สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การเสียเงิน ถือได้ว่าก้อนใหญ่พอสมควร ให้กับสถาบันเสริมความงามแห่งหนึ่ง คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสาวๆหนุ่มๆผู้รักสวยรักงามทั้งหลาย ให้รู้เท่าทันเทคนิคของธุรกิจประเภทนี้ค่ะ
ในชีวิตไม่เคยเจออะไรแบบนี้ก็เลยหลวมตัวสมัครไป ใจนึงก็คิดว่าพลาดไปแระ แถมพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก มันน่าเจ็บใจตรงนี้แหละ
แต่อีกใจนึงก็คิดว่าโอเคนะถือซะว่าได้ทำสวยเตรียมตัวเป็นเจ้าสาว ประสบการณ์ที่ได้รับเมื่อไปใช้บริการก็พอถูไถ แต่ก็ยังตะหงิดๆใจอยู่หลายช็อต ก็เลยอยากเอามาแชร์ให้อ่านกัน
บอกไว้เลยว่าค่อนข้างยาว เราพยายามนึกรายละเอียดให้ได้มากที่สุด แต่ลำดับเหตุการณ์อาจมีสลับไปบ้าง เพราะตอนนั้นเคลิ้มๆ มึนๆ พอดี ฮ่าๆๆ
#### STEP 0 ####
วันหนึ่งในฤดูร้อน ขณะเดินเล่นชิลๆอยู่ที่ห้างค้าปลีกแห่งหนึ่ง มีน้องผู้หญิงคนหนึ่ง ขอเรียกว่าน้องเบอร์1 เดินมาประชิดตัวพร้อมพูดประมาณว่า
"ขอเวลาพี่ช่วยตอบคำถามแป๊บนึงว่าระหว่างการดูแลผิวหน้าและรูปร่างพี่ให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากันคะ ช่วยตอบหน่อยนะคะ"
เราก็เลยตอบและตั้งท่าจะเดินออกมา น้องเบอร์1 ก็พูดต่อ พร้อมส่งสายตาอ้อนวอน "ขอเชิญพี่ไปกรอกข้อมูลนิดนึงค่ะ นะคะๆ"
เราก็เลยเดินตามไปแบบไม่ทันคิดอะไร ในกระดาษมีตารางให้กรอก ชื่อ เบอร์โทร และคำตอบที่เราเลือก พอกรอกเสร็จปุ๊บน้องเบอร์1ก็ทำหน้าที่ต่อ
"พี่สนใจวิเคราะห์สภาพผิวหน้ามั้ยคะ วิเคราะห์ให้ฟรีเลย ปกติต้องเสียเงินเป็นพันเลยนะ"
เราก็คิด...เออน่าสนใจดี อยากรู้เหมือนกันว่าผลจะเป็นยังไง ก็เลยตอบตกลง โดยไม่รู้เลยว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการเสียเงินแสน T_T
หลังจากนั้น น้องเบอร์1 ก็พาไปนั่งที่เครื่องวิเคราะห์ผิวหน้า แล้วก็มีน้องเบอร์ 2 มาจัดการต่อ เครื่องเป็นเครื่องกลมๆ ให้เอาหน้ายื่นเข้าไป แล้วหลับตา จะมีกล้องความละเอียดสูงถ่ายภาพหน้าเรา เสร็จแล้วก็ส่งรูปเข้าคอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผล
ระหว่างรอผลก็ให้เราทำแบบสอบถาม ถามอายุ อาชีพ การดูแลผิวของเรา ปัญหาที่กังวลเกี่ยวกับผิวหน้าไรงี้ แต่มีข้อนึงถามว่าคุณใช้บัตรเครดิตอะไร เราก็ตะหงิดๆแล้วว่าถามทำไม
ผลที่ออกมา คือ สภาพผิวค่อนข้างดี แต่ขาดความชุ่มชื้น มีปัญหารอยสิว และหลุมตื้นๆ
