ : อันนี้ซื้อที่ร้าน hardware แถวบ้านครับ ไม่รู้ว่าอันเก่าหายไปใหน 40 บาท
3. ตุ๊กตาไว้ถ่ายรูป มีอยู่แล้ว
4. เทอร์โมมิเตอร์ มีอยู่แล้ว
อุปกรณ์ก็มีเท่านี้ครับผม เรามาเริ่มเข้าการทดลองกันดีกว่า
สาหรับหัวข้อที่ผมทดลอง จะแบ่งเป็น 3 ห้วข้อใหญ่ๆ คือ
1. ความประหยัด
2. ความสว่าง / แสง
3. ความร้อน
ความประหยัด
เริ่มจากความประหยัดก่อนเลยครับ
สารภาพตามตรงเลยครับ ตอนแรกผมไม่รู้วิธีว่าจะวัดยังไง
ผมเลยปรึกษาเพื่อนที่มีความรู้ด้านนี้ จบคำถาม
เพื่อนผมเลยให้ตารางสูตรสำหรับคำนวนค่าไฟ แบบง่ายๆ บวกลบคูณหารเป็นก็ทำได้
โจทย์ : เปิดหลอดไฟทุกวัน วันละ 10 ชั่วโมง 1ปีเต็ม เราจะเสียค่าไฟเป็นกี่บาทต่อหลอด 1 ดวง ?
** วิธีทำอยู่ใน spoil นะครับ**
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คำตอบนะครับ
LED P เสียค่าไฟ= 138.68 บาทต่อปี
LED T เสียค่าไฟ = 153.28 บาทต่อปี
LED S เสียค่าไฟ = 160.6 บาทต่อไป
หลอดประหยัดไฟ L เสียค่าไฟ = 189.8 บาทต่อปี
หลอดประหยัดไฟ S เสียค่าไฟ = 219 บาทต่อปี
ฉะนั้นสำหรับยกแรก LED P ชนะเริ่ดดด
TIP : วิธีเลือกหลอดไฟให้ประหยัดคือ ให้เลือกหลอดไฟที่ค่า Watt น้อย แต่ค่าลูเมนสูงครับ
ความสว่าง /แสง
ด้วยค่าความสว่าง (ลูเมน) เท่ากัน ฉะนั้นมีความเป็นไปได้ว่าทั้งสามหลอด จะสว่างเท่ากัน แต่อะไรๆก็ไม่เที่ยง ฉะนั้นเรามาดูกันครับ
ผมแบ่งการทดลองหัวข้อนี้เป็น 2 part : part 1 ผมจะวัดความสว่างของไฟแต่ละหลอดด้วยสายตาก่อนครับ
Part 1 : ผมถ่ายรูปจากกล้องโดยตรง เพื่อเปรียบเทียบระหว่าง LED ทั้ง 3 หลอด กับ หลอดประหยัดไฟ 2 หลอด
LED P
LED T
LED S
หลอดประหยัดไฟ L
หลอดประหยัดไฟ S
Part 2 : ถ่ายรูปโดยใช้ไฟส่องมาที่วัตถุ ผมทาการทดลองโดยนาหลอดไฟมาส่องที่วัตถุ เพื่อดูสีที่กระทบกับวัตถุแล้วภาพจะออกมาเป็นอย่างไร
(ไฟจะออกส้มๆครับ)
LED P
LED T
LED S
หลอดประหยัดไฟ L
หลอดประหยัดไฟ S
สรุปคือดูไม่ค่อยออกครับว่าหลอดไหนสว่างกว่ากัน แต่ถ้าถามผมที่มองด้วยตาเปล่าหลอดไฟ LED P และ T จะให้ความสว่างกับแสงที่ค่อนข้าง stable กว่าหน่อยนึง จะให้ความสว่างแบบ clear light กว่านิดๆ ครับ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น อาจเกิดจากทความเพี้ยนของกล้องที่ผมใช้ด้วยครับ
ความร้อน
หัวข้อนี้จะเป็นการวัดอุณหภูมิของหลอดไฟแต่ละดวงมันสูงต่ำต่างกันขนาดใหน หลายๆท่านคงมีประสบการณ์เคยจับหลอดไฟขณะเปิดอยู่แล้วมือพองใช่ใหมครับ (ผมก็เคย 55555 ) ทีนี้เรามาลองดูกันว่าหลอดใหนมือเราจะพองเยอะที่สุด !
