จากข่าวการรับงานที่กำลังเป็นประเด็นแบ่งเกรดมหาลัยอยู่ผมว่าหลายคนน่าจะเข้าใจผิดมาก
การคัดกรองคนเบื้องต้นของเอกชนก็ใช้สูตรตามนี้ทั้งนั้น คนร้อยพ่อพันแม่ เข้ามาทำงานถ้าจะให้เท่าเทียมเหมือนสอบคัดเลือกราชการผมว่าว่ามันไม่ใช่นะครับ

หากจบมหาลัยไม่ดังเค้าก็บอกเองว่าต้องได้เกรด 3.00 มันก็เป็นตัวแสดงว่าตอนคุณสอบเข้าแม้อยุ่ที่มหาลัยไม่ดังแต่ว่า การเรียนหนังสือคุณดีเค้าก็ให้สิทธิตามปกติ ส่วนมหาลัยดังก็ลดเกรดเฉลี่ยที่ตั้งเอาไว้เป็น 2.50 แทนเพราะการเข้าไปจนกระทั่งเรียนจบมันมีกระบวนการยากกว่า

ถ้าตำแหน่งงานที่มีความยากสูงๆเช่นวิศวกร ต้องการคนเก่งๆอย่างบริษัทแถวบางซื่อ เค้าก็มองว่า ม ไม่ดัง ต่อให้ 4.00 ก้ไม่เท่ามหาลัยที่เค้ารับประจำเพราะ(ยิ่งบริษัทนี้จบ มหาลัยดังไม่พอ เค้าต้องการรับแต่พวกเกียรตินิยม)

สิ่งที่มีความเท่าเทียมกันมันคือโอกาสการได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การรักษาพยาบาล การคุ้มครองและการอยู่ภายใต้กฎหมาย จะเอามาเทียบกับการสมัครงานผมว่าไม่ถูกต้อง

ถ้า scb ขึ้นแบนไม่รับเลยนี่สิถือว่าเป็นการปิดกั้นโอกาส เพราะตำแหน่งงานอย่างงานเคาเตอร์ งานขายประกันทั่วไป การใช้ความสามารถอาจไม่ซับซ้อนมากยังไงการเรียนการสอนปริญญาตรีในไทยถ้ามีเกรดตามที่เค้าระบุผมก็ว่าสมเหตุผลแล้ว

ผมอยากถามกลับว่าถ้าคุณอยากให้เท่าเทียมกัน ก็ลองให้เค้าแก้ไขหรือเขียนกฎหมายลูกของอาชีพพนักงานbankที่ต้องรับพิจารณาโดยการสอบสิโดยไม่สนทั้งสถาบันหรือเกรดเฉลี่ยสิ ต่อไปเราจะได้เห็นคน จบปตรี ทุกสาขาใช้ข้อสอบสมัครงาน bank แบบเท่าเทียม

ส่วนเรื่องที่ว่าจะเอามาประกาศผมว่ายิ่งดีน้องๆที่เรียนหนังสือได้ตั้งใจเรียนให้ได้รู้ด้วยว่าเราต้องขยันเพื่อพัฒนาเกรดเฉลี่ยระหว่างเรียน