ขอขอบคุณรูปโปรสวยๆและหุ่นดีจากเพื่อนพลอยสุดที่รักด้วยค่ะ 555555
ก่อนอื่นเราขออธิบายรายละเอียดสำคัญของแรงบันดาลใจในการตั้งกระทู้ก่อนเลย คือเราเคยสัญญากับตัวเองว่าหลังจากกลับมาครบ 1 ปีเราจะตั้งกระทู้นี้ขึ้น จุดประสงค์เพื่อเป็นเล่าประสบการณ์และแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนๆที่สนใจสอบชิงทุนหรือประกวดงานอะไรต่างๆ แต่ไม่กล้าพอหรือกลัว อยากให้ลองเปลี่ยนความคิดดูใหม่ อาจจะมีอะไรดีๆรอเราอยู่
เราและเพื่อนๆอีก 47 คน เป็นนักศึกษาที่ได้รับทุนแลกเปลี่ยนไปประเทศญี่ปุ่น กับโครงการชื่อว่า โครงการเครือข่ายแลกเปลี่ยนนักศึกษาและเยาวชนประเทศญี่ปุ่นกับเอเชียตะวันออกประจำปี 2557 หรือเรียกสั้นๆว่า Jenensys จัดขึ้นโดยรัฐบาลญี่ปุ่นที่เล็งเห็นประโยชน์และความสำคัญของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเทคโนโลยีของกันและกัน โดยผู้รับทุนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นในโครงการ (ยกเว้นค่าของฝากที่เราซื้อเอง 55) ผู้รับผิดชอบโครงการนี้ในประเทศไทยคือกระทรวงวัฒนธรรมค่ะ เราและเพื่อนๆไปในหัวข้อ ศิลปินกราฟิกค่ะ ต้นๆขอเป็นทางการนิดนึงค่ะ เพื่อให้เกียรติแก่ผู้สนับสนุนทั้งหมดของโครงการนี้ค่ะ ขอขอบคุณมาอีกครั้ง ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ปล. หลังจากบรรทัดนี้เป็นต้นไปอาจจะมีคำไม่สุภาพบ้าง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 55555555
ประสบการณ์แรก : การสอบชิงทุน
เริ่มต้นจากอาจารย์ที่คณะของเราเอาข่าวการประกวดชิงทุนนี้มาประชาสัมพันธ์ในเฟสของคณะ เราด้วยความที่สนใจอยากไป ตทป. อยู่แล้ว (แต่เป็นโรคทรัพย์จาง) 5555 นี่สนใจเลย รีบกดเข้าไปอ่านรายละเอียด การประกวดในครั้งนี้มี 2รอบคือ รอบคัดเลือกกับรอบสัมภาษณ์เลยชวนเพื่อนๆในกลุ่มส่งงานไปด้วยกัน ใจนึงกลัวๆเพราะคิดว่าตัวเองไม่เคยประกวดงานใหญ่แบบนี้มาก่อน อีกใจก็คิดว่าไม่ลองก็ไม่รู้วะ 55
หัวข้อการประกวดในครั้งนี้เป็นศิลปินกราฟิก ตรงกับสายที่เราเรียนเลย เห้ยน่าจะมีลุ้นว่ะ เรานี่รีบกลับไปเปิดคอมหางานที่คิดว่าเจ๋งที่สุดของเราที่มีล่ะเอามาตัดต่อ ในคลิปต้องมีการแนะนำตัวและผลงานของเรา คลิปต้องมีเวลาไม่เกิน 1 นาที โอ้แม่เจ้า มันไวมากค่ะ เราต้องบีบข้อมูลยังไงก็ได้ที่เวลาคนดูแล้วสามารถรู้เรื่องได้ภายใน 1 นาที มันคิดไม่ตกเลย 555 แต่ก็ผ่านไปได้ เราอัพผลงานลงยูทูปเกือบวันสุดท้ายของการส่งประกวดเลย 555 หลังจากลง คลิปไปเราก็มาคุยกับเพื่อน นั่งฟุ้งซ่านว่ากูไม่ควรส่งงานไปเลยว่ะ งานกูไม่ค่อยจะเจ๋งเลย งานคนอื่น
