เอาสัมภาษณ์น้องญ่าในหนังสือพิมพ์ข่าวสดมาฝาก ขอคัดมาเฉพาะหนึ่งในทรวงนะคะ
เหลืออีกแค่ 3 ตอนเท่านั้น คิดแล้วใจหาย น้องญ่าทุ่มเทให้กับละครเรื่องนี้มาก และโชคดีมาก
ที่ได้เพื่อร่วมงานแบบน้องเจมส์ อ่านสัมภาษณ์ของญ่าที่พูดถึงน้องเจมส์น่ารักมากๆเลยค่ะ
ไปไหนมาไหนตอนนี้มีแต่คนเรียก "น้องปุ้ม" จากละครพีเรียด "หนึ่งในทรวง" ทางช่อง 3 สำหรับนางเอกสาว "ญาญ่า" อุรัสยา สเปอร์บันด์ ที่จับคู่จิ้นกับพระเอก "เจมส์"จิรายุ ตั้งศรีสุข ในบท "พี่หนึ่ง"
วันนี้เลยขอจับเข่าคุยกับนางเอกสาว
เล่นพีเรียดเรื่องแรกเป็นอย่างไรบ้าง?
ญาญ่า - "แอบตื่นเต้นค่ะ ภาษาเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดทุกครั้งที่เล่นละคร แล้วพีเรียดคำพูดค่อนข้างโบราณ ต้องพูดชัด พูดช้า ซึ่งปกติหนูจะพูดเร็ว พูดรัว และพูดไม่ชัด เลยจะหนักหน่อย ป้าแจ๋ว (ยุทธนา) เคี่ยวแล้วเคี่ยวอีก แล้วเรื่องนี้เป็นพีเรียด ยากตรงที่เราไม่รู้ความคิดผู้หญิงสมัยนั้น ตอนเล่นจะรู้สึกว่า ทำไม ไม่ เราไม่ได้คิดแบบนี้ แล้วหนูเป็นคนหน้าชัด เล่นโน่นนี่นั่นกับหน้าตลอดเวลา แต่ป้าแจ๋วไม่เอาเลย ส่วนมากจะเล่นตา ไม่ค่อยได้แสดงความรู้สึกทางสีหน้า ก็จะยากตรงนั้น เพราะหนูกดอารมณ์ไม่ค่อยได้"
เรื่องนี้คนจับตามองภาษาพูดของญาญ่า?
ญาญ่า - "เขาก็จับตาทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้หนูพูดช้าลงเยอะ ตัวละครอายุไม่เยอะ ไม่ต้องกดเสียงหรือเล่นให้โตขึ้น ส่วนฉากที่ยากเป็นฉากแรกที่เจอพระเอก เพราะเราถ่ายตอนขึ้นเรื่องไปแล้วคุ้นเคยกันแล้ว ถ้าถ่ายฉากนี้วันแรก จะแสดงความอึดอัดได้มากกว่านี้ และมันยาก ที่ต้องเต้นรำ หนูเหยียบเท้าเจมส์ทั้งเรื่อง"
บรรยากาศการถ่ายทำเป็นอย่างไร?
ญาญ่า - "สนุกค่ะ เฮฮามาก เป็นเรื่องแรกที่ได้แกล้งคนอื่น ที่ผ่านมาหนูจะโดนแกล้ง หนูอายุมากกว่าเจมส์ 5 เดือน สามารถเรียกตัวเองว่าพี่ได้ เจมส์ก็เรียกหนูว่าพี่ด้วย ทุกคนในกองเรียกพี่ญ่ากันหมด สนุกตรงที่เรามีเหยื่อ เจมส์จึงเป็นคนแรกที่หนูได้แกล้ง ส่วนเจมส์จะไม่ค่อยกล้าเอาคืน ไม่กล้าแกล้ง อาจเพราะหนูหน้าดุมั้ง แล้ววันไหนที่หนูกับเจมส์เข้าฉากด้วยกัน กว่าจะได้งานค่อนข้างนาน เพราะเล่นแล้วเล่นอีก เจมส์ซนมาก อย่างที่แฟนคลับเรียกเขาว่าลิง เป็นเด็กที่ซนมากจริงๆ แต่ก็ซนพอๆ กับหนู"
เข้าฉากแรกๆ เห็นว่าเกร็งกันทั้งคู่?
