สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ในการซื้อการ์ดแต่งงาน มาให้ทุกคนฟัง เราไม่แน่ใจว่าเรื่องต่อไปนี้ จะเป็นเรื่องแย่หรือเรื่องปกติของคนบางคน แต่สำหรับเรามันแย่มาก
เริ่มจากเราได้ไปทำ contact กับร้านการ์ดนี้เมื่อวันงานศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ภายในบูธตกแต่งได้ vintage มาก และรูปแบบการ์ดถูกใจเรามาก
เราก็ยืนดูซักพักนึง เพราะตอนนั้นคนในร้านเยอะมากกก เลยไม่มีใครมาบริการ เราก็เลยรอไม่เป็นไร เพราะอยากได้ร้านนี้ จากนั้นก็มีผู้ชายพูดไทยไม่ค่อยชัดมาบริการเรา ถามเราว่าชอบแบบไหนเราก้อบอกไปว่าเราชอบวินเทจสไตล์สีชมพู เค้าก็ไปหยิบแฟ้มลายการ์ดมาให้เราเลือก แต่วันนั้นแฟนเราไม่ได้ไปเราไปกับแม่ ทำให้เราก็เลือกแบบคร่าวๆไปก่อน จากนั้นเค้าก็มาถามเราว่าจะเอาแบบไหน คุยกับเซลล์ได้เลย เราก็โอเค ก็เลือกไปซักลายนึง จากนั้นก็ยืนต่อราคา ตอนนั้นเราเลือกราคาการ์ด คือ 18 บาท (ราคานี้บอกปากเปล่า ไม่มีราคาที่พิมพ์เป็นลายลักษณ์อักษรให้เราดู) เราจะสั่ง 200 up แต่เค้าก็พูดว่าลดไม่ได้ เราก็เลยขอคุยกับเจ้าของร้าน (คนไต้หวัน) เค้าก็ลดให้เราไม่ได้เช่นกัน แต่แถมเป็นการปั้มลายโลโก้ให้ที่ซองทุกซองแทน จากนั้นเค้าก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรเราเลย พูดแต่ว่า "วันนี้มัดจำไว้ที่ครึ่งนึง คือ ราคาที่ 100 ใบค่ะ" เราก็ถามต่อว่า มางานนี้ได้โปรอะไร เซลล์บอกว่า "สั่งได้ขั้นต่ำที่ 200 ใบ ปกติ 300 ใบ"
จำคำนี้ไว้นะคะ) จากนั้นเราก็จ่ายค่ามัดจำไป แบบไม่คิดอะไร
และแล้ววันที่เราโดนหลอกก็มาถึง เรามาร้านนี้ซึ่งอยู่ย่านบางนา คราวนี้มากับแฟนค่ะ เข้ามาในร้านก็ต้อนรับบริการดีค่ะ เซลล์คนนึงมาต้อนรับ (คนละคนกับวันนั้น) บอกว่าวันนี้มาชมการ์ดหรอคะ เราก็บอกว่า พอดีแลือกไว้และค่ะ จ่ายค่ามัดจำตอนวันงานไปแล้วค่ะ (พร้อมกับหยิบกระดาษมัดจำให้ดู) เซลล์บอกว่า งั้นลองเลือกลายก่อนละกันนะคะ และก็เดินจากไป
พอเลือกได้ เค้าก็ให้มานั่ง และบอกว่ารอคุยกับทางกราฟฟิคเพื่อดูรูปแบบที่ชอบ เมื่อพนักงานกราฟฟิคมาถึง ก็คุยรายละเอียดกับเราจนได้รูปแบบที่เราต้องการ จากนั้น ก็ให้เรากรอกรายละเอียดที่จะพิมลงในการ์ด (อันนี้เราก็งงๆ ว่าต้องกรอกเลยหรอ เรายังไม่เห็นรูปแบบการ์ดที่เราต้องการเลย แต่ก็ไม่ได้อะไรกรอกก็กรอก) จากนั้นระหว่างกรอกพนักงานกราฟฟิคเดินจากเราไป และกลับมาพร้อมกับใบค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียวันนี้ มันคือค่าการ์ดทั้งหมด 80% ของราคาทั้งหมด (เฮ้ยย! เล่นกันแบบนี้เลยหรอ รูปแบบอะไรไม่เห็น การ์ดที่จะปริ้นออกมาให้ดูยังไม่มีเลย แต่..รูต้องจ่ายตังเกือบทั้งหมด) และที่สำคัญออกบิลมาเต็มราคา ทั้งที่เราจ่ายค่ามัดจำไปแล้ว เราแย้งไป มันก็เลยทำมาเป็นขอดูใบมัดจำเรา และเอาไปเปลี่ยนบิลให้ เราก็เลยถามต่อว่า ต้องจ่าย 80% เลยหรอคะทั้งที่ยังไม่เห็นการ์ด กราฟฟิคมันเลยไปเรียกเซลล์มาคุย เซลล์มันบอกว่ามันเป็นกฎของร้าน (กฎกา...