มาต่อการแข่งรอบสอง แต่แอบเซ็ง ทำไมทำกันได้ แบบนี้ก็ไม่มันส์สิ (รึเปล่า) พูดให้อยากแล้วมาอ่านกันเลย
ปล. ที่ไม่พิมพ์ชื่อตอนเพราะจะไปสปอยล์คนที่อ่านเฉพาะรวมเล่ม
ต่อจากตอนที่แล้ว พอทันทีที่ทุกคนรู้ว่า Ranking Killer พัมพ์กิ้นและพิพัฒน์ ต้องมาสู้กันเองก็ถึงกับฮือฮากันใหญ่ ขนาดพวกมัจฉาเองก็ไม่คิดมาก่อน โดยเฉพาะเดฟที่กำลังดูการถ่ายอยู่อีกที่หนึ่งพอเห็นแบบนี้ถึงกับฮาลั่นเลยทีเดียว (ถึงตรงนี้มีข้อมูลอาวุธนิดหน่อยกับสถานะคู่ต่อสู้แต่ละคน ดูเอาตามรูปเลยแล้วกัน ขี้เกียจพิมพ์)
ทางด้านกานดาและอัษฎาที่กลับมาห้องเตรียมตัว ตอนนี้ก็ได้ยินเสียงฮิอฮากันใหญ่จากข้างนอกโดยไม่รู้ว่าฮือฮาอะไรกัน แล้วอัษฎาก็หันกลับมาพูดกับกานดาต่อ แต่พอหันกลับมาก็เห็นกานดากำลังล้นใหญ่หยิบอาวุธ(ซวย)ขั้นเทพ "มีดปอกมะม่วง" ออกมาเตรียมพร้อมสู้ใหญ่ บอกเลยว่า "ต่อให้เป็นอัษฎาผมก็ไม่ออมมือหรอกนะ" อัษฎาเห็นแบบนี้เลยบอกให้กานดาใจเย็นๆก่อนอย่างเหงื่อตก
อัษฎาบอกกานดาว่าไม่ต้องสู้กันก็ได้โดยอ้างเหตุผลว่าเพราะไม่ได้วาร์ปที่สถานที่ต่อสู้เลย จึงเดาว่าชนะผ่านโดยไม่ต้องสู้แล้ว ทันทีที่อัษฎาพูดจบผู้คุมคลังแสงก็ติดต่อมาบอกยืนยันตามที่อัษฎาบอกว่าทั้งสองคนไม่ต้องสู้ในรอบนี้และแอบคิดด้วยว่า "ดวงดีจริงนะ ไอ้หนู" พวกไวพจน์เองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากานดาจะดวงดีแบบนี้จนยังมีคนพูดเลยว่าใช้ดวงทั้งชีวิตหมดไปแล้วรึเปล่า นอกจากนั้นการที่พัมพ์กิ้นกับพิพัฒน์สู้กันเองก็ยิ่งทำให้ศัตรูลดลงไปด้วย วิริยายังพูดเลยว่าดีเกินไปจนผู้คุมคลังแสงแอบช่วยรึเปล่า แต่มัจฉายืนยันเลยว่าไม่มีทาง เพราะหากผู้คุมคลังแสงช่วยคงจะดำเนินอีเวนท์ต่อไม่ได้และถูกปลดทันทีจากสาเหตุเล่นนอกกติกา มัจฉายังบอกเลยว่าตอนเธอเป็นคีย์มาสเตอร์ยังมีกฎยุ่งยากเลย ยิ่งระดับผู้คุมคลังแสงคงไม่ต้องพูดถึง
ด้านกานดาพอรู้ว่าไม่ต้องสู้แล้วก็เลยจะกลับเลย แต่ก่อนหน้านั้นอัษฎาคุยกับกานดาก่อน บอกถึงยังไม่รู้ว่าการต่อสู้ที่นี่จะเป็นยังไงแต่หลังอีเวนท์จบเขามีเรื่องอยากจะเล่า บอกว่าถึงจะไม่ใช่เรื่องสำคัญกับกานดาแต่มันสำคัญกับเขาและต้องบอกคนที่เคยร่วมกลุ่มมาด้วย กานดาเห็นอัษฎาจริงจังแบบนี้ก็เลยบอกถึงจะไม่รู้ว่าเรื่องอะไรแต่ถ้าบอกว่าสำคัญกับอัษฎา กานดาก็ถือว่าสำคัญกับเขาเหมือนกัน
