จากวันแรกที่ได้เห็นการแคสตัวละคร บอกตรงๆว่าส่ายหน้า ..ไม่ไหว พังแน่ๆนิยายของอิฉัน
พระเอก เจมส์ มาร์ - หืออออ คนไทยสมัยต้นรัตนโกสินทร์
ต่อให้มีเชื้อจีนอย่างไร ก็คงมิหน้าตาชัดเจนไปทางจีนได้ขนาดนั้น
ถึงจะชอบบุคลิก แววตาที่มีความมุ่งมั่นมาตั้งแต่คุณชายรณพีร์ แต่มันไม่ใช่จริงๆเจ้าค่ะ
นางเอก แมท ภีรณี - โอ้โห แบบว่าฝรั่งจ๋ามิต้องคอนเฟิร์ม ตอนนั้นเฟลพอๆกับที่รู้ว่าชมพู่จะเล่นบุพเพสันนิวาส (ขออนุญาตพาดพิงนะเจ้าคะ)
ประทับใจในฝีมือแมทนะ แต่แบบจะดีหรอแกก
แมทดูเป็นผู้หญิงมั่นๆ สมัยใหม่มากๆ มาเป็นแม่ลำดวน โอยตายๆ
แต่พอได้ดูไตเติ้ลละคร เห็นฉาก การถ่ายภาพ ฝีมือบู๊รำดาบของพระเอกเริ่มจะไม่ค่อยธรรมดา
แถมยังขึ้นเครดิตผู้กำกับว่าเป็น 'พี่หนุ่ม อรรถพร'
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้กลับมาสนใจละครเรื่องนี้อีกครั้ง หลังจากที่หมดหวังไปแล้ว
แล้วพี่หนุ่มก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ฉากและภาพสวยมากๆ สวยจริงๆจนอยากให้เอาไปโปรโมทการท่องเที่ยวไทย
วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม อาหารการกิน เครื่องแต่งกาย ทำออกมาได้ปราณีตจริงๆ ชุดสวยจังเลย
ขอบคุณทีมงานเบื้องหลังในส่วนนี้ ที่ทำให้เราได้รู้จักขนบโบราณ การแต่งกายสวยๆ ขนมต่างๆที่แทบจะลืมกันไปแล้ว
ภาพ - ออกมาได้แปลกตา หลายๆฉากมีการถ่ายทำที่ต่างออกไปจากละครทั่วๆไป บอกได้ถึงความใส่ใจของทีมงานและผู้กำกับ
..ฉากงานแต่ง ทั้งของพี่ทับทิม ทั้งของแม่บัว ทำได้น่าประทับใจมาก
..ฉากโขลงช้าง สวยมากๆ โดยเฉพาะตอนพ่อเหมรำดาบตอนแสงสุดท้าย
บท - ปรับได้ดี กระชับและน่าติดตาม เน้นในจุดที่ละครทีวีควรขายได้น่าสนใจแต่ไม่ลืมแก่นของบทประพันธ์
หลายคนรำคาญบทแม่บัว แต่เอาเข้าจริงๆตัวละครแบบนี้พบได้เสมอในชีวิตจริง
นึกย้อนดูถ้าเป็นเรา เรารักของเรามาก่อน ยังไงก็ต้องรู้สึก ยิ่งเป็นคนใกล้ชิดด้วย
แต่ในขณะที่รำคาญแม่บัว ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มความชัดเจนในตัวละครของคุณพี่เหม ที่หนักแน่นมั่นคง
ต่อให้กลับไปมีช่วงเวลาดีๆร่วมกันอีกครั้ง แต่ไม่รักก็คือไม่รัก แล้วฉากกลับมาอ้อนเมียนี่
น่ารักมากกกกกก ยกให้เป็นหนึ่งฉากในดวงใจเลย
นักแสดง - ก่อนอื่นคงต้องขอโทษก่อนี่เคยปรามาสไว้มาก ว่าทั้งพระนางคงไม่อาจทำให้เรื่องนี้สมบูรณ์ได้
ตรงกันข้าม ยิ่งดูก็ยิ่งเชื่อว่านี่คือพ่อเหม และแม่ลำดวนจริงๆ ขอบคุณที่ฝ่าแรงกดดันโดยใช้ฝีมือพิสูจน์
ตอนแรกก็รู้สึกนะว่าไม่เข้ากันเล๊ย แมทไม่ได้หน้าแก่นะแต่รู้สึกว่ายังไงเจมส์ก็ดูเด็กกว่า
แต่ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่เห็นแมทเป็นแม่ลำดวนน้องน้อยของคุณพี่เหม การแสดงของทั้งสองคนเรียกได้ว่าเป็น นักแสดงมืออาชีพของจริง
.. ตัวละครอื่นๆก็เล่นได้สมบทบาท พี่ต้น จักรกฤษ ถึงจะออกมาแค่ไม่นาน แต่พลังพี่ส่งมาถึงลูกชายจริงๆ ความมุ่งมั่นที่จะรับใช้แผ่นดิน