ญาญ่า -
"เกร็งค่ะ เพราะไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน แล้วทั้งเรื่องคุณปุ้มจะพูดเยอะ พูดมากจริงๆ บทยาวมาก คุณหนึ่งก็เหมือนกัน บทเป็นหน้าๆ ไดอะล็อกทั้งยากและยาวเลยเกร็งมาก ช่วงคิวแรกๆ วิธีที่ช่วยให้ไม่เกร็งกันก็คือคอยให้กำลังใจกัน บีบแขนแล้วบอก ยูทำได้นะ เจมส์ก็จะบอก พี่ญ่าไม่เป็นไรเทกได้ แล้วด้วยตัวละครต้องกัดกันตลอดเวลา วิธีที่อยู่ในกองเราก็จะแกล้งกันเยอะ ทำเหมือนอยู่ในคาแร็กเตอร์ด้วย แกล้งจริงด้วย (หัวเราะ)"
ในฐานะเป็นรุ่นพี่เจมส์ มีช่วยแนะนำอะไรบ้าง?
ญาญ่า -
"ไม่นะ เจมส์เป็นคนที่บอร์นทูบี เขาเก่งอยู่แล้วและเล่นพีเรียดมาก่อน ฉะนั้นเขาจะเป็นคนที่เล่นช้าและหนูเป็นคนที่เล่นเร็ว ตอนมาเจอกันกว่าจะจูนกันได้นานเหมือนกัน เขาจะบอกเราตลอดว่าใจเย็นๆ นะพี่ญ่า พอละครออนแอร์การตอบรับดีเลยหายเหนื่อย และดีใจที่หลายคนบอกเราเคมีเข้ากัน เพราะเราจะตบจูบกันทั้งเรื่อง เป็นวิธีโบราณค่ะ ให้หยุดพูดด้วยการจูบ (หัวเราะ)"
มีร้องเพลงประกอบละครคู่กัน?
ญาญ่า - "ใช่ค่ะ ชื่อเพลง จูบ ตอนนี้ในยูทูบยอดวิวเกือบ 2 ล้านแล้ว ดีใจมากๆ ถามว่าจะมาเอาดีร้องเพลงมั้ย หนูว่าหนูเล่นละครดีแล้วค่ะ ก็ชอบร้องเพลงนะ เพราะเป็นศาสตร์การแสดงอีกอย่าง ถามว่าเสียงเราดีขนาดนั้นไหม ถ้าฝึกก็อาจได้ แต่นักร้องเสียงดีกว่าเยอะ ฟังเขาดีกว่า"
แฟนๆ ยกให้เป็นคู่จิ้นคู่ใหม่แล้ว "จิรัสยา"?
ญาญ่า - "อุ้ย ไม่เคยมีใครเรียกชื่อจริงหนูเลยนะ ดีใจค่ะ เพราะเราทั้งสองคนก็ตั้งใจกันเต็มที่"
มีบทบาทไหนที่อยากเล่นไหม?
ญาญ่า - "อีกเยอะค่ะ แต่ที่อยากเล่นสุดๆ อยากกลับไปเล่นบู๊ ขอแนวคิลเลอร์ เป็นนักฆ่าหญิง บู๊แบบมันๆ"
โตขึ้นงานถ่ายแบบดูเซ็กซี่มากขึ้น?