ที่สนามต่อสู้ระหว่าง ภัสสรกับวัลแคน ตอนนี้วัลแคนกำลังใช้ดิออร์แกนิกซ์ทำการลบหินและพุ่มไม้รอบตัวไปเรื่อยๆเพื่อหาที่ซ่อนของภัสสร พอภัสสรเห็นแบบนี้ก็คิดว่าช่วยไม่ได้แล้วจึงโผล่ออกมาซึ่งๆหน้าเตรียมโจมตีโดยไม่ซ่อนตัวแล้ว ทางคนดูเห็นภัสสรออกมาเองเลยก็ไม่ได้แปลกใจมาก หลายคนคาดไว้อยู่แล้วเพราะหากซ่อนต่อไปจนทำให้ที่ซ่อนหายไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ การที่ภัสสรตัดสินใจแบบนี้ก็คือการขัดขวางวัลแคน ถึงการที่วัลแคนจะทำให้ที่ซ่อนหายไปก็ต้องเสีย MP ไปเรื่อยๆด้วย หากจะยอมรอให้เสีย MP ไปเรื่อยๆก็ไม่รู้ว่าวัลแคนมี MP เท่าไร ถึงตอนนั้นที่ซ่อนอาจหมดไปเลยก็ได้
ด้วยเหตุนี้พอภัสสรออกมาก็เปิดฉากยิงทันที แต่มีเหรอที่วัลแคนจะไม่เตรียมตัวไว้เลย ก่อนที่กระสุนของภัสสรจะมาถึงตัววัลแคน อสูรสองตัวของวัลแคนก็พุ่งเข้ามาทางวัลแคนทันที วัลแคนก็แค่ยืนกอดอกยิ้มเฉยๆด้วยความมั่นใจสุดๆเลยว่าตัวเองไม่เป็นอะไรแน่นอน และก็ "ตูม" กระสุนของภัสสรเข้าเป้าเต็มๆ แต่ถึงแบบนั้นวัลแคนก็ไม่ได้.......ซะเมื่อไร เจ้าอสูรสองตัวแทนที่จะเข้ามาปกป้องวัลแคนกลายเป็นกลับกัน ทั้งสองตัวดันเอาตัววัลแคนมาเป็นโล่แทนเองซะงั้น เหล่าคนดูก็เพียงแค่ตกใจที่วัลแคนเรียกอสูรออกมาแล้ว ส่วนเรื่องอสูรเอาตัวเจ้านายเป็นโล่นั้นไม่ขอพูดถึง
ภัสสรถึงจะอึ้งๆไปชั่วขณะแต่ก็รวบรวมความคิดในเวลานั้นไปด้วย คิดว่าเมื่อใช้โหมดยิงไกลไม่ได้เพราะใช้ที่ซ่อนไม่ได้ และยิ่งมีศัตรูหลายตัวแบบนี้..... ภัสสรจึงเลือกใช้อีกโหมดของบุปผาสวรรค์แทน ทำการเรียก option ออกมาและเปิดฉากระดมยิงแบบห่าฝนด้วยไม้ตาย "Full option Radiant shot" ยิงไปทั่วพื้นที่ แม้พลังจะแรงไม่สู้โหมดยิงไกลแบบจุดๆเดียวแต่อย่างน้อยก็โดนทั้งวัลแคนและพวกอสูรไปด้วย
