สวัสดีค่า เนื่องจากว่า นี่ก็ล่วงเลยมาถึงปี 2015 แล้ว วันนี้เราจะมาอัพเดทศัพท์แสลงหรือประโยคที่เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นฝรั่งในปีนี้
เราเลยอยากมานำเสนอเพื่อนๆทุกคนให้ทุกคนได้อ่านกัน เพื่อที่จะได้ไม่ตกเทรนด์ พร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลยยย
1. Is this still a thing?
คำนี้เป็นประโยคทำนองว่า เฮ้ยแก นี่มันยังไม่จบใช่มั้ยเนี่ย
เช่น
I heard about you and your girlfriend. are you guys still a thing?
แปลได้ว่า เราได้ยินเรื่องเธอกับแฟนเธอมานะ นี่ยังไม่จบ (ไม่เลิกกัน) ใช่มั้ย?
2. Netflix and chill
Netflix คือ ผู้ให้บริการดูหนังแบบ Streaming ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาค่ะ ส่วน Chill ก็คือ การพักผ่อนสบายๆ ทำใจร่มๆ
ฟังเผินๆ เหมือนการผ่อนคลายโดยการดูหนังใช่มั้ยคะ แต่จริงๆแล้วคำนี้ความหมายไปทาง 18+เลยค่ะ
ความหมายที่แท้จริงของ netflix and chill คือ การชวนกันไปซั่มนั่นเองงงง
ประวัติศาสตร์ของคำนี้เนื่องจากก่อนที่เราจะดู netflix ได้นั้น เราต้องมี Account ที่เสียเงินเป็นรายเดือน/ปีก่อน
จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เด็กๆฝรั่งจะมี Account นี้ได้ เด็กผู้ชายก็มักชวนสาวๆที่ตัวเองหมายปองมานอนดู netflix ที่บ้าน
แต่แหม ดูกันสองคนแบบนี้ ก็ไม่เคยดูจนหนังจบสักที เลยเป็นที่มาของคำว่า
"wanna come over watch netflix and chill?" นั่นเองค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. friendzone,brotherzone,sisterzone, (---จงเติมความสัมพันธ์ในช่องว่าง---)zone
เวลาที่แอบชอบใครสักคนหนึ่งแล้วเค้าบ่ายเบี่ยงบอกว่า อยากเป็นเพื่อน/น้องชาย/น้องสาวมากกว่า
เช่น A: i love you
B: i always love you like i love my dad
A: wtf did you just dadzone me?
4. that's so me!
ใช้อุทานเวลาเจออะไรที่มันโดน มันใช่มากๆ เช่น
that dress is so me! เดรสตัวนั้นอ่ะมันเหมาะกับเดี๊ยนม๊ากกกมากกก
5. bros before hoes
bros (ต่อมาจาก brothers) ในที่นี้หมายถึง เพื่อนชายที่สนิทมากๆจนเหมือนเป็นคนในครอบครัว ส่วน hoes ในที่นี้หมายถึง แฟนสาว
ส่วนความหมายก็ตรงตัวเลยค่ะ มักจะใช้เวลาหนุ่มๆไม่พอใจที่เพื่อนของเค้ามักจะแคร์สาวๆมากกว่า
ตัวอย่างประโยค
A: hey it's poker night remember to pick up beer (เฮ้ เพื่อน คืนนี้เราจะไปเล่นโปกเกอร์กันนะ อย่าลืมเอาเบียร์มาด้วยล่ะ)
B: Sorry man, Erica wants me to go shopping with her (นาย ขอโทษทีว่ะ อีริคก้าสุดที่รักอยากให้เราไปชอปปิ้งเป็นเพื่อนอ้ะ)
A: wtf bros before hoes, i will see you at 8 ! (อะไรของนายวะ เพื่อนต้องมาก่อนดิ ไม่รู้ล่ะ ยังไงต้องนายต้องมาเจอเราตอน 2 ทุ่ม!)
6. Fleek/on point!
คำนี้ถ้าเปรียบเป็นภาษาไทยก็สามารถเปรียบได้กับคำว่า "เป๊ะอ่ะ ปังมาก"
ตัวอย่างเช่น
Eyebrows on fleek / Eyebrows on point แปลว่า คิ้วเป๊ะมากกก
7. I can't even....../I literally can't.......
สาวๆมักจะเป็นคนพูดประโยคนี้มากกว่า ประโยคนี้เป็นประโยคที่ไม่จบประโยค เพราะจริงๆแล้วประโยคเต็มๆของมันคือ I can't even handle this / I literally can't handle this.
