สำหรับ "บ้าน" ในความคิดของหลายคน คือ สถานที่หลบภัยที่เราคิดว่า "ปลอดภัยมากที่สุด" หากบริเวณรอบบ้านไม่ปลอดภัย ทำไมพวกเขาถึงยังเลือกที่อยู่? นี้คือคำถามที่จะพาเราไปพบคำตอบได้ในภาพยนตร์ฟีลกู้ดเรื่องใหม่ ที่ชื่อ ละติจูดที่ 6
กำลังจะมีหนังดี สะท้อนสังคม เข้าฉายให้ได้ซึ้งกันอีกแล้ว กับภาพยนตร์เรื่อง ละติจูดที่ 6 เรื่องราวความรัก ความศรัทธา ท่ามกลางสงคราม ความขัดแย้ง และคราบน้ำตา ที่ทาง กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือที่เรารู้จักกันในชื่อย่อ กอ.รมน. เตรียมถ่ายทอดนำเสนอ ทุกโรงภาพยนตร์ ในปลายเดือนกรกฎาคมนี้
ถือเป็นอีกมุมมองหนึ่งของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ กับเรื่องราวของผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ท่ามกลางสถานการณ์ไม่สงบ ที่จะถูกถ่ายถอดผ่านหนังดีๆ ที่ชื่อละติจูดที่ 6 จากค่ายหนังน้องใหม่ไฟแรง UCI Media ภายใต้การสนับสนุนของ กอ.รมน.
หากยังจำกันได้.. ก่อนหน้านี้หนังเรื่อง "ปิตุภูมิ พรมแดนแห่งรัก" ของผู้กำกับฝีมือดีอย่าง "ต้อม ยุทธเลิศ" กับเรื่องราวที่ตีแผ่ความรู้สึกของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับภารกิจอันตรายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีอันต้องโดนห้ามฉายไป ล่าสุด ฝีมือการกำกับของ "เจมส์" ธนดล นวลสุทธิ์ จากค่ายหนังน้องใหม่ไฟแรง UCI Media ภายใต้การสนับสนุนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้ปล่อยตัวอย่างหนัง "ละติจูดที่ 6"
ถ้ามองย้อนไปถึงสถานการณ์ชายแดนใต้ ภาพของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในมุมมองของคนส่วนใหญ่อาจนึกถึงปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบ ที่มีให้เห็นในข่าวหน้า 1 อยู่แทบจะทุกวัน เสียทั้งเลือด เสียทั้งน้ำตา
หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมผู้คนที่นั่น หลายคนยังไม่ย้ายออกไปไหน เพราะอะไรเขาถึงยังคงเลือกที่จะอยู่ "บ้าน"
สำหรับ "บ้าน" ในความคิดของหลายคน คือ สถานที่หลบภัยที่เราคิดว่า "ปลอดภัยมากที่สุด"
หากบริเวณรอบบ้านไม่ปลอดภัย ทำไมพวกเขาถึงยังเลือกที่อยู่?
หลายคนคงอยากจะถาม คำถามนี้...