ถึงกระนั้นอสูรทั้งสองก็ยังทนได้และต่างวิ่งฝ่าห่ากระสุนเข้ามาหาภัสสรอย่างเต็มที่ ถึงตรงนี้วิริยาแปลกใจเรื่องตรงที่อสูรทั้งสองของวัลแคนนี่เป็นแค่ "ระดับกลาง" แต่ทำไมดูเก่งนัก ไวพจน์ที่เป็นสายอัญเชิญมอนสเตอร์เหมือนกันจึงอธิบายว่ามันมีความสัมพันธ์กับเจ้าของ เมื่อวัลแคนเลเวลสูงพวกมันก็จะเก่งตามไปด้วย ต่างกับแผ่นพันธุกรรมของไวพจน์ที่มีพลังตายตัวแต่ประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มพลังได้ ถึงอสูรจะมีระดับถึง 1-15 ระดับแต่สายของวัลแคนถ้าวัลแคนเก่งอสูรก็จะเก่งตาม ถึงข้อดีจะเยอะแต่การหาอสูรมาใช้จะเหนื่อยกว่ามากและยุ่งยากไวพจน์จึงเลิอกสนใจสายนี้ไป
กลับมาการต่อสู้ ภัสสรยังคงสาดห่ากระสุนไม่ยั้งแบบไม่ให้มีช่องว่างกันเลย พอสาดไปเรื่อยๆอสูรวัวก็ล้มไปแล้วหนึ่งแต่ยังเหลืออสูรผึ้งอยู่ แต่ตอนนี้ห่ากระสุนของภัสสรหมดแล้วและไม่พอจะล้มอสูรผึ้งได้ อสูรผึ้งไม่ยอมเสียจังหวะนี้รีบวิ่งเข้ามาหาภัสสรทันทีแต่ภัสสรเองก็วิ่งเข้าไปหาอสูรด้วยเช่นกัน และทันทีที่อสูรเข้าประชิดภัสสรมันก็ใช้หมัดตรงใส่ภัสสรทันที แต่ภัสสรคิดไว้อยู่แล้วจึงหลบด้วยการสไลด์ตัวผ่านใต้หมัดตรงอย่างเร็ว และด้วยการสไลด์ตัวนั้นทำให้ภัสสรพุ่งทะลุผ่านอสูรไปจนถึงตัววัลแคนได้ พอได้ระยะประชิดพอภัสสรก็ดีดตัวโดดแบบขาชี้ฟ้าใช้โหมดยิงข้ามดวงดาวของบุปผาสวรรค์ยิงใส่วัลแคนแบบทีเผลอจากด้านหลังในระยะประชิดเลยทีเดียว เหล่าคนดูถึงกับชมเลยว่ามุมยิงสวยมากแถมยังยิงในระยะประชิดจนไม่อยากจะเชื่อว่าภัสสรเป็นสายโจมตีระยะไกลแน่เหรอ
ขณะที่ภัสสรยังยิงค้างที่ตัววัลแคนอยู่ อสูรวัวที่ล้มไปทีแรกดันลุกขึ้นมาได้อีกครั้งจากที่คิดว่าตายไปแล้ว พอมันลุกขึ้นมาได้ก็รีบตรงมาทางภัสสรทันที แม้ภัสสรจะเห็นแล้วและไม่คิดว่าอสูรจะฟื้นตัวเร็วแบบนี้ แถมลำแสงบุปผาสวรรค์จำเป็นต้องยิงแช่เป้าหมายไว้ทำให้ถอยห่างไม่ได้แต่ภัสสรก็เตรียมเคลื่อนที่หลบในระยะประชิดอยู่ เพียงแต่ว่าวินาทีที่กำลังตั้งหลักหลบนั้นเอง วัลแคนใช้ดิออร์แกนิกซ์ทำการสร้างหินผุดขึ้นมาตรงตำแหน่งภัสสรจนภัสสรที่ยังค้างกลางอากาศอยู่เสียการควบคุมตัวเอง และก็ได้จังหวะเดียวกับอสูรวัวที่เข้ามาโจมตีภัสสรพอดี ภัสสรเลยโดนการโจมตีเข้าไปเต็มๆ หนำซ้ำยังเจออสูรผึ้งมารอเตรียมพร้อมในตำแหน่งที่ภัสสรโดนสัดมาอีก ภัสสรเลยโดนคอมโบของอสูรผึ้งต่อยรัวเข้าไปอีกดอกจนถึงกับร้องกระอักเลยทีเดียว ภัสสรถึงกับคิดเลยว่าแบบนี้มันเหมือนโดนรุม 3 ต่อ 1 ไม่มีผิด และเมื่อตั้งหลักได้ก็จัดการยิงอสูรวัวล้มจัดการไปได้ตัวหนึ่ง
