บานปลาย!! 40 ราชภัฏประกาศเลิกทำธุรกรรมกับเอสซีบี กรณีคุณสมบัติเข้าทำงาน

จากกรณีธนาคารไทยพาณิชย์รับสมัครงาน ตำแหน่งที่ปรึกษาทางการเงินฝึกหัด (Financial Advisor Trainee) โดยระบุคุณสมบัติว่าเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.75 พร้อมกำหนดให้เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษา 14 แห่ง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง ถึงแม้ต่อมาทางธนาคารจะออกแถลงการณ์ชี้แจงว่าโดยสรุปว่าเกิดจากความผิดพลาดในการสื่อสาร แต่ไม่ได้ระบุให้ชัดเจนถึงที่มาที่ไปของรายชื่อ 14 สถาบันอุดมศึกษา ส่งผลให้กลุ่มมหาวิทยาลัยที่ไม่มีรายชื่อ เริ่มต่อต้านทัศนคติของผู้บริหารธนาคาร โดยสำนักทรัพย์สิน และรายได้ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส.) ได้ประกาศลงสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "ตามมติที่หารือ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ ทั้ง 40 แห่ง และสำนักทรัพย์สินและรายได้พร้อมตอบสนองตามมติ มีความเห็นพ้องกันว่า จะทำการตอบโต้โดยเลิกการทำธุรกรรมการเงินทุกชนิดกับธนาคารไทยพาณิชย์แห่งนี้"

  ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 30 มิ.ย.ผศ.นิวัต กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) เพชรบุรี ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.มรภ.) ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ว่า ในความเป็นจริงแล้วผู้ที่เรียนมหาวิทยาลัยเอกชน มหาวิทยาลัยราชมงคล (มทร.) มหาวิทยาลัยเอกชน หรือมหาวิทยาลัยรัฐ ที่ไม่ได้อยู่ใน 14 รายชื่อนี้ ก็มีความรู้ความสามารถเหมือนกัน ซึ่งบางคนอาจจะมีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะเข้าไปสอบแข่งขันได้ แต่ขณะนี้เหมือนเขาถูกปิดกั้นโอกาสเสียแล้ว เพียงเพราะว่าเขาเหล่านี้ไม่ได้จบการศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาที่ธนาคารกำหนด กลายเป็นเรียนผิดที่ เหมือนมีมายาคติเกิดขึ้นในสังคม เพราะเพียงแค่ชี้แจงว่าเป็นความผิดพลาดทางเทคนิคแล้วจบๆ ไปคงไม่ใช่ ฟังอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น


"เดิมทีจะมีการประชุมทปอ.มรภ. ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ แต่เมื่อคำชี้แจงที่ออกมาฟังไม่ขึ้น อธิการบดีทั้ง 40 แห่งในทปอ.มรภ. จึงคุยกันนอกรอบก่อนสรุปเป็นความเห็นร่วมกันว่าจะทบทวนการทำธุรกรรมกับธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งก่อนหน้านี้เข้าใจว่ามีการทำธุรกรรมไม่ไม่ต่ำกว่าหลักพันล้านบาทส่วนใหญ่เป็นเงินฝาก โดยราชภัฏบางแห่งที่เป็นมีขนาดใหญ่ก็จะทำธุรกรรมในตัวเลขที่สูง เพราะโดยปกติการทำธุรกรรมกับธนาคาร มหาวิทยาลัยจะเลือกธนาคารที่เป็นมิตร เเต่เมื่อไทยพาณิชย์แสดงออกในลักษณะนี้ก็เท่ากับปฏิเสธความเป็นมิตรกับราชภัฏ ดังนั้นในขณะนี้จึงเริ่มมีราชภัฏหลายแห่งร่วมทั้งมรภ.เพชรบุรี สั่งการให้ฝ่ายการเงินตรวจสอบการทำธุรกรรมกับธนาคารแห่งนี้แล้ว ส่วนสวนสุนันทาได้ตรวจสอบพร้อมประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าเตรียมยกเลิกการทำธุรกรรมกับไทยพาณิชย์ ขณะที่ราชภัฏอื่นๆ เข้าใจว่าคงทยอยประกาศต่อไป" ปธ.ทปอ.มรภ. กล่าว

ด้านรศ.ฤๅเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมรสส. ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการมาราชการที่ต่างจังหวัด จึงไม่ทราบว่าใครเป็นผู้นำข้อความมติที่ประชุมทปอ.มรภ.  ซึ่งจะตอบโต้ธนาคารไทยพาณิชย์ ด้วยการยกเลิกการทำธุรกรรมทางการเงินทุกชนิดมาโพสต์ลงในเฟสบุ๊คสำนักทรัพย์สิน และรายได้ ของ มร.สส. แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันผ่านโปรแกรมแชทไลน์กลุ่มทปอ.มรภ. มาระยะหนึ่งแล้ว โดยส่วนใหญ่มีความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่าจะยกเลิกการทำธุรกรรมกับธนาคาร ทั้งนี้ในกลุ่มไลน์นี้มีทั้งอธิการบดี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นไปได้ว่าข้อความนี้อาจหลุดมาจากแชทดังกล่าว และนำมาโพสต์ในเฟสบุ๊คกัน