หลังจากนั้นน้องเบอร์ 2 ก็เข้าประเด็นหลักเลย เสนอขายคอร์สทันที
#### STEP 1 ####
น้องเบอร์ 2 หยิบรายการทรีตเม้นต์มาให้ดู และแนะนำว่าเราควรทำทรีตเม้นต์ 2 ตัว 1 คอร์สทำได้ตัวละ 5 ครั้ง เราเห็นราคาในกระดาษ 5000 ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นราคาต่อคอร์ส มันก็ไม่แพงใช่ป่ะ เลยทำท่าทางสนใจ ปรากฏว่ามันเป็นราคาต่อครั้งจ้า อึ้งเบย
แต่ช้าก่อน!! ซื้อวันนี้เราจัดโปรโมชั่นลดเหลือเพียง 18000 เท่านั้นจ้า (จาก 50000) เราก็ไม่ตกลงเพราะมันแพงไป
ซักพักก็มีน้องเบอร์ 3 ซึ่งเป็นผจก.สาขาเข้ามาสมทบ บอกเลยว่าคนนี้สกิลการขายขั้นเทพ น้องเบอร์ 3 บอกแถมไปเลยอีก 1 ทรีตเม้นต์ (5 ครั้ง) เฉลี่ยแล้วตกทรีตเม้นต์ละ 1200 ต่อครั้ง แล้วก็โฆษณาจุดเด่นของร้านต่างๆนาๆ เราฟังไปก็เริ่มเคลิ้มๆแระ
แต่ประเด็นนึงที่เรายังไม่กล้าซื้อคือ ร้านนี้ยังไม่เปิดให้บริการเลยจ้า จะเปิดจริงเปิดไม่จริงใครจะรู้ เค้าก็บอกเปิดแน่นอนตอนนี้กำลังตกแต่งร้าน ตอนนี้มาออกบูธพรีเซลล์ก่อน ลูกค้าสนใจเยอะมาก พร้อมเอารูปในไอแพดให้ดู วันนี้ได้ยอดเป็นล้านแล้วนะพี่ ถ้าไม่
เชื่อเดี๋ยวไปปริ้นรายการสรุปยอดมาให้ดูเลย บลาๆๆ
จนในที่สุด!! เราก็เคลิ้ม และก็โอเค หยิบเครดิตการ์ดให้น้องไปรูด 18000 จากราคาเต็ม 75000 = จ่ายไป 24% ของราคาเต็ม
พอรูดเสร็จปฏิบัติการขาย STEP 2 ก็เริ่มขึ้น
#### STEP 2 ####
น้องเสนอให้เราเพิ่มเงินอีก 12000 (รวมเป็น 30000) เพื่อที่จะสามารถเลือกทำทรีตเม้นหน้ารายการไหนก็ได้ โดยมีวงเงินให้ 100000 +แถมทรีตเม้นตัวท็อปให้อีก 1 ครั้ง และก็โฆษณาให้เคลิ้มต่อจ้า เท่าที่จำได้ก็ประมาณว่า...
ราคาทรีตเม้นที่เราได้ตอนนี้เป็นราคาพิเศษมากๆ เดี๋ยวจะปรับราคาขึ้นแล้ว แต่เราจะสามารถใช้ราคานี้ได้ตลอดไป
และสามารถเลือกทำทรีตเม้นต์ได้ทุกรายการ ไม่มีกั๊กทรีตเม้นต์ตัวท็อปๆ ไว้ให้เสียเงินเพิ่ม เหมือนที่อื่นๆ
หมอที่นี่ก็ฝีมือระดับเทพ ก่อนจะทำทรีตเม้นต์อะไรก็จะต้องเข้าพบคุณหมอก่อน แล้วคุณหมอจะแนะนำให้
เครื่องไม้เครื่องมือที่นี่ก็ทันสมัย ใหม่ล่าสุด ครีมที่ใช้ทำทรีตเม้นต์ก็จะแพ็คมาเป็นซองๆ ของใครของมัน ไม่มีมาแบบเป็นขวดใหญ่ใช้ร่วมกัน
ที่สำคัญ!! ที่นี่จะไม่มีการมาเสนอขายจุกจิกๆให้อึดอัดใจเหมือนร้านอื่น ซื้อวันนี้แล้วคือจบไม่ตื้ออีกแล้ว
เราก็คิดในใจ...วันนี้ก็เจอไปสองสเต็ปแล้วนะ แบบนี้ไม่เรียกว่าจุกจิก?