ๆ) เรากับแฟนเราได้แต่มองหน้ากัน และคิดในใจว่า โดนเข้าแล้ว ต่อมาเราก็ยังพยายามต่อค่ะ ก็ถามไปว่าขั้นต่ำต้องสั่งเท่าไรปกติ มันบอกว่า 200 เราก็บอกว่า อ้าวอย่างนี้ก็ไม่ได้อะไรเลยสิคะ ถ้าซื้อในงาน มันก็เลยรีบสวนกลับมาว่า อ่อได้ลดราคาการ์ดลงใบละ 2 บาท จากเดิม 20 เหลือ 18 บาท (เฮ้ยย!! ราคาถูกมโนขึ้นได้อย่างทันใจ ยิ่งกว่าราคาน้ำมันอีก) เราก็ถามอีก ว่าถ้าสั่ง 220 ได้มั้ยคะ พอดีมีแขกเท่านี้ มันบอกว่า ไม่ได้ ทางร้านมีกฎว่าต้องสั่งขึ้นทีละ 100 ใบ ประมาณว่าห้ามสั่ง 220 มันต้องสั่ง 300 เลย (เฮ้ยย!!! หนักสุด แม่... ทุเรศจริงอ่ะ ไม่เคยเจอ) เราถามว่า ทำไม? มันบอกว่าเครื่องมัน หรือกระดาษอะไรของมันเนี่ยแหละ ทำได้ทีละ100 เท่านั้น ตอนนี้จากราคาการ์ด 18 บาท ตอนนี้เราต้องมาเสียค่าการ์ด 24.5 บาท (18*300 / 220) เพราะเรื่องแบบนี้ เราเลยทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องยอมจ่ายตังมันไป ทำไงได้เสียค่ามัดจำไปแล้ว เราคงเอาคืนไม่ได้ และก็ออกจากร้านแบบ งงๆ กับแฟนเรา 2 คน
ตอนนี้พูดเลยว่ามีคนรู้จักหลายคนเค้าจะแต่งงาน เราไม่แนะนำร้านนี้ให้เค้าเลย ทั้งที่เค้าถามว่าซื้อการ์ดที่ไหน? เข็ดเลยค่ะ ดีนะคะแค่การ์ด ราคาไม่สูงมาก โดนหลอกนิดหน่อย คิดว่าเสียค่าโง่ไปละกัน และโชคดีด้วยค่ะ ที่แฟนไม่ได้ว่าอะไรด้วย ^^
ประสบการณ์ ซื้อการ์ดแต่งงาน ย่านบางนา
เริ่มจากเราได้ไปทำ contact กับร้านการ์ดนี้เมื่อวันงานศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ภายในบูธตกแต่งได้ vintage มาก และรูปแบบการ์ดถูกใจเรามาก
เราก็ยืนดูซักพักนึง เพราะตอนนั้นคนในร้านเยอะมากกก เลยไม่มีใครมาบริการ เราก็เลยรอไม่เป็นไร เพราะอยากได้ร้านนี้ จากนั้นก็มีผู้ชายพูดไทยไม่ค่อยชัดมาบริการเรา ถามเราว่าชอบแบบไหนเราก้อบอกไปว่าเราชอบวินเทจสไตล์สีชมพู เค้าก็ไปหยิบแฟ้มลายการ์ดมาให้เราเลือก แต่วันนั้นแฟนเราไม่ได้ไปเราไปกับแม่ ทำให้เราก็เลือกแบบคร่าวๆไปก่อน จากนั้นเค้าก็มาถามเราว่าจะเอาแบบไหน คุยกับเซลล์ได้เลย เราก็โอเค ก็เลือกไปซักลายนึง จากนั้นก็ยืนต่อราคา ตอนนั้นเราเลือกราคาการ์ด คือ 18 บาท (ราคานี้บอกปากเปล่า ไม่มีราคาที่พิมพ์เป็นลายลักษณ์อักษรให้เราดู) เราจะสั่ง 200 up แต่เค้าก็พูดว่าลดไม่ได้ เราก็เลยขอคุยกับเจ้าของร้าน (คนไต้หวัน) เค้าก็ลดให้เราไม่ได้เช่นกัน แต่แถมเป็นการปั้มลายโลโก้ให้ที่ซองทุกซองแทน จากนั้นเค้าก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรเราเลย พูดแต่ว่า "วันนี้มัดจำไว้ที่ครึ่งนึง คือ ราคาที่ 100 ใบค่ะ" เราก็ถามต่อว่า มางานนี้ได้โปรอะไร เซลล์บอกว่า "สั่งได้ขั้นต่ำที่ 200 ใบ ปกติ 300 ใบ"จำคำนี้ไว้นะคะ) จากนั้นเราก็จ่ายค่ามัดจำไป แบบไม่คิดอะไร