ดีๆทั้งเลย ( เราพูดทั้งๆที่ยังไม่เห็นงานคนอื่น 5555 บ้ามาก ) เพื่อนเราก็สาธยายบทประพันธ์ หรือเรียกว่าด่ามา 1 บท แต่ที่จำขึ้นใจเลยคือคำว่า ยังไม่ทันทำอะไรเลยก็ดูถูกงานกับตัวเองซะแล้ว เรานี่ฮึดเลย 555
ผ่านไป 7 วันหลังจากการลงคลิปประกวดก็ถึงวันประกาศผล เราเองนี่ขนาดคิดว่างานตัวเองไม่ติดหรอกยังเปิดเว็บดูด้วยใจเต้นรัวๆเลย 5555 ไล่รายชื่อ เห้ยยยยย มีกูด้วยย เราติดสัมภาษณ์อันดับที่ 18 จาก 68 คน แบบกรี๊ดมาก แต่ดีใจยิ่งกว่าคือเพื่อนเราก็ติดด้วย นี่แค่ติดสัมภาษณ์ยังดีใจมากเลย ตอนแรกเรากะว่าจะโทรไปบอกแม่แล้ว คิดไปคิดมากยังดีกว่า รอประกวดให้เสร็จเลยทีเดียวค่อยบอก ถึงจะได้หรือไม่ได้ก็ค่อยบอกตอนจบทีเดียวเลยแล้วกัน ลืมบอกว่างานของเราเป็นงานกราฟิกภาพนิ่งประเภท 2 มิติ เป็นผลงาน Environmental Graphic เกี่ยวกับท้องฟ้าจำลองค่ะ
พอถึงวันสอบสัมภาษณ์เรากับเพื่อนสนิทนี่ตื่นเต้นมาก นอนแทบไม่หลับ เพราะเราไม่เคยประกวดชิงทุนใหญ่แบบนี้ที่ไหนมาก่อนเลย คุยกับเพื่อนแบบคิดไม่ตกเลย
จะได้มั้ยวะ จะติดมั้ยวะ ใครจะมาสัมภาษณ์เรา เขาจะดุมั้ยวะ กูกลัวววว ยอมรับว่าเรากับเพื่อนนี่ฟุ้งซ่านมากค่ะ 555555 พอถึงคิวเรา มีพี่เจ้าหน้าที่มาเรียกเรากับเพื่อนอีกคนนึงขึ้นไปพร้อมกัน (เพื่อนต่างสถาบัน) อ้าวเห้ย สอบคู่หรอวะ นี่คือคู่แข่งใช่มั้ย โอ้ยแม่จ๋า เราเลยลองผูกมิตรถามไถ่เป็นไงมาไงไง้ก่อน เอาวะรู้จักไว้ก่อน พอถึงหน้าห้องหยุดทำใจแปบเปิดประตูเข้าไปภาพที่เห็นตรงหน้านี่คือคณะกรรมการ 6 ท่าน กรี๊ดดด เยอะมากค่า คิดในใจไว้สัก 3 คน นี่เกินอัตราค่ะ ใจนี่ตกลงไปตาตุ่มเลย ทำอะไรไม่ถูกยกมือสวัสดีไว้ก่อนเลย แล้วก็ไปนั่งต่อหน้าคณะกรรมการทั้ง 6 หลังจากนั้นก็แนะนำตัวกับงานของแต่ละคนภายในเวลา 3 นาที หลังจากนั้นก็ถึงเวลาสัมภาษณ์ เป็นการสัมภาษณ์ที่โคตรจะสนุกสนานมากค่ะ ฮามาก แต่คำเป็นคำถามจิตวิทยานะคะ จะบอกว่าดุเหมือนไม่ยากนะคะ แต่คณะกรรมการพิจารณาเราจากทุกๆคำตอบที่เราตอบมาเลย เช่น ถ้าได้ไปญี่ปุ่นจะทำอะไรเป็นอย่างแรก มาตั้งแต่เมื่อเช้านี่ได้เพื่อนกี่มหาลัยแล้ว จะเอาอะไรไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ญี่ปุ่น ประมานนี้ค่ะ แต่ที่พีค สุดคือถามว่าอยู่มหาวิทยาลัยมีหน้าที่อะไร