ญาญ่า - "อาจเพราะหน้าหนูดูโตขึ้นด้วย เลยดูเซ็กซี่ขึ้นไปอีกระดับ ไม่ได้ตั้งใจให้เซ็กซี่ขึ้น น่าจะเป็นเพราะถ่ายหนังสือมาเยอะ มันรู้วิธีโพสมากขึ้น เลยกล้าจะเล่นมากขึ้น ซึ่งงานอะไรที่เราไม่มั่นใจหรือดูนอกกรอบก็จะปรึกษาช่อง คุณแม่เป็นคนรับงานจริง แต่ทุกอย่างต้องผ่านช่องอีกทีค่ะ"
เข้าวงการมา 6-7 ปีแล้ว มีอะไรบ้างที่รู้สึกว่าเราพัฒนาขึ้น?
ญาญ่า - "ภาษาดีขึ้นค่ะ จากเรื่องแรกพูดภาษาไทยไม่ได้เลย ไม่เข้าใจ ก็เริ่มเข้าใจขึ้น แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือตัวเราโตขึ้น มันผ่านอะไรมาในชีวิตมากขึ้น เริ่มเข้าใจความเป็นมนุษย์มากขึ้นทำให้เราเข้าถึงตัวละครง่ายขึ้น"
มองอนาคตในวงการไว้อย่างไรบ้าง?
ญาญ่า - "หนูไม่ได้วางแผนอะไรเลย แค่อยากเก็บเกี่ยวทุกอย่างที่เราสามารถทำได้แล้วจะทำให้ดีที่สุด ก่อนเข้าวงการมองว่าวงการบันเทิงน่าทึ่งมาก มันคือการรวมตัวของบุคคลเยอะมาก ในแต่ละวันที่เราทำงาน เราไปกองถ่ายเจอคนร้อยกว่าคน ทำให้ตื่นตาตื่นใจ"
"วันนี้เราเริ่มเข้าใจแล้วว่าวงการบันเทิงคือการรวมตัวของศิลปะหลายด้าน ทุกอย่างผสมผสานแล้วออกมาดี เป็นวงการที่เหมาะกับศิลปินและต้องการความเป็นทีมเวิร์กมากๆ"
ส่วนข่าวที่เหลืออ่านได้ตามลิงค์นี้นะคะ
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1435453834
[หนึ่งในทรวง-สัมภาษณ์ในข่าวสด] "ญาญ่า"มีประสบการณ์ เข้าถึงตัวละคร-แสดงสมจริง มีพูดถึงน้องเจมส์น่ารักมาก
เหลืออีกแค่ 3 ตอนเท่านั้น คิดแล้วใจหาย น้องญ่าทุ่มเทให้กับละครเรื่องนี้มาก และโชคดีมาก
ที่ได้เพื่อร่วมงานแบบน้องเจมส์ อ่านสัมภาษณ์ของญ่าที่พูดถึงน้องเจมส์น่ารักมากๆเลยค่ะ
ไปไหนมาไหนตอนนี้มีแต่คนเรียก "น้องปุ้ม" จากละครพีเรียด "หนึ่งในทรวง" ทางช่อง 3 สำหรับนางเอกสาว "ญาญ่า" อุรัสยา สเปอร์บันด์ ที่จับคู่จิ้นกับพระเอก "เจมส์"จิรายุ ตั้งศรีสุข ในบท "พี่หนึ่ง"
วันนี้เลยขอจับเข่าคุยกับนางเอกสาว
เล่นพีเรียดเรื่องแรกเป็นอย่างไรบ้าง?
ญาญ่า - "แอบตื่นเต้นค่ะ ภาษาเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดทุกครั้งที่เล่นละคร แล้วพีเรียดคำพูดค่อนข้างโบราณ ต้องพูดชัด พูดช้า ซึ่งปกติหนูจะพูดเร็ว พูดรัว และพูดไม่ชัด เลยจะหนักหน่อย ป้าแจ๋ว (ยุทธนา) เคี่ยวแล้วเคี่ยวอีก แล้วเรื่องนี้เป็นพีเรียด ยากตรงที่เราไม่รู้ความคิดผู้หญิงสมัยนั้น ตอนเล่นจะรู้สึกว่า ทำไม ไม่ เราไม่ได้คิดแบบนี้ แล้วหนูเป็นคนหน้าชัด เล่นโน่นนี่นั่นกับหน้าตลอดเวลา แต่ป้าแจ๋วไม่เอาเลย ส่วนมากจะเล่นตา ไม่ค่อยได้แสดงความรู้สึกทางสีหน้า ก็จะยากตรงนั้น เพราะหนูกดอารมณ์ไม่ค่อยได้"
เรื่องนี้คนจับตามองภาษาพูดของญาญ่า?
