>> สำนักพิมพ์ อย่าใช้วิธีการแบบนี้ ขายหนังสือเลย <<

อยากจะขอร้องเรียน บอกเล่า บอกต่อ และตักเตือน ในเรื่องการตลาดของสำนักพิมพ์แห่งนึงนะคะ

ดิฉัน ปกติเป็นคนชอบซื้อหนังสือ แนวบริหารธุรกิจ จิตวิทยา ดิจิตอล เป็นหลัก โดยปกติแล้ว ถ้าพอมีเวลา จะเดินเข้าร้านหนังสือ และซื้อหนังสือเลย โดยมีปัจจัยในการตัดสินใจ ดังนี้
  ++ ถ้าเป็นประเภท ที่เราชอบอ่านอยู่แล้ว จะซื้อได้โดยไม่ต้อง เปิดอ่านเลย ประมานว่า ซื้อทุกเล่มที่ออก
  ++ ถ้าเป็น สำนักพิมพ์ ที่ซื้อหนังสือบ่อย ๆ  จะสามารถหยิบซื้อได้เลยทันที เพราะอ่านประจำ เชื่อใจได้ ไว้ใจได้
  ++ ถ้าเป็นหนังสือออกใหม่ ปกใหม่ เรื่องใหม่ จะสามารถหยิบและจ่ายเงินทันที เช่นกัน ก็เพราะมันเป็นหนังสือออกใหม่ไง

โดยความเคารพ ดิฉันขอทราบพฤติกรรมของสังคมว่า ถ้าคุณจะซื้อหนังสือ แล้วไม่เปิดอ่านภายใน ด้วยเหตุผลดังกล่าว เป็นเรื่อง ปกติวิสัยหรือ มันเป็นความไม่ปกติของตัวดิฉันเองคะ  ซึ่งดิฉันเองไม่ค่อยจะมีเวลามาก และด้วยราคาหนังสือไม่ได้แพงมาก และซื้อทีละหลาย ๆ เล่ม การที่ไม่ได้เปิดอ่านดูภายใน แต่ตัดสินใจซื้อเลย  ถือเป็นพฤติกรรมการซื้อ ที่ไม่ปกติหรือเปล่าค่ะ ซื้อไปแล้ว ไปนั่งอ่านสถานที่อื่น ๆ  เมื่อมีเวลา ถือเป็นเรื่องแปลกหรือเปล่าคะ

>> วันนี้ ดิฉัน ก้อเคยชิน แวบเข้าร้านหนังสือ แล้วเห็นปกหนังสือออกใหม่ ดิฉันก้อหยิบ และจ่ายเงินได้โดยไม่ลังเล โดยใช้เหตุผลข้างต้น แต่เมื่อเปิดอ่านที่บ้าน มันคุ้นมาก เนื้อเรื่อง เป๊ะมาก เลยกลับเข้าไปดูดงชั้นวางหนังสือ แล้วตรวจดูมา คุ้น ๆ กับเล่มไหน เจอแล้ว... นี่ไง พูดกับแฟน แล้วเราก้อเริ่มสำรวจ










ดิฉันได้ค้นพบว่า หนังสือเล่มแรก ออกมานานแล้ว ซื้ออ่านมานานแล้วเช่นกัน วางแผง ก้อนานแล้ว แต่เล่มสีส้ม เพิ่งจะออกใหม่ โดยพิจารณาว่า
คุณจะทราบได้อย่างไรว่า หนังสือทั้งสองเล่มนี้ คือ เล่มเดียวกัน ถ้าคุณเปิดอ่าน บางทีก้อไม่แน่ใจ เพราะว่า มันวางแผงนานแล้ว คนอ่านก้ออ่านไว้นานพอสมควร แต่ปกหนังสือ มีความแตกต่าง ดังนี้

  ++ ชื่อหนังสือ ที่ไม่เหมือนกันเลย เป็นหัวข้อที่ไม่คล้ายกันเลย
  ++ รายละเอียดเล่มนึง บอกว่า เรื่องราวสนุก ฉุกคิด สร้างแรงบันดาลใจ อีกเล่ม จะเปลี่ยนคอนเซป เป็น ปลุกสัญชาตญาณความมั่นคั่งในตัวคุณ
  ++ ไม่มีอะไร บอกว่า หนังสือเล่มนี้ ได้ถูกตีพิมพ์มาแล้ว เป็นครั้งที่เท่าไร ด้วยชื่ออะไรมาก่อน
  
?? คำถาม ... คุณคิดว่า คนทั่วไป จะสามารถดูปก แล้วเข้าใจได้ว่า มันคือ หนังสือ ที่ถูกวางแผนไปแล้ว และ เรามีหนังสือเล่มนี้อยู่ที่บ้านแล้วหรือยัง

>>> สิ่งที่อยากจะบอก คือ การกระทำเช่นนี้ ไม่ต่างอะไรกับการใช้แทคติก เทคนิค เอาหนังสือเก่า มาขายใหม่ แต่ไม่ได้บอกลูกค้าว่า ชื่อหนังสืออะไร ตีเนียนว่า ออกเล่มใหม่ซะเลย การตีพิมพ์ใหม่ ไม่ได้แปลก ในวงการหนังสือ แต่การที่ตีพิมพ์ใหม่ แต่ไม่ได้ใช้ชื่อเก่าเดิม ไม่ได้เขียนข้อความเดิม และไม่ได้บอกว่า ตีพิมพ์มาแล้ว เป็นครั้งที่เท่าไร ถือว่า เจตนาหลอกหลวง ทำให้เข้าใจผิด ถ้าในวงการรถยนต์ ก้อเรียกว่า ย้อมแมวขายได้นะ

