สวัสดีคะเพื่อนๆ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ดิชั้นเขียน ซึ่งอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ กับอาการและโรค เริม ที่ดิชั้นเป็น คือก่อนอื่นขอบอกว่าเป็นเริมบริเวณ ขาอ่อน ซึ่งเป็นๆหายๆมาแล้ว 4 ครั้ง และคิดว่าคงจะเป็นอีกในเร็วๆนี้ เพื่อที่กระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ไม่เคยเป็นและเจอปัญหาเดียวกัน อาจจะช่วยให้ใครหลายๆคนลดความกังวลลงได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ^^   ปกติดิชั้นไม่ค่อยมีปัญหาสุขภาพเท่าไหร่ แต่ปีสองปีหลังมานี่ เป็นโน้นเป็นนี่ จนชินแล้วคะ ตัวดิชั้นเอง มีโรค กะเพาะ และไมเกรน อยู่แล้ว ตอนที่เป็นเริมครั้งแรก เครียดมาก กลัวมาก และก็เจ็บมากคะ ตอนนั้นที่เริ่มเป็นก็เป็นผื่นคันๆที่ขา แรกๆก็คิดว่ายุงกัด เลยเอายาหม่องเขียวของแม่มาป้ายลงไป ผ่านไป2วันก็ยังไม่หาย และก็เริ่มสังเกตุเห็นตุ่มน้ำใสๆขึ้นมา 2-3 ตุ่ม ก็ยังคิดว่าเป็นอาการแพ้ยุง ปกติ (ดิชั้นเป็นคนแพ้ยุงคะ ยุงชอบกัด) เลยทายาหม่องเขียวเพิ่มไปอีก มาวันที่3 เริ่มคิดว่ามันมีอะไรมากกว่าตุ่มใสเพราะ มันรู้สึกแสบๆ ร้อนผ่าวๆ ที่แผล แสบ และคันยิบๆ ทรมานมากเลยคะ แม่เห็นอาการและแผลแม่เลยบอกว่านี่มัน เริมนะ ไม่ใช่ยุงกัดละ ตอนนั้นที่ได้ยินแม่พูดคือบับ เห้ยยยยยย เริม เริมที่มันเกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์อ่ะนะ แล้วมันมาขึ้นที่ขาได้ไงว่ะ แล้วเราไปได้เชื้อมาจากไหน แล้วทำไมมันถึงเป็น แล้ว แล้ว แล้ว แล้ว!!!!! มีแต่คำถามในหัว กลัวแม่จะคิดแบบที่เราคิดว่ามันเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อะไรแบบนั้นรึป่าว แม่บอกว่ามันจะเจ็บมากนะถ้าปล่อยเอาไว้ต้องไปหาหมอนะ วันรุ่งขึ้นกะจะไปหาหมอแต่มันติดตรง คืนที่4 แทบจะไม่ได้นอนเลยคะ ต้องนอนไม่ให้แผลโดนกับที่นอน มันเจ็บและแสบมาก พอนอนไปสักพัก ก็รู้สึกวูบวาบ ร้อนผ่าวขึ้นมาเป็นทีๆ คือแสบร้อน เหมือนโดนพริกมาอ่ะคะ

   วันพรุ่งขั้นเข้าวันที่5 ก็ไปพบหมอ หมอก็บอกว่าเป็นเริม คืออายหมอมาก เพราะเราเป็นเริม!!! และรีบบอกหมอเลยว่า เราไม่น่าจะเป็นโรคติดต่ออะไรแบบนั้นได้นะคะ คือหนูไม่ได้อยู่ในภาวะเสี่ยงอะไรแบบนั้น หมอหัวเราะ และบอกว่า ใจเย็นๆ (คือเราไม่มีความรู้เลยว่าโรคนี้มันเป็นได้ยังไง และเกิดขึ้นจากอะไร) หลังจากนั้นคุณหมอก็เริ่มอธิบายว่า สาเหตุที่เราเป็นมันเกิดจากอะไร และเริมแบบที่เรากลัวน่ะ มันต้องขึ้นที่ ปาก หรือ ตรงนั้น!!!มันถึงจะมาจากโรคทางเพศสัมพันธ์ คือเริมเกิดจากภาวะ ความเครียด พักผ่อนน้อย ร่างกายอ่อนแอ บางคนเคยเป็นอิสุกอิใสตอนเด็ก แต่เชื้ออิสุกอิใสมันยังอยู่และฝังตัวอยู่ตามแนวเส้นประสาทใต้ผิวหนัง หากร่างกายอ่อนแอมาก เจ้าเชื้อโรคตัวนั้นก็จะกลายร่างมาเป็นโรคเริมได้ (พอได้ยินแบบนั้นแล้ว โล่งอกเลยคะ อย่างน้อยตูก็ไม่ได้มั่วจิงๆนะ 5555 นึกในใจ) เด่วจะมาลงรูปแผล และยาให้ดูนะคะ ว่าให้ตัวไหนไปบ้าง ภาพประกอบอาจจะไม่น่าดู เอาไว้สำหรับคนที่อยากศึกษาจิงๆดีกว่านะคะ ไม่งั้นอาจมีขนลุก 5555 เด่วมาเขียนใหม่คะ ไป ออกกำลังกายแพร๊บบบบบบบ