ญาญ่า - "เขาก็จับตาทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้หนูพูดช้าลงเยอะ ตัวละครอายุไม่เยอะ ไม่ต้องกดเสียงหรือเล่นให้โตขึ้น ส่วนฉากที่ยากเป็นฉากแรกที่เจอพระเอก เพราะเราถ่ายตอนขึ้นเรื่องไปแล้วคุ้นเคยกันแล้ว ถ้าถ่ายฉากนี้วันแรก จะแสดงความอึดอัดได้มากกว่านี้ และมันยาก ที่ต้องเต้นรำ หนูเหยียบเท้าเจมส์ทั้งเรื่อง"
บรรยากาศการถ่ายทำเป็นอย่างไร?
ญาญ่า - "สนุกค่ะ เฮฮามาก เป็นเรื่องแรกที่ได้แกล้งคนอื่น ที่ผ่านมาหนูจะโดนแกล้ง หนูอายุมากกว่าเจมส์ 5 เดือน สามารถเรียกตัวเองว่าพี่ได้ เจมส์ก็เรียกหนูว่าพี่ด้วย ทุกคนในกองเรียกพี่ญ่ากันหมด สนุกตรงที่เรามีเหยื่อ เจมส์จึงเป็นคนแรกที่หนูได้แกล้ง ส่วนเจมส์จะไม่ค่อยกล้าเอาคืน ไม่กล้าแกล้ง อาจเพราะหนูหน้าดุมั้ง แล้ววันไหนที่หนูกับเจมส์เข้าฉากด้วยกัน กว่าจะได้งานค่อนข้างนาน เพราะเล่นแล้วเล่นอีก เจมส์ซนมาก อย่างที่แฟนคลับเรียกเขาว่าลิง เป็นเด็กที่ซนมากจริงๆ แต่ก็ซนพอๆ กับหนู"
เข้าฉากแรกๆ เห็นว่าเกร็งกันทั้งคู่?
ญาญ่า - "เกร็งค่ะ เพราะไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน แล้วทั้งเรื่องคุณปุ้มจะพูดเยอะ พูดมากจริงๆ บทยาวมาก คุณหนึ่งก็เหมือนกัน บทเป็นหน้าๆ ไดอะล็อกทั้งยากและยาวเลยเกร็งมาก ช่วงคิวแรกๆ วิธีที่ช่วยให้ไม่เกร็งกันก็คือคอยให้กำลังใจกัน บีบแขนแล้วบอก ยูทำได้นะ เจมส์ก็จะบอก พี่ญ่าไม่เป็นไรเทกได้ แล้วด้วยตัวละครต้องกัดกันตลอดเวลา วิธีที่อยู่ในกองเราก็จะแกล้งกันเยอะ ทำเหมือนอยู่ในคาแร็กเตอร์ด้วย แกล้งจริงด้วย (หัวเราะ)"
ในฐานะเป็นรุ่นพี่เจมส์ มีช่วยแนะนำอะไรบ้าง?
ญาญ่า - "ไม่นะ เจมส์เป็นคนที่บอร์นทูบี เขาเก่งอยู่แล้วและเล่นพีเรียดมาก่อน ฉะนั้นเขาจะเป็นคนที่เล่นช้าและหนูเป็นคนที่เล่นเร็ว ตอนมาเจอกันกว่าจะจูนกันได้นานเหมือนกัน เขาจะบอกเราตลอดว่าใจเย็นๆ นะพี่ญ่า พอละครออนแอร์การตอบรับดีเลยหายเหนื่อย และดีใจที่หลายคนบอกเราเคมีเข้ากัน เพราะเราจะตบจูบกันทั้งเรื่อง เป็นวิธีโบราณค่ะ ให้หยุดพูดด้วยการจูบ (หัวเราะ)"
มีร้องเพลงประกอบละครคู่กัน?
