ครอบครัวเราเอาชื่อเราร่วมกู้รีไฟแนนซ์บ้าน แล้วครอบครัวเราจะปล่อยบ้าน เราควรทำอย่างไรดี

ก่อนอื่นเราต้องขอบอกเลยว่านี่เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกในพันทิพย์ (เมื่อก่อนเน้นอ่านอย่างเดียว) ดังนั้น หากเราเขียนอะไรที่อ่านยากหรือเข้าใจยากต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ด้วยนะคะ

เข้าเรื่องเลยแล้วกันค่ะ

เรามีปัญหาอย่างที่ตั้งคำถามที่กระทู้ข้างต้นนั่นแหละค่ะ เรื่องมันมีอยู่ว่า พ่อกับแม่ของเราตัดสินใจซื้อบ้านในหมู่บ้านจัดสรรค์  ในราคาเงินต้นประมาณ 7 ล้านกว่าบาทค่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้ครอบครัวเรามีคอนโดแถวประชาชื่น ราคาไม่สูงมากนัก แล้วก็ทาวน์เฮาส์แถวรามอินทราค่ะ
พ่อกับแม่เราตัดสินใจขายคอนโดและทาวน์เฮาส์เพื่อซื้อบ้านหลังนี้ค่ะ ซึ่งตอนนั้นพ่อเราทำงานบริษัทโฆษณา เงินเดือนเลยค่อนข้างสูงค่ะ แสนกว่าบาทเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ในความคิดเราตอนนั้นคือมันเยอะมากๆ ค่ะ
ส่วนแม่เราเป็นแม่บ้านค่ะ เพราะเรามีพี่น้อง 3 คน (รวมตัวเราเอง) และน้องคนเล็กก็ห่างจากเรา 16 ปี น้องเกิดก่อนย้ายมาบ้านหลังใหม่ไม่กี่เดือนค่ะ

ดังนั้น พ่อเราจึงเป็นคนที่หาเงินคนเดียวค่ะ ส่วนแม่จะคอยเป็นคนบริหารเงินค่ะ ตอนย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้เราพึ่งอยู่ ม.ปลาย ส่วนน้องคนกลางอยู่ประถมปลายค่ะ ช่วงนั้น เราไม่ค่อยทราบรายละเอียดเรื่องการผ่อนบ้านเท่าไหร่ แต่ก็พอทราบวงเงินคร่าวๆ ในการผ่อนค่ะ ว่าประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน ช่วงแรกๆ ที่บ้านเราก็ยังโอเคค่ะ พ่อกับแม่มีการต่อเติมบ้านเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในบ้าน รายละเอียดเรื่องเงินเรายังไม่ค่อยทราบเท่าไหร่เพราเรายังเด็ก เราทราบแค่ว่ามีการไปขอลดวงเงินดอกเบี้ยหรือเงินต้นในการผ่อน อะไรซักอย่างนี่แหละค่ะ เราไม่ค่อยแน่ใจนะคะ และแม่ก็คุยกับเราว่าอยากให้เราช่วยกู้ร่วมกับพ่อ เพราะพ่ออายุเยอะเลยต้องผ่อนบ้านเยอะ ซึ่งตอนนั้นเรายังทำอะไรไม่ได้ค่ะ เพราะเรายังเรียนอยู่ จากนั้นไม่นานพ่อเราก็ลาออกจากงานประจำ เราเองก็ไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนค่ะ แล้วก็ผันตัวมารับงานแบบอิสระ (freelance) ถ้าใครทำงานลักษณะประมาณนี้น่าจะพอเข้าใจนะคะ ช่วงที่งานเยอะก็ทำแทบไม่ทัน ไม่ได้หลับได้นอนกันเลยทีเดียว ถ้าช่วงไม่มีงานนี่เรียกได้ว่านั่งตบยุงกันเลยค่ะ มันเลยทำให้รายได้ที่เข้าบ้านแต่ละเดือนไม่แน่นอนค่ะ แม่เราเลยต้องหาวิธีหมุนเงิน รูดบัตรบ้าง เอาของที่แม่สะสมไปขายบ้าง หลายอย่างเลยค่ะ เราเห็นพ่อกับแม่เครียดเรื่องเงินและทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ เราอยากช่วยนะคะ แต่ตอนนั้นที่ทำได้คือพยามประหยัดค่าใช้จ่ายของตัวเองให้มากที่สุด แค่นั้นเองค่ะ