"การที่ธนาคารออกมาระบุว่าเป็นการสื่อสารผิดพลาดนั้น ไม่น่าจะเป็นคำตอบที่เชื่อถือได้เพราะมีการระบุเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจน แสดงว่าต้องเป็นเรื่องจริง ดังนั้นเมื่อธนาคารระบุรายชื่อมหาวิทยาลัยที่จะรับเข้าทำงาน สวนสุนันทาก็จะระบุรายชื่อธนาคารที่เราจะทำธุรกรรมด้วยเช่นกัน ถึงผมจะยอมรับว่าการคัดเลือกคนเข้าทำงานเป็นสิทธิ์ขององค์กรนั้นๆ แต่การประกาศรายชื่อมหาวิทยาลัยเป็นลายลักษณ์อักษรแบบนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติกัน อีกทั้งมหาวิทยาลัยทั้ง 14 แห่งตามรายชื่อที่ประกาศก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับการประกาศแบบนี้  ซึ่งผมคาดว่าในวันที่ 3 ก.ค.นี้ น่าจะทราบมติที่ชัดเจนว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 40 แห่ง จะดำเนินการกับธนาคารแห่งนี้อย่างไรต่อไป" อธิการบดี มร.สส. กล่าว

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง รศ.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมทร. ธัญบุรี เพื่อสอบถามถึงท่าทีต่อจากนี้ รศ.ประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ขอแสดงข้อคิดเห็นในนามอธิการบดีมทร. ธัญบุรี และนายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล โดยส่วนตัวเกิดความสับสนและไม่มั่นใจต่อระบบการบริหารของธนาคาร หลังจากที่ได้ประกาศรับสมัครตำแหน่งที่ปรึกษาทางการเงินฝึกหัด เฉพาะ 14 สถาบันอุดมศึกษา ทั้งนี้ถึงจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่วันนี้ได้เกิดความจริงขึ้นแล้ว 3 ประเด็น ประเด็นแรกคือมาตรฐานของไทยพาณิชย์ ถ้าบอกว่าไม่ตั้งใจหรือตกหล้นกับการรับสมัครคน แสดงว่ามาตรฐานการรับคนซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบธนาคารกำลังมีปัญหา แต่ถ้าบอกว่าตั้งใจ แสดงว่าความคิดของผู้บริหารต่อการรับคนเข้าทำงาน กำลังมองสถาบันอุดมศึกษาแตกต่างกัน

นายกสมาคมศิษย์เก่ามทร. กล่าวอีกว่า  ประเด็นถัดมาคือวันนี้นักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษาและเข้าสู่ตลาดแรงงาน รวมถึงบัญฑิตที่จบการศึกษาแล้วกำลังเกิดความสับสน กังวล และไม่มั่นใจว่าสถานภาพของตัวเอง และประเด็นสุดท้ายคือ ผู้ปกครองเกิดความสับสนกับระบบอุดมศึกษาของประเทศ ขณะที่ประชาชนทั่วไปไม่เข้าใจในมาตรฐานการรับคนเข้าทำงานของธนาคารแห่งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าวันนี้ธนาคารไทยพาณิชย์มีศิษย์เก่าราชมลคลทำงานอยู่ไม่น้อย และมีอยู่ทุกระดับตั้งแต่ผู้บริหารถึงระดับปฏิบัติการ    
"ประเด็นเหล่านี้อาจส่งผลให้มหาวิทยาลัยต้องทบทวนการใช้บริการธนาคารไทยพาณิชย์ และผมเริ่มกังวลว่าเราจะใช้บริการกันต่อไปได้หรือไม่ ดังนั้นธนาคารควรชี้แจงใน 3 ประเด็นนี้ให้สังคมและมหาวิทยาลัยได้เข้าใจ มากกว่าแค่การออกแถลงการณ์ขอโทษ ผมคิดว่าธนาคารควรมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ โดยเฉพาะการคัดเลือกคนเข้าทำงานในอนาคต ขณะที่ผู้บริหารธนาคารจำเป็นต้องทบทวนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วจะรับผิดชอบอย่างไรต่อสังคม เพราะผมยืนยันว่าราชมงคลเราผลิตบัญฑิตมีคุณภาพ โดยการประชุมอธิการบดีมทร. 9 แห่ง ในสัปดาห์หน้า จะมีการพิจารณาในเรื่องนี้ร่วมกันอีกครั้ง" อธิการบดีมทร. ธัญบุรี กล่าว

ด้าน รศ.นำยุทธ์ สงธนาพิทักษ์ อธิการบดีมทร. ล้านนา ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีมทร. 9 แห่ง ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เคยทราบว่าธนาคารไทยพาณิชย์มีนโยบายไม่รับบัญฑิตจากราชมงคล แต่ทั้งนี้อย่างให้มองที่ความรู้ความสามารถของบัญฑิตที่สำเร็จการศึกษาเป็นหลัก มากกว่าเลือกที่ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย ส่วนจะมีมาตรการใดๆ ออกมาต่อโต้หรือไม่นั้น คงนำเข้าหารือในที่ประชุมอธิการบดีมทร. 9 แห่งก่อน คงยังไม่สามารถพูดอะไรไปก่อนล่วงหน้าได้

เครดิตข่าวโดย http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1435654357 และอีเจี๊ยบ เลียบด่วน

ส่วนตัวจขกท.ว่าน่าจะให้โอกาสคนจบที่อื่นด้วยนะั ทำงานดีไม่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยมันอยู่ที่คุณสมบัติส่วนตัวขิองบุคคล

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่