เราตอบตามความจริงว่าสันทนาการค่ะ คณะกรรมการบอกว่า โอเค เชิญครับสักเพลง จ้าาาาาา เอาจริงหรอเนี่ย คิดในใจเอาวะมาถึงขนาดนี้แล้ว เราเลยสวมวิญญานสันทนาการจัดฮิปโปไป ถึงกับเอวเคล็ด 5555 คณะกรรมการ 2 จาก 6 คนเป็นคนญี่ปุ่นนี่ยังขำ 555 หมดแล้วความสุขุมที่สั่งสมก่อนเข้าห้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มาถึงเวลาสำคัญหลังจากผ่านไป 12 วันแห่งการรอคอย ผลประกาศจะออกวันนี้ 11 โมง เรานี่เข้าหน้าเว็บรอ รีเฟรชหน้าจอทุก 10 นาที 5555 เที่ยงแล้วทำไมยังไม่ประกาศวะเนี่ยยย เราเลยกะว่าไปนอนเล่นรอไปมาหลับยาวตื่นมา 4 โมงเย็น โอ้ยตายๆๆๆรีบเปิดคอมแบบงัวเงียอ่านผล เรียงชื่ออ่านยันชื่อสุดท้ายมีชื่อเพื่อนสนิทแต่ไม่มีขื่อเรา ยอมรับเลยตอนนั้นเฟลมาก แต่คิดในใจมาไกลแค่นี้ก็ดีล่ะ เราเลยเปิดเฟสตั้งใจจะไปดีใจกับเพื่อน เอ๊ะทำไมเพื่อนมาโพสหน้าเฟสกูวะ โกอินเตอร์นะครับ อย่าลืมของฝากนะครับ
เห้ยยังไงวะ เพื่อนทักแชทมา งงงงไปญี่ปุ่นด้วยกัน เรานี่รีบไปล้างหน้าเปิดเว็บดูใหม่เลย เอ้ยยย กูติดดว้อยยย ทำไมตอนแรกไม่เห็นชื่อตัวเองวะ กรี๊ดมากดีใจเลย ไม่คิดว่าตัวเองจะมาไกลขนาดนี้ เรานี่รีบโทรหาแม่เล่าให้ฟังทุกอย่างเลย แม่พูดว่าไม่เสียดายเงินส่งเรียนเลย เรานี่น้ำตาจะไหล อิอิอิ หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่มาติดต่อเราให้เราทำพาสปอร์ตและเอาใบรับรองแพทย์ให้เขา เพื่อออกตั๋วเครื่องบินให้กับเรา โอ้ยยย นึกถึงตอนนั้นยังดีใจตลอดมา
เมื่อฉันได้เป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยน ณ ญี่ปุ่น
ก่อนอื่นเราขออธิบายรายละเอียดสำคัญของแรงบันดาลใจในการตั้งกระทู้ก่อนเลย คือเราเคยสัญญากับตัวเองว่าหลังจากกลับมาครบ 1 ปีเราจะตั้งกระทู้นี้ขึ้น จุดประสงค์เพื่อเป็นเล่าประสบการณ์และแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนๆที่สนใจสอบชิงทุนหรือประกวดงานอะไรต่างๆ แต่ไม่กล้าพอหรือกลัว อยากให้ลองเปลี่ยนความคิดดูใหม่ อาจจะมีอะไรดีๆรอเราอยู่
เราและเพื่อนๆอีก 47 คน เป็นนักศึกษาที่ได้รับทุนแลกเปลี่ยนไปประเทศญี่ปุ่น กับโครงการชื่อว่า โครงการเครือข่ายแลกเปลี่ยนนักศึกษาและเยาวชนประเทศญี่ปุ่นกับเอเชียตะวันออกประจำปี 2557 หรือเรียกสั้นๆว่า Jenensys จัดขึ้นโดยรัฐบาลญี่ปุ่นที่เล็งเห็นประโยชน์และความสำคัญของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเทคโนโลยีของกันและกัน โดยผู้รับทุนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นในโครงการ (ยกเว้นค่าของฝากที่เราซื้อเอง 55) ผู้รับผิดชอบโครงการนี้ในประเทศไทยคือกระทรวงวัฒนธรรมค่ะ เราและเพื่อนๆไปในหัวข้อ ศิลปินกราฟิกค่ะ ต้นๆขอเป็นทางการนิดนึงค่ะ เพื่อให้เกียรติแก่ผู้สนับสนุนทั้งหมดของโครงการนี้ค่ะ ขอขอบคุณมาอีกครั้ง ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ปล. หลังจากบรรทัดนี้เป็นต้นไปอาจจะมีคำไม่สุภาพบ้าง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 55555555
ประสบการณ์แรก : การสอบชิงทุน
เริ่มต้นจากอาจารย์ที่คณะของเราเอาข่าวการประกวดชิงทุนนี้มาประชาสัมพันธ์ในเฟสของคณะ เราด้วยความที่สนใจอยากไป ตทป. อยู่แล้ว (แต่เป็นโรคทรัพย์จาง) 5555 นี่สนใจเลย รีบกดเข้าไปอ่านรายละเอียด การประกวดในครั้งนี้มี 2รอบคือ รอบคัดเลือกกับรอบสัมภาษณ์เลยชวนเพื่อนๆในกลุ่มส่งงานไปด้วยกัน ใจนึงกลัวๆเพราะคิดว่าตัวเองไม่เคยประกวดงานใหญ่แบบนี้มาก่อน อีกใจก็คิดว่าไม่ลองก็ไม่รู้วะ 55
หัวข้อการประกวดในครั้งนี้เป็นศิลปินกราฟิก ตรงกับสายที่เราเรียนเลย เห้ยน่าจะมีลุ้นว่ะ เรานี่รีบกลับไปเปิดคอมหางานที่คิดว่าเจ๋งที่สุดของเราที่มีล่ะเอามาตัดต่อ ในคลิปต้องมีการแนะนำตัวและผลงานของเรา คลิปต้องมีเวลาไม่เกิน 1 นาที โอ้แม่เจ้า มันไวมากค่ะ เราต้องบีบข้อมูลยังไงก็ได้ที่เวลาคนดูแล้วสามารถรู้เรื่องได้ภายใน 1 นาที มันคิดไม่ตกเลย 555 แต่ก็ผ่านไปได้ เราอัพผลงานลงยูทูปเกือบวันสุดท้ายของการส่งประกวดเลย 555 หลังจากลง คลิปไปเราก็มาคุยกับเพื่อน นั่งฟุ้งซ่านว่ากูไม่ควรส่งงานไปเลยว่ะ งานกูไม่ค่อยจะเจ๋งเลย งานคนอื่นดีๆทั้งเลย ( เราพูดทั้งๆที่ยังไม่เห็นงานคนอื่น 5555 บ้ามาก ) เพื่อนเราก็สาธยายบทประพันธ์ หรือเรียกว่าด่ามา 1 บท แต่ที่จำขึ้นใจเลยคือคำว่า ยังไม่ทันทำอะไรเลยก็ดูถูกงานกับตัวเองซะแล้ว เรานี่ฮึดเลย 555
ผ่านไป 7 วันหลังจากการลงคลิปประกวดก็ถึงวันประกาศผล เราเองนี่ขนาดคิดว่างานตัวเองไม่ติดหรอกยังเปิดเว็บดูด้วยใจเต้นรัวๆเลย 5555 ไล่รายชื่อ เห้ยยยยย มีกูด้วยย เราติดสัมภาษณ์อันดับที่ 18 จาก 68 คน แบบกรี๊ดมาก แต่ดีใจยิ่งกว่าคือเพื่อนเราก็ติดด้วย นี่แค่ติดสัมภาษณ์ยังดีใจมากเลย ตอนแรกเรากะว่าจะโทรไปบอกแม่แล้ว คิดไปคิดมากยังดีกว่า รอประกวดให้เสร็จเลยทีเดียวค่อยบอก ถึงจะได้หรือไม่ได้ก็ค่อยบอกตอนจบทีเดียวเลยแล้วกัน ลืมบอกว่างานของเราเป็นงานกราฟิกภาพนิ่งประเภท 2 มิติ เป็นผลงาน Environmental Graphic เกี่ยวกับท้องฟ้าจำลองค่ะ