เราก็ยังอิดออด ไม่ตกลง น้องเบอร์ 3 เลยเสนอแถมว้อยเชอร์ให้อีก 1 ใบ พร้อมชวนคุยให้เคลิ้มตามสไตล์
จนในที่สุด!! เราก็เคลิ้ม และก็โอเค สรุปคือเสียเงิน 30000 ได้ใช้วงเงินรวมของแถมทั้งหมด 132000 = จ่ายไป 22.73% ของราคาเต็ม
เราก็หยิบเครดิตการ์ดให้ไปรูด น้องเบอร์ 3 ก็เดินโต๊ะอื่นต่อ พอรูดเสร็จ ระหว่างรอทำเอกสาร ปฏิบัติการขาย STEP 3 ก็เริ่มขึ้น
#### STEP 3 ####
น้องพนักงานสองคนคะยั้นคะยอให้เราอัพเป็น VIP member โดยให้รูดบัตรเพิ่มอีก 20000 รวมเป็น 50000 และจะได้วงเงิน 180000 โดยจะได้เลือกทำทรีตเม้นต์ได้ทั้งหน้าและรูปร่าง
พร้อมบอกข้อดีของ VIP ต่างๆนาๆ เช่น เวลามาใช้บริการไม่ต้องรอคิว VIP จะมีโซนส่วนตัว ไม่ต้องไปปะปนกับเมมเบอร์ธรรมดา ห้องก็แบบ VIP ทำทรีตเม้นต์ตัวเสร็จก็จะมีห้องอาบน้ำ บลาๆๆๆ
เราก็ยังไม่โอเค บอกตรงๆฟังน้องเบอร์ 1 กับ 2 เสนอ มันยังไม่โดนใจ
ซักพักน้องเบอร์ 3 ก็เดินมา เราก็คิดในใจว่าน้องคนนี้มาพูดชั้นต้องเสียเงินแน่ๆ น้องชักแม่น้ำทั้งห้า พร้อมแถมว้อยเชอร์ให้อีก 1 ใบ
เราก็หาข้ออ้างว่าเราไม่ได้ว่างมาทำทรีตเม้นต์บ่อยๆ วงเงินขนาดนี้ใช้เป็นปีจะหมดมั้ย น้องเบอร์ 3 ก็ไม่ยอมแพ้ยังคงตื้อต่อไป
ในใจเราก็คิดคำนวณวงเงินบัตรเครดิต เอ๊ะมันไม่พออยู่แล้วนี่นา ก็ให้เอาไปรูดแล้วค่อยอ้างเรื่องวงเงินไม่พอก็ได้...
ก็เลยตัดรำคาญด้วยการเอาบัตรให้ไป ปรากฏว่ารูดผ่านเฉยเลยจ้า โมเม้นต์นั้นน้ำตาตกในเลย T-T
แล้วเราก็ sms จากธนาคารผู้หวังดีส่งมาบอกว่า...Special approve-Exceed Credit Line 26,368 THB
เฮ้ย! คือมันเกินวงเงินตั้งแต่รูดรอบสองแล้วป่ะวะ แล้วเพิ่งมาแจ้งอะไรตอนนี้? แถมอนุมัติเพิ่มวงเงินอัตโนมัติให้อีก ใครขอมิทราบ?
สรุปคือเบ็ดเสร็จวันนั้นเรารูดไป 50000 ได้ใช้วงเงินรวมของแถมทั้งหมด 224000 = จ่ายไป 22.3% ของราคาเต็ม
กระเป๋าก็แบนแฟนก็ด่าเช็ดแน่ถ้ารู้ว่าแอบรูดบัตรไปครึ่งแสน
#### และแล้วก็ถึงวันนัด ####
ถึงวันนัดหมายเราก็เข้าไปที่ร้าน พนักงานก็ให้เรานั่งรอหน้าเคาเตอร์...
เราก็คิดอีกแระ ไหนอ่ะโซน VIP ที่โฆษณาไว้? สงสัยยังไม่เสร็จมั้ง รอไม่นานก็เรียกเราเข้าไปทำทรีตเม้นต์ เจอพนักงาน 1 คน
ในใจก็คิดอีกแระ อ้าวไหนหล่ะคุณหมอที่โฆษณาไว้? ห้องก็ดูธรรมด๊าธรรมดา นี่หรือ VIP?