และแล้ววันที่เราโดนหลอกก็มาถึง เรามาร้านนี้ซึ่งอยู่ย่านบางนา คราวนี้มากับแฟนค่ะ เข้ามาในร้านก็ต้อนรับบริการดีค่ะ เซลล์คนนึงมาต้อนรับ (คนละคนกับวันนั้น) บอกว่าวันนี้มาชมการ์ดหรอคะ เราก็บอกว่า พอดีแลือกไว้และค่ะ จ่ายค่ามัดจำตอนวันงานไปแล้วค่ะ (พร้อมกับหยิบกระดาษมัดจำให้ดู) เซลล์บอกว่า งั้นลองเลือกลายก่อนละกันนะคะ และก็เดินจากไป
พอเลือกได้ เค้าก็ให้มานั่ง และบอกว่ารอคุยกับทางกราฟฟิคเพื่อดูรูปแบบที่ชอบ เมื่อพนักงานกราฟฟิคมาถึง ก็คุยรายละเอียดกับเราจนได้รูปแบบที่เราต้องการ จากนั้น ก็ให้เรากรอกรายละเอียดที่จะพิมลงในการ์ด (อันนี้เราก็งงๆ ว่าต้องกรอกเลยหรอ เรายังไม่เห็นรูปแบบการ์ดที่เราต้องการเลย แต่ก็ไม่ได้อะไรกรอกก็กรอก) จากนั้นระหว่างกรอกพนักงานกราฟฟิคเดินจากเราไป และกลับมาพร้อมกับใบค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียวันนี้ มันคือค่าการ์ดทั้งหมด 80% ของราคาทั้งหมด (เฮ้ยย! เล่นกันแบบนี้เลยหรอ รูปแบบอะไรไม่เห็น การ์ดที่จะปริ้นออกมาให้ดูยังไม่มีเลย แต่..รูต้องจ่ายตังเกือบทั้งหมด) และที่สำคัญออกบิลมาเต็มราคา ทั้งที่เราจ่ายค่ามัดจำไปแล้ว เราแย้งไป มันก็เลยทำมาเป็นขอดูใบมัดจำเรา และเอาไปเปลี่ยนบิลให้ เราก็เลยถามต่อว่า ต้องจ่าย 80% เลยหรอคะทั้งที่ยังไม่เห็นการ์ด กราฟฟิคมันเลยไปเรียกเซลล์มาคุย เซลล์มันบอกว่ามันเป็นกฎของร้าน (กฎกา...ๆ) เรากับแฟนเราได้แต่มองหน้ากัน และคิดในใจว่า โดนเข้าแล้ว ต่อมาเราก็ยังพยายามต่อค่ะ ก็ถามไปว่าขั้นต่ำต้องสั่งเท่าไรปกติ มันบอกว่า 200 เราก็บอกว่า อ้าวอย่างนี้ก็ไม่ได้อะไรเลยสิคะ ถ้าซื้อในงาน มันก็เลยรีบสวนกลับมาว่า อ่อได้ลดราคาการ์ดลงใบละ 2 บาท จากเดิม 20 เหลือ 18 บาท (เฮ้ยย!! ราคาถูกมโนขึ้นได้อย่างทันใจ ยิ่งกว่าราคาน้ำมันอีก) เราก็ถามอีก ว่าถ้าสั่ง 220 ได้มั้ยคะ พอดีมีแขกเท่านี้ มันบอกว่า ไม่ได้ ทางร้านมีกฎว่าต้องสั่งขึ้นทีละ 100 ใบ ประมาณว่าห้ามสั่ง 220 มันต้องสั่ง 300 เลย (เฮ้ยย!!! หนักสุด แม่... ทุเรศจริงอ่ะ ไม่เคยเจอ) เราถามว่า ทำไม? มันบอกว่าเครื่องมัน หรือกระดาษอะไรของมันเนี่ยแหละ ทำได้ทีละ100 เท่านั้น ตอนนี้จากราคาการ์ด 18 บาท ตอนนี้เราต้องมาเสียค่าการ์ด 24.5 บาท (18*300 / 220) เพราะเรื่องแบบนี้ เราเลยทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องยอมจ่ายตังมันไป ทำไงได้เสียค่ามัดจำไปแล้ว เราคงเอาคืนไม่ได้ และก็ออกจากร้านแบบ งงๆ กับแฟนเรา 2 คน
ตอนนี้พูดเลยว่ามีคนรู้จักหลายคนเค้าจะแต่งงาน เราไม่แนะนำร้านนี้ให้เค้าเลย ทั้งที่เค้าถามว่าซื้อการ์ดที่ไหน? เข็ดเลยค่ะ ดีนะคะแค่การ์ด ราคาไม่สูงมาก โดนหลอกนิดหน่อย คิดว่าเสียค่าโง่ไปละกัน และโชคดีด้วยค่ะ ที่แฟนไม่ได้ว่าอะไรด้วย ^^