ผมเป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งในระดับต่ำมาครึ่งชีวิต เมื่อเกษียณแล้วจึงมาอยุธยาบ่อยครั้ง มาไหว้พระทำบุญไปตามเรื่องตามราวกะว่าจะไปทำบุญให้ครบทุกวัดที่กรุงเก่านี้ให้จงได้ เพราะหลักไมล์ค่อนชีวิตที่มันเตือนอย่างแจ่มชัดขึ้นทุกทีว่าเทียนไขของตัวผมเองนั้นมันโชนแสงน้อยลงและกินตัวเองลงไปในทุกเวลานาที
ผมนั่งรับลมอยู่ศาลาชายน้ำของวัดกำลังสบายก็มีมือเล็ก ๆ มาสะกิดแขน
“ตาครับปล่อยปลาไหม”
เด็กชายหัวเกรียนอายุราวเก้าขวบยื่นถังที่มีปลาดุก ปลาหมอ และปลาไหลตัวเล็กรวม ๆ กันอยู่กว่าห้าสิบตัวให้ผมดู
“ทำไมตาต้องปล่อย”
ผมนึกสนุกลองต่อกรกะเด็กน้อยหน้าแป้นคนนี้
“ก็ผมจะได้ได้เงินและตาก็จะได้บุญ” ผมยิ้มก่อนถามต่อ
“ปล่อยปลามันต้องบอกลูกค้าได้สิว่าปล่อยเพื่อแก้เคล็ดอะไรบ้าง”
พ่อค้าตัวน้อยเกาหัวแกรกก่อนว่า
“ศัตรูแพ้พ่าย หน้าที่การงานไหลลื่น สุขภาพแข็งแรงครับตา”
ผมยิ้มกว้างขึ้น
“อันไหนของอันไหนล่ะ ตางง อธิบายอีกทีสิ”
เด็กน้อยยิ้มเห็นฟันหลอ
“ปลาดุกคือไอ้ตัวที่มีหนวดครับ ศัตรูแพ้พ่าย ไอ้ตัวแบน ๆ นั่นปลาหมอครับสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วย ส่วนตัวยาว ๆ นั่นมันคือปลาไหล ปล่อยแล้วหน้าที่การงานไหลลื่นไม่ติดขัดครับ”
“ตาต้องให้เงินเราเท่าไหร่” ผมประทับใจในความฉลาดหลักแหลมของเขา
“ร้อยห้าสิบบาทครับ”
ผมยื่นเงินให้เขาตามจำนวนและวานให้เด็กชายเอาปลาปล่อยลงตรงกอผักตบให้ห่างจากฝูงปลาสวายตัวโต
ผมมองพ่อค้ายิ้มแก้มบานหิ้วถังเปล่าขึ้นบันไดท่าน้ำ แล้วจึงเดินตามไปเพื่อขับรถกลับบ้าน เมื่อผมเลี้ยวรถจะออกไปทางออกของประตูวัด เห็นพ่อค้าตัวน้อยนั่งกองอยู่กับพื้นถนนร้องไห้หน้าแดง ผมจอดรถชิดข้างทางลงไปดูเขา
“เป็นอะไรไป” ผมจับเขาลุกขึ้น
“พวกพี่เขามาแย่งเงินค่าขายปลา”
เขายังสะอื้นพลางชี้มือไปที่เด็กชายอีกสามคนที่แก่วัยกว่ากำลังยืนมองมาที่ผมและเขา
ผมพอเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ไม่ยาก แอบยัดเงินใส่กระเป๋าเสื้อให้เขาอีกสองร้อยแล้วว่า
“เราก็น่าจะปล่อยปลาทำบุญซะบ้าง”
เขายกมือไหว้ผมและไหว้อยู่ท่านั้นจนผมเคลื่อนรถออกไป