พนักงานแจ้งว่าวันนี้คอนซัลท์จัดให้ทำ 2 ทรีตเม้นต์นะ ใช้เวลารวม 1 ชั่วโมง เราก็คิดทำไมไวจัง ปกติที่เคยทำที่อื่นอย่างน้อยทรีตเม้นต์นึงก็ 45 นาที
อ่ะๆ ขึ้นเตียง ลองดู ไม่ลองไม่รู้ พนักงานก็เริ่มนวดหน้า เช็ดเครื่องสำอางค์ ซึ่งใช้เวลานานประมาณนึง
หลังจากนั้นก็ทำทรีตเม้นต์แรกให้เรา 2 ขั้นตอนเสร็จจ้า!!
ทรีตเม้นต์ที่สอง เอาเจลมาทา เอาเครื่องมาถูๆหน้าผลักวิตามินเข้าไป เสร็จ!! ทาครีมบำรุงให้ 1ตัว เรียบร้อยค่ะ 1 ชั่วโมงเป๊ะ แล้วพนักงานก็เดินไปหยิบกระจกกับหวีมาให้เรา
ในใจก็คิดอีกแระ กระจกนี่ทำไมไม่ติดบานใหญ่ๆไว้ในห้องให้ส่องง่ายๆ หวีนี่ใครหวีมาบ้างแล้วก็ไม่รู้ เฮ้อ...
อุ้ย...แต่รู้สึกว่าหน้ามันตึงๆ เด้งๆ ขึ้นนะ ถึงจะทำแป๊บเดียวแต่ก็น่าจะได้ผล (ปลอบใจตัวเอง)
ระหว่างทาแป้งหวีผมก็สำรวจรอบๆห้อง ครีมที่ใช้ก็เป็นขวดใหญ่ๆเหมือนที่อื่นนะ ไหนว่าแยกมาเป็นซองๆไม่ใช้ร่วมกัน? มันไม่ตรงกับที่โฆษณาอีกแล้วอ้ะ
ต่อเม้น 1 นะคะมันยาวเกิน
แชร์ประสบการณ์เสียเงินแสนสมัคร VIP member กับสถาบันเสริมความงามแห่งหนึ่ง
ในชีวิตไม่เคยเจออะไรแบบนี้ก็เลยหลวมตัวสมัครไป ใจนึงก็คิดว่าพลาดไปแระ แถมพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก มันน่าเจ็บใจตรงนี้แหละ
แต่อีกใจนึงก็คิดว่าโอเคนะถือซะว่าได้ทำสวยเตรียมตัวเป็นเจ้าสาว ประสบการณ์ที่ได้รับเมื่อไปใช้บริการก็พอถูไถ แต่ก็ยังตะหงิดๆใจอยู่หลายช็อต ก็เลยอยากเอามาแชร์ให้อ่านกัน
บอกไว้เลยว่าค่อนข้างยาว เราพยายามนึกรายละเอียดให้ได้มากที่สุด แต่ลำดับเหตุการณ์อาจมีสลับไปบ้าง เพราะตอนนั้นเคลิ้มๆ มึนๆ พอดี ฮ่าๆๆ
#### STEP 0 ####
วันหนึ่งในฤดูร้อน ขณะเดินเล่นชิลๆอยู่ที่ห้างค้าปลีกแห่งหนึ่ง มีน้องผู้หญิงคนหนึ่ง ขอเรียกว่าน้องเบอร์1 เดินมาประชิดตัวพร้อมพูดประมาณว่า
"ขอเวลาพี่ช่วยตอบคำถามแป๊บนึงว่าระหว่างการดูแลผิวหน้าและรูปร่างพี่ให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากันคะ ช่วยตอบหน่อยนะคะ"
เราก็เลยตอบและตั้งท่าจะเดินออกมา น้องเบอร์1 ก็พูดต่อ พร้อมส่งสายตาอ้อนวอน "ขอเชิญพี่ไปกรอกข้อมูลนิดนึงค่ะ นะคะๆ"
เราก็เลยเดินตามไปแบบไม่ทันคิดอะไร ในกระดาษมีตารางให้กรอก ชื่อ เบอร์โทร และคำตอบที่เราเลือก พอกรอกเสร็จปุ๊บน้องเบอร์1ก็ทำหน้าที่ต่อ
"พี่สนใจวิเคราะห์สภาพผิวหน้ามั้ยคะ วิเคราะห์ให้ฟรีเลย ปกติต้องเสียเงินเป็นพันเลยนะ"