ด้านวัลแคนหลังจากโดนไปเจ็บไม่น้อยเหมือนกันก็คิดอะไรไม่รู้และเริ่มสร้างเสาสูงแบบเดียวกับตอนสู้เมตัลแมกซ์และเริ่มใช้ดิออร์อกนิกซ์อีกครั้ง ภัสสรที่รู้ข้อมูลมาแล้วจึงถึงกับสยองพูด "เดี๋ยว" เลยทีเดียว
อีกด้านที่การต่อสู้ของพัมพ์กิ้นกับพิพัฒน์ พื้นที่ต่อสู้ในตอนนี้เต็มไปด้วยควันดำไปหมดและไม่เห็นตัวของทั้งคู่ แต่การต่อสู้ของคู่นี้ก็....จบลงแล้ว
จบตอน
ไม่รู้จะได้ดูย้อนพัมพ์กิ้นกับพิพัฒน์สู้กันรึเปล่า แต่จากเพจท่านมิดเหมือนจะบอกใบ้ไปแล้วว่าใครชนะ(ไปหากันเอาเอง)
ภาพเดียวตอนนี้จัดไปแล้ว แต่ขอจัดอีกภาพที่ท่านมิดปล่อยมาในเพจแล้วให้ดูอีกหน่อยแล้วกัน ท่านมิดบอกเป็นภาพเปิดตอนในอีก 2 ตอนข้างหน้า ใครอยากเห็นก่อนเชิญดูได้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใครแม่ใครลูก!!!
https://www.facebook.com/midnight.executional/photos/a.149523888441916.31423.149033881824250/955533687840928/?type=1
[Spoil] EXEcutional - 260
ปล. ที่ไม่พิมพ์ชื่อตอนเพราะจะไปสปอยล์คนที่อ่านเฉพาะรวมเล่ม
ต่อจากตอนที่แล้ว พอทันทีที่ทุกคนรู้ว่า Ranking Killer พัมพ์กิ้นและพิพัฒน์ ต้องมาสู้กันเองก็ถึงกับฮือฮากันใหญ่ ขนาดพวกมัจฉาเองก็ไม่คิดมาก่อน โดยเฉพาะเดฟที่กำลังดูการถ่ายอยู่อีกที่หนึ่งพอเห็นแบบนี้ถึงกับฮาลั่นเลยทีเดียว (ถึงตรงนี้มีข้อมูลอาวุธนิดหน่อยกับสถานะคู่ต่อสู้แต่ละคน ดูเอาตามรูปเลยแล้วกัน ขี้เกียจพิมพ์)
ทางด้านกานดาและอัษฎาที่กลับมาห้องเตรียมตัว ตอนนี้ก็ได้ยินเสียงฮิอฮากันใหญ่จากข้างนอกโดยไม่รู้ว่าฮือฮาอะไรกัน แล้วอัษฎาก็หันกลับมาพูดกับกานดาต่อ แต่พอหันกลับมาก็เห็นกานดากำลังล้นใหญ่หยิบอาวุธ(ซวย)ขั้นเทพ "มีดปอกมะม่วง" ออกมาเตรียมพร้อมสู้ใหญ่ บอกเลยว่า "ต่อให้เป็นอัษฎาผมก็ไม่ออมมือหรอกนะ" อัษฎาเห็นแบบนี้เลยบอกให้กานดาใจเย็นๆก่อนอย่างเหงื่อตก