แต่ในปี 2015 นี้พูดเต็มๆประโยคมันเชยไปแล้วสำหรับฝรั่ง (เอาไว้ใช้แค่ภาษาพูดหรือแชทนะคะ อย่าเอาไปเขียนส่งคุณครูล่ะ) ซึ่งประโยคนี้แปลได้ประมาณว่า "โอ้ยตาย ชั้นไม่ไหวแล้ว"
ตัวอย่างเช่น
"You are so cute i can't even...." แปลว่า เธอนี่น่ารักจริงๆ น่ารักจนเราไม่ไหวแล้ว
8. Bye Felicia
แปลง่ายๆก็คือ ลาก่อน เฟลิเซีย นั่นแหละค่ะ แต่ความไม่ธรรมดาของมันคือ เราไม่ได้ใช้บอกลากับคนชื่อเฟลิเซียนะ เราจะใช้คำบอกลานี้กับคู่สนทนาที่พูดจากวนประสาทเรานั่นเองค่ะ
ส่วนทำไมเฟลิเซียถึงมาเกี่ยวข้องกับประโยคนี่ล่ะ! เป็นเพราะว่า ประโยคบอกลาที่โด่งดังนี้มาจากหนังฝรั่งเรื่อง Friday ค่ะ เนื้อเรื่องในหนังนั้น เฟลิเซียชอบมายืมของจากเครกที่เป็นเพื่อนบ้านค่ะ
ตัวอย่างประโยค
"i don't have for your , Bye Felicia"
9. Let it go
แปลว่า ช่างมันเถอะ/ลืมไปซะ/ปล่อยมันไปเถอะนะ ประโยคนี้น่าจะเป็นที่คุ้นหูของใครหลายๆคน โดยเฉพาะเด็กๆ เพราะว่า มันคือเพลงประกอบจากการ์ตูนเรื่อง Frozen นั่นเองค่ะ
ประโยคนี้ฮอทฮิตหลังจากที่ Frozen ได้ถูกฉายในประเทศอเมริกานั่นเอง
ตัวอย่างประโยค :
A: remember when you were 5 years old (จำได้ปะ ตอนนายอายุ 5 ขวบอะ.....)
B: Let it go (เอ่อ...นายก็ลืมๆมันไปเถอะนะ)
วันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนนะคะ ถ้ามีอะไรสงสัยหรืออยากถามอะไรก็หลังไมค์มาได้เลยน้า ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่า
มาอัพเดท...วลี/ประโยคสุดฮิตของวัยรุ่นฝรั่งกันเถอะ
เราเลยอยากมานำเสนอเพื่อนๆทุกคนให้ทุกคนได้อ่านกัน เพื่อที่จะได้ไม่ตกเทรนด์ พร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลยยย
1. Is this still a thing?
คำนี้เป็นประโยคทำนองว่า เฮ้ยแก นี่มันยังไม่จบใช่มั้ยเนี่ย
เช่น I heard about you and your girlfriend. are you guys still a thing?
แปลได้ว่า เราได้ยินเรื่องเธอกับแฟนเธอมานะ นี่ยังไม่จบ (ไม่เลิกกัน) ใช่มั้ย?
2. Netflix and chill
Netflix คือ ผู้ให้บริการดูหนังแบบ Streaming ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาค่ะ ส่วน Chill ก็คือ การพักผ่อนสบายๆ ทำใจร่มๆ
ฟังเผินๆ เหมือนการผ่อนคลายโดยการดูหนังใช่มั้ยคะ แต่จริงๆแล้วคำนี้ความหมายไปทาง 18+เลยค่ะ
ความหมายที่แท้จริงของ netflix and chill คือ การชวนกันไปซั่มนั่นเองงงง
ประวัติศาสตร์ของคำนี้เนื่องจากก่อนที่เราจะดู netflix ได้นั้น เราต้องมี Account ที่เสียเงินเป็นรายเดือน/ปีก่อน
จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เด็กๆฝรั่งจะมี Account นี้ได้ เด็กผู้ชายก็มักชวนสาวๆที่ตัวเองหมายปองมานอนดู netflix ที่บ้าน
แต่แหม ดูกันสองคนแบบนี้ ก็ไม่เคยดูจนหนังจบสักที เลยเป็นที่มาของคำว่า "wanna come over watch netflix and chill?" นั่นเองค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. friendzone,brotherzone,sisterzone, (---จงเติมความสัมพันธ์ในช่องว่าง---)zone
เวลาที่แอบชอบใครสักคนหนึ่งแล้วเค้าบ่ายเบี่ยงบอกว่า อยากเป็นเพื่อน/น้องชาย/น้องสาวมากกว่า
เช่น A: i love you
B: i always love you like i love my dad
A: wtf did you just dadzone me?