เราก็คิด...เออน่าสนใจดี อยากรู้เหมือนกันว่าผลจะเป็นยังไง ก็เลยตอบตกลง โดยไม่รู้เลยว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการเสียเงินแสน T_T
หลังจากนั้น น้องเบอร์1 ก็พาไปนั่งที่เครื่องวิเคราะห์ผิวหน้า แล้วก็มีน้องเบอร์ 2 มาจัดการต่อ เครื่องเป็นเครื่องกลมๆ ให้เอาหน้ายื่นเข้าไป แล้วหลับตา จะมีกล้องความละเอียดสูงถ่ายภาพหน้าเรา เสร็จแล้วก็ส่งรูปเข้าคอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผล
ระหว่างรอผลก็ให้เราทำแบบสอบถาม ถามอายุ อาชีพ การดูแลผิวของเรา ปัญหาที่กังวลเกี่ยวกับผิวหน้าไรงี้ แต่มีข้อนึงถามว่าคุณใช้บัตรเครดิตอะไร เราก็ตะหงิดๆแล้วว่าถามทำไม
ผลที่ออกมา คือ สภาพผิวค่อนข้างดี แต่ขาดความชุ่มชื้น มีปัญหารอยสิว และหลุมตื้นๆ
หลังจากนั้นน้องเบอร์ 2 ก็เข้าประเด็นหลักเลย เสนอขายคอร์สทันที
#### STEP 1 ####
น้องเบอร์ 2 หยิบรายการทรีตเม้นต์มาให้ดู และแนะนำว่าเราควรทำทรีตเม้นต์ 2 ตัว 1 คอร์สทำได้ตัวละ 5 ครั้ง เราเห็นราคาในกระดาษ 5000 ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นราคาต่อคอร์ส มันก็ไม่แพงใช่ป่ะ เลยทำท่าทางสนใจ ปรากฏว่ามันเป็นราคาต่อครั้งจ้า อึ้งเบย
แต่ช้าก่อน!! ซื้อวันนี้เราจัดโปรโมชั่นลดเหลือเพียง 18000 เท่านั้นจ้า (จาก 50000) เราก็ไม่ตกลงเพราะมันแพงไป
ซักพักก็มีน้องเบอร์ 3 ซึ่งเป็นผจก.สาขาเข้ามาสมทบ บอกเลยว่าคนนี้สกิลการขายขั้นเทพ น้องเบอร์ 3 บอกแถมไปเลยอีก 1 ทรีตเม้นต์ (5 ครั้ง) เฉลี่ยแล้วตกทรีตเม้นต์ละ 1200 ต่อครั้ง แล้วก็โฆษณาจุดเด่นของร้านต่างๆนาๆ เราฟังไปก็เริ่มเคลิ้มๆแระ
แต่ประเด็นนึงที่เรายังไม่กล้าซื้อคือ ร้านนี้ยังไม่เปิดให้บริการเลยจ้า จะเปิดจริงเปิดไม่จริงใครจะรู้ เค้าก็บอกเปิดแน่นอนตอนนี้กำลังตกแต่งร้าน ตอนนี้มาออกบูธพรีเซลล์ก่อน ลูกค้าสนใจเยอะมาก พร้อมเอารูปในไอแพดให้ดู วันนี้ได้ยอดเป็นล้านแล้วนะพี่ ถ้าไม่
เชื่อเดี๋ยวไปปริ้นรายการสรุปยอดมาให้ดูเลย บลาๆๆ
จนในที่สุด!! เราก็เคลิ้ม และก็โอเค หยิบเครดิตการ์ดให้น้องไปรูด 18000 จากราคาเต็ม 75000 = จ่ายไป 24% ของราคาเต็ม
พอรูดเสร็จปฏิบัติการขาย STEP 2 ก็เริ่มขึ้น
#### STEP 2 ####
น้องเสนอให้เราเพิ่มเงินอีก 12000 (รวมเป็น 30000) เพื่อที่จะสามารถเลือกทำทรีตเม้นหน้ารายการไหนก็ได้ โดยมีวงเงินให้ 100000 +แถมทรีตเม้นตัวท็อปให้อีก 1 ครั้ง และก็โฆษณาให้เคลิ้มต่อจ้า เท่าที่จำได้ก็ประมาณว่า...