ผมเริ่มจากการเปิดหลอดไฟทั้งสี่หลอดทิ้งไว้หลอดละ 1 ชั่วโมง และเริ่มทดลองโดยแบ่งเป็น 2 part
Part 1 : มือจับ (การทดลองนี้ไม่ควรเลียนแบบ จขกท โดนไฟดูดมาแล้วว 55555 )
ผมลองใช้มืออังๆ ดูก่อนครับ ลองดูว่าร้อนขนาดใหนพอจับได้รึเปล่า
พอมั่นใจว่าน่าจะจับได้ ก็ลองใช้มือจับ และใช้ความรู้สึกวัดว่าหลอดไฟอะไรร้อนที่สุด
ผมจะ list ตามความรู้สึกของผมนะครับว่าหลอดอะไรร้อนที่สุดจากมากไปหาน้อย
หลอดประหยัดไฟ L > หลอดประหยัดไฟ S > LED S > LED T > LED P
อย่างที่บอกว่าการทดลองนี้อย่าลองทำนะครับ จขกท โดนไฟดูดไปทีนึงจี๊ดเลยย
Part 2 .เทอร์โมมิเตอร์ : หลังจากที่เราลองจับดูแล้วก็ยังไม่แน่ใจในผลการดลอง ทีนี้ผมใช้หลอดวัดอุณหภูมิ (เทอร์โมมิเตอร์) วัดแต่ละหลอดเลยครับ เพื่อดูว่าอุณหภูมิของหลอดใหนสูงที่สุด
ผมวัดโดยนาเทอร์โมมิเตอร์จ่อตรงส่วนที่ปล่อยแสงไฟแล้วทิ้งไว้เป็นระยะเวลา 1 นาที เรามาดูผลกันครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
LED P อุณหภูมิที่วัดได้ภายใน 1 นาทีคือ 29๐
LED T อุณหภูมิที่วัดได้ภายใน 1 นาทีคือ 33๐
LED S อุณหภูมิที่วัดได้ภายใน 1 นาทีคือ 39๐
หลอดประหยัดไฟ L อุณหภูมิที่วัดได้ภายใน 1 นาทีคือ 49๐
หลอดประหยัดไฟ S อุณหภูมิที่วัดได้ภายใน 1 นาทีคือ 46๐
TIP : ความร้อนของหลอดไฟมีผลต่อค่าไฟบ้านด้วยนะครับ คือ บ้านทุกบ้านจะเปิดแอร์ใช่ใหมครับ ที่นี้ถ้าเราใช้หลอดไฟที่มีอุณหภูมิสูง จะทาให้อุณหภูมิในห้องสูงขึ้นไปด้วย แอร์ก็จะทางานหนักขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิห้อง ค่าไฟเลยจะขึ้นตาม
(Ref : http://ppantip.com/topic/30418452)
เอาหละครับผมจะขอสรุปการทดลองทั้งหมด พร้อมข้อมูลที่ผมหามาเพิ่มเติมนิดหน่อยในตารางข้างล่างนี้เลยนะครับ
ผมให้หลอด LED P เฉือนนิดๆ แต่ราคาค่อนข้างเอาเรื่องอยู่ ก็คงต้องแล้วแต่ละท่านตัดสินใจแล้วหละครับ
ขออนุญาตแปะรูปความรู้เพิ่มเติมที่ไปเจอที่ Homepro ครับ
ตามนี้เลยครับเพื่อนๆ ผมหวังว่าการทดลองครั้งนี้จะช่วยเพื่อนๆ ตัดสินใจซื้อได้ไม่มากก็น้อยนะครับผม
จบแล้วครับกับการทดลองแบบมั่วๆ บ้านๆ ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกัน รอบหน้าถ้ามีเวลากว่านี้
ผมจะมารีวิวสตูใหม่ผมให้อ่านกันเน้อออออ
หากข้อมูลของการทดลองนี้คลาดเคลื่อน หรือไม่ถูกใจยังไง ขออภัย และ ขอคำชี้แนะด้วยคร้าบบบบบบ
ราตรีสวัสดิ์ครับ พี่น้องชาวไทย