>>> สิ่งที่สำนักพิมพ์ทำนั้น จัดว่า เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก เพราะคุณเป็นผู้นำ การทำเทคนิคเช่นนี้ ถ้าผู้บริโภคไม่ทักท้วง อาจมีเล่ม 2 3 4 ตามมา และอาจทำให้ สำนักพิมพ์อื่น ๆ ทำตาม กลายเป็น แทกติคเซลล์ ที่ทำกันเป็นเรื่องปกติ และมันจะกระทบอย่างไร กับตลาดผู้อ่านบ้าง

>> ในอดีต การซื้อหนังสือในร้าน ผู้อ่าน จะสามารถซื้อได้เลย ตัดสินใจได้ทันทีทันใด คือ การขายที่โฟร์มาก เล่มใหม่ ๆ จะออกเร็ว เหมือนที่ดิฉัน หยิบหนังสือออกใหม่ไปจ่ายเงินได้เลย จะกลับกลายมาเปิด ทุกคน จะไม่ไว้ใจ ไม่แน่ใจ ว่าเคยซื้อมาแล้วหรือยัง ลูกค้าจะเริ่มเปิดอ่านมากขึ้น และไม่ตัดสินใจซื้อในทันที จะกลับมาค้นดูที่บ้านก่อนว่า เล่มนี้มีแล้วหรือยัง มันจะเป็นการทระทบต่อความไว้วางใจของลูกค้า ต่อสำนักพิมพ์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

>>> แม้ว่าราคาหนังสือนั้นจะไม่ได้แพงมาก แต่ การกระทำที่บ่งบอกถึงความไม่จริงใจ เจตนาทำให้เข้าใจ มันทำให้ ดิฉัน เสียความรู้สึก แต่ถ้า พฤติกรรมของดิฉัน เป็นสิ่งผิด และการกระทำของสำนักพิมพ์นี้ เป็นเรื่องปกติ ดิฉันก็พร้อมจะขอโทษ และยินดียอมรับผิดที่ออกมาโวยวาย เรื่องมากไปเอง ต้องกราบขออภัย ทุก ๆ ท่านมาด้วยค่ะ

>>  แต่ ถ้า อ่านแล้ว สังคมมองว่า การกระทำเช่นนี้ไม่ควรทำ เพราะถือว่า เป็นเรื่องที่ผิดจรรยาบรรณแล้ว ถ้าคิดไม่ออกว่า ควรจะทำอย่างไรดี ดิฉันมีข้อแนะนำดังนี้ค่ะ

         +++ ถ้า สำนักพิมพ์ แน่ใจว่า ผิดพลาด ให้ ออกสื่อ ขอโทษสังคม กรณี ออกแบบปกหนังสือที่อาจทำให้เข้าใจผิดได้
         +++ ทำการคืนเงิน ลูกค้า ในราคาเต็ม ได้ที่ร้านหนังสือที่ซื้อมา โดยไม่มีเงื่อนไข กรณีที่ลูกค้า มีความต้องการคืน เพราะ หนังสือซ้ำ
         +++ เรียกคืน หนังสือที่วางแผงไปแล้ว ทั้งหมดคืน ถ้าจะวางแผงใหม่ ให้ เปลี่ยนปก ที่มีชื่อเดิม ข้อความที่เชื่อมโยงกัน เกี่ยวข้องกัน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน  กับหนังสือที่เคยถูกพิมพ์มาแล้ว  ต้องมีข้อความ ที่เขียนด้วยว่า เป็นการตีพิมพ์ ครั้งที่เท่าไร แต่จะดีไซน์ใหม่อย่างไรก้อได้

     >>> ทำไมต้องเรียกคืน... เพราะ การวางแผงต่อไป คือ เป็นการแสดงเจตนาหลอกหลวง ทำให้เข้าใจผิด อาจทำให้ลูกค้า ซื้อหนังสือซ้ำได้ และลูกค้าอาจจะเกิดความไม่ไว้วางใจต่อสำนักพิมพ์อีกเลย และไม่อยากให้ พฤติกรรมเช่นนี้ เป็นเรื่องปกติ ของการตลาดในวงการหนังสือ ถ้า สำนักพิมพ์ต่าง ๆ พร้อมใจกัน ใช้แทกติคนี้ ทำตลาดแล้วละก้อ แผงหนังสือที่ร้าน จะวุ่ยวายแค่ไหน เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เล่มไหน ถูกพิมพ์มาแล้ว ด้วยชื่ออะไร แล้วเราจะเผลอซื้อหนังสือเล่มที่เรามีอยู่แล้วหรือเปล่า แล้วเราจะเชื่อได้อย่างไร ว่า เล่มไหน ถูกย้อมแมวขายมาบ้าง ถ้า ทุกเล่ม นั้น วางแผงเป็น หนังสือออกใหม่ แต่แท้จริงแล้ว มันวางแผงขายไปแล้ว อ่านแล้ว มีแล้ว บ้านเรา คงต้องมีหนังสือซ้ำ เพิ่มขึ้นอีก ความเซง จะเกิดขึ้นกับเรา คนชอบอ่านหนังสือแน่นอน

...... แล้วถ้าเค้าไม่สนล่ะ ก้อไม่เป็นไร เป็นเพียงแค่ กระทู้บ่นพึมพำไปเรื่อยด้วยความเซง มันก้อไม่ได้มีราคาแพงมาก แต่มันเสียความรู้สึกนะ ไม่ทำก้อไม่เป็นไร ไม่อยากเปลี่ยนไม่อยากแก้ไข ก้อไม่เป็นไร สุดท้ายแล้ว ไม่ได้หวังว่า อะไรมันจะเปลี่ยน เปลี่ยนที่เราเองจะดีกว่า ต่อไป คงต้องละเอียดให้มากกว่านี้แล้วล่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่