ราคาทรีตเม้นที่เราได้ตอนนี้เป็นราคาพิเศษมากๆ เดี๋ยวจะปรับราคาขึ้นแล้ว แต่เราจะสามารถใช้ราคานี้ได้ตลอดไป
และสามารถเลือกทำทรีตเม้นต์ได้ทุกรายการ ไม่มีกั๊กทรีตเม้นต์ตัวท็อปๆ ไว้ให้เสียเงินเพิ่ม เหมือนที่อื่นๆ
หมอที่นี่ก็ฝีมือระดับเทพ ก่อนจะทำทรีตเม้นต์อะไรก็จะต้องเข้าพบคุณหมอก่อน แล้วคุณหมอจะแนะนำให้
เครื่องไม้เครื่องมือที่นี่ก็ทันสมัย ใหม่ล่าสุด ครีมที่ใช้ทำทรีตเม้นต์ก็จะแพ็คมาเป็นซองๆ ของใครของมัน ไม่มีมาแบบเป็นขวดใหญ่ใช้ร่วมกัน
ที่สำคัญ!! ที่นี่จะไม่มีการมาเสนอขายจุกจิกๆให้อึดอัดใจเหมือนร้านอื่น ซื้อวันนี้แล้วคือจบไม่ตื้ออีกแล้ว
เราก็คิดในใจ...วันนี้ก็เจอไปสองสเต็ปแล้วนะ แบบนี้ไม่เรียกว่าจุกจิก?
เราก็ยังอิดออด ไม่ตกลง น้องเบอร์ 3 เลยเสนอแถมว้อยเชอร์ให้อีก 1 ใบ พร้อมชวนคุยให้เคลิ้มตามสไตล์
จนในที่สุด!! เราก็เคลิ้ม และก็โอเค สรุปคือเสียเงิน 30000 ได้ใช้วงเงินรวมของแถมทั้งหมด 132000 = จ่ายไป 22.73% ของราคาเต็ม
เราก็หยิบเครดิตการ์ดให้ไปรูด น้องเบอร์ 3 ก็เดินโต๊ะอื่นต่อ พอรูดเสร็จ ระหว่างรอทำเอกสาร ปฏิบัติการขาย STEP 3 ก็เริ่มขึ้น
#### STEP 3 ####
น้องพนักงานสองคนคะยั้นคะยอให้เราอัพเป็น VIP member โดยให้รูดบัตรเพิ่มอีก 20000 รวมเป็น 50000 และจะได้วงเงิน 180000 โดยจะได้เลือกทำทรีตเม้นต์ได้ทั้งหน้าและรูปร่าง
พร้อมบอกข้อดีของ VIP ต่างๆนาๆ เช่น เวลามาใช้บริการไม่ต้องรอคิว VIP จะมีโซนส่วนตัว ไม่ต้องไปปะปนกับเมมเบอร์ธรรมดา ห้องก็แบบ VIP ทำทรีตเม้นต์ตัวเสร็จก็จะมีห้องอาบน้ำ บลาๆๆๆ
เราก็ยังไม่โอเค บอกตรงๆฟังน้องเบอร์ 1 กับ 2 เสนอ มันยังไม่โดนใจ
ซักพักน้องเบอร์ 3 ก็เดินมา เราก็คิดในใจว่าน้องคนนี้มาพูดชั้นต้องเสียเงินแน่ๆ น้องชักแม่น้ำทั้งห้า พร้อมแถมว้อยเชอร์ให้อีก 1 ใบ
เราก็หาข้ออ้างว่าเราไม่ได้ว่างมาทำทรีตเม้นต์บ่อยๆ วงเงินขนาดนี้ใช้เป็นปีจะหมดมั้ย น้องเบอร์ 3 ก็ไม่ยอมแพ้ยังคงตื้อต่อไป
ในใจเราก็คิดคำนวณวงเงินบัตรเครดิต เอ๊ะมันไม่พออยู่แล้วนี่นา ก็ให้เอาไปรูดแล้วค่อยอ้างเรื่องวงเงินไม่พอก็ได้...