อัษฎาบอกกานดาว่าไม่ต้องสู้กันก็ได้โดยอ้างเหตุผลว่าเพราะไม่ได้วาร์ปที่สถานที่ต่อสู้เลย จึงเดาว่าชนะผ่านโดยไม่ต้องสู้แล้ว ทันทีที่อัษฎาพูดจบผู้คุมคลังแสงก็ติดต่อมาบอกยืนยันตามที่อัษฎาบอกว่าทั้งสองคนไม่ต้องสู้ในรอบนี้และแอบคิดด้วยว่า "ดวงดีจริงนะ ไอ้หนู" พวกไวพจน์เองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากานดาจะดวงดีแบบนี้จนยังมีคนพูดเลยว่าใช้ดวงทั้งชีวิตหมดไปแล้วรึเปล่า นอกจากนั้นการที่พัมพ์กิ้นกับพิพัฒน์สู้กันเองก็ยิ่งทำให้ศัตรูลดลงไปด้วย วิริยายังพูดเลยว่าดีเกินไปจนผู้คุมคลังแสงแอบช่วยรึเปล่า แต่มัจฉายืนยันเลยว่าไม่มีทาง เพราะหากผู้คุมคลังแสงช่วยคงจะดำเนินอีเวนท์ต่อไม่ได้และถูกปลดทันทีจากสาเหตุเล่นนอกกติกา มัจฉายังบอกเลยว่าตอนเธอเป็นคีย์มาสเตอร์ยังมีกฎยุ่งยากเลย ยิ่งระดับผู้คุมคลังแสงคงไม่ต้องพูดถึง
ด้านกานดาพอรู้ว่าไม่ต้องสู้แล้วก็เลยจะกลับเลย แต่ก่อนหน้านั้นอัษฎาคุยกับกานดาก่อน บอกถึงยังไม่รู้ว่าการต่อสู้ที่นี่จะเป็นยังไงแต่หลังอีเวนท์จบเขามีเรื่องอยากจะเล่า บอกว่าถึงจะไม่ใช่เรื่องสำคัญกับกานดาแต่มันสำคัญกับเขาและต้องบอกคนที่เคยร่วมกลุ่มมาด้วย กานดาเห็นอัษฎาจริงจังแบบนี้ก็เลยบอกถึงจะไม่รู้ว่าเรื่องอะไรแต่ถ้าบอกว่าสำคัญกับอัษฎา กานดาก็ถือว่าสำคัญกับเขาเหมือนกัน
ที่สนามต่อสู้ระหว่าง ภัสสรกับวัลแคน ตอนนี้วัลแคนกำลังใช้ดิออร์แกนิกซ์ทำการลบหินและพุ่มไม้รอบตัวไปเรื่อยๆเพื่อหาที่ซ่อนของภัสสร พอภัสสรเห็นแบบนี้ก็คิดว่าช่วยไม่ได้แล้วจึงโผล่ออกมาซึ่งๆหน้าเตรียมโจมตีโดยไม่ซ่อนตัวแล้ว ทางคนดูเห็นภัสสรออกมาเองเลยก็ไม่ได้แปลกใจมาก หลายคนคาดไว้อยู่แล้วเพราะหากซ่อนต่อไปจนทำให้ที่ซ่อนหายไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ การที่ภัสสรตัดสินใจแบบนี้ก็คือการขัดขวางวัลแคน ถึงการที่วัลแคนจะทำให้ที่ซ่อนหายไปก็ต้องเสีย MP ไปเรื่อยๆด้วย หากจะยอมรอให้เสีย MP ไปเรื่อยๆก็ไม่รู้ว่าวัลแคนมี MP เท่าไร ถึงตอนนั้นที่ซ่อนอาจหมดไปเลยก็ได้