ผมอิ่มใจแบบอธิบายไม่ถูก ขยับกระจกมองหลังมองอีกรอบด้วยใจเป็นห่วงพ่อค้าตัวน้อย ผมเห็นเขาและเพื่อนรุ่นพี่อีกสามคนล้อมวงกำลังกระโดดโลดเต้นด้วยความยินดีด้วยกัน ไม่มีวี่แววความบาดหมางเลยสักนิด
cr viewpoints.exteen.com
เรื่องสั้นหน้าเดียว : ทำบุญ
ผมนั่งรับลมอยู่ศาลาชายน้ำของวัดกำลังสบายก็มีมือเล็ก ๆ มาสะกิดแขน
“ตาครับปล่อยปลาไหม”
เด็กชายหัวเกรียนอายุราวเก้าขวบยื่นถังที่มีปลาดุก ปลาหมอ และปลาไหลตัวเล็กรวม ๆ กันอยู่กว่าห้าสิบตัวให้ผมดู
“ทำไมตาต้องปล่อย”
ผมนึกสนุกลองต่อกรกะเด็กน้อยหน้าแป้นคนนี้
“ก็ผมจะได้ได้เงินและตาก็จะได้บุญ” ผมยิ้มก่อนถามต่อ
“ปล่อยปลามันต้องบอกลูกค้าได้สิว่าปล่อยเพื่อแก้เคล็ดอะไรบ้าง”
พ่อค้าตัวน้อยเกาหัวแกรกก่อนว่า
“ศัตรูแพ้พ่าย หน้าที่การงานไหลลื่น สุขภาพแข็งแรงครับตา”
ผมยิ้มกว้างขึ้น
“อันไหนของอันไหนล่ะ ตางง อธิบายอีกทีสิ”
เด็กน้อยยิ้มเห็นฟันหลอ
“ปลาดุกคือไอ้ตัวที่มีหนวดครับ ศัตรูแพ้พ่าย ไอ้ตัวแบน ๆ นั่นปลาหมอครับสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วย ส่วนตัวยาว ๆ นั่นมันคือปลาไหล ปล่อยแล้วหน้าที่การงานไหลลื่นไม่ติดขัดครับ”
“ตาต้องให้เงินเราเท่าไหร่” ผมประทับใจในความฉลาดหลักแหลมของเขา
“ร้อยห้าสิบบาทครับ”
ผมยื่นเงินให้เขาตามจำนวนและวานให้เด็กชายเอาปลาปล่อยลงตรงกอผักตบให้ห่างจากฝูงปลาสวายตัวโต
ผมมองพ่อค้ายิ้มแก้มบานหิ้วถังเปล่าขึ้นบันไดท่าน้ำ แล้วจึงเดินตามไปเพื่อขับรถกลับบ้าน เมื่อผมเลี้ยวรถจะออกไปทางออกของประตูวัด เห็นพ่อค้าตัวน้อยนั่งกองอยู่กับพื้นถนนร้องไห้หน้าแดง ผมจอดรถชิดข้างทางลงไปดูเขา
“เป็นอะไรไป” ผมจับเขาลุกขึ้น
“พวกพี่เขามาแย่งเงินค่าขายปลา”
เขายังสะอื้นพลางชี้มือไปที่เด็กชายอีกสามคนที่แก่วัยกว่ากำลังยืนมองมาที่ผมและเขา
ผมพอเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ไม่ยาก แอบยัดเงินใส่กระเป๋าเสื้อให้เขาอีกสองร้อยแล้วว่า
“เราก็น่าจะปล่อยปลาทำบุญซะบ้าง”
เขายกมือไหว้ผมและไหว้อยู่ท่านั้นจนผมเคลื่อนรถออกไป
ผมอิ่มใจแบบอธิบายไม่ถูก ขยับกระจกมองหลังมองอีกรอบด้วยใจเป็นห่วงพ่อค้าตัวน้อย ผมเห็นเขาและเพื่อนรุ่นพี่อีกสามคนล้อมวงกำลังกระโดดโลดเต้นด้วยความยินดีด้วยกัน ไม่มีวี่แววความบาดหมางเลยสักนิด
cr viewpoints.exteen.com