ก็เลยตัดรำคาญด้วยการเอาบัตรให้ไป ปรากฏว่ารูดผ่านเฉยเลยจ้า โมเม้นต์นั้นน้ำตาตกในเลย T-T
แล้วเราก็ sms จากธนาคารผู้หวังดีส่งมาบอกว่า...Special approve-Exceed Credit Line 26,368 THB
เฮ้ย! คือมันเกินวงเงินตั้งแต่รูดรอบสองแล้วป่ะวะ แล้วเพิ่งมาแจ้งอะไรตอนนี้? แถมอนุมัติเพิ่มวงเงินอัตโนมัติให้อีก ใครขอมิทราบ?
สรุปคือเบ็ดเสร็จวันนั้นเรารูดไป 50000 ได้ใช้วงเงินรวมของแถมทั้งหมด 224000 = จ่ายไป 22.3% ของราคาเต็ม
กระเป๋าก็แบนแฟนก็ด่าเช็ดแน่ถ้ารู้ว่าแอบรูดบัตรไปครึ่งแสน
#### และแล้วก็ถึงวันนัด ####
ถึงวันนัดหมายเราก็เข้าไปที่ร้าน พนักงานก็ให้เรานั่งรอหน้าเคาเตอร์...
เราก็คิดอีกแระ ไหนอ่ะโซน VIP ที่โฆษณาไว้? สงสัยยังไม่เสร็จมั้ง รอไม่นานก็เรียกเราเข้าไปทำทรีตเม้นต์ เจอพนักงาน 1 คน
ในใจก็คิดอีกแระ อ้าวไหนหล่ะคุณหมอที่โฆษณาไว้? ห้องก็ดูธรรมด๊าธรรมดา นี่หรือ VIP?
พนักงานแจ้งว่าวันนี้คอนซัลท์จัดให้ทำ 2 ทรีตเม้นต์นะ ใช้เวลารวม 1 ชั่วโมง เราก็คิดทำไมไวจัง ปกติที่เคยทำที่อื่นอย่างน้อยทรีตเม้นต์นึงก็ 45 นาที
อ่ะๆ ขึ้นเตียง ลองดู ไม่ลองไม่รู้ พนักงานก็เริ่มนวดหน้า เช็ดเครื่องสำอางค์ ซึ่งใช้เวลานานประมาณนึง
หลังจากนั้นก็ทำทรีตเม้นต์แรกให้เรา 2 ขั้นตอนเสร็จจ้า!!
ทรีตเม้นต์ที่สอง เอาเจลมาทา เอาเครื่องมาถูๆหน้าผลักวิตามินเข้าไป เสร็จ!! ทาครีมบำรุงให้ 1ตัว เรียบร้อยค่ะ 1 ชั่วโมงเป๊ะ แล้วพนักงานก็เดินไปหยิบกระจกกับหวีมาให้เรา
ในใจก็คิดอีกแระ กระจกนี่ทำไมไม่ติดบานใหญ่ๆไว้ในห้องให้ส่องง่ายๆ หวีนี่ใครหวีมาบ้างแล้วก็ไม่รู้ เฮ้อ...
อุ้ย...แต่รู้สึกว่าหน้ามันตึงๆ เด้งๆ ขึ้นนะ ถึงจะทำแป๊บเดียวแต่ก็น่าจะได้ผล (ปลอบใจตัวเอง)
ระหว่างทาแป้งหวีผมก็สำรวจรอบๆห้อง ครีมที่ใช้ก็เป็นขวดใหญ่ๆเหมือนที่อื่นนะ ไหนว่าแยกมาเป็นซองๆไม่ใช้ร่วมกัน? มันไม่ตรงกับที่โฆษณาอีกแล้วอ้ะ
ต่อเม้น 1 นะคะมันยาวเกิน