ด้วยเหตุนี้พอภัสสรออกมาก็เปิดฉากยิงทันที แต่มีเหรอที่วัลแคนจะไม่เตรียมตัวไว้เลย ก่อนที่กระสุนของภัสสรจะมาถึงตัววัลแคน อสูรสองตัวของวัลแคนก็พุ่งเข้ามาทางวัลแคนทันที วัลแคนก็แค่ยืนกอดอกยิ้มเฉยๆด้วยความมั่นใจสุดๆเลยว่าตัวเองไม่เป็นอะไรแน่นอน และก็ "ตูม" กระสุนของภัสสรเข้าเป้าเต็มๆ แต่ถึงแบบนั้นวัลแคนก็ไม่ได้.......ซะเมื่อไร เจ้าอสูรสองตัวแทนที่จะเข้ามาปกป้องวัลแคนกลายเป็นกลับกัน ทั้งสองตัวดันเอาตัววัลแคนมาเป็นโล่แทนเองซะงั้น เหล่าคนดูก็เพียงแค่ตกใจที่วัลแคนเรียกอสูรออกมาแล้ว ส่วนเรื่องอสูรเอาตัวเจ้านายเป็นโล่นั้นไม่ขอพูดถึง
ภัสสรถึงจะอึ้งๆไปชั่วขณะแต่ก็รวบรวมความคิดในเวลานั้นไปด้วย คิดว่าเมื่อใช้โหมดยิงไกลไม่ได้เพราะใช้ที่ซ่อนไม่ได้ และยิ่งมีศัตรูหลายตัวแบบนี้..... ภัสสรจึงเลือกใช้อีกโหมดของบุปผาสวรรค์แทน ทำการเรียก option ออกมาและเปิดฉากระดมยิงแบบห่าฝนด้วยไม้ตาย "Full option Radiant shot" ยิงไปทั่วพื้นที่ แม้พลังจะแรงไม่สู้โหมดยิงไกลแบบจุดๆเดียวแต่อย่างน้อยก็โดนทั้งวัลแคนและพวกอสูรไปด้วย
ถึงกระนั้นอสูรทั้งสองก็ยังทนได้และต่างวิ่งฝ่าห่ากระสุนเข้ามาหาภัสสรอย่างเต็มที่ ถึงตรงนี้วิริยาแปลกใจเรื่องตรงที่อสูรทั้งสองของวัลแคนนี่เป็นแค่ "ระดับกลาง" แต่ทำไมดูเก่งนัก ไวพจน์ที่เป็นสายอัญเชิญมอนสเตอร์เหมือนกันจึงอธิบายว่ามันมีความสัมพันธ์กับเจ้าของ เมื่อวัลแคนเลเวลสูงพวกมันก็จะเก่งตามไปด้วย ต่างกับแผ่นพันธุกรรมของไวพจน์ที่มีพลังตายตัวแต่ประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มพลังได้ ถึงอสูรจะมีระดับถึง 1-15 ระดับแต่สายของวัลแคนถ้าวัลแคนเก่งอสูรก็จะเก่งตาม ถึงข้อดีจะเยอะแต่การหาอสูรมาใช้จะเหนื่อยกว่ามากและยุ่งยากไวพจน์จึงเลิอกสนใจสายนี้ไป
กลับมาการต่อสู้ ภัสสรยังคงสาดห่ากระสุนไม่ยั้งแบบไม่ให้มีช่องว่างกันเลย พอสาดไปเรื่อยๆอสูรวัวก็ล้มไปแล้วหนึ่งแต่ยังเหลืออสูรผึ้งอยู่ แต่ตอนนี้ห่ากระสุนของภัสสรหมดแล้วและไม่พอจะล้มอสูรผึ้งได้ อสูรผึ้งไม่ยอมเสียจังหวะนี้รีบวิ่งเข้ามาหาภัสสรทันทีแต่ภัสสรเองก็วิ่งเข้าไปหาอสูรด้วยเช่นกัน และทันทีที่อสูรเข้าประชิดภัสสรมันก็ใช้หมัดตรงใส่ภัสสรทันที แต่ภัสสรคิดไว้อยู่แล้วจึงหลบด้วยการสไลด์ตัวผ่านใต้หมัดตรงอย่างเร็ว