เมื่อปี 54 เราเรียนจบระดับมหาวิทลัย แล้วก็เริ่มทำงานค่ะ พอทำงานได้ 6 เดือน แม่ก็บอกว่าจะเอาชื่อเราไปกู้ร่วมเพื่อรีไฟแนนซ์บ้าน แม่ให้เหตุผลว่าอายุเรายังน้อยทำให้ยืดระยะการผ่อนออกไปได้นานและค่าผ่อนลดลงค่ะ มันก็ลงนะ เหลือประมาณ 3 หมื่อนปลายๆ ค่ะ ตอนแรกเรากังวลนะค กังวลเรื่องอนาคตว่าถ้าพ่อกับแม่ปล่อยบ้านแล้วเราจะทำยังไง ลำพังตัวเอาเอง เงินเดือนปริญญาตรีไม่เยอะค่ะ ไม่พออยู้แล้วสำหรับค่าผ่อนบ้าน เราเองอยากรับราชการด้วย ตอนนี้กำลังจะได้เข้าทำงานที่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งนึง แต่ตอนนั้นแม่เราบอกว่ายังไงพ่อก็ยังหาเงินได้อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้แม่เราพึ่งมาบอกเราว่า จะปล่อยบ้านหลังนี้ค่ะ ความรู้สึกเราคือเราไปไม่เป็นเลย ไม่รู้ต้องทำอะไรดี คือตอนนี้เรากำลังวางแผนอนาคตที่จะแต่งงานในอีก 1-2 ปีข้างหน้าค่ะ ตอนที่เราตัดสินใจยื่นกู้ร่วม แฟนเราก็เป็นกังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เราเลยไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหนดี เรากลัวมีผลกระทบกับอนาคตค่ะ หน้าที่การงาน ตอนนี้เราคิดไรไม่ค่อยออกเลยค่ะ เราเลยอยากสอบถามผู้รู้ในพันทิพย์เผื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาค่ะ ตอนนี้เงินค่าบ้านที่ยังเหลืออยู่ประมาณ 5 ล้านบาทค่ะ

เรากู้ยืมเรียนเองและมีเงินบางส่วนที่เรากู้มาเองเพื่อเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ดังนั้นเราจึงต้องเก็บเงินของทุกๆ เดือนไว้จ่ายของส่วนนี้ด้วยค่ะ

คำถามคือ
1. เรารู้แล้วว่าพ่อกับแม่จะปล่อยบ้านหลังนี้ เราควรทำอะไรก่อนเป็นอันดับแรกคะ????
2.เรากำลังจะเริ่มทำงานที่รัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง เงินเดือนน่าจะประมาณ 15,000 บาท อันนี้เราประมาณนะคะ รวมค่าอย่างอื่นแล้วอาจจะมากกว่านี้ เราจะสามารถไปคุยกับธนาคารที่ขอกู้ได้รึเปล่าคะ????


ปล.1 เราบริหารจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายของตัวเองมาตั้งแต่มัธยมค่ะ ไม่ค่อยขอแม่เพิ่ม ตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็เหมือนกัน เราทำงานพิเศษด้วยนะคะ แต่ในกรณีนี้มันใหญ่มากจริงๆ ค่ะ เราไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเงิน 5 ล้านกว่าบาทที่ยังค้างอยู่
ปล.2 พ่อกับแม่พยายามประกาศขายบ้านมาเป็นปีแล้วค่ะ แต่ยังขายไม่ได้ เลยตัดสินใจจะปล่อยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่