ผู้กำกับ "เจมส์" ธนดล นวลสุทธิ์ บอกว่า คำถาม “ทำไมคนที่นั้นเขาถึงอยู่กันได้ อยู่ด้วยอะไร” คือต้นธารแห่งแรงบันดาลใจให้เขาในการทำหนังเรื่องนี้ อยากจะนำเสนอเรื่องราวของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ในแง่มุมของความรัก ความผูกพัน น้ำใจ และเรื่องราวดีๆ ของผู้คนที่นั่น ที่เขายังมีความเชื่อและศรัทธาว่า บ้านเกิดเมืองนอนที่เขาใช้ชีวิตมาตั้งแต่เกิดนั้น จะกลับมาสงบสุขดังเดิม”
ผู้กำกับเจมส์ยังบอกอีกว่า เขาสร้างให้ “ละติจูดที่6” เป็นหนังรักฟีลกู้ดสะท้อนวิถีชีวิตอันงดงามของชาวปัตตานี ท่ามกลางสถานการณ์ไม่สงบ กลายเป็นกระแสบอกต่อกันอย่างรวดเร็วปานไฟลามทุ่ง
แก่นหลักของหนังเรื่องนี้คือ ความรัก ความศรัทธา และความเชื่อ "ถ้ามีความเชื่อ ทุกอย่างจะเป็นไปได้อย่างผู้คนที่นั่น ยังมีอีกหลายคนที่เขายังใช้ชีวิตอยู่ ทำไมถึงยังใช้ชีวิตที่นั่นอยู่ได้ มันแสดงให้เห็นว่า เรื่องราวดีๆ ยังมีอยู่ เราอยากให้คนเปิดใจกับหนัง คนอาจจะคิดว่า พอเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับภาคใต้ อาจจะฟังดูซีเรียส แต่อยากให้เปิดใจไปลองดู แล้วจะเห็นอะไรอีกเยอะ ละติดจูดที่ 6 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเล่าผ่านมุมมองของชายหนุ่มจากกรุงเทพฯ ทีมีโอกาสได้เดินทางไปทำงานที่นั่น แล้วพบรักกับหญิงชาวมุสลิมพูดง่ายๆ มันเป็นหนังรักโรแมนติก"
การถ่ายทำที่ทุ่มเท ของภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การรับชม
ผู้กำกับ เจมส์ ให้สัมภาษณ์ถึงการถ่ายทำ ภาพยนตร์เรื่อง ละติจูดที่ 6 นี้ว่า พวกเขาใช้เวลาทำงานกับภาพยนตร์นี้ไป 3 ปี คือถ่ายทำเกือบ 2 ปี แต่ก่อนหน้านั้นตนใช้เวลาอีกปีนึง เพราะบทกว่าจะผ่าน กรอ.มน. ผ่านกรรมการต่างๆ ก็ใช้เวลาประมาณ 3 - 4 เดือน
และพอผมเรียกทีมเข้าไปเริ่มต้นทำ กลายเป็นว่าการพรีโพรฯ นานมาก อีก 6 เดือน เพราะว่าเราไม่สามารถหานักแสดงได้ เพราะโจทย์อย่างแรกคือเราอยากลงไปถ่ายที่ปัตตานีจริงๆ ซึ่งนักแสดงหายากมาก มีหลายคนเขาสนใจบทแต่ไม่กล้าลง รวมทั้งเรื่องอุปกรณ์การถ่ายทำ ทีมงานก็ยาก กว่าจะได้มาแต่ละอย่างก็ใช้เวลานาน นี่คือความยาก เพราะเราเลือกจะไปเสนอมุมมองของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ปัตตานี มันยากที่จะหาคน เพราะข่าวสารที่ผ่านมาเราจะเห็นมุมมองความน่ากลัวเรื่องความปลอดภัยในสถานที่ เพราะฉะนั้นเราเลยนำเสนอมุมนี้ให้เห็นกันไปเลยว่า “ทำไมคนที่นั้นเขาถึงอยู่กันได้ อยู่ด้วยอะไร”