และด้วยการสไลด์ตัวนั้นทำให้ภัสสรพุ่งทะลุผ่านอสูรไปจนถึงตัววัลแคนได้ พอได้ระยะประชิดพอภัสสรก็ดีดตัวโดดแบบขาชี้ฟ้าใช้โหมดยิงข้ามดวงดาวของบุปผาสวรรค์ยิงใส่วัลแคนแบบทีเผลอจากด้านหลังในระยะประชิดเลยทีเดียว เหล่าคนดูถึงกับชมเลยว่ามุมยิงสวยมากแถมยังยิงในระยะประชิดจนไม่อยากจะเชื่อว่าภัสสรเป็นสายโจมตีระยะไกลแน่เหรอ
ขณะที่ภัสสรยังยิงค้างที่ตัววัลแคนอยู่ อสูรวัวที่ล้มไปทีแรกดันลุกขึ้นมาได้อีกครั้งจากที่คิดว่าตายไปแล้ว พอมันลุกขึ้นมาได้ก็รีบตรงมาทางภัสสรทันที แม้ภัสสรจะเห็นแล้วและไม่คิดว่าอสูรจะฟื้นตัวเร็วแบบนี้ แถมลำแสงบุปผาสวรรค์จำเป็นต้องยิงแช่เป้าหมายไว้ทำให้ถอยห่างไม่ได้แต่ภัสสรก็เตรียมเคลื่อนที่หลบในระยะประชิดอยู่ เพียงแต่ว่าวินาทีที่กำลังตั้งหลักหลบนั้นเอง วัลแคนใช้ดิออร์แกนิกซ์ทำการสร้างหินผุดขึ้นมาตรงตำแหน่งภัสสรจนภัสสรที่ยังค้างกลางอากาศอยู่เสียการควบคุมตัวเอง และก็ได้จังหวะเดียวกับอสูรวัวที่เข้ามาโจมตีภัสสรพอดี ภัสสรเลยโดนการโจมตีเข้าไปเต็มๆ หนำซ้ำยังเจออสูรผึ้งมารอเตรียมพร้อมในตำแหน่งที่ภัสสรโดนสัดมาอีก ภัสสรเลยโดนคอมโบของอสูรผึ้งต่อยรัวเข้าไปอีกดอกจนถึงกับร้องกระอักเลยทีเดียว ภัสสรถึงกับคิดเลยว่าแบบนี้มันเหมือนโดนรุม 3 ต่อ 1 ไม่มีผิด และเมื่อตั้งหลักได้ก็จัดการยิงอสูรวัวล้มจัดการไปได้ตัวหนึ่ง
ด้านวัลแคนหลังจากโดนไปเจ็บไม่น้อยเหมือนกันก็คิดอะไรไม่รู้และเริ่มสร้างเสาสูงแบบเดียวกับตอนสู้เมตัลแมกซ์และเริ่มใช้ดิออร์อกนิกซ์อีกครั้ง ภัสสรที่รู้ข้อมูลมาแล้วจึงถึงกับสยองพูด "เดี๋ยว" เลยทีเดียว
อีกด้านที่การต่อสู้ของพัมพ์กิ้นกับพิพัฒน์ พื้นที่ต่อสู้ในตอนนี้เต็มไปด้วยควันดำไปหมดและไม่เห็นตัวของทั้งคู่ แต่การต่อสู้ของคู่นี้ก็....จบลงแล้ว
จบตอน
ไม่รู้จะได้ดูย้อนพัมพ์กิ้นกับพิพัฒน์สู้กันรึเปล่า แต่จากเพจท่านมิดเหมือนจะบอกใบ้ไปแล้วว่าใครชนะ(ไปหากันเอาเอง)
ภาพเดียวตอนนี้จัดไปแล้ว แต่ขอจัดอีกภาพที่ท่านมิดปล่อยมาในเพจแล้วให้ดูอีกหน่อยแล้วกัน ท่านมิดบอกเป็นภาพเปิดตอนในอีก 2 ตอนข้างหน้า ใครอยากเห็นก่อนเชิญดูได้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้