.. แม่บัวเอง ก็แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว ร้ายแต่หน้าสวยยิ้มพิมพ์ใจ แต่พอกลับมาสดใสก็ทำให้คนรักได้อีก
.. พี่สมิง คุณหญิงชม ไอ้บุษย์ ขุนนาฎ คุณปิ่น แม่ทับทิม คนเหล่านี้ทำให้เราเชื่อจริงๆว่านี่คือครอบครัวเพื่อนฝูงคนสนิท
.. ขรัวปู่ พี่พุ่ม ขุนศรีไชยทิตย์ หลวงเผด็จ ไอ้ส่ง ไอ้มา ทั้งๆที่ตัวละครเยอะแต่เรากลับจำบทบาทของทุกคนได้
.. บุคคลที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์อย่าง เจ้าพระยาบดินทรเดชา คุณชายช่วง ก็ทำให้เรารู้สึกถึงท่านได้จริงๆ
อยากจะขอบคุณทุกๆคนที่มีส่วนให้ละครข้าบดินทร์ออกมาเป็นได้อย่างที่เราได้ชมกัน
จะฉากรบ ฉากรัก ฉากประเพณี ทำให้เราเห็นทุกความตั้งใจที่ถ่ายทอดออกมา
คงจะไม่อวยว่าเป็นละครที่ดีเลิศเลอเพอร์เฟคอะไร ไม่ต้องยกเรื่องไหนมาเทียบไม่ชอบดราม่า
..ในฐานะแฟนนิยายคนนึง เราแค่ดีใจที่ได้เห็นนิยายที่เรารัก ตัวละครที่เราผูกพันถูกถ่ายทอดออกมาอย่างตั้งใจ
ไม่ได้อวยให้ทุกคนมาดู ใครไม่ดูไม่รักชาติ เราว่าจุดมุ่งหมายของละครไม่ได้กว้างขนาดนั้น
แค่อยากให้ทุกคนตระหนักถึงหน้าที่ตัวเอง บางคนคิดว่าตัวเราเป็นแค่ส่วนเล็กๆในหกสิบกว่าล้านคนจะไปมีผลอะไร
.. แต่ถ้าคนตัวเล็กๆทั้งหกสิบกว่าล้านคนทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ประเทศมันจะไม่ดีได้อย่างไร : )
ข้าบดินทร์ ..don't judge a book by its cover
พระเอก เจมส์ มาร์ - หืออออ คนไทยสมัยต้นรัตนโกสินทร์
ต่อให้มีเชื้อจีนอย่างไร ก็คงมิหน้าตาชัดเจนไปทางจีนได้ขนาดนั้น
ถึงจะชอบบุคลิก แววตาที่มีความมุ่งมั่นมาตั้งแต่คุณชายรณพีร์ แต่มันไม่ใช่จริงๆเจ้าค่ะ
นางเอก แมท ภีรณี - โอ้โห แบบว่าฝรั่งจ๋ามิต้องคอนเฟิร์ม ตอนนั้นเฟลพอๆกับที่รู้ว่าชมพู่จะเล่นบุพเพสันนิวาส (ขออนุญาตพาดพิงนะเจ้าคะ)
ประทับใจในฝีมือแมทนะ แต่แบบจะดีหรอแกก
แมทดูเป็นผู้หญิงมั่นๆ สมัยใหม่มากๆ มาเป็นแม่ลำดวน โอยตายๆ
แต่พอได้ดูไตเติ้ลละคร เห็นฉาก การถ่ายภาพ ฝีมือบู๊รำดาบของพระเอกเริ่มจะไม่ค่อยธรรมดา
แถมยังขึ้นเครดิตผู้กำกับว่าเป็น 'พี่หนุ่ม อรรถพร'
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้กลับมาสนใจละครเรื่องนี้อีกครั้ง หลังจากที่หมดหวังไปแล้ว
แล้วพี่หนุ่มก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ฉากและภาพสวยมากๆ สวยจริงๆจนอยากให้เอาไปโปรโมทการท่องเที่ยวไทย
วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม อาหารการกิน เครื่องแต่งกาย ทำออกมาได้ปราณีตจริงๆ ชุดสวยจังเลย
ขอบคุณทีมงานเบื้องหลังในส่วนนี้ ที่ทำให้เราได้รู้จักขนบโบราณ การแต่งกายสวยๆ ขนมต่างๆที่แทบจะลืมกันไปแล้ว
ภาพ - ออกมาได้แปลกตา หลายๆฉากมีการถ่ายทำที่ต่างออกไปจากละครทั่วๆไป บอกได้ถึงความใส่ใจของทีมงานและผู้กำกับ