"ส่วนการถ่ายทำกว่า 80% ทีมงานได้ยกไปถ่ายทำกันที่ จ.ปัตตานี โดยถ่ายทำช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ตอนที่ยกกองไปถ่ายทำที่นั่น ทางกองถ่ายไม่ได้เจอกับเหตุการณ์อะไรแต่จะมีบริเวณพื้นที่รอบๆ บ้าง ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับกองถ่าย โดยสาเหตุที่ตัดสินใจลงไปถ่ายทำที่นั่น คือ ตอนแรกไม่ได้คิดหรอกว่าจะลงไปถ่าย แต่พอได้ลองลงไปดูโลเกชั่นจริงๆ แล้ว รู้สึกว่ายังมีโลเกชั่นสวยๆ ที่ยังไม่มีคนได้ไป และรู้สึกว่ามันปลอดภัย ในหนังได้สื่อถึงความรู้สึกของคนในพื้นที่ว่า ทุกอย่างจะกลับมาปลอดภัยเหมือนเดิมได้ เราจึงไม่อยากหลอกตัวเองและคนดู ที่จะไปถ่ายทำในสถานที่อื่น แต่อ้างว่าเป็นจังหวัดชายแดนภาคใต้" เจมส์กล่าว
เรื่องย่อภาพยนตร์ ละติจูดที่ 6
เป็นการบอกเล่าเรื่องราวชีวิตใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อ ต้น (ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล) นักคอมพิวเตอร์จากเมืองกรุง ต้องเดินทางไปวางระบบคอมพิวเตอร์ให้กับธนาคารอิสลามใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเผอิญไปหลงรัก ฟ้า (โบว์ลิ่ง ปริศนา กัมพูสิริ) สาวมุสลิมที่เป็นครูประถมในพื้นที่ ก่อนพัฒนาเป็นความรักความผูกพัน ในขณะที่อีกคู่หนึ่งคือ ชารีฟ (เม้าส์ ณัฐชา จันทรพันธ์) นักปันจักสีลัตที่รู้สึกดีกับ เฟิร์น (น้องมายด์ วิรพร จิรเวชสุนทรกุล) จนเกิดกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ท่ามกลางฉากวิถีชีวิตอันงดงามของชาวปัตตานี
สำหรับเรื่องราวของละติจูดที่ 6 ถูกนำเสนออย่างงดงาม ไม่มีภาพความรุนแรง หรือกระทบต่อวิถีชีวิตของคนในพื้น แถมยังอำนวยการสร้างโดย กอ.รมน. ยิ่งทำให้มั่นใจได้ว่า.. เราจะได้ดู ละติจูดที่ 6 ในโรงภาพยนตร์แน่นอน
ข้อมูลจาก WeLoveRTA
ลิขสิทธิ์บทความของ
emaginfo.com
ละติจูดที่ 6 ภาพยนตร์ฟีลกู้ด ที่จะทำให้คุณเข้าใจชาวในชายแดนใต้
กำลังจะมีหนังดี สะท้อนสังคม เข้าฉายให้ได้ซึ้งกันอีกแล้ว กับภาพยนตร์เรื่อง ละติจูดที่ 6 เรื่องราวความรัก ความศรัทธา ท่ามกลางสงคราม ความขัดแย้ง และคราบน้ำตา ที่ทาง กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือที่เรารู้จักกันในชื่อย่อ กอ.รมน. เตรียมถ่ายทอดนำเสนอ ทุกโรงภาพยนตร์ ในปลายเดือนกรกฎาคมนี้
ถือเป็นอีกมุมมองหนึ่งของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ กับเรื่องราวของผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ท่ามกลางสถานการณ์ไม่สงบ ที่จะถูกถ่ายถอดผ่านหนังดีๆ ที่ชื่อละติจูดที่ 6 จากค่ายหนังน้องใหม่ไฟแรง UCI Media ภายใต้การสนับสนุนของ กอ.รมน.