ญาญ่า - "ใช่ค่ะ ชื่อเพลง จูบ ตอนนี้ในยูทูบยอดวิวเกือบ 2 ล้านแล้ว ดีใจมากๆ ถามว่าจะมาเอาดีร้องเพลงมั้ย หนูว่าหนูเล่นละครดีแล้วค่ะ ก็ชอบร้องเพลงนะ เพราะเป็นศาสตร์การแสดงอีกอย่าง ถามว่าเสียงเราดีขนาดนั้นไหม ถ้าฝึกก็อาจได้ แต่นักร้องเสียงดีกว่าเยอะ ฟังเขาดีกว่า"
แฟนๆ ยกให้เป็นคู่จิ้นคู่ใหม่แล้ว "จิรัสยา"?
ญาญ่า - "อุ้ย ไม่เคยมีใครเรียกชื่อจริงหนูเลยนะ ดีใจค่ะ เพราะเราทั้งสองคนก็ตั้งใจกันเต็มที่"
มีบทบาทไหนที่อยากเล่นไหม?
ญาญ่า - "อีกเยอะค่ะ แต่ที่อยากเล่นสุดๆ อยากกลับไปเล่นบู๊ ขอแนวคิลเลอร์ เป็นนักฆ่าหญิง บู๊แบบมันๆ"
โตขึ้นงานถ่ายแบบดูเซ็กซี่มากขึ้น?
ญาญ่า - "อาจเพราะหน้าหนูดูโตขึ้นด้วย เลยดูเซ็กซี่ขึ้นไปอีกระดับ ไม่ได้ตั้งใจให้เซ็กซี่ขึ้น น่าจะเป็นเพราะถ่ายหนังสือมาเยอะ มันรู้วิธีโพสมากขึ้น เลยกล้าจะเล่นมากขึ้น ซึ่งงานอะไรที่เราไม่มั่นใจหรือดูนอกกรอบก็จะปรึกษาช่อง คุณแม่เป็นคนรับงานจริง แต่ทุกอย่างต้องผ่านช่องอีกทีค่ะ"
เข้าวงการมา 6-7 ปีแล้ว มีอะไรบ้างที่รู้สึกว่าเราพัฒนาขึ้น?
ญาญ่า - "ภาษาดีขึ้นค่ะ จากเรื่องแรกพูดภาษาไทยไม่ได้เลย ไม่เข้าใจ ก็เริ่มเข้าใจขึ้น แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือตัวเราโตขึ้น มันผ่านอะไรมาในชีวิตมากขึ้น เริ่มเข้าใจความเป็นมนุษย์มากขึ้นทำให้เราเข้าถึงตัวละครง่ายขึ้น"
มองอนาคตในวงการไว้อย่างไรบ้าง?
ญาญ่า - "หนูไม่ได้วางแผนอะไรเลย แค่อยากเก็บเกี่ยวทุกอย่างที่เราสามารถทำได้แล้วจะทำให้ดีที่สุด ก่อนเข้าวงการมองว่าวงการบันเทิงน่าทึ่งมาก มันคือการรวมตัวของบุคคลเยอะมาก ในแต่ละวันที่เราทำงาน เราไปกองถ่ายเจอคนร้อยกว่าคน ทำให้ตื่นตาตื่นใจ"
"วันนี้เราเริ่มเข้าใจแล้วว่าวงการบันเทิงคือการรวมตัวของศิลปะหลายด้าน ทุกอย่างผสมผสานแล้วออกมาดี เป็นวงการที่เหมาะกับศิลปินและต้องการความเป็นทีมเวิร์กมากๆ"
ส่วนข่าวที่เหลืออ่านได้ตามลิงค์นี้นะคะ
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1435453834