พอถึงวันสอบสัมภาษณ์เรากับเพื่อนสนิทนี่ตื่นเต้นมาก นอนแทบไม่หลับ เพราะเราไม่เคยประกวดชิงทุนใหญ่แบบนี้ที่ไหนมาก่อนเลย คุยกับเพื่อนแบบคิดไม่ตกเลย จะได้มั้ยวะ จะติดมั้ยวะ ใครจะมาสัมภาษณ์เรา เขาจะดุมั้ยวะ กูกลัวววว ยอมรับว่าเรากับเพื่อนนี่ฟุ้งซ่านมากค่ะ 555555 พอถึงคิวเรา มีพี่เจ้าหน้าที่มาเรียกเรากับเพื่อนอีกคนนึงขึ้นไปพร้อมกัน (เพื่อนต่างสถาบัน) อ้าวเห้ย สอบคู่หรอวะ นี่คือคู่แข่งใช่มั้ย โอ้ยแม่จ๋า เราเลยลองผูกมิตรถามไถ่เป็นไงมาไงไง้ก่อน เอาวะรู้จักไว้ก่อน พอถึงหน้าห้องหยุดทำใจแปบเปิดประตูเข้าไปภาพที่เห็นตรงหน้านี่คือคณะกรรมการ 6 ท่าน กรี๊ดดด เยอะมากค่า คิดในใจไว้สัก 3 คน นี่เกินอัตราค่ะ ใจนี่ตกลงไปตาตุ่มเลย ทำอะไรไม่ถูกยกมือสวัสดีไว้ก่อนเลย แล้วก็ไปนั่งต่อหน้าคณะกรรมการทั้ง 6 หลังจากนั้นก็แนะนำตัวกับงานของแต่ละคนภายในเวลา 3 นาที หลังจากนั้นก็ถึงเวลาสัมภาษณ์ เป็นการสัมภาษณ์ที่โคตรจะสนุกสนานมากค่ะ ฮามาก แต่คำเป็นคำถามจิตวิทยานะคะ จะบอกว่าดุเหมือนไม่ยากนะคะ แต่คณะกรรมการพิจารณาเราจากทุกๆคำตอบที่เราตอบมาเลย เช่น ถ้าได้ไปญี่ปุ่นจะทำอะไรเป็นอย่างแรก มาตั้งแต่เมื่อเช้านี่ได้เพื่อนกี่มหาลัยแล้ว จะเอาอะไรไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ญี่ปุ่น ประมานนี้ค่ะ แต่ที่พีค สุดคือถามว่าอยู่มหาวิทยาลัยมีหน้าที่อะไร เราตอบตามความจริงว่าสันทนาการค่ะ คณะกรรมการบอกว่า โอเค เชิญครับสักเพลง จ้าาาาาา เอาจริงหรอเนี่ย คิดในใจเอาวะมาถึงขนาดนี้แล้ว เราเลยสวมวิญญานสันทนาการจัดฮิปโปไป ถึงกับเอวเคล็ด 5555 คณะกรรมการ 2 จาก 6 คนเป็นคนญี่ปุ่นนี่ยังขำ 555 หมดแล้วความสุขุมที่สั่งสมก่อนเข้าห้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เห้ยยังไงวะ เพื่อนทักแชทมา งงงงไปญี่ปุ่นด้วยกัน เรานี่รีบไปล้างหน้าเปิดเว็บดูใหม่เลย เอ้ยยย กูติดดว้อยยย ทำไมตอนแรกไม่เห็นชื่อตัวเองวะ กรี๊ดมากดีใจเลย ไม่คิดว่าตัวเองจะมาไกลขนาดนี้ เรานี่รีบโทรหาแม่เล่าให้ฟังทุกอย่างเลย แม่พูดว่าไม่เสียดายเงินส่งเรียนเลย เรานี่น้ำตาจะไหล อิอิอิ หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่มาติดต่อเราให้เราทำพาสปอร์ตและเอาใบรับรองแพทย์ให้เขา เพื่อออกตั๋วเครื่องบินให้กับเรา โอ้ยยย นึกถึงตอนนั้นยังดีใจตลอดมา