หากยังจำกันได้.. ก่อนหน้านี้หนังเรื่อง "ปิตุภูมิ พรมแดนแห่งรัก" ของผู้กำกับฝีมือดีอย่าง "ต้อม ยุทธเลิศ" กับเรื่องราวที่ตีแผ่ความรู้สึกของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับภารกิจอันตรายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีอันต้องโดนห้ามฉายไป ล่าสุด ฝีมือการกำกับของ "เจมส์" ธนดล นวลสุทธิ์ จากค่ายหนังน้องใหม่ไฟแรง UCI Media ภายใต้การสนับสนุนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้ปล่อยตัวอย่างหนัง "ละติจูดที่ 6"
ถ้ามองย้อนไปถึงสถานการณ์ชายแดนใต้ ภาพของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในมุมมองของคนส่วนใหญ่อาจนึกถึงปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบ ที่มีให้เห็นในข่าวหน้า 1 อยู่แทบจะทุกวัน เสียทั้งเลือด เสียทั้งน้ำตา
หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมผู้คนที่นั่น หลายคนยังไม่ย้ายออกไปไหน เพราะอะไรเขาถึงยังคงเลือกที่จะอยู่ "บ้าน"
สำหรับ "บ้าน" ในความคิดของหลายคน คือ สถานที่หลบภัยที่เราคิดว่า "ปลอดภัยมากที่สุด"
หากบริเวณรอบบ้านไม่ปลอดภัย ทำไมพวกเขาถึงยังเลือกที่อยู่?
หลายคนคงอยากจะถาม คำถามนี้...
ผู้กำกับ "เจมส์" ธนดล นวลสุทธิ์ บอกว่า คำถาม “ทำไมคนที่นั้นเขาถึงอยู่กันได้ อยู่ด้วยอะไร” คือต้นธารแห่งแรงบันดาลใจให้เขาในการทำหนังเรื่องนี้ อยากจะนำเสนอเรื่องราวของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ในแง่มุมของความรัก ความผูกพัน น้ำใจ และเรื่องราวดีๆ ของผู้คนที่นั่น ที่เขายังมีความเชื่อและศรัทธาว่า บ้านเกิดเมืองนอนที่เขาใช้ชีวิตมาตั้งแต่เกิดนั้น จะกลับมาสงบสุขดังเดิม”
ผู้กำกับเจมส์ยังบอกอีกว่า เขาสร้างให้ “ละติจูดที่6” เป็นหนังรักฟีลกู้ดสะท้อนวิถีชีวิตอันงดงามของชาวปัตตานี ท่ามกลางสถานการณ์ไม่สงบ กลายเป็นกระแสบอกต่อกันอย่างรวดเร็วปานไฟลามทุ่ง
แก่นหลักของหนังเรื่องนี้คือ ความรัก ความศรัทธา และความเชื่อ "ถ้ามีความเชื่อ ทุกอย่างจะเป็นไปได้อย่างผู้คนที่นั่น ยังมีอีกหลายคนที่เขายังใช้ชีวิตอยู่ ทำไมถึงยังใช้ชีวิตที่นั่นอยู่ได้ มันแสดงให้เห็นว่า เรื่องราวดีๆ ยังมีอยู่ เราอยากให้คนเปิดใจกับหนัง คนอาจจะคิดว่า พอเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับภาคใต้ อาจจะฟังดูซีเรียส แต่อยากให้เปิดใจไปลองดู แล้วจะเห็นอะไรอีกเยอะ ละติดจูดที่ 6 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเล่าผ่านมุมมองของชายหนุ่มจากกรุงเทพฯ ทีมีโอกาสได้เดินทางไปทำงานที่นั่น แล้วพบรักกับหญิงชาวมุสลิมพูดง่ายๆ มันเป็นหนังรักโรแมนติก"
การถ่ายทำที่ทุ่มเท ของภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การรับชม