4. that's so me!
ใช้อุทานเวลาเจออะไรที่มันโดน มันใช่มากๆ เช่น that dress is so me! เดรสตัวนั้นอ่ะมันเหมาะกับเดี๊ยนม๊ากกกมากกก
5. bros before hoes
bros (ต่อมาจาก brothers) ในที่นี้หมายถึง เพื่อนชายที่สนิทมากๆจนเหมือนเป็นคนในครอบครัว ส่วน hoes ในที่นี้หมายถึง แฟนสาว
ส่วนความหมายก็ตรงตัวเลยค่ะ มักจะใช้เวลาหนุ่มๆไม่พอใจที่เพื่อนของเค้ามักจะแคร์สาวๆมากกว่า
ตัวอย่างประโยค
A: hey it's poker night remember to pick up beer (เฮ้ เพื่อน คืนนี้เราจะไปเล่นโปกเกอร์กันนะ อย่าลืมเอาเบียร์มาด้วยล่ะ)
B: Sorry man, Erica wants me to go shopping with her (นาย ขอโทษทีว่ะ อีริคก้าสุดที่รักอยากให้เราไปชอปปิ้งเป็นเพื่อนอ้ะ)
A: wtf bros before hoes, i will see you at 8 ! (อะไรของนายวะ เพื่อนต้องมาก่อนดิ ไม่รู้ล่ะ ยังไงต้องนายต้องมาเจอเราตอน 2 ทุ่ม!)
6. Fleek/on point!
คำนี้ถ้าเปรียบเป็นภาษาไทยก็สามารถเปรียบได้กับคำว่า "เป๊ะอ่ะ ปังมาก"
ตัวอย่างเช่น Eyebrows on fleek / Eyebrows on point แปลว่า คิ้วเป๊ะมากกก
7. I can't even....../I literally can't.......
สาวๆมักจะเป็นคนพูดประโยคนี้มากกว่า ประโยคนี้เป็นประโยคที่ไม่จบประโยค เพราะจริงๆแล้วประโยคเต็มๆของมันคือ I can't even handle this / I literally can't handle this.
แต่ในปี 2015 นี้พูดเต็มๆประโยคมันเชยไปแล้วสำหรับฝรั่ง (เอาไว้ใช้แค่ภาษาพูดหรือแชทนะคะ อย่าเอาไปเขียนส่งคุณครูล่ะ) ซึ่งประโยคนี้แปลได้ประมาณว่า "โอ้ยตาย ชั้นไม่ไหวแล้ว"
ตัวอย่างเช่น "You are so cute i can't even...." แปลว่า เธอนี่น่ารักจริงๆ น่ารักจนเราไม่ไหวแล้ว
8. Bye Felicia
แปลง่ายๆก็คือ ลาก่อน เฟลิเซีย นั่นแหละค่ะ แต่ความไม่ธรรมดาของมันคือ เราไม่ได้ใช้บอกลากับคนชื่อเฟลิเซียนะ เราจะใช้คำบอกลานี้กับคู่สนทนาที่พูดจากวนประสาทเรานั่นเองค่ะ
ส่วนทำไมเฟลิเซียถึงมาเกี่ยวข้องกับประโยคนี่ล่ะ! เป็นเพราะว่า ประโยคบอกลาที่โด่งดังนี้มาจากหนังฝรั่งเรื่อง Friday ค่ะ เนื้อเรื่องในหนังนั้น เฟลิเซียชอบมายืมของจากเครกที่เป็นเพื่อนบ้านค่ะ
ตัวอย่างประโยค "i don't have for your , Bye Felicia"
9. Let it go
แปลว่า ช่างมันเถอะ/ลืมไปซะ/ปล่อยมันไปเถอะนะ ประโยคนี้น่าจะเป็นที่คุ้นหูของใครหลายๆคน โดยเฉพาะเด็กๆ เพราะว่า มันคือเพลงประกอบจากการ์ตูนเรื่อง Frozen นั่นเองค่ะ
ประโยคนี้ฮอทฮิตหลังจากที่ Frozen ได้ถูกฉายในประเทศอเมริกานั่นเอง
ตัวอย่างประโยค : A: remember when you were 5 years old (จำได้ปะ ตอนนายอายุ 5 ขวบอะ.....)
B: Let it go (เอ่อ...นายก็ลืมๆมันไปเถอะนะ)
วันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนนะคะ ถ้ามีอะไรสงสัยหรืออยากถามอะไรก็หลังไมค์มาได้เลยน้า ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่า