..ฉากงานแต่ง ทั้งของพี่ทับทิม ทั้งของแม่บัว ทำได้น่าประทับใจมาก
..ฉากโขลงช้าง สวยมากๆ โดยเฉพาะตอนพ่อเหมรำดาบตอนแสงสุดท้าย
บท - ปรับได้ดี กระชับและน่าติดตาม เน้นในจุดที่ละครทีวีควรขายได้น่าสนใจแต่ไม่ลืมแก่นของบทประพันธ์
หลายคนรำคาญบทแม่บัว แต่เอาเข้าจริงๆตัวละครแบบนี้พบได้เสมอในชีวิตจริง
นึกย้อนดูถ้าเป็นเรา เรารักของเรามาก่อน ยังไงก็ต้องรู้สึก ยิ่งเป็นคนใกล้ชิดด้วย
แต่ในขณะที่รำคาญแม่บัว ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มความชัดเจนในตัวละครของคุณพี่เหม ที่หนักแน่นมั่นคง
ต่อให้กลับไปมีช่วงเวลาดีๆร่วมกันอีกครั้ง แต่ไม่รักก็คือไม่รัก แล้วฉากกลับมาอ้อนเมียนี่
น่ารักมากกกกกก ยกให้เป็นหนึ่งฉากในดวงใจเลย
นักแสดง - ก่อนอื่นคงต้องขอโทษก่อนี่เคยปรามาสไว้มาก ว่าทั้งพระนางคงไม่อาจทำให้เรื่องนี้สมบูรณ์ได้
ตรงกันข้าม ยิ่งดูก็ยิ่งเชื่อว่านี่คือพ่อเหม และแม่ลำดวนจริงๆ ขอบคุณที่ฝ่าแรงกดดันโดยใช้ฝีมือพิสูจน์
ตอนแรกก็รู้สึกนะว่าไม่เข้ากันเล๊ย แมทไม่ได้หน้าแก่นะแต่รู้สึกว่ายังไงเจมส์ก็ดูเด็กกว่า
แต่ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่เห็นแมทเป็นแม่ลำดวนน้องน้อยของคุณพี่เหม การแสดงของทั้งสองคนเรียกได้ว่าเป็น นักแสดงมืออาชีพของจริง
.. ตัวละครอื่นๆก็เล่นได้สมบทบาท พี่ต้น จักรกฤษ ถึงจะออกมาแค่ไม่นาน แต่พลังพี่ส่งมาถึงลูกชายจริงๆ ความมุ่งมั่นที่จะรับใช้แผ่นดิน
.. แม่บัวเอง ก็แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว ร้ายแต่หน้าสวยยิ้มพิมพ์ใจ แต่พอกลับมาสดใสก็ทำให้คนรักได้อีก
.. พี่สมิง คุณหญิงชม ไอ้บุษย์ ขุนนาฎ คุณปิ่น แม่ทับทิม คนเหล่านี้ทำให้เราเชื่อจริงๆว่านี่คือครอบครัวเพื่อนฝูงคนสนิท
.. ขรัวปู่ พี่พุ่ม ขุนศรีไชยทิตย์ หลวงเผด็จ ไอ้ส่ง ไอ้มา ทั้งๆที่ตัวละครเยอะแต่เรากลับจำบทบาทของทุกคนได้
.. บุคคลที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์อย่าง เจ้าพระยาบดินทรเดชา คุณชายช่วง ก็ทำให้เรารู้สึกถึงท่านได้จริงๆ
อยากจะขอบคุณทุกๆคนที่มีส่วนให้ละครข้าบดินทร์ออกมาเป็นได้อย่างที่เราได้ชมกัน
จะฉากรบ ฉากรัก ฉากประเพณี ทำให้เราเห็นทุกความตั้งใจที่ถ่ายทอดออกมา
คงจะไม่อวยว่าเป็นละครที่ดีเลิศเลอเพอร์เฟคอะไร ไม่ต้องยกเรื่องไหนมาเทียบไม่ชอบดราม่า
..ในฐานะแฟนนิยายคนนึง เราแค่ดีใจที่ได้เห็นนิยายที่เรารัก ตัวละครที่เราผูกพันถูกถ่ายทอดออกมาอย่างตั้งใจ
ไม่ได้อวยให้ทุกคนมาดู ใครไม่ดูไม่รักชาติ เราว่าจุดมุ่งหมายของละครไม่ได้กว้างขนาดนั้น
แค่อยากให้ทุกคนตระหนักถึงหน้าที่ตัวเอง บางคนคิดว่าตัวเราเป็นแค่ส่วนเล็กๆในหกสิบกว่าล้านคนจะไปมีผลอะไร
.. แต่ถ้าคนตัวเล็กๆทั้งหกสิบกว่าล้านคนทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ประเทศมันจะไม่ดีได้อย่างไร : )