ผู้กำกับ เจมส์ ให้สัมภาษณ์ถึงการถ่ายทำ ภาพยนตร์เรื่อง ละติจูดที่ 6 นี้ว่า พวกเขาใช้เวลาทำงานกับภาพยนตร์นี้ไป 3 ปี คือถ่ายทำเกือบ 2 ปี แต่ก่อนหน้านั้นตนใช้เวลาอีกปีนึง เพราะบทกว่าจะผ่าน กรอ.มน. ผ่านกรรมการต่างๆ ก็ใช้เวลาประมาณ 3 - 4 เดือน
และพอผมเรียกทีมเข้าไปเริ่มต้นทำ กลายเป็นว่าการพรีโพรฯ นานมาก อีก 6 เดือน เพราะว่าเราไม่สามารถหานักแสดงได้ เพราะโจทย์อย่างแรกคือเราอยากลงไปถ่ายที่ปัตตานีจริงๆ ซึ่งนักแสดงหายากมาก มีหลายคนเขาสนใจบทแต่ไม่กล้าลง รวมทั้งเรื่องอุปกรณ์การถ่ายทำ ทีมงานก็ยาก กว่าจะได้มาแต่ละอย่างก็ใช้เวลานาน นี่คือความยาก เพราะเราเลือกจะไปเสนอมุมมองของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ปัตตานี มันยากที่จะหาคน เพราะข่าวสารที่ผ่านมาเราจะเห็นมุมมองความน่ากลัวเรื่องความปลอดภัยในสถานที่ เพราะฉะนั้นเราเลยนำเสนอมุมนี้ให้เห็นกันไปเลยว่า “ทำไมคนที่นั้นเขาถึงอยู่กันได้ อยู่ด้วยอะไร”
"ส่วนการถ่ายทำกว่า 80% ทีมงานได้ยกไปถ่ายทำกันที่ จ.ปัตตานี โดยถ่ายทำช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ตอนที่ยกกองไปถ่ายทำที่นั่น ทางกองถ่ายไม่ได้เจอกับเหตุการณ์อะไรแต่จะมีบริเวณพื้นที่รอบๆ บ้าง ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับกองถ่าย โดยสาเหตุที่ตัดสินใจลงไปถ่ายทำที่นั่น คือ ตอนแรกไม่ได้คิดหรอกว่าจะลงไปถ่าย แต่พอได้ลองลงไปดูโลเกชั่นจริงๆ แล้ว รู้สึกว่ายังมีโลเกชั่นสวยๆ ที่ยังไม่มีคนได้ไป และรู้สึกว่ามันปลอดภัย ในหนังได้สื่อถึงความรู้สึกของคนในพื้นที่ว่า ทุกอย่างจะกลับมาปลอดภัยเหมือนเดิมได้ เราจึงไม่อยากหลอกตัวเองและคนดู ที่จะไปถ่ายทำในสถานที่อื่น แต่อ้างว่าเป็นจังหวัดชายแดนภาคใต้" เจมส์กล่าว
เรื่องย่อภาพยนตร์ ละติจูดที่ 6
เป็นการบอกเล่าเรื่องราวชีวิตใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อ ต้น (ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล) นักคอมพิวเตอร์จากเมืองกรุง ต้องเดินทางไปวางระบบคอมพิวเตอร์ให้กับธนาคารอิสลามใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเผอิญไปหลงรัก ฟ้า (โบว์ลิ่ง ปริศนา กัมพูสิริ) สาวมุสลิมที่เป็นครูประถมในพื้นที่ ก่อนพัฒนาเป็นความรักความผูกพัน ในขณะที่อีกคู่หนึ่งคือ ชารีฟ (เม้าส์ ณัฐชา จันทรพันธ์) นักปันจักสีลัตที่รู้สึกดีกับ เฟิร์น (น้องมายด์ วิรพร จิรเวชสุนทรกุล) จนเกิดกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ท่ามกลางฉากวิถีชีวิตอันงดงามของชาวปัตตานี
สำหรับเรื่องราวของละติจูดที่ 6 ถูกนำเสนออย่างงดงาม ไม่มีภาพความรุนแรง หรือกระทบต่อวิถีชีวิตของคนในพื้น แถมยังอำนวยการสร้างโดย กอ.รมน. ยิ่งทำให้มั่นใจได้ว่า.. เราจะได้ดู ละติจูดที่ 6 ในโรงภาพยนตร์แน่นอน
ข้อมูลจาก WeLoveRTA
ลิขสิทธิ์บทความของ emaginfo.com